วิธีการ เพิ่มจำนวนเม็ดเลือดแดง

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

สาเหตุยอดนิยมที่ทำให้จำนวนเม็ดเลือดแดง (red blood cell count) ลดน้อยลง ก็คือขาดธาตุเหล็กในอาหารประจำวันนี่แหละ ดีไม่ดีอาจขาดแร่ธาตุและสารอาหารอื่นๆ ร่วมด้วย แก้ได้โดยกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ รวมถึงเพิ่มธาตุเหล็ก กรดโฟลิก ทองแดง (copper) วิตามินบี 12 วิตามินบี 6 วิตามินบี 9 วิตามินซี และวิตามินอีด้วย แต่ที่ครอบคลุมยิ่งกว่าคือเปลี่ยนวิถีชีวิต เช่น หันมาออกกำลังกายบ่อยขึ้น แต่ถ้าทำทุกวิธีที่แนะนำแล้วยังเหลว คงถึงเวลาหาหมอกินยา รวมถึงถ่ายเลือดแทน

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ปรับเปลี่ยนอาหารการกิน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เพิ่มสารอาหารโดยกินอาหารที่อุดมธาตุเหล็ก.
    เพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและเสริมสร้างสิ่งที่ร่างกายขาด อาหารประจำวันที่อุดมธาตุเหล็กจะช่วยเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดแดงในร่างกายให้คุณ นั่นเพราะธาตุเหล็กเป็นองค์ประกอบสำคัญของเซลล์เม็ดเลือดแดงกับฮีโมโกลบิน ที่คอยลำเลียงออกซิเจนไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องการกำจัดคาร์บอนมอนอกไซด์ตอนหายใจออก อาหารที่เป็นแหล่งของธาตุเหล็กก็เช่น[1]
    • ถั่วฝัก (bean) / ถั่วเมล็ดแห้ง (legume)
    • ถั่วเมล็ดแบน (lentil)
    • ผักใบเขียว เช่น เคล และปวยเล้ง
    • ผลไม้แห้ง เช่น ลูกพรุน
    • เครื่องในสัตว์ เช่น ตับ
    • ไข่แดง
    • เนื้อแดง
    • ลูกเกด
      • ถ้าในแต่ละวัน ร่างกายได้รับอาหารที่มีธาตุเหล็กไม่เพียงพอ คงต้องพึ่งอาหารเสริมและแร่ธาตุอื่นๆ ที่เพิ่มการสร้างเม็ดเลือดแดง ปกติปริมาณธาตุเหล็กที่เป็นอาหารเสริมจะอยู่ที่ 50 - 100 มก. กินได้ 2 - 3 ครั้งต่อวัน
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เพิ่มทองแดง.
    ทองแดง หรือ copper ก็เป็นอีกแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยให้เซลล์ดูดซึมธาตุเหล็กในรูปของสารเคมีได้ดี จำเป็นต่อเม็ดเลือดแดงระหว่างการเผาผลาญธาตุเหล็ก ทองแดงพบมากในเนื้อสัตว์ปีก สัตว์น้ำเปลือกแข็ง ตับ โฮลเกรน (ธัญพืชเต็มเมล็ด) ช็อคโกแลต ถั่วฝัก เชอร์รี่ และถั่วเปลือกแข็ง[2] ปริมาณของทองแดงในรูปอาหารเสริมปกติจะอยู่ที่เม็ดละ 900 ไมโครกรัม แนะนำให้กินวันละ 1 ครั้ง
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ต้องได้รับกรดโฟลิกเพียงพอ.
    กรดโฟลิกหรือวิตามินบี 9 ช่วยเรื่องการสร้างเม็ดเลือดแดงให้จำนวนตรงตามเกณฑ์ ถ้ากรดโฟลิกลดลงอย่างเห็นได้ชัด เป็นไปได้ว่าคุณอาจมีภาวะโลหิตจาง (anemia)[4]
    • ซีเรียล ขนมปัง ผักใบเขียวเข้ม ถั่วเมล็ดกลม (pea) ถั่วเมล็ดแบน ถั่วฝัก และถั่วเปลือกแข็ง พวกนี้มีกรดโฟลิกสูง[5] ถ้าเป็นอาหารเสริมจะอยู่ที่ 100 - 250 ไมโครกรัม แนะนำให้กิน 1 ครั้งต่อวัน
    • สมาคมสูตินรีแพทย์ของสหรัฐอเมริกา (The American College of Obstetricians and Gynecologists หรือ ACOG) แนะนำว่าผู้หญิงที่มีประจำเดือนบ่อยๆ ควรได้รับกรดโฟลิก 400 ไมโครกรัมต่อวัน[6] ส่วนสถาบันสุขภาพแห่งชาติของอเมริกา (National Institute of Health) ก็แนะนำว่าหญิงมีครรภ์ควรได้รับกรดโฟลิก 600 ไมโครกรัมต่อวัน[7]
    • นอกจากช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงที่แข็งแรงแล้ว กรดโฟลิกยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างและซ่อมแซมองค์ประกอบพื้นฐานของเซลล์ใน DNA ปกติที่ใช้การได้ดี[8]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 กินอาหารที่มีวิตามินเอ (Retinol).
    วิตามินเอช่วยเรื่องพัฒนาเซลล์ต้นกำเนิดของเม็ดเลือดแดงในไขกระดูก โดยทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงที่กำลังสร้างได้รับธาตุเหล็กเพียงพอต่อการจัดการฮีโมโกลบิน
    • มันเทศ, แครอท, ฟัก (squash), ผักใบเขียวเข้ม, พริกหวานแดง และผลไม้ เช่น แอพริคอต, เกรปฟรุต, แตงโม, ลูกพลัม/ลูกพรุน และแคนตาลูป พวกนี้เป็นแหล่งวิตามินเอชั้นดี[9]
    • ผู้หญิงควรได้รับวิตามินเอวันละ 700 ไมโครกรัม และปริมาณที่แนะนำของผู้ชายคือ 900 ไมโครกรัม
  5. How.com.vn ไท: Step 5 วิตามินซีก็อย่าให้ขาด.
    [10] ร่างกายต้องการวิตามินซีควบคู่ไปกับธาตุเหล็กในรูปของอาหารเสริมด้วย ถึงจะเสริมฤทธิ์กัน เพราะวิตามินซีช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ผลิตเม็ดเลือดแดงมากขึ้น
    • ให้กินวิตามินซี 500 มก. ต่อวัน ควบคู่ไปกับธาตุเหล็ก จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดียิ่งขึ้น ยิ่งมีประสิทธิภาพ แต่ร่างกายได้รับธาตุเหล็กจากอาหารเสริมเยอะๆ ก็ต้องระวัง เพราะเป็นอันตรายได้
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน...
    ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน. การออกกำลังกายดีต่อคนทุกเพศทุกวัย รวมถึงคนที่ปริมาณเม็ดเลือดแดงต่ำด้วย บอกเลยว่าดีต่อทั้งร่างกายและจิตใจ ร่างกายจะแข็งแรง ไร้โรคภัยและอาการเจ็บป่วย[11]
    • การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (cardiovascular) เช่น จ็อกกิ้ง วิ่ง และว่ายน้ำ นี่แหละเหมาะสุด แต่จริงๆ แล้วอะไรก็ได้ที่ทำให้คุณได้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว[12]
    • การออกกำลังกายมีผลต่อการสร้างเม็ดเลือดแดงมาก เวลาคุณออกกำลังกายหนักๆ คุณจะเหนื่อยและเหงื่อออกเยอะเป็นพิเศษ ออกกำลังกายหนักแล้วทำให้ร่างกายต้องการออกซิเจนมากขึ้นเยอะ เลยส่งสัญญาณไปที่สมองว่าร่างกายกำลังขาดออกซิเจน เท่ากับกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงและฮีโมโกลบิน จะได้ลำเลียงออกซิเจนไปทั่วร่างกาย
  2. How.com.vn ไท: Step 2 พฤติกรรมที่ควรเลิก.
    ถ้ากังวลเรื่องจำนวนเม็ดเลือดแดง ต้องเลิกบุหรี่และเลิกเหล้า จริงๆ แล้วถ้าเลิก 2 อย่างนี้ได้จะดีต่อสุขภาพร่างกายโดยรวมเลย
    • สูบบุหรี่แล้วไปรบกวนการไหลเวียนของเลือด เพราะทำให้หลอดเลือดหดตัว จนเลือดข้น ไม่ไหลเวียนและลำเลียงออกซิเจนไปยังอวัยวะต่างๆ ของร่างกายอย่างที่ควรจะเป็น แถมยังทำให้ไขกระดูกขาดออกซิเจนด้วย[13]
    • เวลาดื่มเหล้าหนักๆ ก็ทำให้เลือดข้น ไหลเวียนไม่สะดวก และขาดออกซิเจนเช่นกัน รวมถึงสร้างเม็ดเลือดแดงน้อยลง เลยมีแต่เม็ดเลือดแดงที่ยังไม่พัฒนาเต็มที่
  3. How.com.vn ไท: Step 3 บางทีก็ต้องถ่ายเลือด.
    ถ้าจำนวนเม็ดเลือดแดงต่ำจนปรับอาหารการกินและใช้อาหารเสริมช่วยแล้วก็ยังเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดแดงได้ไม่มากเท่าที่ควร ก็คงต้องถ่ายเลือด ให้คุณปรึกษาคุณหมอประจำตัวเพื่อตรวจเช็คร่างกายตามสมควร คุณหมอจะตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดแดง (complete blood count หรือ CBC) เพื่อเช็คจำนวนเม็ดเลือดแดงในร่างกายของคุณ
  4. How.com.vn ไท: Step 4 หมั่นตรวจเช็คร่างกาย.
    ถ้าอยากติดตามจำนวนเม็ดเลือดแดงของตัวเอง ก็ต้องหมั่นไปหาหมอ นอกจากนี้ยังอาจต้องทดสอบเพิ่มเติมให้แน่ใจว่าไม่มีโรคอื่นที่เป็นสาเหตุทำให้จำนวนเม็ดเลือดแดงต่ำ แนะนำให้หมั่นตรวจเช็คสุขภาพประจำปีจะดีที่สุด
    • ถ้าผลออกมาว่าจำนวนเม็ดเลือดแดงคุณต่ำ ก็ต้องพยายามปรับตัวตามคำแนะนำข้อต่างๆ ที่ผ่านมาอย่างเคร่งครัด เปลี่ยนทั้งอาหารและวิถีชีวิต และพบคุณหมอทุกครั้งตามนัด ไม่นานระดับเม็ดเลือดแดงของคุณก็น่าจะกลับมาเป็นปกติ
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องจำนวนเม็ดเลือดแดง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับเม็ดเลือดแดง.
    1/4 ของเซลล์ในร่างกายเรา ก็คือเม็ดเลือดแดงที่เรียกว่า erythrocytes นี่แหละ เม็ดเลือดแดงพวกนี้มาจากไขกระดูก ใน 1 วินาทีจะมีเม็ดเลือดแดงเกิดขึ้นมากถึง 2.4 ล้านเลยทีเดียว[16]
    • เม็ดเลือดแดงจะไหลเวียนไปทั่วร่างกายเป็นเวลา 100 - 120 วัน นี่คือสาเหตุว่าทำไมเราถึงต้องรอ 3 - 4 เดือน ถึงจะบริจาคเลือดได้อีกครั้ง
    • ผู้ชายจะมีเม็ดเลือดแดงประมาณ 5.2 ล้าน ต่อลูกบาศก์มิลลิเมตร ส่วนผู้หญิงมี 4.6 ล้าน ถ้าใครบริจาคเลือดบ่อยๆ จะสังเกตว่าผู้ชายผ่านการคัดเลือกเป็นผู้บริจาคเลือดมากกว่าผู้หญิง
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ฮีโมโกลบินมีหน้าที่อะไรในเลือด.
    ฮีโมโกลบินเป็นโปรตีนที่อุดมธาตุเหล็ก เป็นส่วนประกอบหลักของเม็ดเลือดแดง[17] ที่เม็ดเลือดเป็นสีแดงก็เพราะธาตุเหล็กจับตัวกับออกซิเจนนี่แหละ
    • แต่ละโมเลกุลของฮีโมโกลบิน จะมีธาตุเหล็ก 4 อะตอม แต่ละอะตอมจะจับตัวกับออกซิเจน 1 โมเลกุลและ 2 อะตอม เม็ดเลือดแดง 33% เลยเป็นฮีโมโกลบิน ปกติผู้ชายจะมี 15.5 g/dL และผู้หญิงมี 14 g/dL
  3. How.com.vn ไท: Step 3 รู้จักหน้าที่ของเม็ดเลือดแดง.
    เม็ดเลือดแดงมีหน้าที่สำคัญคือลำเลียงเลือดที่เต็มไปด้วยออกซิเจน จากปอดไปยังเนื้อเยื่อและเซลล์ต่างๆ เม็ดเลือดแดงจะมีเยื่อหุ้มเซลล์ที่สร้างจากไขมันกับโปรตีน จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย โดยจะไหลเวียนไปตามเส้นเลือดฝอย[18]
    • นอกจากนี้เม็ดเลือดแดงยังช่วยกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ เพราะมีเอนไซม์ carbonic anhydrase ที่ทำให้น้ำกับคาร์บอนไดออกไซด์ทำปฏิกิริยากันจนเกิดเป็นกรดคาร์บอนิก แยกประจุไฮโดรเจนกับไบคาร์บอเนตออกจากกัน
    • ประจุไฮโดรเจนจะจับตัวกับฮีโมโกลบิน ส่วนประจุไบคาร์บอเนตจะเข้าสู่พลาสมา กำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 70% คาร์บอนไดออกไซด์ 20% จะจับตัวกับฮีโมโกลบิน แล้วค่อยเข้าไปยังปอด แต่ที่เหลืออีก 7% จะละลายไปกับพลาสมา
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • วิตามินบี 12 กับบี 6 ก็มีประโยชน์ ปกติวิตามินบี 12 จะเป็นเม็ด 2.4 ไมโครกรัม แนะนำให้กินวันละ 1 เม็ด ส่วนวิตามินบี 6 จะเป็นเม็ด 1.5 ไมโครกรัม กินวันละ 1 เม็ดเช่นกัน ทั้งเนื้อสัตว์และไข่จะมีวิตามินบี 12 ส่วนกล้วย ปลา และมันฝรั่งอบ จะมีวิตามินบี 6
  • เม็ดเลือดแดงจะอยู่ได้ 120 วัน หลังจากนั้นไขกระดูกจะสร้างเม็ดเลือดแดงชุดใหม่ออกมา
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Erik Kramer, DO, MPH
ร่วมเขียน โดย:
แพทย์กระดูก
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Erik Kramer, DO, MPH. ดร.เครเมอร์เป็นแพทย์การปฐมพยาบาลของมหาวิทยาลัยโคโลราโดที่เชี่ยวชาญด้านการควบคุมน้ำหนัก โรคเบาหวาน และเวชศาสตร์ภายใน เขาได้รับปริญญาแพทยศาสตร์ด้านกระดูกจากมหาวิทยาลัยทูโรแห่งเนวาดาในปี 2012 บทความนี้ถูกเข้าชม 9,418 ครั้ง
หมวดหมู่: สุขภาพทั่วไป
มีการเข้าถึงหน้านี้ 9,418 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา