วิธีการ ใช้อบเชยให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

อบเชย (ชื่อวิทยาศาสตร์ Cinnamomum velum หรือ C. cassia) ได้ถูกยกว่าเป็น "อาหารมหัศจรรย์" ในหลายวัฒนธรรม และในทางวิทยาศาสตร์ก็พิสูจน์แล้วว่าสารในน้ำมันที่อยู่ในอบเชยอย่าง Cinnamaldehyde, Cinnamyl acetate และ Cinnamyl alcohol มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่าง ขณะเดียวกัน ก็มีงานวิจัยทางการแพทย์ที่ได้ศึกษาประโยชน์ของอบเชยที่มีหลายอย่างแตกต่างกันไป แม้ว่ายังมีการถกเถียงอยู่ว่าอบเชยสามารถใช้รักษาโรคได้จริงหรือไม่ แต่อบเชยสามารถบำบัดอาการป่วยบางอย่างได้จริง เช่น ปัญหาเกี่ยวกับย่อยอาหาร การติดเชื้อแบคทีเรียที่ไม่รุนแรง และอาการหวัด

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ใช้อบเชยในการบรรเทาอาการหวัดหรือเป็นไข้

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เลือกอบเชยศรีลังกา (Ceylon Cinnamon).
    อบเชยแบ่งเป็นสองประเภทใหญ่ๆ นั่นคืออบเชยศรีลังกา (Ceylon Cinnamon) และอบเชยจีน ( Cassia Cinnamon) บางครั้งอบเชยศรีลังกาจะรู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่าเป็นอบเชย "แท้" หรืออบเชย "จริง" แต่อบเชยชนิดนี้หาซื้อได้ไม่ง่ายนักในซูเปอร์มาเก็ตทั่วไปเหมือนกับอบเชยจีน อย่างไรก็ตาม อบเชยศรีลังกานั้นเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเนื่องจากมีสิ่งเจือปนอย่างคูมาริน (Coumarin) ที่ต่ำกว่า[1]
    • การบริโภคสารคูมารินอย่างเป็นประจำอาจจะทำให้มีปัญหาที่ตับได้[2] อบเชยอาจจะมีผลกับการใช้ยารักษาเบาหวานได้ ดังนั้น ให้ตรวจสอบกับแพทย์เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถใช้อบเชยได้อย่างปลอดภัย
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เลือกลักษณะของอบเชยที่ดีที่สุด.
    คุณสามารถเลือกซื้ออบเชยได้ในหลายๆ แบบ เช่น แบบผง แบบแท่ง แบบอาหารเสริม หรือแบบอบเชยสกัด ให้ลองคิดดูก่อนว่าคุณจะใช้มันเพื่อทำอะไรก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะซื้ออบเชยลักษณะไหน ถ้าคุณอยากจะเพิ่มอบเชยเข้าไปในการทานอาหารปกติของคุณ คุณก็อาจจะต้องเลือกอบเชยหลายๆ แบบ มากกว่าการทานอบเชยแบบเป็นยา ลองใช้อบเชยทั้งแบบผงและแบบแท่งในอาหารและเครื่องดื่มหลายๆ อย่าง เพื่อที่มันจะได้ดูน่าสนใจขึ้น[3]
    • ถ้าคุณจะซื้ออบเชยเพื่อใช้ปรุงอาหาร ให้เลือกเป็นผงอบเชย
    • ใส่อบเชยแบบแท่งลงไปในกระทะเมื่อคุณหุงข้าวโดยใช้กระทะ
    • ถ้าแพทย์ของคุณแนะนำว่าให้ใช้อบเชยเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยควบคุมระดับของน้ำตาลในเลือด คุณอาจจะซื้ออบเชยสกัดจากร้านขายสินค้าเพื่อสุขภาพ เพื่อให้แน่ใจว่าสารคูมารินในอบเชยจะถูกกำจัดออกไปทั้งหมด[4]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ใส่อบเชย 1 ช้อนชาลงในน้ำอุ่น...
