วิธีการ รักษาอาการเจ็บคออย่างรวดเร็วและด้วยวิธีธรรมชาติ

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

อาการเจ็บคอคือการเกิดอาการเจ็บแบบคันในลำคอที่ทำให้ยากแก่การกลืนหรือพูด อาการนี้สามารถชี้ถึงสาเหตุได้หลายประการ รวมไปถึงอาการขาดน้ำ อาการแพ้ และอาการปวดกล้ามเนื้อ อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของอาการเจ็บคอคือการติดเชื้อไวรัสกับแบคทีเรียอย่างเช่นเชื้อหวัดหรือคอหอยอักเสบจากเชื้อสเตร็ปโตค็อกคัส[1] อาการเจ็บคอมักจะหายไปได้เองภายในเวลาไม่กี่วัน แต่คุณอาจทำตามขั้นตอนตามต่อไปนี้เพื่อเร่งกระบวนการให้เร็วขึ้น

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 6:

ตรวจอาการเจ็บคอ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ตรวจอาการเจ็บคอ.
    [2] อาการที่เกิดต่อเนื่องของการเจ็บคอก็คือลำคอที่จะเจ็บขึ้นเมื่อพูดหรือกลืนอะไรลงไป มันยังอาจตามมาด้วยอาการคอแห้งหรือรู้สึกคันคอ อีกทั้งเสียงจะแหบหรือไม่มีเสียง คนบางคนอาจมีอาการต่อมตรงลำคอหรือกรามเกิดอักเสบและบวมขึ้น ถ้าคุณยังไม่ได้ผ่าทอนซิล มันจะบวมแดง หรือมีหย่อมฝ้าขาวหรือหนองเกิดขึ้นได้
  2. How.com.vn ไท: Step 2 มองหาสัญญาณอื่นๆ ของการติดเชื้อ.
    [3] อาการเจ็บคอส่วนมากเป็นผลมาจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย คุณควรมองหาอาการติดเชื้อที่มีสิทธิเกิดควบคู่กับการเจ็บคอได้ อาการเหล่านี้ได้แก่:
    • มีไข้
    • หนาวสั่น
    • ไอ
    • มีน้ำมูก
    • จาม
    • ครั่นเนื้อครั่นตัว
    • ปวดศีรษะ
    • คลื่นไส้หรืออาเจียน
  3. How.com.vn ไท: Step 3 คิดถึงการไปพบแพทย์.
    [4] อาการเจ็บคอจะหายไปเองภายในไม่กี่วันหรืออาจจะหนึ่งสัปดาห์โดยการรักษาตัวที่บ้านตามปกติ กระนั้น ถ้าหากอาการเจ็บนั้นมากเกินจะทนไหว คุณควรคิดถึงการไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย แพทย์จะตรวจลำคอของคุณ ฟังการหายใจ และใช้ไม้กดลิ้นแตะผนังลำคอหาเชื้อ ถึงการใช้ไม้กดลิ้นจะไม่สร้างความเจ็บปวด แต่ก็อาจไม่ค่อยสบายกายนักจากการที่มันชวนให้รู้สึกอยากอาเจียน[5] ตัวอย่างที่ถูกจัดเก็บจากการใช้ไม้กดลิ้นหาเชื้อในลำคอคุณนั้นจะถูกส่งไปยังห้องวิจัยเพื่อหาตัวการของการติดเชื้อ เมื่อพบไวรัสหรือแบคทีเรียต้นเหตุแล้ว แพทย์จะสามารถแนะนำการรักษาแก่คุณได้
    • แพทย์อาจสั่งให้ตรวจและทำ CBC (การตรวจนับเม็ดเลือด) เพื่อหาอาการภูมิแพ้
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 6:

