วิธีการ ทำให้เป็นไข้

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

อาการไข้เป็นส่วนหนึ่งของกลไกการป้องกันร่างกายตามธรรมชาติของมนุษย์ อุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้นช่วยทำลายไวรัสและแบคทีเรียที่เข้าสู่ร่างกาย และยังอาจช่วยควบคุมระบบการเผาผลาญและฮอร์โมนในร่างกายด้วย แต่การทำให้ตัวเองเป็นไข้ก็มีความเสี่ยง เพราะฉะนั้นถ้าคุณจะทำให้ตัวเองเป็นไข้ คุณต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก นอกจากนี้คุณก็อาจจะใช้วิธีเพิ่มอุณหภูมิมาตรฐานในร่างกายโดยไม่ต้องทำให้เป็นไข้จริงๆ เพราะการทำเช่นนั้นก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพเหมือนกันแต่ไม่มีความเสี่ยง ถ้าอุณหภูมิภายในร่างกายสูงเกิน 40.6 องศาเซลเซียส คุณอาจจะเสี่ยงต่อการเป็นลมแดดและสูญเสียโปรตีนที่สำคัญได้[1]

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ทำให้เป็นไข้ด้วยวิธีทางการแพทย์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ปรึกษาแพทย์.
    ถ้าคุณตัดสินใจว่าจะพยายามทำให้ตัวเองเป็นไข้ สิ่งแรกที่คุณควรทำก็คือ ปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์ นัดแพทย์เพื่อสอบถามเกี่ยวกับวิธีการทำให้เป็นไข้ แพทย์จะแนะนำประโยชน์และอันตรายจากการจงใจทำให้เป็นไข้และบอกว่าคุณมีทางเลือกอะไรบ้าง บางครั้งการรับประทานยาก็ทำให้เป็นไข้ได้ แต่โดยทั่วไปแล้วจะเป็นผลข้างเคียงที่คล้ายกับอาการแพ้ยามากกว่า[2]
    • การฉีดวัคซีน เช่น โรคคอตีบและบาดทะยัก ก็อาจทำให้เป็นไข้ได้เช่นเดียวกัน[3]
    • ยาจะทำงานโดยการเพิ่มระบบการเผาผลาญหรือกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน และอาการไข้ที่เกิดจากยาอาจทำให้มีอาการอื่นได้เช่นเดียวกัน
    • แพทย์ที่ใช้วิธีนี้อาจใช้บาซิลลัสกาลแม็ต-เกแร็ง (BCG) ซึ่งเป็นวัคซีนป้องกันวัณโรค[4]
    • ถ้าแพทย์ไม่แนะนำให้คุณทำให้ตัวเองเป็นไข้ คุณก็ไม่ควรดื้อรั้น อย่าทำให้ตัวเองเป็นไข้ถ้าแพทย์ไม่แนะนำ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ใช้ซาวน่าเพื่อการรักษาหรือเครื่องปรับอุณหภูมิ....
    ใช้ซาวน่าเพื่อการรักษาหรือเครื่องปรับอุณหภูมิ. ไปที่ศูนย์การแพทย์หรือศูนย์การแพทย์ทางเลือกที่ใช้การบำบัดด้วยไข้อยู่แล้ว ศูนย์การแพทย์เหล่านี้มักจะมีเครื่องซาวน่าอินฟาเรดหรือที่เรียกว่าเครื่องปรับอุณหภูมิ ในการใช้เครื่องปรับอุณหภูมินั้น คุณจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่ทางศูนย์การแพทย์ระบุไว้ ซึ่งตามปกติแล้วเขาจะให้คุณทำให้ภายในร่างกายอบอุ่นก่อนเข้าไปในเครื่องปรับอุณหภูมิ โดยให้คุณดื่มชารากขิงหรือรับประทานรากขิงกับพริกคาเยนชนิดแคปซูลก่อน
    • ก่อนเข้าไปในเครื่องปรับอุณหภูมิ คุณจะต้องถอดเสื้อผ้าและพอกผิวด้วยสมุนไพร ซึ่งมักจะมีขิงผสมอยู่ด้วย
    • พันผ้าขนหนูก่อนเข้าไปในเครื่องปรับอุณหภูมิ ตามมาตรฐานแล้วจะใช้เวลาครั้งละ 60 นาที แต่ถ้าคุณยังไม่แสดงปฏิกิริยาที่เป็นลบ คุณก็อาจจะต้องอยู่ในนั้น 2-3 ชั่วโมง
    • ระหว่างนี้คุณจะต้องดื่มน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณต้องอยู่ในนั้นนานกว่าปกติ
    • ถ้าคุณไม่มีเหงื่อออกภายใน 10 นาทีหรือมีปฏิกิริยาที่เป็นลบ ก็จะใช้เวลาน้อยลง
    • ถ้าเป็นไปได้ด้วยดี เขาก็จะให้คุณไปอาบน้ำอุ่น-เย็นเพื่อปิดรูขุมขน
  3. How.com.vn ไท: Step 3 รับประทานยาลดไข้น้อยลง.
    ในการโต้แย้งเรื่องประโยชน์ของการบำบัดด้วยไข้นั้น แพทย์บางคนแนะนำให้รับประทานยาลดไข้ เช่น แอสไพริน ในปริมาณที่จำกัด ถ้าคุณใช้ยาลดไข้อย่างระมัดระวัง ร่างกายของคุณจะเป็นไข้ในระดับปานกลางที่จะไปกระตุ้นกลไกป้องกันของภูมิคุ้มกัน
    • ฮอร์โมนไพโรเจนที่ร่างกายสร้างขึ้นจะเข้าสู่สมองและทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น
    • นอกจากนี้ก็อาจจะมีการกระตุ้นการหดตัวของกล้ามเนื้ออย่างฉับพลัน ซึ่งจะทำให้เกิดความร้อน เส้นประสาทก็อาจจะไปบีบหลอดเลือดรอบนอก ซึ่งจะไปลดการสูญเสียความร้อนไปยังสภาพแวดล้อม
    • อาจใช้การทำลายเนื้อเยื่อเพื่อให้เกิดความร้อน
    • ความรู้สึกหนาวกระตุ้นให้คุณใส่เสื้อผ้าหลายๆ ชั้นหรือดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มอุณหภูมิในร่างกายได้[5]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

เพิ่มอุณหภูมิในร่างกายด้วยตนเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เตรียมอ่างน้ำเพิ่มอุณหภูมิที่บ้าน.
    เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "อ่างน้ำควบคุมอุณหภูมิ" เทคนิคที่ใช้กันมาหลายร้อยปีนี้ทำงานโดยการกระตุ้นการตอบสนองของภูมิคุ้มกันธรรมชาติในร่างกาย[6] คุณสามารถเตรียมอ่างน้ำได้เองที่บ้าน ก่อนแช่อ่างอาบน้ำ ให้คุณดื่มชาสมุนไพรร้อนๆ 1 หรือ 2 ถ้วย เช่น ชาขิง ชาสะระแหน่ ชาเปปเปอร์มินต์ ชาผักกระสัง หรือชาพวงทอง ถ้าหัวใจคุณไม่แข็งแรง ให้หยดฮอว์ธอร์นลงไปในชาหลายๆ หยดเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการแช่น้ำร้อน
    • เติมน้ำร้อนลงไปในอ่าง ให้ความร้อนอยู่ระหว่าง 36-37 องศาเซลเซียส
    • แช่ทั้งตัวในอ่างอาบน้ำ ถ้าคุณไม่สามารถลงไปในอ่างอาบน้ำได้ทั้งตัว ให้งอเข่าเพื่อให้ศีรษะแช่อยู่ในน้ำ แต่ให้จมูกกับปากอยู่เหนือน้ำเพื่อให้คุณหายใจได้สะดวก
    • คุณไม่ควรปล่อยให้อุณหภูมิของน้ำลดลงระหว่างนี้ เติมน้ำร้อนเพิ่มเพื่อรักษาความร้อน และในการเติมน้ำแต่ละครั้งควรให้อุณหภูมิน้ำถึง 38 องศาเซลเซียส
    • แช่ตัวในอ่างอาบน้ำประมาณครึ่งชั่วโมง ให้อีกคนช่วยพยุงคุณขึ้นจากน้ำถ้าคุณรู้สึกเหมือนจะเป็นลมหรือเวียนหัวขณะลุกขึ้น[7]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ใช้วิธีการบำบัดด้วยการแช่น้ำแบบอื่น.
    นอกจากการแช่อ่างน้ำเพิ่มอุณหภูมิที่ทำต่อๆ กันมาหลายร้อยปีแล้ว ยังมีการบำบัดด้วยการแช่น้ำร้อนแบบอื่นๆ ที่ทำให้เป็นไข้ได้เช่นกัน เทคนิคหนึ่งที่อ้างว่าสามารถต่อสู้กับโรคมะเร็งได้ก็คือ ให้คุณใส่น้ำร้อนลงไปในอ่างอาบน้ำให้น้ำร้อนมากที่สุดเท่าที่คุณจะทนไหว แต่อย่าให้ถึงกับลวกตัว ผสมดีเกลือฝรั่ง 1,000 กรัม แช่ตัวลงในอ่างอาบน้ำให้ได้มากที่สุด แช่ตัวในน้ำ 20-25 นาทีเต็ม เติมน้ำร้อนลงไปเรื่อยๆ เพื่อให้เกิดความร้อนอย่างต่อเนื่อง ดื่มชารากขิงขณะแช่น้ำเพื่อเพิ่มความร้อนภายในร่างกายพร้อมๆ กับการเพิ่มความร้อนภายนอกจากการแช่น้ำ
    • ระมัดระวังเวลาลุกออกจากอ่างน้ำ ถ้าคุณรู้สึกเหมือนจะเป็นลมหรือเวียนหัว ขอให้คนอื่นมาช่วยพยุงคุณ
    • ผึ่งตัวให้แห้งแทนการใช้ผ้าเช็ดตัว
    • ปูผ้าพลาสติกไว้บนเตียงเพื่อไม่ให้เตียงเปียกและนอนลง ห่มผ้าหลายๆ ชั้นให้มากที่สุด
    • นอนอยู่อย่างนั้น 3-8 ชั่วโมง คุณจะเหงื่อแตกและควรนอนอยู่บนเตียงจนกว่าจะเป็นไข้
    • ตามปกติแล้วไข้จะหายไปหลังจากผ่านไปแล้ว 6-8 ชั่วโมง
    • คุณสามารถทำเทคนิคนี้ซ้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้งได้มากถึง 6-8 สัปดาห์[8]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ฝึกสมาธิแบบจี-ทัมโม.
    การนั่งสมาธิรูปแบบพิเศษที่มีต้นกำเนิดมาจากพระธิเบตนั้นได้รับการอ้างอิงว่า สามารถเพิ่มอุณหภูมิในร่างกายและทำให้เป็นไข้ได้ การวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่า การทำสมาธิแบบจี-ทัมโมนั้นสามารถเพิ่มอุณหภูมิของร่างกายให้ไปถึงจุดที่เป็นไข้อ่อนๆ หรือปานกลางได้ โดยมีการสังเกตอุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้นจากการบังคับลมหายใจแบบแจกัน ซึ่งเป็นองค์ประกอบของการทำสมาธิ และระยะเวลาที่จะรักษาความร้อนไว้ได้นั้นจะขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของระบบประสาทด้านการรู้คิด (การฝึกสมาธิด้วยการจินตนาการภาพ) ในการฝึกสมาธิด้วย[9]
    • หาวิทยากรที่เป็นผู้เชี่ยวชาญแล้วขอให้เขาแนะแนวทางระหว่างฝึกให้
    • เทคนิคการบังคับลมหายใจแบบแจกันสามารถฝึกได้ที่บ้านเพื่อช่วยควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย[10]
    • โดยพื้นฐานแล้วการหายใจแบบแจกันก็คือ การหายใจเอาอากาศที่สะอาดเข้าไป จากนั้นก็หายใจออกเอาอากาศออกมา 85% วิธีนี้จะทำให้เกิดเป็นรูปทรงแจกันตรงหน้าท้องช่วงล่าง
    • เทคนิคนี้สามารถทำควบคู่กับการจินตนาการภาพได้ เช่น นึกภาพไฟกำลังไล่ไปตามกระดูกสันหลัง
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ออกกำลังกายเพื่อเพิ่มอุณหภูมิร่างกาย.
    การออกกำลังกายและกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างหนักหน่วงช่วยเพิ่มอุณหภูมิแกน การออกกำลังกายหนักๆ ในวันที่อากาศร้อน หรือการใส่เสื้อผ้าหลายๆ ชั้นจะทำให้ร่างกายของคุณเย็นลงและระบายความร้อนได้ยากขึ้น อุณหภูมิแกนก็จะเพิ่มอีก 2-3 องศาเซลเซียส[11] แต่คุณก็ควรระมัดระวังขณะออกกำลังกาย ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดอาการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับความร้อนได้ เช่น ตะคริวจากความร้อนและโรคเพลียความร้อน
    • นักกีฬาบางคน เช่น นักมวยปล้ำ จะใส่เสื้อผ้าหลายชั้นหรือแม้กระทั่งถุงพลาสติก และทำกิจกรรมที่กระตุ้นหัวใจและหลอดเลือด เช่น วิ่งและยกน้ำหนัก นอกจากนี้นักกีฬากลุ่มนี้ยังใส่เสื้อผ้าอบซาวน่าด้วยเพื่อเพิ่มอุณหภูมิร่างกายและกำจัดอาการบวมน้ำขณะที่ร่างกายขับน้ำออกจากระบบ
    • อย่าลืมดื่มเครื่องดื่มมากๆ เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ
    • ระวังอาการที่เกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วยที่เกิดจากความร้อน เช่น เวียนหัว คลื่นไส้ ปัญหาเรื่องจังหวะการเต้นของหัวใจ และปัญหาด้านการมองเห็น
    • ถ้าคุณมีอาการเหล่านี้ ให้หยุดทันที ผ่อนร่างกายลงแล้วให้ร่างกายได้พัก[12]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

รับประทานอาหารที่เพิ่มอุณหภูมิร่างกาย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 รับประทานข้าวกล้อง.
    การรับประทานข้าวกล้องทุกมื้อหรืออย่างน้อยทุกเย็นทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นได้ภายในไม่กี่วัน เพราะคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนในข้าวกล้องจะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนักขึ้น กระบวนการย่อยอาหารที่ทำงานหนักขึ้นจะทำให้เกิดความร้อนภายในร่างกาย แต่ธัญพืชเต็มเมล็ดอื่นๆ เช่น ควินัวและบักวีตก็ส่งผลต่อร่างกายในลักษณะเดียวกัน[13]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 รับประทานไอศกรีม.
    การรับประทานไอศกรีมหนึ่งหน่วยบริโภคทุกวันจะค่อยๆ เพิ่มอุณหภูมิแกนของร่างกายตลอดระยะเวลาหลายสัปดาห์ การช็อกที่เกิดจากความเย็นที่ร่างกายได้รับจะบังคับให้ร่างกายต้องสร้างความร้อนขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้อุณหภูมิตก นอกจากนี้อาหารที่มีไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตก็เพิ่มความร้อนในร่างกายขณะที่ระบบย่อยอาหารย่อยอาหารเหล่านี้ด้วย
    • ไขมันจะเคลื่อนผ่านระบบย่อยอาหารช้าเป็นพิเศษ ทำให้ร่างกายต้องเพิ่มความร้อนเพื่อทำงานหนักขึ้น[14]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 เติมพริกคาเยน.
    เติมพริกคาเยน 1/4 ช้อนชาลงไปในอาหารทุกวัน แต่ถ้ามันเผ็ดเกินกว่าจะรับประทานได้ในครั้งเดียว ก็แค่เหยาะลงไปในอาหารแต่ละมื้อ พริกคาเยนมีสารประกอบที่เผ็ดมากเป็นพิเศษที่เรียกว่าแคปไซซิน สารประกอบนี้จะทำให้คุณรู้สึกถึงความเผ็ดร้อนในช่วงแรกขณะที่รับประทานพริกคาเยน แต่ความเผ็ดร้อนที่คุณสัมผัสได้นั้นไม่ได้ทำให้อุณหภูมิร่างกายเปลี่ยนแปลง
    • สิ่งที่เพิ่มอุณหภูมิในร่างกายจริงๆ ก็คือกระบวนการย่อยอาหารที่ย่อยแคปไซซิน
    • พริกจาลาปิโนและพริกฮาบาแนโรก็อาจจะให้ผลลัพธ์แบบเดียวกัน แต่ว่าข้อมูลก็ยังไม่แน่ชัด[15]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 บริโภคน้ำมันมะพร้าวให้มากขึ้น.
    น้ำมันมะพร้าวเป็นกรดไขมันอิ่มตัวสายโมเลกุลยาวปานกลาง (MCT) ที่ช่วยเพิ่มอุณหภูมิแกนของร่างกายและกระบวนการเผาผลาญ MCT นั้นเป็นที่รู้กันดีว่าช่วยเพิ่มระบบการเผาผลาญและช่วยลดน้ำหนัก น้ำมันมะพร้าวไม่ได้สะสมในรูปแบบของไขมันแต่เปลี่ยนไปเป็นพลังงาน เพราะฉะนั้นมันจึงเพิ่มอุณหภูมิในร่างกายได้ ซึ่งก็อาจจะมีประโยชน์กับผู้ที่ต่อมไทรอยด์ทำงานต่ำ นอกจากนี้น้ำมันมะพร้าวยังมีคุณสมบัติต้านไวรัสและอาจช่วยรักษาระดับกลูโคสในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานด้วย[16]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 รับประทานถั่วลิสงให้มากขึ้น.
    ถั่วลิสงเป็นแหล่งโปรตีนและกรดไขมันที่ดี และยังมีไนอะซินมากอีกด้วย ซึ่งไนอะซินก็คือวิตามินบีที่ควบคุมการหายใจและการเผาผลาญในระดับเซลล์ เมื่อรับประทานเข้าไปแล้ว ไนอะซินก็จะทำให้เกิดการชำระล้างที่เพิ่มอุณหภูมิในร่างกาย นอกจากนี้ถั่วลิสงยังมีคุณสมบัติต้านสารอนุมูลอิสระและกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดที่ทำงานช้าได้ด้วย[17]
  6. How.com.vn ไท: Step 6 รับประทานขิงให้มากขึ้น.
    การรับประทานขิงสดขนาดเท่านิ้วหัวแม่โป้งนั้นทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าการรับประทานขิงสดไม่น่าอภิรมย์สำหรับคุณ คุณก็สามารถทำชาขิงได้ด้วยการต้มขิงขนาดเดียวกันนี้ในน้ำเป็นเวลา 5-10 นาที ขิงจะเพิ่มกิจกรรมการย่อย ซึ่งจะช่วยเพิ่มอุณหภูมิในร่างกายได้
    • พืชหัวอย่างอื่นก็อาจจะช่วยได้บ้างเหมือนกัน ถ้าคุณไม่ชอบรับประทานขิง ให้รับประทานแคร์รอต บีทรูต หรือมันเทศแทน[18]
    โฆษณา

คำเตือน

  • แม้ว่าคุณจะวางแผนทำให้เป็นไข้ด้วยตัวเอง คุณก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีปัญหาสุขภาพที่ส่งผลต่อหัวใจ ระบบย่อยอาหาร หรือระบบภูมิคุ้มกันอยู่ก่อนแล้ว
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Chris M. Matsko, MD
ร่วมเขียน โดย:
อายุรแพทย์
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Chris M. Matsko, MD. ดร.แมทสโกเป็นแพทย์เกษียณในเพนซิลเวเนีย เขาได้รับปริญญาจากคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเทมเพิลในปี 2007 บทความนี้ถูกเข้าชม 68,228 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 68,228 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา