บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
มีการอ้างอิง 8 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
สำหรับผู้ที่เคยประสบปัญหาเรื่องน้ำหนักตัว คุณคงเคยได้ยินคำว่า “เลปติน” มาบ้าง หากพูดให้เข้าใจง่ายๆ เลปตินก็คือฮอร์โมนชนิดหนึ่งในร่างกายที่ทำหน้าที่ควบคุมความอยากอาหาร ทำให้คุณรู้สึกหิวเมื่อต้องทานอาหารหรือรู้สึกอิ่มเมื่อได้รับอาหารเพียงพอแล้ว ซึ่งหากร่างกายมีระดับเลปตินที่สูงเกินไป สัญญาณที่ส่งไปยังสมองอาจถูกรบกวนจนส่งผลให้ความสามารถในการควบคุมความอยากอาหารและการจัดการพลังงานเสียระบบไป แต่ไม่ต้องกังวล มีหลายวิธีการที่จะช่วยให้เลปตินกลับมาอยู่ในระดับปกติอีกครั้งซึ่งคุณสามารถทำได้ง่ายๆ โดยไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ
ขั้นตอน
จะเกิดอะไรขึ้นหากระดับเลปตินสูงเกินไป?
- การรักษาระดับน้ำหนักตัวที่ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมอาจทำได้ยากขึ้น. เลปตินเป็นฮอร์โมนที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อส่งสัญญาณความรู้สึกอิ่มไปยังสมอง (เมื่อคุณรู้สึกว่า “อิ่มแล้ว” หลังจากทานอาหารเสร็จแล้วนั่นเอง) หากคุณมีน้ำหนักตัวเกินหรือประสบภาวะดื้อเลปติน สมองอาจไม่ตอบสนองต่อเลปตินมากเท่าที่ควรและต้องได้รับเลปตินมากขึ้นกว่าที่คุณจะรู้สึกอิ่ม และหากร่างกายของคุณผลิตเลปตินออกมากเกินไป นั่นอาจเป็นการรบกวนการส่งสัญญาณที่ช่วยในการรักษาระดับน้ำหนักตัวไปยังสมองได้[1]
- เลปตินยังมีผลต่อการควบคุมความอยากอาหารและการจัดการพลังงานอีกด้วยของร่างกายอีกด้วย. หากเลปตินอยู่ในระดับที่ผิดปกติ ร่างกายของคุณอาจส่งสัญญาณผิดพลาดจนส่งผลให้คุณรู้สึกอยากทานอาหารตลอดเวลาแม้จะไม่รู้สึกหิวก็ตาม จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้การลดน้ำหนักเป็นเรื่องยากขึ้น[2]โฆษณา
จะลดระดับเลปตินลงได้อย่างไร?
- การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินในระยะยาวและการออกกำลังกายเป็นประจำสามารถช่วยได้. เลปตินถูกสร้างจากเซลล์ไขมันในร่างกาย ดังนั้นน้ำหนักตัวของคุณจึงมีบทบาทสำคัญในการรักษาสมดุลของร่างกาย ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยวิธีการที่คุณสามารถทำได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว โดยคุณอาจเริ่มจากการสิ่งเล็กๆ น้อยๆ อย่างการเดินออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันหรือลองวิ่งเหยาะสัก 15-20 นาทีต่อวัน เมื่อเวลาผ่านไป วิถีชีวิตของคุณจะเริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นและส่งผลให้ระดับเลปตินในร่างกายของคุณลดลงตามที่ต้องการ[3]
- ลองเลือกทานอาหารโดยจำกัดปริมาณคาร์โบไฮเดรตเพื่อลดระดับเลปตินลง. ผลการศึกษาพบว่าการทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำสามารถช่วยลดระดับเลปตินในร่างกายได้[4] อย่างไรก็ตาม การปรับเปลี่ยนอาหารที่ทานแบบหักดิบและทันทีทันใดไม่ใช่เรื่องง่าย และคงเป็นเรื่องยากเช่นกันที่คุณจะทำได้เรื่อยๆ จนกลายเป็นกิจวัตร ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดในการเริ่มทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำคือการค่อยๆ ปรับทีละเล็กทีละน้อยเพื่อให้คุณสามารถทำได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว
- คุณอาจลดระดับเลปตินด้วยการทานอาหารเสริมกรดอัลฟาไลโปอิคและน้ำมันปลาได้เช่นกัน. ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างที่ทานอาหารเสริมกระอัลฟาไลโปอิคและน้ำมันปลาสามารถลดน้ำหนักตัวได้มากกว่าและมีเลปตินในร่างกายน้อยกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม[5] จึงเชื่อกันว่าการทานอาหารเสริมกรดอัลฟาไลโปอิค .3 กรัมและน้ำมันปลา 1.3 กรัมต่อวันจึงอาจช่วยลดระดับเลปตินโดยรวมได้โฆษณา
อาหารชนิดใดบ้างที่ช่วยลดระดับเลปตินลงได้?
- การทานโปรตีนไขมันต่ำสามารถช่วยลดระดับไขมันในเลือดได้. เลือกทานปลา เนื้อสัตว์ปีก ถั่วฝัก หรือถั่วเหลืองซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพและแทบไม่ทำให้ระดับเลปตินในร่างกายสูงขึ้น และหลีกเลี่ยงการทานเนื้อสัตว์ติดมัน เนื้อแดง และไข่แดง[7]
- ธัญพืชเต็มเมล็ดและผักผลไม้ต่างๆ ยังคงเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเสมอ. ขนมปังธัญพืช ซีเรียล และพาสต้าไม่เพียงช่วยให้อิ่มท้องได้นานและอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการเท่านั้น แต่ยังทำให้ภาวะดื้อเลปตินดีขึ้นอีกด้วย เพิ่มปริมาณผักในแต่ละมื้ออาหารของคุณเพื่อให้คุณรู้สึกอิ่มท้องโดยไม่ส่งผลให้ระดับน้ำตาลหรือไขมันในเลือดสูงขึ้น และหากคุณรู้สึกอยากทานอะไรหวานๆ ให้คุณเลือกทานผลไม้สักชิ้นแทนขนมขบเคี้ยวที่ผ่านการแปรรูปหรือมีปริมาณน้ำตาลสูง[8]โฆษณา
จะสามารถลดภาวะดื้นเลปตินด้วยวิธีธรรมชาติได้อย่างไร?
- วิธีที่ดีที่สุดคือการเลือกทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ. พยายามเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์และไม่มีปริมาณไขมันหรือน้ำตาลสูงเกินไป การทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณลดน้ำหนักตัวลงได้โดยที่น้ำหนักตัวไม่เพิ่มกลับมาอีก ซึ่งการควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ดีเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยรักษาสมดุลของเลปตินให้คงที่ได้โดยธรรมชาติ[9]
- การออกกำลังเป็นประจำสามารถช่วยลดน้ำหนักและรักษาสมดุลของเลปตินได้. นอกเหนือจากการเลือกทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพแล้ว การออกกำลังกายก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กันในการรักษาสมดุลของเลปติน ประโยชน์ต่อสุขภาพจากการออกกำลังกายมีอยู่มากมาย แต่ข้อดีหลักๆ อย่างหนึ่งที่ร่างกายของคุณได้รับคือการเผาผลาญไขมันและลดน้ำหนัก ซึ่งการลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกตินั่นเองที่จะช่วยให้ร่างกายสามารถรักษาสมดุลของเลปตินให้คงที่ได้[10]โฆษณา
เคล็ดลับ
- เลือกทานอาหารเพื่อสุขภาพที่มีรสชาติถูกใจคุณเพื่อให้คุณสามารถทานต่อไปได้เรื่อยๆ โดยไม่รู้สึกฝืนจนเกินไป
- หากเพิ่งเคยออกกำลังกาย ให้คุณเริ่มต้นออกกำลังกายเบาๆ ที่ทำได้ง่ายๆ โดยคุณอาจเลือกเดินหรือปั่นจักรยานเป็นประจำทุกวันเพื่อเป็นการค่อยๆ สร้างกิจวัตรการออกกำลังกายของคุณ
คำเตือน
- ปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนปรับเปลี่ยนรูปแบบการทานอาหารหรือรูปแบบการใช้ชีวิตเพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัยต่อสุขภาพของคุณ
- อย่าทานยา อาหารเสริม หรือยาลดความอ้วนใดๆ ด้วยตัวเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ก่อน
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.hormone.org/your-health-and-hormones/glands-and-hormones-a-to-z/hormones/leptin
- ↑ https://www.hormone.org/your-health-and-hormones/glands-and-hormones-a-to-z/hormones/leptin
- ↑ https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/11157319/
- ↑ https://news.harvard.edu/gazette/story/2018/11/key-to-long-term-weight-loss-may-be-as-simple-as-more-fat-fewer-carbs/
- ↑ https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/25594166/
- ↑ https://universityhealthnews.com/daily/nutrition/leptin-foods-answer-always-hungry/
- ↑ https://universityhealthnews.com/daily/nutrition/leptin-foods-answer-always-hungry/
- ↑ https://universityhealthnews.com/daily/nutrition/leptin-foods-answer-always-hungry/
- ↑ https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/11157319/
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.