การดูแลอาการเจ็บคอที่บ้าน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ดื่มน้ำเยอะๆ.
    การดื่มน้ำช่วยป้องกันอาการขาดน้ำและทำให้ลำคอมีความชุ่มชื้นที่ช่วยลดอาการระคายเคืองได้[6] คนส่วนใหญ่เลือกดื่มน้ำในแบบอุณหภูมิห้องเวลาที่เขาเจ็บคอ ทว่าถ้าน้ำร้อนหรือเย็นทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น ให้ดื่มมันแทนก็ได้
    • ดื่มน้ำในแก้วขนาด 8 ออนซ์อย่างน้อยแปดถึงสิบแก้วต่อวัน มากกว่านั้นถ้าคุณมีไข้
    • ลองเติมน้ำผึ้งสักช้อนชาลงไปในน้ำ น้ำผึ้งมีคุณสมบัติยับยั้งแบคทีเรียและช่วยทำให้ชุ่มคอกับเคลือบลำคอได้[7]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เติมความชื้นให้อากาศ.
    [8] อากาศแห้งมีแต่จะทำให้อาการเจ็บคอแย่ลงทุกครั้งที่คุณหายใจเข้า ให้ลองเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศเพื่อช่วยให้ลำคอมีความชื้นและชุ่มชื่นขึ้น มันยิ่งจำเป็นมากถ้าคุณอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้ง
    • ลองคิดเรื่องการซื้อเครื่องเพิ่มความชื้นสำหรับในบ้านหรือออฟฟิศ
    • ถ้าเครื่องเพิ่มความชื้นไม่อยู่ในความคิด ให้ทิ้งชามใส่น้ำไว้ในห้องที่คุณใช้เวลาอยู่นานๆ
    • หากลำคอรู้สึกคันเป็นอย่างมาก ลองอาบน้ำอุ่นและใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำที่อบอวลด้วยไอน้ำ
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ดื่มซุปกับน้ำซุปหลักเยอะๆ.
    [9][10] คำบอกเล่าเก่าๆ ที่ว่าด้วยการใช้ซุปไก่สู้โรคนั้นเป็นความจริง! จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าซุปไก่สามารถทำให้เซลภูมิคุ้มกันในร่างกายมีการเคลื่อนไหวที่ช้าลง การเคลื่อนไหวที่ช้าลงของเซลเหล่านี้จะทำให้มันยิ่งมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซุปไก่ยังช่วยเพิ่มการเคลื่อนไหวของขนเล็กๆ ในจมูกที่ช่วยลดการติดเชื้อ คุณควรยึดอยู่กับอาหารที่รสนุ่มบางเบาและไม่เหนียวนักสักพักใหญ่
    • ตัวอย่างของอาหารอ่อนก็เช่นแอปเปิลซอส ข้าว ไข่คน พาสต้าที่ลวกจนสุก โอ๊ตมีล สมูทตี้ และถั่วที่ต้มจนเปื่อย
    • หลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดอย่างปีกไก่ พิซซ่าเปปเปอโรนี หรืออะไรก็ตามที่ใส่พริกแดง ผงกะหรี่ หรือกระเทียม
    • หลีกเลี่ยงอาหารที่แข็งหรือเหนียวที่อาจกลืนได้ยาก ตัวอย่างก็เช่น เนยถั่ว ขนมปังแห้ง ขนมปังปิ้ง หรือแครกเกอร์ ผักหรือผลไม้ดิบๆ และซีเรียลเปล่าๆ
  4. How.com.vn ไท: Step 4 เคี้ยวอาหารให้ละเอียด.
    [11] ใช้ส้อมและมีดหั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนนำเข้าปาก ให้แน่ใจว่าได้เคี้ยวละเอียดพอที่จะสลายมันเป็นชิ้นเล็กก่อนกลืนลงไป การเคี้ยวและให้น้ำลายมาทำให้อาหารในปากชุ่มฉ่ำจะทำให้กลืนลงได้ง่าย
    • คุณอาจใช้เครื่องปั่นอาหารมาทำให้อาหารมีเนื้อละเอียดเพื่อกลืนลงได้ง่ายก็ได้[12]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ทำสเปรย์ฉีดคอด้วยตัวเอง.
    คุณสามารถพกเป็นขวดเล็กๆติดตัวไว้ใช้ยามต้องการได้ตลอดทั้งวัน เริ่มจากตวงน้ำสะอาด ¼ ถ้วยสำหรับสเปรย์ทุกๆ 2 ออนซ์ที่คุณคิดจะทำ จากนั้นเติมน้ำมันสกัดเมนทอล (ยาบรรเทาความเจ็บปวด), น้ำมันสกัดยูคาลิปตัส, และน้ำมันสกัดเซจ (ต่อต้านแบคทีเรีย, ต่อต้านเชื้อโรค, และต่อต้านการอักเสบ) ลงไปอย่างละสองหยด[13][14] ผสมทั้งหมดให้เข้ากันและเทใส่ขวดสเปรย์ขนาดหนึ่งหรือสองออนซ์ นำส่วนที่เหลือไปแช่เย็นเพื่อเก็บไว้ใช้ในภายหลัง
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 6:

รักษาอาการเจ็บคอด้วยการกลั้วคอ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ.
    เติมเกลือสมุทรหรือเกลือสกัด 1 ช้อนชาลงในน้ำอุ่น 8 ออนซ์แล้วคนจนเกลือละลาย กลั้วคอประมาณ 30 วินาทีแล้วบ้วนทิ้ง ทำซ้ำทุกๆ ชั่วโมง[15] เกลือจะลดอาการบวมโดยการดึงน้ำออกจากเนื้อเยื่อที่กำลังบวมอยู่
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ใช้น้ำส้มสายชูแอปเปิลไซเดอร์.
    [16] ถึงแม้จะยังไม่มีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์มารองรับ แต่น้ำส้มสายชูแอปเปิลไซเดอร์ดูเหมือนจะใช้กำจัดแบคทีเรียได้ผลดีกว่าน้ำส้มสายชูชนิดอื่น น่าเสียดายที่รสชาติของมันอาจจะเต็มกลืนสำหรับบางคนอยู่บ้าง ฉะนั้นเตรียมตัวดื่มน้ำล้างปากหลังจากนั้น!
    • เติมน้ำส้มสายชูแอปเปิลไซเดอร์หนึ่งช้อนโต๊ะลงในน้ำอุ่นหนึ่งแก้ว ถ้าต้องการ คุณจะเติมน้ำผึ้งสักหนึ่งช้อนโต๊ะลงไปผสมเพื่อให้รสดีขึ้นก็ได้
    • นำมากลั้ววันละ 2-3 ครั้ง
    • อย่าให้น้ำผึ้งแก่เด็กที่อายุต่ำกว่าสองขวบ เด็กเล็กมีความเสี่ยงต่อภาวะโบทูลิซึมซึ่งอาจปนเปื้อนอยู่ในน้ำผึ้ง[17]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ลองใช้ผงฟูเป็นอีกหนึ่งทางเลือก.
    [18] ผงฟูมีคุณสมบัติเป็นด่าง ซึ่งจะช่วยให้อาการเจ็บคอทุเลาลง มันยังช่วยเปลี่ยนค่า pH ของลำคอ ซึ่งช่วยในการต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรีย ผงฟูเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่อาจกลั้วคอด้วยน้ำส้มสายชูแอปเปิลไซเดอร์ไหว
    • เติมผงฟู ½ ช้อนชาในน้ำอุ่นหนึ่งแก้ว
    • เติมเกลือ ½ ช้อนชา
    • นำส่วนผสมนี้มากลั้วคอทุกๆ 2 ชั่วโมง
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 6:

ดื่มชาเพื่อบรรเทาอาการของลำคอ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ชงชาพริกชี้ฟ้าป่น.
    ถึงแม้คุณจะควรเลี่ยงอาหารรสเผ็ด ทว่าชาพริกชี้ฟ้าป่นสามารถทำให้อาการเจ็บคอทุเลาลง พริกชี้ฟ้าทำหน้าที่เสมือนตัวสร้างความระคายโต้กลับ นั่นคือมันเป็นตัวสร้างความระคายตัวที่สองที่จะไปตอบโต้ตัวสร้างความระคายเดิม[19] มันยังไปหยุดชะงักการทำงานของ “สาร P” ในร่างกาย สาร P นั้นเป็นสารสื่อประสาทที่เชื่อมโยงกับอาการบวมแดงและอาการเจ็บปวด[20][21]
    • คนพริกชี้ฟ้าป่น ⅛- ¼ ช้อนชาลงไปในน้ำเดือดหนึ่งแก้ว
    • ผสมน้ำผึ้ง (เพื่อเพิ่มรสชาติ) ประมาณ 1-2 ช้อนชาและจิบบ่อยๆ
    • คนเครื่องดื่มนี้อยู่เสมอเพื่อไม่ให้พริกนอนก้น
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ดื่มชารากชะเอม.
    [22] นี่ไม่ใช่ชะเอมสีดำหรือสีแดงที่มาในรูปแบบลูกอม ชารากชะเอมนั้นทำมาจากต้นชะเอม (Glycerrhiza glabra) รากชะเอมมีคุณสมบัติต่อต้านไวรัส ต่อต้านแบคทีเรีย และต่อต้านอาการอักเสบ[23][24][25] มันเหมาะต่อการรักษาอาการเจ็บคอทุกแบบ ไม่ว่าจะเกิดจากไวรัสหรือแบคทีเรีย ร้านส่วนใหญ่ในปัจจุบันมีชาสมุนไพรขายและชารากชะเอมก็หาได้ทั่วไป ใช้ถุงชาหนึ่งถุงต่อน้ำเดือดหนึ่งแก้วแล้วเติมน้ำผึ้งเพื่อเพิ่มรสชาติ
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ดื่มชากานพลูหรือชาขิง.
    [26] เป็นที่ทราบกันว่ากานพลูกับขิงล้วนมีคุณสมบัติต่อต้านไวรัสและต่อต้านแบคทีเรีย[27][28][29][30] ต่อให้คุณไม่มีอาการเจ็บคอ ก็ยังสามารถดื่มด่ำรสชาติชุ่มคอและความหอมของชาเหล่านี้ได้
    • สำหรับชากานพลู เติมกานพลูทั้งก้านหนึ่งช้อนชาหรือกานพลูป่น ½ ช้อนชาลงในน้ำเดือดหนึ่งแก้ว
    • สำหรับชาขิง เติมขิงป่น ½ ช้อนชาลงในน้ำร้อน ถ้าใช้ขิงสด (วิธีนี้ดีที่สุด!) ให้ใช้ขิงปอกเปลือกและสับจำนวน ½ ช้อนชา
    • เติมน้ำผึ้งเพื่อเพิ่มรสชาติ
  4. How.com.vn ไท: Step 4 เติมแท่งอบเชยลงไปในชาที่คุณจะดื่ม.
    อบเชยนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่สูงและมีคุณสมบัติต่อต้านไวรัสกับแบคทีเรีย (16) คุณจะใส่แท่งอบเชยลงในน้ำเดือดเพื่อทำชาอบเชย หรือใช้มันเป็นแท่งคนชากับชาชนิดอื่นก็ได้ ไม่เพียงแต่มันช่วยต่อต้านการอักเสบ มันยังเพิ่มรสชาติที่มีมิติมากขึ้นให้กับชาของคุณด้วย!
    โฆษณา
ส่วน 5
ส่วน 5 ของ 6:

รักษาอาการเจ็บคอในเด็ก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ทำไอศกรีมแท่งโยเกิร์ต.
    คุณควรรับรู้ก่อนว่าอุณหภูมิที่เย็นจะทำให้อาการเจ็บคอกำเริบขึ้นได้ หากเด็กไม่ได้ตอบสนองดีต่อการรักษารูปแบบนี้ ก็หยุดใช้มันซะ วัตถุดิบที่ต้องจัดเตรียมคือ กรีกโยเกิร์ตสองถ้วย น้ำผึ้งสองถึงสามช้อนโต๊ะ และอบเชยป่นหนึ่งช้อนชา โยเกิร์ตมีแบคทีเรียดีที่จะช่วยเพิ่มพูนระบบภูมิคุ้มกัน โยเกิร์ตสไตล์กรีกนั้นจะเปรี้ยวกว่าและข้นกว่า ตอนละลายเลยไม่เหลวเป็นหยด คุณจะใช้โยเกิร์ตธรรมดาหรือรสผลไม้ก็ได้ ขึ้นอยู่กับความชอบของเด็ก
    • ผสมส่วนประกอบทั้งหมดลงในเครื่องปั่นอาหารปั่นจนกระทั่งมันละเอียดเป็นเนื้อเดียว
    • เทส่วนผสมลงในแม่พิมพ์ไอศกรีมแท่ง ให้เหลือพื้นที่ราว ½ นิ้วจากด้านบน
    • เสียบแท่งไม้ลงไปแล้วนำไปแช่ในช่องแช่แข็งประมาณ 6-8 ชั่วโมง
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เตรียมไอศกรีมแท่งสำหรับรับประทาน.
    ถ้าคุณลองดึงไอศกรีมแท่งออกจากแม่พิมพ์ทันทีที่นำออกมาจากช่องแช่แข็ง คุณจะพบว่าตัวเองกำลังถือแท่งไม้ไอศกรีมเปล่าๆ โดยไร้ไอศกรีมติดมา ก่อนจะดึงออกจากแม่พิมพ์ ให้นำแม่พิมพ์ไปจุ่มในน้ำร้อนราวห้าวินาที มันจะช่วยให้ไอศกรีมคลายตัวลงเล็กน้อย ทำให้เอาออกมาจากแม่พิมพ์ได้ง่ายขึ้น
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ลองทำไอศกรีมชาด้วย.
    คุณสามารถนำชาทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นมาแช่แข็งได้เหมือนกัน แค่เทชาพริกชี้ฟ้า รากชะเอม กานพลู หรือขิงลงในแม่พิมพ์และแช่ไว้สักสี่ถึงหกชั่วโมง คุณอาจอยากเติมความหวานให้ไอศกรีมด้วยน้ำผึ้งและ/หรืออบเชยโดยเฉพาะเพื่อเอาใจเด็กๆ
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ทำลูกอมแบบโฮมเมดสำหรับเด็กที่อายุมากกว่าห้าขวบ....
    ทำลูกอมแบบโฮมเมดสำหรับเด็กที่อายุมากกว่าห้าขวบ. เวลาใช้กับเด็กเล็ก ลูกอมอาจเป็นของอันตรายที่อาจติดคอได้ กระนั้นในเด็กโตหรือผู้ใหญ่ พวกมันจะช่วยเพิ่มการไหลของน้ำลาย ช่วยให้ลำคอชุ่มชื่น ลูกอมเหล่านี้ยังเติมส่วนผสมที่ช่วยบรรเทาหรือรักษาอาการเจ็บคอ หากเก็บไว้ในที่แห้งเย็นและแดดไม่ส่องแล้ว ลูกอมเหล่านี้สามารถอยู่ได้นานถึงหกเดือน วิธีทำก็ให้รวบรวมส่วนผสมดังต่อไปนี้: ผงมาร์ชมาลโลว์รูท ½ ช้อนชา, ผงเปลือกไม้สลิปเปอร์รี่เอล์ม ½ ถ้วย, น้ำร้อนที่กรองแล้ว ¼ ถ้วย, น้ำผึ้งสองช้อนโต๊ะ
    • ละลายผงมาร์ชมาลโลว์รูทลงในน้ำร้อน
    • ใส่น้ำผึ้งสองช้อนโต๊ะที่ว่าลงในแก้วตวงและเติมน้ำมาร์ชมาลโลว์ร้อนๆ ลงไปจนได้ ½ แก้วพอดี เทส่วนที่ได้ลงในชามผสมและทิ้งที่เหลือไป
    • เติมผงเปลือกไม้สลิปเปอร์รี่เอล์ม ½ แก้วลงในชามผสม ทำหลุมตรงกลางของกองผง
    • เทน้ำผสมน้ำผึ้ง/มาร์ชมาลโลว์ลงไปในหลุมนั้นแล้วคลุกส่วนประกอบทั้งหมดเข้าด้วยกัน มันควรจะก่อตัวเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีขนาดประมาณองุ่น
    • กลิ้งลูกอมในผงเปลือกไม้สลิปเปอร์รี่เอล์มเพิ่มเพื่อลด “ความเหนียว” ของมัน แล้วนำมาวางในถาดทิ้งไว้ให้มันแห้งอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
    • พอแห้งแล้ว ห่อลูกอมแต่ละเม็ดในกระดาษไขหรือกระดาษรองอบ เวลาจะใช้ ก็แค่แกะห่อลูกอมมาอมโดยปล่อยให้ค่อยๆ ละลายในปาก
    โฆษณา
ส่วน 6
ส่วน 6 ของ 6:

รักษาอาการเจ็บคอด้วยยา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 รู้ว่าเมื่อไหร่สมควรต้องเข้ารับการรักษาจากแพทย์ในทันที....
    รู้ว่าเมื่อไหร่สมควรต้องเข้ารับการรักษาจากแพทย์ในทันที.[31] อาการเจ็บคอส่วนมากจะบรรเทาได้ด้วยการรักษาที่บ้านภายในเวลาไม่กี่วันไปจนถึงสองสัปดาห์ ถ้ามันยังมีอาการนานกว่านั้น บ่งบอกว่าอาจเป็นการติดเชื้อที่รุนแรงพอจะต้องรับการรักษา ยิ่งกว่านั้น สมควรพาเด็กไปพบแพทย์หากอาการเจ็บคอไม่หายไปจากการดื่มน้ำในตอนเช้า โทรหาแพทย์ทันทีถ้าเด็กมีปัญหาในการหายใจหรือกลืนอาหาร หากมีน้ำลายไหลอย่างผิดปกติเกิดร่วมกับอาการเจ็บคอ ก็ให้รีบพาไปตรวจทันที ผู้ใหญ่นั้นทนทายาดกว่า คุณสามารถรอดูอาการที่บ้านได้หลายวัน แต่ไปพบแพทย์หากคุณพบว่า:[32]
    • มีอาการเจ็บคอนานเกินหนึ่งสัปดาห์หรือดูแย่ลง
    • กลืนอะไรลำบาก
    • หายใจติดขัด
    • อ้าปากลำบากหรือรู้สึกปวดบริเวณขากรรไกร
    • ปวดตามข้อต่อ โดยเฉพาะเพิ่งปวดเพิ่ม
    • ปวดหู
    • มีผื่นขึ้น
    • มีไข้ที่สูงกว่า 38.3 องศาเซลเซียส (101 องศาฟาเรนไฮต์)
    • น้ำลายหรือเสมหะมีเลือดผสม
    • มีอาการเจ็บคออยู่บ่อยๆ
    • มีก้อนหรือตุ่มที่ลำคอ
    • มีเสียงแหบนานเกินสองสัปดาห์
  2. How.com.vn ไท: Step 2 พิจารณาว่าการติดเชื้อนี้มาจากไวรัสหรือแบคทีเรีย....
    พิจารณาว่าการติดเชื้อนี้มาจากไวรัสหรือแบคทีเรีย.[33] อาการเจ็บคอจากเชื้อไวรัสนั้นโดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษา มันควรหายเองภายในห้าถึงเจ็ดวัน แต่ทว่าการติดเชื้อจากแบคทีเรียนั้นจะรักษาให้หายได้ง่ายมากโดยการใช้ยาปฏิชีวนะที่สั่งจ่ายโดยแพทย์
    • การวิเคราะห์เชื้อที่ป้ายจากลำคอคุณโดยห้องวิจัยจะตัดสินได้ว่าการติดเชื้อนี้เป็นไวรัสหรือแบคทีเรีย
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ใช้ยาปฏิชีวนะสำหรับการติดเชื้อแบคทีเรียตามคำแนะนำ....
    ใช้ยาปฏิชีวนะสำหรับการติดเชื้อแบคทีเรียตามคำแนะนำ.[34] คุณจะต้องรับประทานยาให้ครบแผงสำหรับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ ถึงแม้อาการจะดีขึ้นแล้วก็ตาม หากคุณไม่รับประทานยานานเท่ากับที่แพทย์สั่ง อาการนั้นอาจหวนกลับคืนมา ทั้งนี้เป็นเพราะแบคทีเรียบางตัวที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะอาจมีชีวิตรอดในการทานยาไม่ครบแผงได้ หากเป็นเช่นนั้น มันจะสามารถขยายจำนวนของแบคทีเรียที่ดื้อยาในตัวคุณ จึงทำให้คุณเสี่ยงต่อการกลับมาติดเชื้อที่รุนแรงขึ้นได้
    • หากแบคทีเรียดื้อยามีชีวิตรอดในร่างกายคุณ คุณมีสิทธิจะกลับมาติดเชื้ออีก คราวนี้จะต้องใช้ยาขนานแรงกว่าเดิมเพื่อฆ่าแบคทีเรียเหล่านั้น
  4. How.com.vn ไท: Step 4 รับประทานโยเกิร์ตซึ่งผลิตวันต่อวันในระหว่างใช้ยาปฏิชีวนะ....
    รับประทานโยเกิร์ตซึ่งผลิตวันต่อวันในระหว่างใช้ยาปฏิชีวนะ. ยาปฏิชีวนะจะทำลายแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อ แต่มันก็กำจัดแบคทีเรียดีที่อยู่ในลำไส้ไปด้วย[35][36] ร่างกายของคุณต้องการแบคทีเรียดีในลำไส้เพื่อการย่อยอาหารอย่างถูกสุขภาพและระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่ง แบคทีเรียดีนี้ยังจำเป็นสำหรับการผลิตวิตามินบางตัว โยเกิร์ตที่มี “ผลิตวันต่อวัน” จะมีโปรไบโอติคหรือแบคทีเรียดีในลำไส้นี้ การรับประทานผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในช่วงทานยาปฏิชีวนะจะทำให้คุณมีสุขภาพดีในขณะที่ยาปฏิชีวนะกำลังทำงานของมันไป
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ผู้คนส่วนใหญ่พบว่าการดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ ช่วยบรรเทาได้ แต่นั่นไม่ใช่กฎตายตัว ถ้าคุณรู้สึกดีกว่าหากจะดื่มชาแบบไม่ร้อนหรือแบบเย็น ก็เชิญตามสบายเลย เครื่องดื่มใส่น้ำแข็งก็ยังอาจมีประโยชน์ โดยเฉพาะถ้าเกิดคุณมีไข้
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าใช้น้ำผึ้งกับเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ ถึงจะเกิดได้ยาก แต่อาการโบทูลิซึมในทารกนั้นก็เป็นความเสี่ยงเพราะบางครั้งน้ำผึ้งจะมีละอองแบคทีเรียผสมอยู่และทารกก็ยังไม่ได้พัฒนาระบบภูมิคุ้มกันตัวเองขึ้นมาเต็มที่
  • ให้แน่ใจว่าไปพบแพทย์หากอาการยังไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน


โฆษณา
  1. http://well.blogs.nytimes.com/2007/10/12/the-science-of-chicken-soup/?_r=0
  2. http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/003116.htm
  3. http://www.drugs.com/cg/soft-diet.html
  4. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3609378/
  5. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4003706/
  6. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/sore-throat/basics/treatment/con-20027360
  7. Cavender, A;, Folk medical uses of plant foods in southern Appalachia, United States. J Ethnopharmacol; 108 (1) 74-84, 2006.
  8. http://kidshealth.org/parent/infections/bacterial_viral/botulism.html
  9. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/sore-throat/basics/treatment/con-20027360
  10. http://medical-dictionary.thefreedictionary.com/counterirritant
  11. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/15334652
  12. Sandhu, D., Heinrich, M. The Use of Health Foods, Spices and other Botanicals in the Sikh Community in London. Phytotherapy Res., 19, 633-642, 2005
  13. https://www.researchgate.net/publication/7332760_Antibacterial_Compounds_from_Glycyrrhiza_u_ralensis
  14. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/9055991
  15. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3870067/
  16. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/16353966
  17. Sandhu, D., Heinrich, M. The Use of Health Foods, Spices and other Botanicals in the Sikh Community in London. Phytotherapy Res., 19, 633-642, 2005
  18. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/17380552
  19. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/23123794
  20. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/16366855
  21. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3074903/
  22. http://www.osteopathic.org/osteopathic-health/about-your-health/health-conditions-library/general-health/Pages/sore-throat.aspx
  23. https://www.entnet.org/?q=node/1451
  24. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/sore-throat/basics/treatment/con-20027360
  25. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/consumer-health/in-depth/antibiotics/art-20045720?pg=2
  26. http://goaskalice.columbia.edu/lactobacillus-acidophilus-diarrhea
  27. http://www.mayoclinic.org/probiotics/expert-answers/faq-20058065
  28. http://www.health.harvard.edu/blog/probiotics-may-help-prevent-diarrhea-due-to-antibiotic-use-201205094664

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Zora Degrandpre, ND
ร่วมเขียน โดย:
แพทย์แนวธรรมชาติบำบัด
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Zora Degrandpre, ND. ดร.เดกรองด์เปรเป็นแพทย์แนวธรรมชาติบำบัดที่มีใบอนุญาตในวอชิงตัน เธอได้รับปริญญาโทจากวิทยาลัยแห่งยาธรรมชาติแห่งชาติในปี 2007 บทความนี้ถูกเข้าชม 1,454 ครั้ง
หมวดหมู่: สุขภาพทั่วไป

คำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบทางการแพทย์

เนื้อหาของบทความชิ้นนี้มิได้มีเจตนาที่จะใช้ทดแทนคำแนะนำ การตรวจ วินิจฉัยและการรักษาทางการแพทย์ คุณควรปรึกษาแพทย์หรือมืออาชีพทางการดูแลสุขภาพที่ได้รับอนุญาตเสมอ ก่อนที่จะทำการเริ่มต้น เปลี่ยนแปลง หรือหยุดการดูแลสุขภาพไม่ว่าประเภทใด

มีการเข้าถึงหน้านี้ 1,454 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา