บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
มีการอ้างอิง 10 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 92,710 ครั้ง
การรับประทานเนื้อไก่ที่เสียแล้วอาจทำให้คุณป่วยหนักได้ไม่ว่าจะเป็นไก่ดิบหรือไก่สุกก็ตาม ในการดูว่าเนื้อไก่ดิบเสียหรือยังนั้น ให้สังเกตสี กลิ่น และเนื้อสัมผัสว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ ถ้าเป็นไก่แช่แข็ง ให้สังเกตน้ำแข็งและรอยแห้งสีขาวที่เกิดจากการแช่แข็ง แต่ถ้าจะดูไก่สุกว่าเสียหรือยัง ให้สังเกตกลิ่น สี รสชาติ และรา และอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องพิจารณาก็คือวิธีการและระยะเวลาในการเก็บเนื้อไก่
ขั้นตอน
- สังเกตสีที่เปลี่ยนไป. เนื้อไก่ดิบเมื่อยังสดจะเป็นสีเนื้อออกชมพู แต่ถ้ามันเริ่มจะเสีย มันจะเปลี่ยนเป็นสีเทา ถ้าสีของเนื้อไก่เริ่มจะหม่น คุณต้องรีบใช้ก่อนที่มันจะเสีย เพราะเมื่อไหร่ที่มันดูเป็นสีเทามากกว่าสีชมพู แสดงว่าสายเกินไปแล้ว
- ดมเนื้อไก่. เนื้อไก่ดิบที่เสียแล้วจะมีกลิ่นแรงมาก บางคนก็บอกว่ามันเป็นกลิ่น "เปรี้ยว" แต่บางคนก็บอกว่าคล้ายกลิ่นแอมโมเนีย ถ้าเนื้อไก่เริ่มมีกลิ่นเหม็นหรือกลิ่นแรงไม่ว่าจะเป็นกลิ่นอย่างไรก็แล้วแต่ ให้ทิ้งไปเลยจะดีที่สุด[3]
- เนื้อไก่สามารถส่งกลิ่นเหม็นขณะประกอบอาหารได้ เพราะฉะนั้นถ้ากลิ่นเริ่มไม่ค่อยดีแล้ว ให้ทิ้งไปเลยจะดีที่สุด[4]
- สัมผัสเนื้อไก่. เนื้อไก่มันลื่นๆ หรือเปล่า การทดสอบด้วยการสัมผัสจะยากกว่าการทดสอบด้วยสีและกลิ่นเนื่องจากว่าโดยธรรมชาติเนื้อไก่ก็มีความมันวาวและค่อนข้างลื่นอยู่แล้ว แต่ถ้านำเนื้อไก่ไปล้างน้ำแล้วก็ยังมีเมือกลื่นๆ อยู่ เป็นไปได้มากว่าเนื้อไก่เสียแล้ว ถ้าเนื้อไก่มีเมือกเหนียวที่ดูแปลกๆ แสดงว่าน่าจะเสียแล้วแน่ๆ[5]โฆษณา
- สังเกตว่ามีแผ่นน้ำแข็งเกาะหรือไม่. ถ้ามีชั้นน้ำแข็งหนาเกาะอยู่บนเนื้อไก่ แสดงว่าเนื้อไก่ใช้ไม่ได้แล้ว แผ่นน้ำแข็งจะหนาเหมือนน้ำแข็งในช่องฟรีซที่ไม่ได้ละลายมาสักพักแล้ว เนื้อไก่ที่ผ่านการแช่แข็งอย่างรวดเร็วหากใช้ขั้นตอนที่ถูกต้องจะไม่มีแผ่นน้ำแข็งหนาเกาะอยู่ แต่ถ้าน้ำแข็งเป็นสีขาว เป็นไปได้ว่าจะเป็นเรื่องของการสูญเสียความชื้นระหว่างแช่แข็ง
- เช็กการสูญเสียความชื้นระหว่างแช่แข็ง. การสูญเสียความชื้นระหว่างแช่แข็งจะเป็นเหมือนผื่นหรือรอยสีขาวบนเนื้อไก่ที่ไม่ใช่ไขมัน มันจะแข็งกว่าหนังที่อยู่รอบๆ และตั้งขึ้นมาเล็กน้อย[6]
- แม้ว่าจะไม่เป็นอันตราย แต่เนื้อไก่ก็จะไม่ค่อยอร่อย
- สังเกตสี. เนื้อไก่แช่แข็งจะดูค่อนข้างยาก สีมันจะหม่นๆ เหมือนเนื้อไก่ดิบหรือเนื้อไก่สุก เป็นสีเทาเล็กน้อยหรือเป็นสีเหลืองจากไขมัน แต่ถ้าสีเนื้อไก่เข้มกว่าสีเทา ก็ถึงเวลาต้องทิ้งลงถังขยะแล้ว[7]โฆษณา
- ดมกลิ่นเนื้อไก่. การทดสอบกลิ่นใช้ได้กับทั้งเนื้อไก่สุกและเนื้อไก่ดิบ แต่บางครั้งถ้ามีกลิ่นเครื่องเทศหรือเครื่องปรุงมากลบ มันก็จะแยกความแตกต่างของกลิ่นเนื้อไก่ที่เสียแล้วได้ยาก[8]
- ถ้าเนื้อไก่มีกลิ่นเหมือนไข่เน่าหรือซัลเฟอร์ แสดงว่ามันเสียแล้ว
- ถ้าเป็นไปได้ให้ดูว่าสีเปลี่ยนไปไหม. บางครั้งวิธีนี้ก็ใช้ไม่ได้ถ้าเนื้อไก่ชุบเกล็ดขนมปังหรือถ้าสีมันเปลี่ยนไปเพราะการปรุงรสหรือการหมัก แต่ถ้าเนื้อไก่ที่ปรุงสุกออกมาเป็นสีขาวเริ่มจะกลายเป็นสีเทา ก็แสดงว่าไม่สามารถนำมารับประทานได้แล้ว[9]
- ดูว่ามีราขึ้นไหม. ราเป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดว่าเนื้อไก่เน่า บูด และเสียแล้ว ถ้ามีกระจุกสีเขียวหรือสีดำ หรือถ้ามีสิ่งมีชีวิตชนิดใดก็แล้วแต่เริ่มขึ้นบนเนื้อไก่ แสดงว่ามันเน่ามากแล้วและควรนำไปทิ้งทันที เพราะแม้แต่กลิ่นของเนื้อไก่ที่ 'เน่า' ขนาดนี้ก็อาจทำให้คุณคลื่นไส้ได้ [10]
- ชิมเนื้อไก่ก่อนกลืนลงไป. ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าเนื้อไก่สุกยังดีอยู่หรือเปล่า และจะทิ้งก็เสียดายเผื่อว่ามันยังรับประทานได้อยู่ ก็ค่อยๆ กัดชิมดู แต่แทนที่จะเคี้ยวและกลืนลงไปเลย ให้หยุดและค่อยๆ สังเกตรสชาติก่อน[11]
- ถ้ารสชาติมัน “บูด” หรือออกเปรี้ยวๆ ให้คายออกมาแล้วนำเนื้อไก่ที่เหลือไปทิ้ง
โฆษณา
- อ่านตรงที่ระบุว่า "ขายภายในวันที่". วิธีนี้อย่างเดียวก็ไม่ใช่สิ่งที่บ่งบอกได้เสมอไปว่าเนื้อไก่ดิบนั้นยังดีอยู่หรือเปล่า เพราะว่าข้อความที่บอกว่า "ขายภายในวันที่" นั้นเพียงแต่บอกว่า เมื่อไหร่ที่ไม่สามารถขายให้กับผู้บริโภคได้แล้ว เพราะฉะนั้นแทนที่จะเอาตรงที่ระบุว่า "ขายภายในวันที่" เป็นเกณฑ์ ให้ใช้วันที่นี้เป็นวิธีในการดูว่า เนื้อไก่ที่คุณสงสัยนั้นเลยช่วงเวลาที่ควรรับประทานมากที่สุดไปแล้วหรือยัง[12]
- ถ้าคุณซื้อเนื้อไก่สดที่แช่อยู่ในตู้เย็นมาจากร้านค้าและนำไปแช่ช่องฟรีซ มันจะอยู่ถัดจากวันนี้ได้นานถึง 9 เดือนตราบใดที่มันยังสดอยู่ตอนที่คุณซื้อมา[13]
- ตรวจสอบว่าเนื้อไก่เก็บรักษาดีแค่ไหน. เนื้อไก่ที่สุกแล้วจะเสียเร็วขึ้นเมื่อสัมผัสกับอากาศ และเนื้อไก่ที่เก็บไม่ดีก็จะมีโอกาสเสียมากกว่า
- เนื้อไก่ควรเก็บไว้ในภาชนะตื้นที่ไม่มีอากาศเข้าหรือถุงแช่แข็งที่ทนทาน[14]
- หรือคุณจะใช้กระดาษฟอยล์หรือพลาสติกแรปพันเนื้อไก่ไว้แน่นๆ ก็ได้
- เช่น ถ้าจะให้รับประทานได้อย่างปลอดภัย ควรหั่นเนื้อไก่ทั้งตัวออกเป็นชิ้น และควรนำไส้ที่ยัดอยู่ข้างในออกมาก่อนนำไปแช่ตู้เย็นหรือช่องฟรีซ
- ดูว่าเนื้อไก่เก็บอยู่ที่ไหนและเก็บมานานแค่ไหนแล้ว.[15] วิธีการเก็บเนื้อไก่ก็มีส่วนด้วยเช่นกัน ถ้าเลยช่วงเวลาดังต่อไปนี้ ก็มีโอกาสมากที่เนื้อไก่จะเสียแล้วโฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้าเนื้อไก่ผ่านการแช่แข็ง จากนั้นก็นำไปละลายและนำกลับมาแช่แข็งใหม่ ให้ทิ้งไปเลย เพราะอาหารที่นำกลับมาแช่แข็งใหม่อาจกลายเป็นแหล่งรวมแบคทีเรีย
- ถ้าคุณเกิดคำถามว่าเนื้อไก่มัน "สีเทาเข้มไปไหม" หรือ "ลื่นมากไปไหม" ไหม แสดงว่าใช่ และควรนำไปทิ้ง
- ถ้าเนื้อไก่ถูกนำมาละลายบนเคาน์เตอร์ ให้ทิ้งไป
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://spoonuniversity.com/how-to/raw-chicken-ways-to-tell-when-bad
- ↑ https://ritely.com/how-to-tell-if-raw-chicken-is-bad/
- ↑ https://ritely.com/how-to-tell-if-raw-chicken-is-bad/
- ↑ https://ritely.com/how-to-tell-if-raw-chicken-is-bad/
- ↑ https://www.simplyhealthyfamily.org/know-bad-chicken/
- ↑ https://ritely.com/how-to-tell-if-raw-chicken-is-bad/
- ↑ https://ritely.com/how-to-tell-if-raw-chicken-is-bad/
- ↑ https://kitchenbyte.com/how-to-tell-if-chicken-is-bad/
- ↑ https://kitchenbyte.com/how-to-tell-if-chicken-is-bad/
- ↑ https://kitchenbyte.com/how-to-tell-if-chicken-is-bad/
- ↑ https://kitchenbyte.com/how-to-tell-if-chicken-is-bad/
- ↑ https://www.thekitchn.com/how-can-i-tell-when-chicken-s-gone-bad-256662
- ↑ http://www.fsis.usda.gov/wps/wcm/connect/ad74bb8d-1dab-49c1-b05e-390a74ba7471/Chicken_from_Farm_to_Table.pdf?MOD=AJPERES
- ↑ https://www.stilltasty.com/fooditems/index/16787
- ↑ http://www.stilltasty.com/fooditems/index/16799
- ↑ https://www.stilltasty.com/fooditems/index/16787
- ↑ https://www.stilltasty.com/fooditems/index/16787
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.