บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Lisa Bryant, ND. ดร.ไบรอันท์เป็นแพทย์แผนธรรมชาติและผู้เชี่ยวชาญในเรื่องยาจากธรรมชาติในพอร์ตแลนด์ เธอผ่านการฝึกงานในศูนย์อายุรแพทย์แผนธรรมชาติในวิทยาลัยยาธรรมชาติแห่งชาติในปี 2014
มีการอ้างอิง 18 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 5,192 ครั้ง
มีวิธีธรรมชาติมากมายที่ช่วยลดความร้อนในร่างกายได้ไม่ว่าคุณจะแค่อยากรู้สึกเย็นขึ้นสักหน่อยหรืออยากจะลดไข้ก็ตาม เริ่มจากการรักษาร่างกายไม่ให้ขาดน้ำและรับประทานอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบในปริมาณมาก และอาจจะลองรักษาด้วยตัวเองที่บ้าน เช่น แช่เท้าหรือแช่ตัวในน้ำอุ่น แต่ถ้าเป็นลมแดดหรือมีไข้สูง ในบางกรณีก็อาจจะต้องรีบเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ทันที ถ้าคุณสังเกตได้ถึงอาการร้ายแรงต่างๆ ให้ติดต่อแผนกฉุกเฉินโดยเร็วที่สุด
ขั้นตอน
- ใส่เสื้อผ้าหลวมๆ น้ำหนักเบา สีอ่อน. ถ้าเป็นไปได้ให้ถอดเสื้อผ้าชั้นนอกออกสักชั้น ผ้าน้ำหนักเบาเช่น ผ้าไหม ผ้าชีฟอง ผ้าฝ้ายบางๆ และผ้าลินินเป็นผ้าที่เหมาะใส่ในช่วงที่อากาศร้อนจัด นอกจากนี้พยายามใส่เสื้อผ้าสีขาวและสีอ่อนอื่นๆ ซึ่งจะช่วยต่อสู้กับความร้อนได้ด้วยการสะท้อนแสงแดดออกไป[1]
- นั่งหน้าพัดลมหรือแอร์. ถ้าเป็นไปได้ให้นั่งตรงที่แอร์ลง ถ้าที่บ้านไม่มีแอร์ ให้ไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ต โรงหนัง หรือบ้านเพื่อนแทน หรืออย่างน้อยที่สุดการนั่งหน้าพัดลมก็ช่วยให้คุณรู้สึกเย็นขึ้นได้[2]
- ถ้าคุณมีแต่พัดลมอย่างเดียว ลองใช้น้ำเย็นลูบตัวให้หมาดตอนนั่งหน้าพัดลม น้ำบนผิวจะช่วยให้คุณรู้สึกเย็นสบายขณะที่มันระเหย
- 3ใชัพัดพัดเบาๆ ยาวๆ. ถ้าคุณไม่มีทั้งแอร์และพัดลม การใช้พัดก็ช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายของคุณได้ แต่ประเด็นคือต้องใช้พัด (หรือของใกล้มือ) ที่มีพื้นที่หน้ากว้างและอย่าพัดแบบเร็วๆ[3]
- ถ้าคุณพัดเร็วๆ เลือดก็จะสูบฉีดเร็วและทำให้คุณยิ่งร้อน แต่การพัดเบาๆ จะทำให้เหงื่อบนผิวระเหย ซึ่งจะช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายได้
- การทำให้ผิวหมาดด้วยน้ำเย็นขณะพัดก็ช่วยได้เหมือนกัน
- ใช้เทคนิคการผ่อนคลาย. นั่งในท่าสบายๆ และหายใจช้าๆ ลึกๆ ขณะหายใจเข้าให้นับถึง 4 จากนั้นค้างไว้จนนับถึง 7 และหายใจออกเมื่อนับถึง 8 ฝึกควบคุมการหายใจอย่างน้อย 10-15 นาทีเพื่อลดอัตราการเต้นของหัวใจและลดอุณหภูมิแกน
- ลองเปิดเพลงสบายๆ หรือเสียงธรรมชาติที่ช่วยผ่อนคลายจิตใจอย่างเสียงคลื่นซัดหรือเสียงวาฬหลังค่อมถ้ามันช่วยได้
- คุณจะลองนั่งสมาธิก็ได้ คุณอาจจะหาคลิปฝึกทำสมาธิด้วยมโนภาพเพื่อผ่อนคลายจาก YouTube หรือช่องทางอื่นๆ
- เทคนิคการผ่อนคลายช่วยทำให้คุณรู้สึกเย็นขึ้นถ้าคุณมีอาการร้อนวูบวาบ[4]
- แช่เท้าในน้ำเย็น. เติมน้ำเย็นและน้ำแข็งลงในกะละมังเล็กๆ และเอาเท้าลงไปแช่ แช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 60 นาทีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- ถ้าคุณแค่อยากรู้สึกเย็นๆ สักหน่อย คุณจะแช่นานเท่าไหร่ก็ได้ แต่ถ้าคุณอยากลดอุณหภูมิในร่างกาย (เช่น ถ้าเป็นไข้) ให้แช่นานกว่า 60 นาที เพราะการแช่เท้าน้อยกว่า 60 นาทีไม่สามารถลดอุณหภูมิในร่างกายได้[5]
- เติมน้ำแข็งหรือน้ำเย็นลงไปในกะละมังเมื่อน้ำเริ่มอุ่น
- แช่น้ำอุ่นๆ หรือเช็ดตัว. ถ้าคุณต้องการลดไข้ การแช่น้ำอุ่นนั้นดีกว่าการแช่น้ำเย็น เพราะการแช่ตัวในน้ำเย็นอาจทำให้ตัวสั่น ซึ่งจะยิ่งเพิ่มอุณหภูมิของร่างกายให้สูงขึ้น[6]
- ถ้าคุณไม่มีอ่างอาบน้ำ ให้ลองใช้ฟองน้ำ ผ้าเช็ดตัว หรือผ้าบางๆ หมาดๆ เช็ดตัว[7]
- การให้พัดลมเป่าตัวระหว่างแช่น้ำหรือเช็ดตัวก็ช่วยได้เหมือนกัน
โฆษณา
- จิบน้ำเย็นบ่อยๆ. การดื่มน้ำช่วยลดอุณหภูมิที่สูงในร่างกายและทดแทนของเหลวที่เสียไปทางเหงื่อ การดื่มน้ำ 170-240 มล. ทุกๆ 15 นาทีนั้นได้ผลดีกว่าการดื่มน้ำมากๆ ในคราวเดียว[8]
- ดื่มน้ำเย็นแทนการดื่มน้ำเย็นจัด เพราะถ้าน้ำเย็นเกินไปอาจทำให้ปวดในช่องท้องหรือปวดหัวได้[9]
- ดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่. ถ้าคุณทำงานหรือออกกำลังกายท่ามกลางอากาศร้อน ให้ดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่เพื่อเติมน้ำในร่างกาย การดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่จะช่วยรักษาร่างกายไม่ให้ขาดน้ำและทดแทนเกลือและแร่ธาตุสำคัญที่เสียไปกับเหงื่อ[10]
- การรักษาร่างกายไม่ให้ขาดน้ำเป็นเรื่องสำคัญ เพราะฉะนั้นหลีกเลี่ยงน้ำอัดลมและน้ำหวานอื่นๆ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และคาเฟอีน เพราะการบริโภคน้ำเหล่านี้จะยิ่งเพิ่มอุณหภูมิในร่างกายและทำให้ร่างกายขาดน้ำ[11]
- คุณอาจจะลองดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของสารเกลือแร่ เช่น น้ำผสมผงละลายเกลือแร่[12]
- คุณต้องเลือกเครื่องดื่มเกลือแร่ที่ไม่ใช่เครื่องดื่มชูกำลังซึ่งมีคาเฟอีน[13] เพราะเครื่องดื่มเกลือแร่ที่เป็นเครื่องดื่มชูกำลังด้วยอาจยิ่งเพิ่มการสร้างความร้อนในร่างกาย[14]
- ระวังปริมาณน้ำตาลที่อยู่ในเครื่องดื่มเกลือแร่ด้วย เพราะถ้ามีน้ำตาลมากมันจะกลายเป็นเครื่องดื่มที่ให้พลังงานสูง และร่างกายก็จะสะสมพลังงานพวกนี้เอาไว้[15]
- เคี้ยวน้ำแข็ง. นอกจากจะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นและเย็นสบายแล้ว การเคี้ยวน้ำแข็งยังช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายด้วย ดังนั้นมันจึงป้องกันโรคเพลียแดดและโรคลมแดดได้[16]
- แต่จำไว้ว้าคุณยังต้องรักษาร่างกายไม่ให้ขาดน้ำเหมือนเดิม การเคี้ยวน้ำแข็งนิดหน่อยไม่สามารถเติมน้ำในร่างกายได้มากเท่าการดื่มน้ำ 1 แก้วเต็มๆ
- รับประทานอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบในปริมาณมาก. โดยทั่วไปยิ่งอาหารมีน้ำเป็นส่วนประกอบมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายได้มากเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นแตงโม แตงกวา และผักใบเขียว ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นตัวเลือกที่ดี[17]
- อาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบในปริมาณมากจะย่อยง่าย การย่อยง่ายจะเผาผลาญพลังงานน้อยกว่าและสร้างความร้อนน้อยกว่า
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ คาเฟอีน และน้ำตาล. เวลาที่คุณอยากลดอุณหภูมิในร่างกาย คุณจะอยากดื่มเบียร์เย็นๆ กาแฟเย็น ชาหวานๆ หรือเครื่องดื่มเกลือแร่ (เครื่องดื่มเกลือแร่อาจมีคาเฟอีนและน้ำตาลสูง) แต่การบริโภคของเหล่านี้จะทำให้ร่างกายขาดน้ำ ทำให้ผิวหนังร้อน และขัดขวางความสามารถในการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย[18]
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตสูง. มันอาจจะดูตรงข้ามกับความเข้าใจทั่วไป แต่ไอศกรีมทำให้คุณยิ่งร้อนกว่าเดิมในภายหลังแม้ว่ามันจะทำให้คุณรู้สึกเย็นในระยะเวลาสั้นๆ ก็ตาม ไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตต้องใช้พลังงานในการย่อยมาก ซึ่งการต้องใช้พลังงานมากก็หมายความว่าความร้อนจะมากขึ้นตามด้วย [19]
- อาหารอื่นๆ ที่ควรเลี่ยงเวลารู้สึกร้อนได้แก่เนื้อแดง ถั่วเปลือกแข็ง และข้าวกล้อง
โฆษณา
- โทรศัพท์เรียกบริการฉุกเฉินหากมีใครแสดงอาการของโรคลมแดด. โรคลมแดดร้ายแรงกว่าแค่รู้สึกร้อนหรือความเครียดที่เกิดจากความร้อนสะสม และต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ทันที สัญญาณของโรคลมแดดได้แก่อุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส งุนงงหรือกระสับกระส่าย คลื่นไส้อาเจียน หายใจเร็ว หัวใจเต้นรัว และมีการขับเหงื่อที่เปลี่ยนไป[22]
- นำผู้ที่มีอาการลมแดดไปที่ที่อากาศเย็นขึ้น. ขณะที่โทรศัพท์หาบริการฉุกเฉิน ให้พาผู้ป่วยหลบแดด ถ้าเป็นไปได้ก็ให้นำผู้ป่วยมาไว้ในที่ร่มที่มีแอร์หรือหน้าพัดลม[23]
- วางเจลเย็นลงบนคอ ขาหนีบ และรักแร้. ระหว่างรอสายโอเปอร์เรเตอร์ของบริการฉุกเฉิน พยายามทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเย็นขึ้นขณะรอรถพยาบาล วางเจลเย็นหรือผ้าขนหนูเย็นๆ ลงบริเวณที่จะช่วยลดความร้อนในร่างกายได้ การแช่น้ำเย็นก็ช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน แต่ต้องอย่าให้ผู้ป่วยเริ่มรู้สึกหนาวสั่น[24]
- ถ้าคุณอยู่กลางแจ้ง สายยางหรือแหล่งน้ำธรรมชาติอาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.cdc.gov/features/extremeheat/index.html
- ↑ https://www.cdc.gov/features/extremeheat/index.html
- ↑ http://articles.chicagotribune.com/1985-08-11/features/8502220336_1_fanning-heat-hot-days
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/hot-flashes/manage/ptc-20319438
- ↑ https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/7661832
- ↑ https://www.healthychildren.org/English/health-issues/conditions/fever/Pages/Treating-a-Fever-Without-Medicine.aspx
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/heat-stroke/manage/ptc-20346564
- ↑ http://ucanr.edu/News/Heat/How_heat_affects_the_body/
- ↑ https://www.cdc.gov/disasters/extremeheat/heattips.html
- ↑ https://www.cdc.gov/disasters/extremeheat/heattips.html
- ↑ https://www.cdc.gov/healthywater/drinking/nutrition/index.html
- ↑ https://www.healthychildren.org/English/health-issues/conditions/fever/Pages/Treating-a-Fever-Without-Medicine.aspx
- ↑ https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/16847703/
- ↑ https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/20017916
- ↑ https://www.cdc.gov/healthyweight/healthy_eating/drinks.html
- ↑ http://jmvh.org/article/crushed-ice-ingestion-a-practical-strategy-for-lowering-core-body-temperature/
- ↑ http://healthland.time.com/2013/06/15/surprising-foods-that-toy-with-body-temperature/
- ↑ https://www.cdc.gov/disasters/extremeheat/heattips.html
- ↑ http://healthland.time.com/2013/06/15/surprising-foods-that-toy-with-body-temperature/
- ↑ https://www.health.harvard.edu/cold-and-flu/fever-in-adults2
- ↑ https://www.healthychildren.org/English/health-issues/conditions/fever/Pages/When-to-Call-the-Pediatrician.aspx
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/heat-stroke/diagnosis-treatment/diagnosis/dxc-20346544
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/heat-stroke/manage/ptc-20346564
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/heat-stroke/diagnosis-treatment/treatment/txc-20346546
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.