วิธีการ รักษาอาการเล็บเท้าเป็นสีดำคล้ำ

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

ปัญหาเล็บเท้าเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำบางส่วนหรือทั้งหมดนั้นอาจดูเป็นเรื่องน่าตกใจ แต่คุณไม่ต้องเป็นกังวลไป อาการเล็บเท้าเป็นสีดำคล้ำโดยส่วนใหญ่มักมีอาการไม่รุนแรงและสามารถรักษาให้หายดีได้ง่ายๆ ด้วยวิธีการที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสาเหตุของการเกิดปัญหาเล็บเท้าเป็นสีดำของคุณ

สิ่งที่ควรรู้

  • รักษาอาการเล็บเท้าบาดเจ็บด้วยหลักการ RICE: Rest (พัก), Ice (น้ำแข็ง), Compression (รัด), และ Elevation (ยก) รับประทานยาแก้ปวดเพื่อป้องกันอาการปวดหรืออักเสบ
  • รักษาเล็บเท้าที่เกิดโรคเชื้อรา โดยการใช้ครีมป้องกันเชื้อรา ถ้าไม่หายให้ไปพบแพทย์
  • หากไม่แน่ใจว่าทำไมเล็บเท้าถึงเป็นสีดำ ให้ไปพบแพทย์
วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ดูแลเล็บเท้าที่เป็นสีดำคล้ำจากการบาดเจ็บ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 สังเกตดูสัญญาณของการบาดเจ็บที่เล็บเท้า.
    ลองนึกดูว่าคุณเพิ่งได้รับบาดเจ็บที่บริเวณนิ้วเท้าเมื่อไม่นานมานี้หรือไม่ การบาดเจ็บที่ผิวหนังใต้เล็บอาจทำให้เกิดเลือดคั่งที่ใต้เล็บจนส่งผลให้เล็บเปลี่ยนเป็นสีดำหรือน้ำตาลคล้ำหรือที่เรียกว่าภาวะเลือดออกที่ใต้เล็บ (Subungual hematoma) ซึ่งในบางครั้งอาจมีการแสดงอาการต่างๆ เกิดขึ้นร่วมด้วย เช่น รู้สึกเจ็บหรือมีแรงกดที่ใต้เล็บ[1]
    • ในบางกรณีอาจเป็นที่แน่ชัดว่าปัญหาเล็บเท้าดำของคุณมีสาเหตุเกิดจากการบาดเจ็บ เช่น คุณอาจเพิ่งทำสิ่งของตกใส่เท้าหรือสะดุดชนที่นิ้วเท้าเมื่อไม่นานมานี้
    • อาการเล็บเท้าเป็นสีดำอาจค่อยๆ ลุกลามจากการบาดเจ็บซ้ำๆ ได้เช่นเดียวกัน เช่น แรงกดจากการสวมรองเท้าที่คับแน่นจนเกินไปหรือการได้รับบาดเจ็บที่นิ้วเท้าจากการวิ่ง ปีนเขา หรือเล่นกีฬาเป็นประจำ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 รักษาง่ายๆ ที่บ้านด้วยหลักการ RICE.
    หากภาวะเลือดออกที่ใต้เล็บมีอาการที่ไม่รุนแรงและไม่ทำให้คุณรู้สึกเจ็บมากนัก คุณสามารถรักษาด้วยตัวเองที่บ้านได้โดยไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์ เพียงใช้หลักการปฐมพยาบาล RICE ซึ่งประกอบด้วย Rest (พัก) Ice (น้ำแข็ง) Compression (รัด) และ Elevation (ยก) หรือ โดยทันทีหลังจากที่ได้รับบาดเจ็บเพื่อลดอาการปวดบวมและช่วยให้การบาดเจ็บที่เล็บเท้าหายดีเร็วขึ้น[2]
    • Rest (หยุด): พักเล็บให้อยู่นิ่งๆ โดยลดการใช้งานของเท้าข้างที่บาดเจ็บให้น้อยลงที่สุด ยกตัวอย่างเช่น หลีกเลี่ยงการวิ่งหรือปีนเขาเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์หลังได้รับบาดเจ็บ
    • Ice (น้ำแข็ง): ใช้ผ้าหรือพลาสติกแรปพันก้อนน้ำแข็งไว้และนำไปประคบตรงบนนิ้วเท้าที่ได้รับบาดเจ็บเพื่อให้ความเย็นช่วยในการบรรเทาความเจ็บปวดและลดการบวมช้ำ คุณสามารถประคบด้วยน้ำแข็งนานถึง 1 ชั่วโมงได้อย่างปลอดภัยโดยแบ่งเป็นช่วงๆ ครั้งละ 20-30 นาที[3]
    • Compression (รัด): พันผ้ายืดที่รอบนิ้วเท้าที่ได้รับบาดเจ็บให้กระชับพอดีและไม่แน่นจนเกินไป วิธีนี้จะช่วยให้ปริมาณของเลือดที่คั่งอยู่ใต้เล็บของคุณลดลง
    • Elevation (ยก): ลดอาการบวมด้วยการยกเท้าขึ้นมาให้อยู่ในระดับที่สูงกว่าหัวใจให้มากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจนอนราบลงไปบนโซฟาโดยวางเท้าไว้บนที่วางแขนหรือนอนราบบนเตียงโดยวางเท้าไว้บนหมอนที่วางซ้อนกัน
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ทานยาแก้ปวดสามัญประจำบ้านเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด....
    ทานยาแก้ปวดสามัญประจำบ้านเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด. หากคุณมีอาการเจ็บจากอาการเล็บเท้าเป็นสีดำ ลองทานยาต้านการอักเสบชนิดที่ไม่ใช้สเตียรอยด์ (Non-steroidal anti-inflammatory drug หรือ NSAID) เช่น ไอบูโพรเฟน นาพรอกเซน หรืออะเซตามิโนเฟน เพื่อช่วยในการบรรเทาความเจ็บปวดรวมถึงลดการบวมช้ำและการอับเสบที่เกิดขึ้น[4]
    • ปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนเริ่มใช้ยาแอสไพรินหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีส่วนประกอบของแอสไพริน เนื่องจากแอสไพรินอาจส่งผลให้ภาวะเลือดออกที่ใต้เล็บแย่ลงกว่าเดิมได้
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ปรึกษาแพทย์หากอาการที่เกิดขึ้นมีความรุนแรง....
    ปรึกษาแพทย์หากอาการที่เกิดขึ้นมีความรุนแรง. ในบางครั้งการรักษาด้วยตัวเองที่บ้านอาจไม่เพียงพอต่อการรักษาภาวะเลือดออกที่ใต้เล็บของคุณให้หายดี ดังนั้นคุณจึงควรไปพบแพทย์ทันทีหากมีอาการต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้น เช่น มีอาการเจ็บอย่างรุนแรง มีเลือดไหลไม่หยุดตรงบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บ เกิดรอยแผลลึกที่นิ้วหรือเล็บเท้า หรือเกิดความเสียหายที่ฐานเล็บ[5]
    • แพทย์ของคุณอาจรักษาด้วยการเจาะรูเล็กๆ บนเล็บด้วยเข็มหรือเลเซอร์เพื่อระบายเลือดหรือของเหลวอื่นๆ ที่คั่งอยู่ใต้เล็บให้ไหลออกมา แต่หากการบาดเจ็บที่เล็บเท้ามีความรุนแรงหรือพบสัญญาณของการติดเชื้อ แพทย์อาจจำเป็นต้องรักษาด้วยการถอดเล็บออกไป
    • หากเด็กทารกหรือเด็กเล็กได้รับบาดเจ็บที่นิ้วเท้า อย่าพยายามทำการรักษาด้วยตัวเองและพาไปพบแพทย์โดยทันที
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ไปพบแพทย์ทันทีหากคุณสังเกตเห็นสัญญาณของการติดเชื้อ....
    ไปพบแพทย์ทันทีหากคุณสังเกตเห็นสัญญาณของการติดเชื้อ. หากคุณสังเกตเห็นอาการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ เช่น มีหนองหรือของเหลวอื่นๆ ไหลซึมออกมาจากใต้เล็บ มีอาการเจ็บหรือการบวมช้ำที่เพิ่มขึ้น มีรอยแดงที่นิ้วเท้าที่ได้รับบาดเจ็บ มีรอยริ้วสีแดงบนผิวหนังที่บริเวณรอบๆ เล็บ หรือมีไข้สูง รวมถึงรู้สึกถึงความร้อนที่บริเวณรอบๆ เล็บเมื่อสัมผัสถูก ให้คุณรีบติดต่อแพทย์ของคุณหรือไปที่โรงพยาบาลทันที[6]
    • เล็บของคุณอาจมีแนวโน้มในการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหากเล็บเท้าเริ่มหลุดออกมา ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ตามปกติเมื่อเกิดภาวะเลือดออกที่ใต้เล็บอย่างรุนแรง
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ปกป้องเล็บจากการได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมในช่วงฟื้นฟูของแผล....
    ปกป้องเล็บจากการได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมในช่วงฟื้นฟูของแผล. หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บ เล็บเท้าของคุณจำเป็นต้องใช้เวลาและได้รับการดูแลเพื่อให้บาดแผลหายสนิท พยายามเลือกสวมรองเท้าหัวปิดที่เหลือพื้นที่ที่บริเวณนิ้วเท้ามากพอเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระแทกหรือเสียดสีกับเล็บเท้าที่บาดเจ็บได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถปกป้องนิ้วเท้าของคุณให้ปลอดภัยและหายดีอย่างรวดเร็วได้ด้วยวิธีการต่างๆ เหล่านี้:[7]
    • รักษาความสะอาดของเล็บ ตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอ และหลีกเลี่ยงการทาเล็บ เนื่องจากยาทาเล็บหรือเล็บปลอมอาจส่งผลให้กระบวนการฟื้นฟูของบาดแผลช้าลงและทำให้คุณสังเกตเห็นสัญญาณของการติดเชื้อหรือการบาดเจ็บได้ยากยิ่งขึ้น
    • สวมรองเท้าที่สวมใส่สบายและกระชับพอดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณต้องการวิ่ง ให้คุณเลือกสวมรองเท้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมา ½ ไซส์จากรองเท้าที่สวมตามปกติและผูกเชือกให้แน่นเพื่อไม่ให้เท้าของคุณเลื่อนไปมา
    • สวมถุงเท้าผ้าหนาและระบายความชื้นได้ดีเพื่อช่วยกันกระแทกและป้องกันความชื้นให้เท้าของคุณอยู่เสมอ
    • สวมปลอกหุ้มนิ้วหรือพันเทปที่นิ้วเท้าที่บาดเจ็บไว้ในระหว่างการวิ่งหรือปีนเขา
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

รักษาเล็บเท้าที่เกิดโรคเชื้อรา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ตรวจสอบอาการของการติดเชื้อรา.
    การติดเชื้อราที่เล็บเท้าอาจทำให้เกิดการสะสมของเศษเนื้อบริเวณใต้เล็บจนส่งผลให้เล็บเท้าของคุณมีสีดำคล้ำผิดปกติได้ ลองสังเกตดูสัญญาณต่างๆ ของการติดเชื้อราดังต่อไปนี้:[8]
    • เล็บขึ้นหนาหรือผิดรูป
    • เล็บเปลี่ยนเป็นสีออกขาวหรือออกน้ำตาลอมเหลือง
    • เล็บเปราะบางและแตกหักง่าย
    • มีกลิ่นเหม็น
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ไปพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง.
    เนื่องจากการติดเชื้อราที่เล็บเท้ามักมีอาการที่คล้ายคลึงกับโรคอื่นๆ ดังนั้นคุณจึงควรรับการวินิจฉัยอย่างถูกต้องจากแพทย์เพื่อให้คุณสามารถรักษาปัญหาเล็บเท้าเป็นสีดำคล้ำได้อย่างถูกวิธี นัดพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจดูเล็บเท้าของคุณรวมถึงทำการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อพิสูจน์ว่ามีการติดเชื้อราหรือไม่[9]
    • แพทย์ของคุณอาจทำการตัดเล็บออกมาบางส่วนหรือเก็บเศษเนื้อบริเวณใต้เล็บเพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ
    • บอกเล่าอาการที่เกิดขึ้นให้แพทย์ฟังอย่างละเอียด รวมถึงแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยาตัวอื่นๆ ที่คุณกำลังใช้อยู่หรือปัญหาสุขภาพต่างๆ ที่คุณมี
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ใช้ยาต้านเชื้อราสามัญประจำบ้าน.
    ก่อนเริ่มต้นการรักษาขั้นสูง แพทย์ของคุณอาจแนะนำให้คุณใช้ยาที่ซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ในการรักษาเล็บเท้าที่เกิดการติดเชื้อ ให้คุณหาซื้อยาทาต้านเชื้อราแบบครีมหรือแบบขี้ผึ้งจากร้านขายยาทั่วไปและปฏิบัติตามวิธีใช้ที่ระบุบนฉลากอย่างเคร่งครัด[10]
    • ยาทาประเภทนี้อาจมีประสิทธิภาพดีมากขึ้นเมื่อเล็บของคุณบางและนุ่มลงก่อนเริ่มทายาลงไป คุณจึงควรตัดเล็บที่เกิดการติดเชื้อให้สั้นลงและค่อยๆ ตะไบส่วนที่หนาให้บางลงโดยระมัดระวังอย่าตะไบหน้าเล็บออกมากจนเกินไป
    • คุณยังสามารถช่วยให้ยาซึมลึกเข้าสู่บาดแผลได้ดียิ่งขึ้นได้ด้วยการทาครีมที่มีส่วนประกอบของยูเรียก่อนการเริ่มต้นใช้ยาตามปกติ
  4. How.com.vn ไท: Step 4 สอบถามแพทย์เกี่ยวกับการใช้ยาทาต้านเชื้อราเฉพาะที่ตามแพทย์สั่ง....
    สอบถามแพทย์เกี่ยวกับการใช้ยาทาต้านเชื้อราเฉพาะที่ตามแพทย์สั่ง. หากอาการติดเชื้อของคุณไม่มีการตอบสนองใดๆ ต่อการใช้ยาที่ซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ แพทย์ของคุณอาจพิจารณาสั่งจ่ายยาทาต้านเชื้อราเฉพาะที่ซึ่งมีทั้งในรูปแบบครีม ขี้ผึ้ง และน้ำยาเคลือบ นอกจากนี้ยังอาจมีการใช้ยาทาเหล่านี้ร่วมกับยาต้านเชื้อราชนิดทานในผู้ที่มีอาการติดเชื้อที่รักษาได้ยากอีกด้วย โดยปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด[11]
    • ยาทาเฉพาะที่ที่แพทย์มักสั่งจ่ายโดยส่วนใหญ่ได้แก่ อะโมโรลฟิน (Amorolfine) ไซโคลไพรอกซ์ (Ciclopirox) อีฟิน่าโคนาโซล (Efinaconazole) และทาวาโบรอล (Tavaborole)
    • ยาทาต้านเชื้อราบางตัวอาจจำเป็นต้องใช้เป็นประจำทุกวัน ในขณะที่บางตัวอาจใช้เพียงสัปดาห์ละครั้งเท่านั้น โดยคุณอาจต้องใช้ต้านเชื้อราอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานกว่าหลายสัปดาห์เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ในการรักษา
    • ยาทาต้านเชื้อราบางตัวอาจมาในรูปแบบของน้ำยาเคลือบ (เพนแลค (Penlac)) ซึ่งใช้สำหรับทาที่เล็บที่ติดเชื้อเป็นประจำทุกวัน[12]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการใช้ยาต้านเชื้อราแบบทาน....
    ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการใช้ยาต้านเชื้อราแบบทาน. ไปพบแพทย์หากการติดเชื้อราที่เล็บเท้ายังคงไม่ดีขึ้นหลังจากที่คุณใช้ยาทาต้านเชื้อราทั้งแบบที่ซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์และแบบที่ต้องมีใบสั่งแพทย์ โดยแพทย์ของคุณอาจเริ่มสั่งจ่ายยาต้านเชื้อราแบบทานที่ออกฤทธิ์แรงยิ่งขึ้น เช่น เทอร์บินาฟีน (Terbinafine) และไอทราโคนาโซล (Itraconazole) ที่แพทย์มักสั่งจ่ายโดยส่วนใหญ่ ซึ่งยาต้านเชื้อราแบบทานสามารถช่วยในการฆ่าเชื้อโรคและกระตุ้นการเกิดใหม่ของเล็บขึ้นมาแทนที่เล็บที่ติดเชื้อ[13]
    • คุณอาจจำเป็นต้องทานยาติดต่อกันถึง 6-12 สัปดาห์กว่าที่การติดเชื้อราที่เล็บเท้าจะหายดี ทั้งยังอาจต้องใช้เวลานานกว่าหลายเดือนเพื่อให้เล็บใหม่งอกขึ้นมาแทนที่เล็บเก่าที่เสียหาย ดังนั้นอย่าเพิ่งเป็นกังวลใจไปหากอาการยังคงไม่ดีขึ้นในทันที
    • ยาต้านเชื้อราแบบทาอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงต่างๆ ได้ ดังนั้นคุณจึงควรรับการตรวจสอบจากแพทย์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายของคุณสามารถทนต่อยาได้ดี รวมถึงแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยาตัวอื่นๆ ที่คุณกำลังใช้อยู่หรือปัญหาสุขภาพต่างๆ ที่คุณมี
  6. How.com.vn ไท: Step 6 พูดคุยกับแพทย์เกี่ยวกับการถอดเล็บสำหรับการติดเชื้อที่รักษาได้ยาก....
    พูดคุยกับแพทย์เกี่ยวกับการถอดเล็บสำหรับการติดเชื้อที่รักษาได้ยาก. หากการรักษาด้วยยาไม่ทำให้อาการดีขึ้นหรือการติดเชื้อของคุณมีความรุนแรงเป็นพิเศษ แพทย์ของคุณอาจแนะนำวิธีการรักษาด้วยการถอดเล็บเพื่อให้สามารถรักษาที่ผิวหนังใต้เล็บได้โดยตรง โดยแพทย์อาจทำการถอดเล็บโดยใช้สารเคมีที่ทำให้เล็บหลุดออกหรือใช้เครื่องมือในการดึงเล็บออกมา[14]
    • ในกรณีส่วนใหญ่เล็บจะงอกขึ้นมาใหม่อีกครั้งหลังการรักษาด้วยการถอดเล็บ ซึ่งอาจใช้เวลากว่าหลายเดือนหรือเป็นปีจนกระทั่งเล็บใหม่งอกขึ้นมาอย่างสมบูรณ์
    • หากการติดเชื้อรายังคงกลับมาอีกครั้งโดยไม่มีทีท่าว่าจะหายสนิทและไม่ตอบสนองใดๆ ต่อการรักษา แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางโรคผิวหนังอาจจำเป็นต้องทำการผ่าตัดเพื่อถอดเล็บออกอย่างถาวร
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

รับมือกับมะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมาที่เล็บเท้า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 พิจารณาอาการของมะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมาที่เล็บเท้าของคุณ....
    พิจารณาอาการของมะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมาที่เล็บเท้าของคุณ. มะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมาที่ผิวหนังใต้เล็บ (Subungual melanoma) มีลักษณะที่ดูคล้ายคลึงกับรอยฟกช้ำที่เกิดขึ้นจากการบาดเจ็บที่เล็บ ดังนั้นหากคุณสังเกตเห็นจุดสีคล้ำที่บริเวณใต้เล็บโดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บที่นิ้วเท้ามาก่อน ให้คุณรีบเข้ารับการตรวจจากแพทย์โดยทันที สัญญาณหรืออาการอื่นๆ ของมะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมาได้แก่:[15]
    • รอยริ้วสีน้ำตาลหรือดำที่บริเวณใต้เล็บที่ลุกลามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดนเฉพาะอย่างยิ่งรอยริ้วที่ขยายตัวจากปลายเล็บมาจนถึงตรงบริเวณโคนเล็บ
    • รอยฟกช้ำหรือจุดสีคล้ำที่ไม่เลื่อนขึ้นหรือหายไปเมื่อเล็บยาวขึ้น
    • การแยกออกจากกันของเล็บและผิวหนังใต้เล็บ
    • ผิวหนังบริเวณนิ้วเท้าที่คล้ำขึ้น
    • เล็บเปราะบาง แตกหักง่าย หรือผิดรูป
    • เลือดออกที่บริเวณใต้เล็บ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง....
    ไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง. หากคุณสงสัยว่าเกิดมะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมาที่ผิวหนังใต้เล็บของคุณ อย่ามัวรีรอและรีบทำการนัดหมายแพทย์โดยทันที จำไว้ว่าการตรวจเจอมะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมาตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้สามารถทำการรักษาได้ง่ายดายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น[16]
    • แพทย์ของคุณอาจทำการเก็บเนื้อเยื่อชิ้นเล็กๆ จากใต้เล็บเพื่อส่งตรวจทางพยาธิวิทยาเพื่อตรวจพิสูจน์เซลล์มะเร็ง
    • หากผลการตรวจตัวอย่างเนื้อเยื่อออกมาเป็นบวกและแพทย์ของคุณสงสัยว่ามะเร็งเริ่มมีการแพร่กระจายแล้ว แพทย์อาจพิจารณาการส่งตรวจชิ้นเนื้อจากต่อมน้ำเหลืองในบริเวณใกล้ๆ กันทางพยาธิวิทยา[17]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ผ่าตัดนำมะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมาออก.
    วิธีการรักษามะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมาที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือการผ่าตัดนำเนื้อเยื่อที่เป็นมะเร็งออกไป แพทย์ของคุณอาจทำการรักษาด้วยการถอดเล็บทั้งหมดออกหรือตัดออกเพียงบางส่วนโดยพิจารณาจากความหนาของมะเร็งชนิดเมลาโนมาและขอบเขตของการแพร่กระจายของมะเร็ง[18]
    • หากมะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมาเริ่มแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อหรือต่อมน้ำเหลืองในบริเวณรอบข้าง คุณอาจจำเป็นต้องรับการรักษาอื่นๆ อย่างการใช้ยาเคมีบำบัดหรือการฉายแสงเพิ่มเติมจากการผ่าตัด
    • แม้ว่าขอบเขตของการแพร่กระจายของมะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมาจะค่อนข้างจำกัด แต่แพทย์ของคุณยังคงอาจพิจารณาการรักษาเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการเกิดซ้ำของมะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมาหรือทำลายเซลล์มะเร็งที่เหลืออยู่ให้หมดไป
    • ภายหลังการรักษา คุณควรนัดพบแพทย์เพื่อติดตามอาการอย่างสม่ำเสมอและหมั่นตรวจสอบด้วยตัวเองอยู่เป็นประจำเผื่อในกรณีที่มะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมากลับมาเกิดซ้ำอีกครั้ง
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ปัญหาการเปลี่ยนสีของเล็บยังสามารถเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีผิวตามธรรมชาติ รวมทั้งยังอาจเป็นผลมาจากโรคประจำตัวต่างๆ ของคุณ เช่น โรคเบาหวาน โรคตับ โรคหัวใจ หรือโรคโลหิตจาง[19] ดังนั้นลองพูดคุยกับแพทย์เพื่อตรวจสอบดูว่าโรคประจำตัวเหล่านี้เป็นสาเหตุของการเกิดอาการเล็บเท้าเป็นสีดำคล้ำของคุณหรือไม่
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Luba Lee, FNP-BC, MS
ร่วมเขียน โดย:
กรรมการพิจารณายา
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Luba Lee, FNP-BC, MS. ลูบา ลีเป็นผู้ปฏิบัติการพยาบาลครอบครัวที่มีประกาศนียบัตรในเทนเนสซี่ เธอได้รับปริญญาด้านพยาบาลศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเทนเนสซี่ในปี 2006 บทความนี้ถูกเข้าชม 59,512 ครั้ง
หมวดหมู่: สุขภาพทั่วไป
มีการเข้าถึงหน้านี้ 59,512 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา