วิธีการ กำจัดไขมันหน้าท้อง

ใครๆ ก็คงไม่อยากรำคาญใจกับไขมันหน้าท้องส่วนเกิน แต่มันก็ยากเย็นเสียเหลือเกินที่จะกำจัดออกไป การกำจัดไขมันหน้าท้องนั้น ไม่ใช่เพียงแค่เพื่อความสวยงามเท่านั้น เพราะไขมันเหล่านี้เป็นอันตรายมากและยังอาจเป็นบ่อเกิดของโรคร้ายต่างๆ อีกด้วย แต่คุณไม่ต้องกลัวอีกต่อไป เราจะช่วยคุณกำจัดไขมันหน้าท้องส่วนเกินนั้นเอง!

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 2:

ลดความอ้วน!

ดาวน์โหลดบทความ

1
ลดแคลอรี่ของอาหารที่บริโภค. ถ้าคุณคิดจะลดความอ้วนแล้วละก็ มันคงไม่มีทางที่คุณจะลดแค่เฉพาะส่วนได้ แต่คุณสามารถลดสัดส่วนได้ทุกๆ ส่วน ดังนั้นถ้าลดความอ้วนได้ ไขมันบนหน้าท้องของก็จะน้อยตามไปด้วย วิธีที่คุณจะทำได้คือการลดแคลอรี่ของอาหารที่บริโภค ซึ่งสามารถทำได้สองแบบด้วยกัน แบบแรกคือการลดขนาดของมื้ออาหาร แบบที่สองก็คือการเลือกบริโภคอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำลงมาซักหน่อย
- สิ่งที่คุณควรบริโภคให้มากก็คือผัก ผลไม้ อาหารที่มีโปรตีนไขมันต่ำ และธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงก็คือน้ำตาล อาหารที่มีไขมันสูง และอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตไม่มีประโยชน์ ซึ่งไม่สามารถให้สารอาหารที่มีประโยชน์ได้ นอกจากนั้นมันยังจะกลายร่างเป็นไขมันไปอยู่ตรงช่วงกลางลำตัวคุณอีกด้วย!
2
ระวังจำนวนน้ำตาลในอาหารต่างๆ. แพทย์หลายๆ คนเชื่อว่าน้ำตาลนี่แหละที่เป็นตัวร้ายและเป็นต้นเหตุของปัญหาโรคอ้วนที่แพร่หลายในปัจจุบัน มันอันตรายกว่าไขมันด้วยซ้ำไป การบริโภคน้ำตาลมากเกินไป จะส่งผลให้ระดับอินซูลินในร่างกายเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้พลังงานแปรเปลี่ยนไปเป็นไขมันสะสม ^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- พยายามอ่านฉลากข้างผลิตภัณฑ์อาหารให้บ่อยขึ้น ลองสังเกตระดับน้ำตาลในเครื่องดื่ม ขนมปัง ซอสปรุงรส และซีเรียลต่างๆ ที่อาจซ่อนอยู่
- ถ้าคุณเป็นคนชอบขนมหวาน ก็ลองเลือกขนมที่มีประโยชน์ดูสิ! ไม่ว่าจะเป็นน้ำผึ้ง ดาร์กช็อคโกแลต ผลไม้อบแห้ง หรือโยเกิร์ต ซึ่งสามารถทำให้คุณได้ลิ้มรสหวานโดยไม่มีอันตราย
- อย่าลืมว่าถ้าคุณยิ่งบริโภคน้ำตาลมากเท่าไร ร่างกายคุณจะมีความอยากน้ำตาลมากขึ้นเท่านั้น การงดน้ำตาลในช่วงแรกอาจจะยากสักหน่อย แต่ถ้าคุณทำได้ ร่างกายคุณจะปรับตัวได้ในไม่ช้าและไม่ค่อยมีความอยากน้ำตาลอีกต่อไป
3
ให้ความสำคัญกับความเครียด. เพราะความเครียดนั้นจะทำให้คอร์ติซอล์ในร่างกายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้มีการกักเก็บไขมันส่วนเกินไว้บนร่างกาย โดยเฉพาะตรงช่วงกลางลำตัว ^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} นอกจากนั้น ความเครียดยังอาจส่งผลให้คุณบริโภคอาหารมากขึ้นอีกด้วย เพราะความสุขสบายชั่วคราวมากกว่าเพราะความหิว
- หลีกเลี่ยงคนหรืออะไรก็ตามที่ทำให้คุณมีความเครียดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ นอกจากนั้น คุณยังสามารถลดความเครียดและความกังวลใจของคุณในทุกๆ วัน โดยจัดการตารางเวลาให้เหมาะสมและไม่อัดแน่นจนเกินไป จนทำให้เกิดความกดดัน
- แต่ถ้าคุณยังไม่สามารถจัดการกับความเครียดได้ ลองนั่งสมาธิซักหน่อย หลับตา เพ่งความสนใจไปที่ลมหายใจ กำจัดความคิดและความกังวลต่างๆ ออกไป
4
ดื่มน้ำเยอะๆ. การดื่มน้ำให้เพียงพอนั้นมีความสำคัญอย่างมากที่จะทำให้ร่างกายทำงานได้ปกติ ไม่ใช่แค่นั้นนะ ยังมีผลงานวิจัยออกมาด้วยว่าการดื่มน้ำเยอะๆ จะทำให้ลดความอ้วนได้เร็วขึ้น^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่าน้ำจะทำให้คุณรู้สึกอิ่ม จนทำให้บริโภคอาหารน้อยลง
- ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว และควรดื่มน้ำ 1-2 แก้วก่อนมื้ออาหาร ซึ่งจะส่งผลให้ความอยากอาหารน้อยลงและอิ่มเร็วขึ้น
5
ออกกำลังกายแบบแอโรบิค. การออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นหัวใจและการไหลเวียนของเลือดจะช่วยเผาผลาญแคลอรี่และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบเผาผลาญอีกด้วย ซึ่งจะช่วยทำให้คุณลดความอ้วนได้เร็วขึ้น ดังนั้น คุณจึงควรออกลังกายแบบแอโรบิคอย่างน้อย 30 นาที ให้ได้อาทิตย์ละ 5 วัน โดยการวิ่งเหยาะๆ เดินเร็ว ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ ปีนเขา และอื่นๆ อีกมากมาย
- ลองหาวิธีการออกกำลังกายที่คุณชื่นชอบ เพราะถ้าคุณรู้สึกสนุกในการออกกำลังกาย คุณก็จะทำมันต่อไปโดยไม่ละทิ้ง
นี่มันอาจจะฟังดูขัดกับจุดมุ่งหมายที่ต้องการลดความอ้วน แต่! การอดอาหารนั้นจะทำให้ระบบเผาผลาญคุณทำงานช้าลง ซึ่งจะทำให้การลดความอ้วนนั้นยากขึ้นไปอีก วิธีที่ดีที่สุดก็คือการบริโภคตามมื้ออาหารปกติและลดขนาดแทน คุณอาจจะแบ่งเป็นวันละ 6 มื้อเล็กๆ แทนที่จะแบ่งเป็นวันละ 2-3 มื้อใหญ่ๆ
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหน้าท้อง (อย่างน้อยก็แค่ตอนนี้!). แน่นอนว่าการซิทอัพจะช่วยสร้างกล้ามเนื้อและทำให้หุ่นดีขึ้นได้ แต่คุณจะไม่เห็นกล้ามเนื้อเหล่านั้นเลย ถ้าหน้าท้องคุณยังมีชั้นไขมันสะสมอยู่ ดังนั้นคุณจึงควรลดความอ้วนก่อน แล้วจึงมาออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ
โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 2:

ติดตามความก้าวหน้าและสร้างแรงบันดาลใจ

ดาวน์โหลดบทความ

1
หาเพื่อนมาลดความอ้วนและออกกำลังกายด้วยกัน. เพราะการลดความอ้วนด้วยตนเองนั้นอาจจะยากมาก โดยเฉพาะถ้าคนรอบๆ กายคุณบริโภคอาหารที่ไม่มีประโยชน์และยังเชิญชวนคุณให้ร่วมด้วย คุณอาจจะลองหาเพื่อนมาลดความอ้วนด้วยกันสักคน เพื่อที่จะได้คอยสร้างแรงบันดาลใจให้กันและกัน แชร์เทคนิค เคล็ดลับ และอยู่เป็นเพื่อนออกกำลังกาย
- ถ้าคุณเป็นคนชอบการแข่งขันอยู่แล้ว การแข่งลดความอ้วนกับเพื่อนว่าใครจะลดได้เร็วกว่ากัน ก็เป็นความคิดที่ดีเลยทีเดียว!
2
บันทึกรายการอาหารที่บริโภคเข้าไป. มีผลงานวิจัยพบว่าคนที่คอยบันทึกรายการอาหารที่บริโภคเข้าไปนั้นจะสามารถลดความอ้วนได้เร็วกว่าคนที่ไม่เคยบันทึกเลย ^{[4]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่าการเขียนบันทึกจะทำให้คุณตัดสินใจอย่างมีความรับผิดชอบมากขึ้นในการบริโภคอาหาร
- ใช้แอพพลิเคชั่นช่วยคำนวณแคลอรี่หรือไดอารี่ เช่น My Fitness Pal หรือ Calorie Counter King แอพพลิเคชั่นเหล่านี้หรือเว็บไซต์ต่างๆ จะช่วยคุณคำนวณแคลอรี่ของอาหารที่บริโภคเข้าไป และยังช่วยคำนวณแคลอรี่ของอาหารชนิดต่างๆ ได้อีกด้วย
3
วัดสัดส่วน. คอยติดตามความก้าวหน้าโดยการวัดสัดส่วนรอบเอวก่อนการเริ่มควบคุมอาหาร และวัดอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาการลดความอ้วน โดยวัดที่รอบเอวส่วนที่เล็กที่สุดและหน้าท้องส่วนล่าง ซึ่งก็คือส่วนที่อยู่ใต้สะดือไปประมาณ 1 นิ้ว
- ชั่งน้ำหนักอาทิตย์ละครั้ง เพื่อติดตามผลการลดความอ้วน และเพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำ คุณควรชั่งน้ำหนักในตอนเช้า ขณะที่ท้องว่าง โดยพยายามใส่เสื้อผ้าให้น้อยชิ้นที่สุด
โฆษณา

เคล็ดลับ

เมื่อลดความอ้วนอยู่นั้น คุณควรหาอะไรอย่างอื่นทำเพื่อดึงความสนใจไปจากอาหาร เช่น การทำงาน การเรียน งานอดิเรก การพบปะสังสรรค์กับเพื่อน และอื่นๆ อีกมากมายที่จะช่วยทำให้คุณลืมความอยากอาหารไป
เรียนรู้ความแตกต่างระหว่างความหิวและความเบื่อ ถ้าคุณไม่รู้สึกหิวจนสามารถรับประทานผักหรือผลไม้ได้ นั่นก็แปลว่าคุณอาจจะไม่ได้หิวจริงๆ และอย่าลืมว่าถ้าคุณอยากรับประทานอาหารแค่ประเภทใดประเภทหนึ่งเป็นพิเศษ คุณก็อาจจะไม่ได้หิวจริงๆ ก็ได้ คุณอาจจะแค่คิดถึงรสชาติของอาหารนั้นๆ
ชาเขียวและเครื่องเทศต่างๆ เช่น พริกป่น ก็มีส่วนช่วยในการเผาผลาญและการลดความอ้วน
การเคี้ยวหมากฝรั่งจะช่วยทำให้คุณหิวน้อยลงได้ เพราะมันทำให้ปากคุณขยับเหมือนกำลังเคี้ยวอาหารอยู่นั่นเอง
อย่าทดแทนน้ำตาลด้วยสารให้ความหวานอื่นๆ เพราะสารเหล่านั้นก่อให้เกิดปฏิกิริยาของอินซูลินเช่นเดียวกันกับน้ำตาล

โฆษณา