    ใส่อบเชย 1 ช้อนชาลงในน้ำอุ่น และดื่มเพื่อช่วยลดอาการหวัดและไข้. อบเชยนั้นได้พบว่ามีคุณสมบัติในการต้านจุลินทรีย์ที่ดี ซึ่งจะเป็นการช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของคุณจัดการกับอาการไข้หวัด มันจะช่วยจัดการกับการเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อรา[5] ถ้าใส่อบเชย 1 ช้อนชาลงไปในน้ำอุ่น คุณก็จะได้เครื่องดื่มที่มีคุณสมบัติในการบรรเทา แม้ว่ามันจะไม่ได้ช่วยรักษาให้หายจากอาการหวัด แต่ก็จะช่วยทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ลองชงอบเชยกับน้ำร้อนเพื่อบรรเทาอาการน้ำมูกไหล....
    ลองชงอบเชยกับน้ำร้อนเพื่อบรรเทาอาการน้ำมูกไหล. การดื่มอบเชยชงร้อนๆ สามารถช่วยให้คุณจัดการกับอาการไข้หวัดได้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มันจะช่วยบรรเทาอาการน้ำมูกไหลที่น่ารำคาญ[6] คุณสามารถผสมกับขิงด้วยก็ได้เพื่อให้ได้ผลยิ่งขึ้น[7]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ใส่อบเชย 1 ช้อนชาไปในซุป.
    คล้ายๆ กับการชงอบเชยเป็นเครื่องดื่ม ให้ลองใส่อบเชยลงไปในซุปร้อนๆ เพื่อให้มีรสชาติขึ้นและอาจจะช่วยให้ผ่อนคลายขึ้นสำหรับผู้ที่มีอาการป่วย
    • มีการอ้างว่าคุณสมบัติในการต้านจุลินทรีย์ของอบเชยยังเป็นวัตถุกันเสียแบบธรรมชาติ[8]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ใช้อบเชยเพื่อช่วยในระบบย่อยอาหาร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ใช้อบเชยศรีลังกาเพื่อประโยชน์ในระบบย่อยอาหาร....
    ใช้อบเชยศรีลังกาเพื่อประโยชน์ในระบบย่อยอาหาร. ถ้าคุณจะเพิ่มอบเชยในอาหารเพื่อช่วยในระบบย่อยอาหารของคุณ ให้เลือกอบเชยศรีลังกา จะเลือกอบเชยลักษณะใดก็ได้ แต่ถ้าคุณจะใช้อบเชยในการปรุงรส อบเชยที่เป็นผงจะเหมาะที่สุด เพราะคุณสามารถใช้ช้อนกะปริมาณได้ง่าย
    • อบเชยแบบแท่งนั้นใช้ได้ดีในการทำเป็นเครื่องดื่ม แต่ในการกะปริมาณที่ใช้นั้นค่อนข้างยากกว่า
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ปรุงรสอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงด้วยอบเชย.
    ใส่อบเชยประมาณ 1 ช้อนชาลงในอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง มันจะช่วยลดผลกระทบจากอาหารที่ทานเข้าไปที่มีต่อระดับน้ำตาลในเลือด ปกติหลังจากที่ทานอาหารแล้ว ระดับน้ำตาลจะสูงขึ้นเพราะว่าท้องของคุณว่าง แต่การใส่อบเชยเพิ่มในอาหารจะเป็นการช่วยทำให้กระบวนการนี้ช้าลง จึงเป็นการลดระดับการเพิ่มขึ้นของน้ำตาลในเลือด[9] ผลการทดลองทางวิทยาศาสตร์ได้แสดงผลจากการใส่อบเชยปริมาณ 2-3 กรัมลงในขนม โดยพบว่ามีผลต่ออัตราการย่อยอาหาร[10]
    • การใช้อบเชยมากเกินไปอาจจะมีอันตรายหลายอย่างได้ ดังนั้น ให้ควบคุมการใช้อบเชยแค่ 1 ช้อนชาต่อวัน ซึ่งจะมีปริมาณเท่ากับ 4-5 กรัม[11]
    • ถ้าคุณเป็นเบาหวาน ให้ปรึกษากับแพทย์เกี่ยวกับผลกระทบของการใช้อบเชยที่มีต่อระดับน้ำตาลในเลือดของคุณ อย่าใช้อบเชยแทนอินซูลิน
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ใช้อบเชยเพื่อช่วยย่อย.
    อีกทางเลือกหนึ่งของการใช้อบเชยปรุงอาหารคือคุณสามารถใช้อบเชยปริมาณน้อยๆ เพื่อช่วยย่อยอาหารหลังทานอาหารเสร็จ ถ้าคุณมีอาการจุกเสียดท้องหรืออาหารไม่ย่อยหลังหลังจากการทานอาหาร อบเชยอาจจะช่วยกระตุ้นระบบการย่อยอาหารของคุณ โดยน้ำมันที่อยู่ในอบเชยจะช่วยย่อยอาหารที่ทานเข้าไป จึงทำให้การย่อยของคุณดีขึ้น[12]
    • ลองดื่มชาอบเชย (ละลายอบเชย 1 ช้อนชาในน้ำร้อน) หลังทานอาหาร
    • หรือจะใส่อบเชยครึ่งช้อนชาลงไปในกาแฟที่คุณดื่มหลังอาหาร
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ใช้อบเชยช่วยทำให้การทำงานของลำไส้ใหญ่ดีขึ้น....
    ใช้อบเชยช่วยทำให้การทำงานของลำไส้ใหญ่ดีขึ้น. อบเชยนั้นเป็นแหล่งของแคลเซียมและไฟเบอร์ที่ยอดเยี่ยม การรวมตัวกันของสารทั้งสองนี้มีประโยชน์กับสุขภาพลำไส้ใหญ่ของคุณ ปริมาณของน้ำดีในระดับสูงสามารถทำร้ายเซลล์ในลำไส้ใหญ่ และอาจจะเป็นการเพิ่มโอกาสที่คุณจะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่[13] ทั้งแคลเซียมและไฟเบอร์จะช่วยเกาะที่น้ำดีและส่งผลให้น้ำดีถูกขจัดออกจากร่างกาย ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่ตามลำดับ[14].
    • ไฟเบอร์ยังช่วยทำให้อาการต่างๆ ที่เกี่ยวกับลำไส้ดีขึ้น และยังช่วยบรรเทาอาการท้องผูกหรือท้องเสีย[15]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ใช้อบเชยเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่ทานเพื่อลดคอลเลสเตอรอล....
    ใช้อบเชยเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่ทานเพื่อลดคอลเลสเตอรอล. ยังไม่เป็นที่พิสูจน์แน่ชัดว่าอบเชยมีผลในการลดคอลเลสเตอรอลได้อย่างจริงจัง แต่จากทฤษฎีแล้ว อบเชยมีผลต่อการกระบวนการที่ร่างกายจัดการกับน้ำตาลและไขมัน ดังนั้นมันอาจจะช่วยลดคอลเลสเตอรอลได้ โดยความเชื่อนี้ยังเป็นแค่ทฤษฎีอยู่ แต่การทานอบเชยที่จำกัดให้ไม่มากเกิน 2-3 กรัมต่อวันก็ควรนำมาเป็นส่วนหนึ่งของการทานอาหารและการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดี[16]
    • แม้ว่าอบเชยจะมีรสชาติอร่อยเมื่อมันผสมอยู่ในขนมอบต่างๆ แต่การใส่อบเชยไปในอาหารที่มีไขมันสูงไม่ได้เป็นการช่วยลดคอลเลสเตอรอล
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

เข้าใจความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 พูดคุยกับแพทย์ก่อน.
