บทความนี้ ร่วมเขียน โดย JoAnna Minneci. โจแอนนา มินเนซี เป็นเชฟมืออาชีพในแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี ด้วยประสบการณ์มากกว่า 18 ปี เชฟโจแอนนาเชี่ยวชาญในการสอนผู้อื่นเกี่ยวกับการทำอาหารผ่านบทเรียนการทำอาหารแบบส่วนตัว กิจกรรมการสร้างทีม และคลาสเรียนด้านสุขภาพและโภชนาการ เธอยังได้ปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์มากมายทางเครือข่าย เช่น Bravo และ Food Network เชฟโจแอนนาได้รับการฝึกอบรมด้านศิลปะการประกอบอาหารจาก Art Institute of California at Los Angeles เธอยังมีใบรับรองในด้านสุขอนามัย โภชนาการ การจัดการครัว และการควบคุมต้นทุนอีกด้วย
มีการอ้างอิง 8 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 8,802 ครั้ง
ข้าวเหนียวมีเนื้อสัมผัสและรสชาติที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ มันถูกใช้ในอาหารญี่ปุ่นกับอาหารไทย น่าเสียดายที่หาซื้อมันไม่ได้ง่ายๆ แต่ก็มีวิธีที่จะหุงข้าวธรรมดาให้มันเหนียวขึ้นกว่าเดิม บทความนี้จะบอกเคล็ดลับการหุงข้าวธรรมดาให้มันกลายเป็นข้าวเหนียว และยังแถมสูตรทำอาหารที่ใช้ "ข้าวเหนียว" สองสูตรที่ได้รับความนิยมแพร่หลาย แต่เราจะทำโดยใช้ข้าวธรรมดาแทน
ส่วนประกอบ
ส่วนผสมสำหรับการหุงข้าวธรรมดาให้เหนียวขึ้น
- ข้าว 1 ถ้วย (200 กรัม) ถึง 1 ½ ถ้วย (300 กรัม)
- น้ำ 2 ถ้วย (450 มิลลิลิตร)
- น้ำไว้เติมอีกสองสามช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมสำหรับข้าวซูชิ [1]
- ข้าว 1 ถ้วย (200 กรัม) ถึง 1 ½ ถ้วย (300 กรัม)
- น้ำ 2 ถ้วย (450 มิลลิลิตร)
- น้ำส้มสายชูหมักจากข้าว 4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนชา
ส่วนผสมสำหรับการทำข้าวเหนียวมูนน้ำกะทิ [2]
สำหรับ 4 ที่
- ข้าว 1 ถ้วย (200 กรัม) ถึง 1 ½ ถ้วย (300 กรัม)
- น้ำ 2 ถ้วย (450 มิลลิลิตร)
- น้ำกะทิ 1 ½ ถ้วย (340 มิลลิลิตร)
- น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วย (230 กรัม)
- เกลือ ½ ช้อนชา
น้ำราด
- น้ำกะทิ ½ ถ้วย (110 มิลลิลิตร)
- น้ำตาลทรายขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ ¼ ช้อนชา
- แป้งมันสำปะหลัง 1 ช้อนโต๊ะ
- มะม่วงปอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้น 3 ลูก
- เมล็ดงาดำอบ 1 ช้อนโต๊ะ (ไม่จำเป็น)
ขั้นตอน
- อย่าซาวข้าวก่อนหุง. คนส่วนใหญ่ซาวข้าวเพราะเหตุผลด้านอนามัย และกำจัดฝุ่นแป้ง แป้งนี่แหละที่เป็นตัวทำให้ข้าวมีความเหนียวยึดติดกัน หากคุณไม่อาจทนรับประทานข้าวที่ไม่ผ่านการซาวได้ ให้ซาวแค่น้ำครั้งเดียวหรือสองครั้งพอ แต่อย่าซาวเสียจนน้ำใส คุณยังต้องการให้ข้าวมีความเป็นแป้งเหลืออยู่
- ลองแช่ข้าวไว้ในหม้อน้ำก่อนเอามาหุง. บางคนพบว่าถ้าแช่ข้าวไว้ในน้ำจะช่วยให้มันเหนียวขึ้นเมื่อหุงสุก ลองแช่ดูสัก 30 นาทีถึง 4 ชั่วโมง เทน้ำทิ้งเมื่อแช่ข้าวเสร็จแล้ว
- เติมน้ำ 2 ถ้วย (450 มิลลิลิตร) ลงไปในหม้อแล้วเติมน้ำเพิ่มอีกสองสามช้อนโต๊ะ. การใช้น้ำมากกว่าที่คุณต้องการจริงๆ นั้นจะช่วยทำให้ข้าวเหนียวขึ้นและติดกันเป็นก้อนมากขึ้น [3]
- ลองเติมเกลือสักเหยาะ มันจะช่วยให้ข้าวมีรสชาติ ไม่จืดชืดจนเกินไป
- เติมข้าวเมล็ดสั้น 1 ½ ถ้วย (300 กรัม) หรือข้าวเมล็ดยาวหรือยาวปานกลาง 1 ถ้วย (200 กรัม). ลองใช้ข้าวเมล็ดสั้นพันธุ์ต่างๆ ถ้าทำได้ ข้าวเมล็ดสั้นมักมีแป้งเป็นส่วนผสมในอัตราที่สูงกว่าข้าวเมล็ดยาวหรือยาวปานกลาง จึงทำให้มันเหนียวกว่า
- ทั้งข้าวหอมมะลิและข้าวบัสมาติจัดเป็นข้าวเมล็ดยาวปานกลาง
- ใช้ไฟแรงต้มน้ำนั้นให้เดือด. อย่าปิดฝาหม้อ
- ลดไฟลงเมื่อน้ำเดือด และทิ้งข้าวให้เดือดกรุ่นสัก 10 นาที. ตรงจุดนี้คุณสามารถปิดฝาหม้อได้
- ปิดไฟให้สนิทเมื่อข้าวซับน้ำจนหมด. คุณอาจสังเกตว่ามีรูระบายไอน้ำอยู่ในข้าว [4]
- ทิ้งหม้อโดยที่ปิดฝาอยู่บนเตาต่อไปอีกสัก 10 นาที. [5] ข้าวจะเหนียวขึ้นเมื่อคุณยิ่งทิ้งมันนานขึ้น หากคุณหุงล่วงหน้าวันสองวัน ข้าวจะเหนียวเป็นพิเศษ กระนั้น ถ้าคุณวางแผนจะรอนานขนาดนั้น คุณอาจต้องหาอะไรคลุมข้าวแล้วนำไปแช่ตู้เย็น เพื่อที่มันจะไม่แห้งหรือบูด
- เสิร์ฟข้าว. ตักข้าวใส่จาน ถ้าต้องการคุณสามารถใช้ส้อมบี้ข้าวเล็กน้อยเพื่อไม่ให้มันจับกันเป็นก้อนได้โฆษณา
- รู้ว่ามันจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร. คุณอาจสามารถใช้ข้าวธรรมดาให้มีรสชาติเหมือนกับข้าวที่ใช้ปั้นซูชิได้ด้วยการใช้เครื่องปรุงที่ถูกต้อง อย่างไรก็ดี มันยากมากที่จะทำให้ข้าวธรรมดามีความเหนียวสม่ำเสมอกันเหมือนกับข้าวที่ใช้ปั้นซูชิ คุณอาจใช้ข้าวจากวิธีการนี้ในการทำซาชิมิ เบนโตะ และซูชิโรล แต่อาจจะลำบากหน่อยถ้าจะปั้นมันให้ได้รูปเวลาทำซูชิแบบนิกิริ
- นำน้ำ 2 ถ้วย (450 มิลลิลิตร) มาต้มในหม้อใบใหญ่.
- เติมข้าวเมล็ดสั้น 1 ½ ถ้วย (300 กรัม) หรือข้าวเมล็ดยาวปานกลาง 1 ถ้วย (200 กรัม). ลองใช้ข้าวเมล็ดสั้นหลายๆ พันธุ์ดูถ้าทำได้ ข้าวเมล็ดสั้นมักจะมีส่วนผสมของแป้งมากกว่าข้าวเมล็ดยาวหรือยาวปานกลาง ทำให้มันเหนียวมากกว่า
- ทั้งข้าวหอมมะลิกับข้าวบัสมาติถือเป็นข้าวเมล็ดยาวปานกลาง
- ปิดฝาหม้อแล้วทิ้งให้เดือดกรุ่นสัก 15 นาที. น้ำจะหยุดเดือดไม่กี่วินาทีเมื่อคุณเติมข้าวลงไป รอให้น้ำและข้าวเดือดอีกครั้ง จึงเริ่มลดความร้อนและปิดฝาหม้อให้สนิท หุงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งน้ำถูกดูดซึมจนหมด
- ผสมน้ำส้มสายชูหมักจากข้าว 4 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ และเกลือ 1 ช้อนชาลงในกระทะผัดซอส. ใช้ช้อนคนทั้งหมดให้เข้ากัน นี่จะเป็นเครื่องปรุงข้าวซูชิ มันยังช่วยให้ข้าวของคุณเหนียวยิ่งขึ้นด้วย
- นำเครื่องปรุงข้าวซูชิไปต้มด้วยความร้อนปานกลาง. ใช้ส้อมคนเครื่องปรุงจนกระทั่งน้ำตาลละลาย
- ยกเครื่องปรุงขึ้นจากเตา มาวางให้เย็นลง
- ย้ายข้าวไปใส่ในชามกระเบื้อง. ระหว่างขั้นตอนต่อไปนี้ คุณอาจเลี่ยงไม่ใช้อุปกรณ์ที่ทำจากโลหะ มิฉะนั้นอาจเสี่ยงที่น้ำส้มสายชูจะติดรสโลหะไป
- เทเครื่องปรุงลงบนข้าว. ทำในขณะที่ข้าวยังร้อน คุณไม่จำเป็นต้องเทเครื่องปรุงจนหมดถ้าอยากได้รสชาติเพียงปะแล่มๆ
- ผสมข้าวกับเครื่องปรุงเข้าด้วยกันโดยใช้พายไม้ จะใช้ทัพพีก็ได้ แต่ต้องแน่ใจว่าไม่ได้ทำจากโลหะ
- ลองทำหน้าพัดลม หรือหาใครมาช่วยวีพัดเหนือชามกระเบื้อง มันจะช่วยให้ข้าวเย็นเร็วขึ้น
- เสิร์ฟข้าวตอนที่ยังอุ่นๆ. ข้าวเหนียวญี่ปุ่นจะได้รสชาติดีที่สุดเมื่อทานตอนอุ่นๆ แต่ไม่ร้อนโฆษณา
- เติมน้ำ 2 ถ้วย (450 มิลลิลิตร) ลงในหม้อใบใหญ่แล้วต้ม
- เติมข้าวเมล็ดสั้น 1 ½ ถ้วย (300 กรัม) หรือข้าวเมล็ดยาวปานกลาง 1 ถ้วย (200 กรัม). ดีที่สุดควรใช้ข้าวเมล็ดสั้น [6] ข้าวเมล็ดสั้นมักจะมีส่วนผสมของแป้งมากกว่าข้าวเมล็ดยาวหรือยาวปานกลาง ทำให้มันเหนียวมากกว่า
- ข้าวเมล็ดยาวปานกลางที่มีชื่อเป็นที่นิยมก็เช่น ข้าวหอมมะลิกับข้าวบัสมาติ
- ปิดฝาหม้อแล้วทิ้งไว้ให้เดือดกรุ่นสัก 15 ถึง 20 นาที. ลดความร้อนลงเหลือปานกลางค่อนไปทางต่ำ ให้แน่ใจว่าจับตาดูหม้อเสมอเพื่อไม่ให้มันเดือดเกินไป
- ในหม้ออีกใบ ให้ผสมน้ำกะทิ 1 ½ ถ้วย (340 มิลลิลิตร), น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วย (230 กรัม) และเกลือ 1/2 ช้อนชา. ใช้ช้อนคนทั้งหมดให้เข้ากัน คุณจะใช้มันปรุงรสข้าว
- เพื่อประหยัดเวลา ให้ทำตอนที่ข้าวกำลังหุงอยู่
- นำส่วนผสมน้ำกะทิมาต้มด้วยความร้อนปานกลาง. ให้แน่ใจว่าได้คนมันอยู่เรื่อยๆ จะช่วยไม่ให้มันไหม้
- คนส่วนผสมน้ำกะทิลงไปในข้าวเมื่อข้าวหุงสุกแล้ว. เมื่อหุงสุก ยกหม้อข้าวขึ้นจากเตาและเปิดฝา เทส่วนผสมน้ำกะทิลงไปในข้าว ใช้ส้อมหรือทัพพีคลุกเคล้าให้เข้ากัน
- ตั้งข้าวที่ผสมเครื่องปรุงนี้ไว้สักหนึ่งชั่วโมง. เอาฝาหม้อมาปิดแล้ววางในที่ซึ่งไม่มีอะไรไปรบกวน มันจะช่วยให้ข้าวมีเวลาในการดูดซึมรสชาติจากส่วนผสมน้ำกะทิ
- ผสมน้ำกะทิ ½ ถ้วย (110 มิลลิลิตร), น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ, เกลือ ¼ ช้อนชา และแป้งมันสำปะหลัง 1 ช้อนโต๊ะลงในกระทะผัดซอส. ใช้ช้อนคนทุกอย่างให้เข้ากัน นี่จะเป็นน้ำราดปรุงรส ถ้าคุณไม่มีแป้งมันสำปะหลัง อาจใช้แป้งข้าวโพดหรือแป้งเท้ายายม่อมแทน [7]
- นำน้ำปรุงรสที่ได้มาต้ม. ให้แน่ใจว่าคนมันอยู่เรื่อยๆ เพื่อไม่ให้มันข้นหรือไหม้
- เตรียมมะม่วง. เริ่มจากปอกมะม่วง ถ้ามะม่วงสุกได้ที่ ใช้มีดจิ้มที่เปลือกแล้วลอกเปลือกออกได้สบาย พอปอกเปลือกเสร็จ ตัดแบ่งครึ่งเพื่อเอาเมล็ดออก หั่นมะม่วงเป็นชิ้นบาง ทำซ้ำกับมะม่วงอีกสองใบ
- ตักข้าวใส่ในจานสี่ใบ. คุณสามารถทำปริมาณมากกว่าสี่ที่ได้ แต่สัดส่วนปริมาณจะน้อยลง
- จัดวางชิ้นมะม่วง. จะวางข้างข้าวหรือวางข้างบนข้าวก็ได้ ถ้าจะวางมันบนข้าว ลองคลี่มันให้เหลื่อมออกจากกันเป็นรูปพัด
- ราดน้ำราดปรุงรสบนมะม่วงและข้าว. สามารถโรยเมล็ดงาดำคั่วลงไปด้านบนได้ถ้าต้องการ
- จำไว้ว่าเพราะคุณไม่ได้ใช้ข้าวเหนียวแท้ๆ ผิวสัมผัสจึงอาจไม่เหมือนต้นตำรับเสียทีเดียว
โฆษณา
- รู้ว่าจะต้องคาดหวังอะไรจากสูตรอาหารเหล่านี้. มันไม่มีอะไรแทนที่ข้าวเหนียวของจริงได้ มันเป็นประเภทของข้าว (เหมือนข้าวกล้อง) และไม่ใช่อาหาร (เหมือนข้าวผัด) รสชาติและผิวสัมผัสของสูตรอาหารเหล่านี้จะแตกต่างออกไปเพราะคุณใช้ข้าวธรรมดา และต้องตระหนักไว้ด้วยว่าถึงคุณจะหุงข้าวธรรมดาให้มันเหนียวขึ้นได้สักแค่ไหน มันก็ยังอาจไม่เหนียวพอจะนำมาปั้นซูชิแบบนิกิริหรือข้าวปั้นแบบมีหน้าได้
- พิจารณาหาของทดแทน. คุณกำลังคิดจะใช้ข้าวธรรมดาหุงให้เป็นข้าวเหนียวเพราะหาซื้อมันไม่ได้หรือเปล่า หากหาไม่ได้จริงๆ ลองมองหา "ข้าวหวาน" หรือ "ข้าวนึ่ง" พวกมันอยู่ในประเภทเดียวกัน [8]โฆษณา
เคล็ดลับ
- ลองคิดแช่ข้าวในน้ำสัก 30 นาทีถึง 4 ชั่วโมง มันจะช่วยให้ข้าวหุงสุกเร็วขึ้น
- ข้าวเมล็ดสั้นไม่ได้เหมือนข้าวเหนียว กระนั้น มันมีแป้งเป็นส่วนประกอบมากกว่าข้าวธรรมดา นั่นหมายถึงเมื่อเปรียบเทียบกันกับข้าวพันธุ์อื่น (เช่นข้าวเมล็ดยาวหรือยาวปานกลาง) ข้าวเมล็ดสั้นจะหุงได้เหนียวกว่า
- ข้าวเหนียวกับข้าวที่ใช้ปั้นซูชิแตกต่างกัน ข้าวเหนียวมาจากประเทศไทยและมักใช้ในอาหารจำพวกของหวาน ข้าวใช้ปั้นซูชินั้นใช้ทำซูชิโรล แต่เนื่องจากทั้งสองชนิดล้วนมีผิวสัมผัสที่เหนียว บทความนี้จึงครอบคลุมข้าวทั้งสองแบบเข้าด้วยกัน
- ถ้าคุณต้องการจะได้ข้าวเหนียวมาทำอาหารจริงๆ แต่หาซื้อไม่ได้ ลองไปดูตามตลาดขายของเอเชีย ร้านของชำอาจไม่ได้มีข้าวเหนียวขายกันทุกร้าน
- เคล็ดลับที่พ่อครัวหลายคนใช้วัดระดับน้ำคือจุ่มนิ้วลงไปเหนือระดับข้าว ระดับน้ำที่ถูกต้องจะอยู่ตรงใต้ข้อต่อนิ้วข้อแรกพอดี
- ข้าวเหนียวยังอาจถูกเรียกว่า "ข้าวหวาน" หรือ "ข้าวนึ่ง"[11]
คำเตือน
- พึงระลึกไว้ว่ามันไม่มีอะไรใช้แทนข้าวเหนียวแท้ๆ ได้หรอก การจะหุงข้าวธรรมดาให้เหนียวขึ้นนั้นมีทางทำได้ก็จริง แต่มันจะขาดรสชาติและผิวสัมผัสจำเพาะที่มีแต่ข้าวเหนียวที่ให้ได้
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ Just One Cookbook, How to Make Sushi Rice
- ↑ All Recipes, Thai Sweet Sticky Rice
- ↑ The Hungry Moose, How to Cook Perfect White Rice on the Stove
- ↑ The Hungry Moose, How to Cook Perfect White Rice on the Stove
- ↑ The Hungry Moose, How to Cook Perfect White Rice on the Stove
- ↑ All Recipes, Thai Sweet Sticky Rice
- ↑ Food Subs, Starch Thickeners
- ↑ Tablespoon, How to Make Sticky Rice at Home
- ↑ Food Subs, Rice
- ↑ She Simmers, Thai Sticky Rice
- ↑ Tablespoon, How to Make Sticky Rice at Home
- วิดีโอจาก Kwan Homsai
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.