บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Grace Imson, MA. เกรซ อิมสันเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ที่มีประสบการณ์กว่า 40 ปี ปัจจุบันเธอสอนคณิตศาสตร์ที่ City College of San Francisco และเคยอยู่แผนกคณิตศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเซนต์หลุยส์ เธอสอนมาทั้งระดับประถม มัธยม และมหาวิทยาลัย เธอได้รับปริญญาโทด้านครุศาสตร์ที่เน้นด้านการบริหารจัดการจากมหาวิทยาลัยเซนต์หลุยส์
มีการอ้างอิง 8 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 27,163 ครั้ง
ระยะตัดแกน y ของสมการคือจุดที่กราฟของสมการตัดแกน Y[1] การหาระยะตัดแกน y นั้นมีหลายวิธี ส่วนจะใช้วิธีไหนบ้างนั้น ก็ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่โจทย์ให้มา
ขั้นตอน
- เขียนความชันและจุดลงบนกระดาษ.[2] ความชันหรือ "การยกหารด้วยการเคลื่อนที่" (rise over run) เป็นเลขเดียวที่บอกเราว่าเส้นตรงนั้นมีความชันเท่าไร โจทย์ประเภทนี้จะให้พิกัด (x,y) ของจุดหนึ่งบนกราฟมาด้วย หากโจทย์ไม่ได้ให้ข้อมูลทั้งสองอย่างนี้มา ข้ามไปอ่านวิธีอื่นๆ ที่อยู่ด้านล่างต่อไป
- ตัวอย่างที่ 1: เส้นตรงเส้นหนึ่งมีความชันเท่ากับ 2 มีพิกัด (-3,4) หาระยะตัดแกน y ของเส้นตรงนี้โดยทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้
- เขียนสมการเส้นตรงในรูปแบบความชันและระยะตัดแกน. เราสามารถเขียนสมการเส้นตรงใดๆ ได้เป็น y = mx + b เมื่อสมการอยู่ในรูปแบบนี้ ตัวแปร m คือความชัน และ b คือระยะตัดแกน y
- นำความชันแทนลงไปในสมการ. เมื่อเขียนสมการเส้นตรงในรูปแบบความชันและระยะตัดแกนแล้ว แทนที่ m ด้วยความชันของเส้นตรงที่โจทย์ให้มา
- ตัวอย่างที่ 1 (ต่อ): y = mx + b
m = ความชัน = 2
y = 2x + b
- ตัวอย่างที่ 1 (ต่อ): y = mx + b
- นำพิกัดที่โจทย์ให้มาแทนที่ x และ y. เมื่อโจทย์ให้พิกัดของจุดหนึ่งบนเส้นตรงมา ให้แทนที่พิกัด x และ y ในสมการด้วย x และ y ที่โจทย์ให้มา ให้นำพิกัดซึ่งโจทย์ให้มาแทนลงไปในสมการเส้นตรง
- ตัวอย่างที่ 1 (ต่อ): จุด (3,4) อยู่บนเส้นตรงนี้ ที่จุดนี้ x = 3 และ y = 4
เมื่อแทนค่าเหล่านี้ลงไปในสมการ y = 2x +b ก็จะได้เป็น
4 = 2(3) + b
- ตัวอย่างที่ 1 (ต่อ): จุด (3,4) อยู่บนเส้นตรงนี้ ที่จุดนี้ x = 3 และ y = 4
- หาค่า b. อย่าลืมว่า b คือระยะตัดแกน y ของเส้นตรง ตอนนี้ b คือตัวแปรเดียวในสมการ จัดเรียงสมการใหม่เพื่อหาค่าของตัวแปรและหาคำตอบ
- ตัวอย่างที่ 1 (ต่อ): 4 = 2(3) + b
4 = 6 + b
4 - 6 = b
-2 = b
ระยะตัดแกน y ของเส้นตรงนี้คือ 2
- ตัวอย่างที่ 1 (ต่อ): 4 = 2(3) + b
- นำคำตอบมาเขียนเป็นจุดพิกัด. ระยะตัดแกน y คือจุดที่เส้นตรงตัดกับแกน y เนื่องจากแกน y จะอยู่ที่ตำแหน่ง x = 0 ฉะนั้นพิกัด x ของระยะตัดแกน y เป็น 0 เสมอ
- ตัวอย่างที่ 1 (ต่อ): ระยะตัดแกน y อยู่ที่ตำแหน่ง y = -2 ฉะนั้นจุดพิกัดคือ (0, -2)
โฆษณา
- คำนวณหาการยกและการเคลื่อนที่. ความชันคือการวัดระยะทางแนวตั้งที่เส้นตรงเคลื่อนไปในแต่ละหน่วยของระยะทางแนวนอนว่ามีเท่าไร เราอาจอธิบายความชันว่าเป็นการยกหารด้วยการเคลื่อนที่ก็ได้ () ต่อไปนี้คือวิธีหาปริมาณทั้งสองนี้จากจุดสองจุด
- "การยก" คือการเปลี่ยนแปลงระยะทางแนวตั้ง หรือผลต่างระหว่างค่า y ของจุดสองจุด
- "การเคลื่อนที่" คือการเปลี่ยนแปลงระยะทางแนวนอนหรือผลต่างระหว่างค่า x ของจุดสองจุด
- ตัวอย่างที่ 2 (ต่อ): ค่า y ของจุดสองจุดนั้นคือ 2 และ -4 ฉะนั้นค่าการยกคือ (-4) - (2) = -6
ค่า x ของจุดสองจุด (ตามลำดับ) คือ 1 และ 3 ฉะนั้นค่าการเคลื่อนที่คือ 3 - 1 = 2
- หารการยกด้วยการเคลื่อนที่เพื่อหาความชัน. ตอนนี้เรารู้ค่าสองค่านี้แล้ว นำค่าทั้งสองไปแทนลงใน "" เพื่อหาความชันของเส้นตรง
- ตัวอย่างที่ 2 (ต่อ): -3
- เขียนสมการเส้นตรงในรูปแบบความชันและระยะตัดแกน. เราสามารถอธิบายเส้นตรงโดยใช้สูตร y = mx + b โดย m คือความชันและ b คือระยะตัดแกน y ตอนนี้เรารู้ความชัน m และจุด (x,y) แล้ว เราสามารถใช้สมการนี้หาค่า b ซึ่งเป็นระยะตัดแกน y ได้
- นำความชันและจุดมาใส่ในสมการ. ใช้สมการเส้นตรงในรูปแบบความชันและระยะตัดแกนและแทน m ด้วยความชันที่เราคำนวณได้ แทนพจน์ x และ y ด้วยพิกัดของจุดหนึ่งจุดบนเส้นตรงเราจะใช้จุดไหนก็ได้
- ตัวอย่างที่ 2 (ต่อ): y = mx + b
ความชัน = m = -3 ฉะนั้น y = -3x + b
เส้นตรงนี้ประกอบด้วยจุด (x,y) ซึ่งอยู่ที่พิกัด (1,2) ฉะนั้น 2 = -3(1) + b
- ตัวอย่างที่ 2 (ต่อ): y = mx + b
- หาค่า b. ตอนนี้ตัวแปรเดียวที่เหลืออยู่ในสมการคือ b ซึ่งเป็นระยะตัดแกน y จัดเรียงสมการใหม่ จะได้เหลือ b อยู่อีกข้างหนึ่งของสมการแค่ตัวเดียวแล้วเราจะได้คำตอบ อย่าลืมว่าระยะตัดแกน y จะมีพิกัด x เป็น 0 เสมอ
- ตัวอย่างที่ 2 (ต่อ): 2 = -3(1) + b
2 = -3 + b
5 = b
ระยะตัดแกน y อยู่ที่ (0,5)
โฆษณา - ตัวอย่างที่ 2 (ต่อ): 2 = -3(1) + b
- เขียนสมการของเส้นตรงลงบนกระดาษ. ถ้าเรามีสมการของเส้นตรงนั้นแล้ว เราสามารถหาระยะตัดแกน y ได้โดยใช้หลักพีชคณิตอีกเล็กน้อย[5]
- ตัวอย่างที่ 3: หาระยะตัดแกน y ของเส้นตรง x + 4y = 16
- หมายเหตุ: ตัวอย่างที่ 3 เป็นสมการเส้นตรง ดูตอนท้ายของหัวข้อนี้ จะเป็นตัวอย่างของสมการกำลังสอง (ที่มีตัวแปรถูกยกกำลัง 2)
- นำ 0 มาแทนที่ x. แกน y คือเส้นตรงในแนวตั้งบน x = 0 หมายความว่าจุดใดบนแกน y มีพิกัด x เป็น 0 รวมทั้งระยะตัดแกน y ของเส้นตรงนั้นด้วย ใส่ 0 แทน x ในสมการเส้นตรง
- ตัวอย่างที่ 3 (ต่อ): x + 4y = 16
x = 0
0 + 4y = 16
4y = 16
- ตัวอย่างที่ 3 (ต่อ): x + 4y = 16
- หาค่า y. คำตอบคือระยะตัดแกน y ของเส้นตรงนั้น
- ตัวอย่างที่ 3 (ต่อ): 4y = 16
y = 4.
ระยะตัดแกน y ของเส้นตรงคือ 4
- ตัวอย่างที่ 3 (ต่อ): 4y = 16
- เขียนกราฟเพื่อยืนยันคำตอบ (เขียนหรือไม่ก็ได้). เขียนกราฟสมการให้แม่นยำมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จุดที่เส้นตรงตัดแกน y คือระยะตัดแกน y
- หาระยะตัดแกน y ของสมการกำลังสอง. สมการกำลังสองประกอบด้วยตัวแปรตัวหนึ่ง (x หรือ y) ยกกำลัง 2 เราสามารถหาค่า y ด้วยการแทนที่แบบเดิม แต่เนื่องจากสมการกำลังสองเป็นเส้นโค้ง จึงอาจตัดแกน y ที่ 0,1 หรือ 2 ก็ได้ ฉะนั้นคำตอบของเราอาจเป็น 0, 1, หรือ 2 ก็ได้
- ตัวอย่างที่ 4: แทน x = 0 และแก้สมการกำลังสองเพื่อหาระยะตัดแกน y ของ
ในกรณีนี้เราสามารถแก้สมการ ด้วยการใส่เครื่องหมายกรณฑ์ทั้งสองข้างของสมการ อย่าลืมว่าเมื่อเอาเครื่องหมายกรณฑ์ออก เราจะมีสองคำตอบ นั่นคือจำนวนลบและจำนวนบวก
y = 1 หรือ y = -1 ทั้งสองคำตอบเป็นระยะตัดแกน y ของเส้นโค้งนี้
โฆษณา - ตัวอย่างที่ 4: แทน x = 0 และแก้สมการกำลังสองเพื่อหาระยะตัดแกน y ของ
เคล็ดลับ
- ถ้าเป็นสมการที่ซับซ้อนกว่านี้ พยายามแยกพจน์ที่มี y ไปไว้อีกข้างหนึ่งของสมการ
- บางตำราใช้ c หรือตัวแปรอื่นแทน b ในสมการ y = mx + b[6] การใช้ตัวแปรอื่นไม่ได้เปลี่ยนความหมาย แค่เปลี่ยนตัวแปรตามความนิยมของผู้เขียนตำราเท่านั้น
- เมื่อคำนวณหาความชันระหว่างจุดสองจุด เราสามารถลบพิกัด x และ y ออกจากอีกพิกัดหนึ่งได้ ไม่ว่าจะนำพิกัดแรกหรือพิกัดที่สองมาเป็นตัวตั้งก็ตาม ตราบเท่าที่เราใส่จุดพิกัดตรงกันทั้งการยกและการเคลื่อนที่[7] คำตอบที่ได้ก็จะเหมือนกัน ตัวอย่างเช่น ความชันระหว่าง (1, 12) และ (3, 7) สามารถคำนวณหาได้สองแบบดังนี้
- จุดที่สอง - จุดแรก :
- จุดแรก - จุดที่สอง:
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.math.com/school/subject2/lessons/S2U4L2GL.html
- ↑ https://www.khanacademy.org/math/algebra-home/alg-linear-eq-func/alg-writing-slope-intercept-equations/v/finding-y-intercept-given-slope-and-point
- ↑ https://www.khanacademy.org/math/algebra/two-var-linear-equations/writing-slope-intercept-equations/v/equation-of-a-line-3
- ↑ https://www.mathplanet.com/education/algebra-1/formulating-linear-equations/writing-linear-equations-using-the-slope-intercept-form
- ↑ http://www.webmath.com/equline3.html
- ↑ http://www.bbc.co.uk/bitesize/ks3/maths/algebra/graphs/revision/3/
- ↑ http://www.math.com/school/subject2/lessons/S2U4L2DP.html
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.