    มีเหตุผลมากมายที่การทานอบเชยเพื่อเป็นยานั้นอาจจะไม่ใช่ความคิดที่ดีสำหรับคุณ คุณควรที่จะพูดคุยขอคำแนะนำจากแพทย์ก่อน คุณควรจะถามถึงความเป็นไปได้ว่ามันจะมีผลข้างเคียงต่อการใช้ยาอื่นๆ หรือไม่ ทั้งยาที่แพทย์จ่ายเองและที่เป็นสมุนไพรที่คุณใช้อยู่[17]
    • แม้ว่ามีหลักฐานชี้ว่าอบเชยสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 แต่ก็ไม่ควรใช้แทนอินซูลิน[18]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 รู้ว่าควรใช้อบเชยปริมาณมากเท่าไหร่และใช้ได้บ่อยเท่าไหร่....
    รู้ว่าควรใช้อบเชยปริมาณมากเท่าไหร่และใช้ได้บ่อยเท่าไหร่. การใช้อบเชยในการรักษานั้นยังไม่ได้รับการพิสูจน์อย่างแน่ชัด ดังนั้นจึงไม่มีกฎตายตัวว่าคุณควรใช้ปริมาณเท่าไหร่เพื่อให้ได้ผลต่อสุขภาพ ปริมาณที่แนะนำในการใช้อบเชยก็แตกต่างกันไปตั้งแต่ปริมาณ ½ ช้อนชาไปจนถึง 6 ช้อนชาต่อวัน[19] ถ้าคุณไม่แน่ใจให้ใช้น้อยกว่านี้ก็ได้ การใช้อบเชยปริมาณมากอาจจะเป็นพิษได้ แต่ไม่ควรเพิ่มปริมาณอบเชยให้มากกว่า 1 ช้อนชาหรือ 6 กรัมต่อวัน[20]
    • เช่นเดิม คุณควรที่จะปรึกษากับแพทย์ก่อนที่จะใช้อบเชยอย่างต่อเนื่อง
  3. How.com.vn ไท: Step 3 รู้ว่าไม่ควรใช้อบเชยกับใครบ้าง.
    แม้ว่าการใช้อบเชยเป็นประจำเพื่อเป็นอาหารเสริมจะมีหลายเรื่องที่ไม่แน่ชัด แต่ก็มีหลายกรณีทีเดียวที่ไม่แนะนำให้ใช้อบเชยเป็นยาในลักษณะนี้ ไม่ควรใช้อบเชยเป็นอาหารเสริมสำหรับเด็กหรือผู้ที่มีครรภ์ หญิงที่ให้นมบุตรอยู่ควรหลีกเลี่ยง[21]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 หลีกเลี่ยงการใช้อบเชยมากเกินไปหากคุณทานยาเจือจางเลือด....
    หลีกเลี่ยงการใช้อบเชยมากเกินไปหากคุณทานยาเจือจางเลือด. คุณไม่ควรใช้อบเชยปริมาณมากหากคุณกำลังทานยาเจือจางเลือด อบเชยนั้นมีสารคูมารินอยู่ในปริมาณน้อย แต่สารนี้อาจจะทำให้เลือดเจือจางจำนวนมาก ในอบเชยจีนมีปริมาณคูมารินสูงกว่าอบเชยศรีลังกา[22] การใช้อบเชยมากเกินไปสามารถทำให้ตับมีปัญหาได้อีกด้วย[23]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 เก็บอบเชยให้ดีเพื่อรักษาความสด.
    เก็บอบเชยไว้ในภาชนะที่เป็นแก้วที่ปิดสนิท และเก็บไว้ในที่ที่เย็น แห้ง และมืด อบเชยที่บดเป็นผงจะมีระยะเวลาที่ยังสดอยู่มากถึง 6 เดือน ส่วนอบเชยแบบแท่งจะมีระยะเวลา 1 ปี คุณสามารถขยายอายุของอบเชยโดยการใส่ไว้ในภาชนะที่ปิดสนิทและเก็บไว้ที่ตู้เย็น
    • ดมกลิ่นอบเชยเพื่อตรวจดูความสดของมัน ขอให้แน่ใจว่ามันจะมีกลิ่นหวานๆ ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกว่ามันยังสดอยู่
    • เลือกอบเชยที่ปลูกแบบออร์แกนิกส์เพื่อให้แน่ใจว่ามันไม่ได้ถูกฉายรังสีเพื่อเป็นการถนอมอาหาร การฉายรังสีนั้นอาจจะทำให้วิตามิน C และสารแคโรทีนอยด์ในอบเชยลดลง
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • Cinnamomum velum เป็นอีกชื่อหนึ่งของอบเชยแท้ ซึ่งปลูกส่วนใหญ่ที่ศรีลังกา ประเทศเซเชลส์ หมู่เกาะมาดากัสการ์ และตอนใต้ของอินเดีย C. Cassia หรือที่รู้จักว่าเป็นอบเชยจีน ซึ่งเป็นพืชพื้นบ้านทางตอนใต้ของจีน และยังนิยมปลูกที่อินเดีย มาเลเซีย ไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย โดยมีอบเชย (Cinnamomum) ประมาณ 250 สายพันธุ์ที่เป็นที่รู้จักในขณะนี้ อบเชยที่สามารถหาซื้อได้อาจจะมีการผสมกันหลายสายพันธุ์และหลายเกรด แต่เช่นเดียวกับอาหารส่วนใหญ่ ถ้าคุณใส่ใจมากขึ้น คุณก็จะได้สิ่งที่มีคุณภาพมากขึ้น[24]
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าคุณเข้ารับการผ่าตัด ให้หยุดใช้อบเชยในปริมาณที่เป็นยาอย่างน้อย 1 อาทิตย์ก่อนการผ่าตัดใดๆ ก็ตามเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเรื่องการเจือจางของเลือด การใช้อบเชยเป็นเครื่องเทศแบบปกติที่ใช้แค่ปริมาณน้อยๆ นั้นสามารถทำได้ แต่ควรที่จะพูดคุยกับแพทย์ก่อนเพื่อให้ได้ข้อมูลมากขึ้น
  • ผู้ที่ให้นมบุตรหรือผู้ตั้งครรภ์ไม่ควรใช้อบเชยในปริมาณที่เป็นยา
  • การทานอบเชยจีนในปริมาณมากอาจจะเป็นพิษได้ เพราะว่ามันมีสารคูมาริน ซึ่งสารนี้ไม่ค่อยมีในอบเชยสายพันธุ์ศรีลังกา
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • อบเชยที่สดใหม่และมีคุณภาพดี

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Erica Docimo, L.Ac., Dipl. O.M.
ร่วมเขียน โดย:
นักฝังเข็มที่มีใบอนุญาตและนักสมุนไพร
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Erica Docimo, L.Ac., Dipl. O.M.. เอริกา โดซิโม เป็นนักฝังเข็มที่ได้รับใบอนุญาตจาก California and National Certification Commission for Acupuncture and Oriental Medicine (NCCAOM) นักสมุนไพร และเจ้าของ Mind and Body Acupuncture สตูดิโอด้านการดูแลสุขภาพและไลฟ์สไตล์แบบองค์รวมที่ตั้งอยู่ในลอสแองเจลิส ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี เธอเชี่ยวชาญด้านการฝังเข็ม การสั่งยาสมุนไพร และโภชนาการตะวันออกและตะวันตก เอริกาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาการแพทย์แผนจีนจาก The Emperor's College โดยมุ่งเน้นที่สุขภาพของสตรี เธอยังได้รับการฝึกอบรมที่ Academy of Orthopedic Acupuncture (AOA) เพื่อให้ได้รับใบรับรองด้านเทคนิคการปลดปล่อยความเจ็บปวดแบบรีเฟล็กซ์และการบล็อกเส้นประสาทด้วยมือ บทความนี้ถูกเข้าชม 47,684 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 47,684 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา