ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความบทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
บทความนี้ถูกเข้าชม 55,751 ครั้ง
คุณเริ่มเบื่อที่จะแต่งเค้กด้วยน้ำตาลไอซ์ซิ่งกับเกล็ดน้ำตาลแบบเดิมๆ แล้วใช่ไหม ถ้าคุณรู้สึกแบบนั้นละก็ บางทีนี่อาจจะเป็นเวลาที่คุณจะเริ่มทำขนมแบบมืออาชีพแล้วหันมาแต่งเค้กด้วยฟองดองกัน! ฟองดองที่ทำขึ้นมาอย่างดีจะเนียนนุ่มเหมือนสายไหมและสามารถนำมาขึ้นรูปเป็นดอกไม้หรือของประดับตกแต่งเค้กได้ สร้างความแปลกใหม่ให้กับเค้กจนคุณต้องร้องว้าว! แค่เพียงทำตามขั้นตอนง่ายๆ ข้างล่างนี้ แล้วคุณจะเริ่มทำฟองดองที่ยอดเยี่ยมได้!
ส่วนประกอบ
- เจลาตินแบบไม่แต่งกลิ่น 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเย็น 1/4 ถ้วยตวง
- กลิ่นอัลมอนด์ 1 ช้อนชา
- คอร์นไซรัป ครึ่งถ้วยตวง
- กลีเซอรีน1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลไอซ์ซิ่ง 1 กิโลกรัม
- เนยขาว ครึ่งช้อนชา
- มาร์ชเมลโล่ ครึ่งกิโลกรัม
- เนยขาว ครึ่งถ้วยตวง
- น้ำตาลไอซ์ซิ่ง 1 กิโลกรัม
- น้ำเปล่า 2 - 5 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอน
เตรียมเจลาตินโดยการนำเจลาตินแผ่นไปแช่ในน้ำเย็น. พักเจลาตินไว้ในชามประมาณ 2 นาทีให้เจลาตินนิ่ม แล้วนำเจลาตินไปเข้าไมโครเวฟเปิดไฟแรง ประมาณ 30 วินาที จนกระทั่งเจลาตินละลาย
เติมกลิ่นอัลมอนด์. คอร์นไซรัป และ กลีเซอรีน ลงในชามเจลาติน แล้วคนส่วนผสมจนเนียนเข้ากันดี ถ้าส่วนผสมยังไม่เข้ากันดี ให้นำไปเข้าไมโครเวฟเพิ่มอีก 15-20 วินาที ใช้ไฟแรง แล้วนำออกมาคนอีกรอบ
ร่อนน้ำตาลไอซ์ซิ่งประมาณ 226-450 กรัมลงในส่วนผสมที่เตรียมไว้. แล้วใช้ตะกร้อคนให้เข้ากันจนกว่าส่วนผสมจะเหนียวเป็นก้อน
เตรียมเขียงนวดฟองดอง. โรยน้ำตาลในส่วนที่เหลือลงบนเขียงสะอาดๆ สักเล็กน้อย เราสามารถเพิ่มน้ำตาลส่วนที่เหลือลงไปในฟองดองได้ถ้าต้องการ
นวดฟองดองโดยเทฟองดองลงบนเขียงที่เตรียมไว้. และนวดฟองดองจนกว่าจะเนียน นุ่มนิ่ม เติมน้ำตาลเพิ่มได้ถ้าจำเป็น ต่อจากนั้นลูบเนยขาวกับนิ้วมือ นวดฟองดองต่อให้เนยขาวเข้ากับฟองดอง
แร๊พฟองดองด้วยพลาสติกแร๊พ. เก็บฟองดองที่แร๊พไว้เรียบร้อยแล้วในภาชนะปิดแน่นเพื่อไม่ให้ฟองดองแห้งแข็ง ฟองดองจะเก็บได้ประมาณ 6 วันในตู้เย็นโฆษณา
ล้างมือกันก่อน
ทาเนยขาวให้ทั่วเขียง
เทน้ำตาลไอซ์ซิ่งประมาณ 2 ใน 3 ของทั้งหมดบนเขียงที่ทาเนยขาวไว้
เทมาร์ชเมลโล่ทั้งหมดลงในชามผสม
เติมน้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะลงในชามผสม
คนเล็กน้อย
เอาส่วนผสมมาร์ชเมลโล่กับน้ำเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟประมาณ 30 วินาที. เมื่อครบ 30 วินาทีแล้วเอาออกมาคน แล้วทำซ้ำจนกว่ามาร์ชเมลโล่จะละลายหมดซึ่งจะใช้เวลาโดยรวมทั้งหมด 2 นาทีครึ่ง
ทาเนยขาวที่มือ
เทมาร์ชเมลโล่ที่ละลายไว้ลงบนน้ำตาลไอซ์ซิ่งที่เทเตรียมไว้บนเขียง
ผสมน้ำตาลไอซ์ซิ่ง. ใช้มือผสมน้ำตาลไอซ์ซิ่งกับมาร์ชเมลโล่เข้าด้วยกันจนเริ่มเป็นก้อน ถ้าเหนียวติดมือให้เติมน้ำตาลเพิ่ม แล้วนวดต่อจนกระทั่งเป็นก้อนกลม- ทาเนยขาวที่มือและบนเขียงอีกรอบถ้าฟองดองเหนียวติดมือ
- ถ้าฟองดองแตกง่าย อาจเป็นเพราะว่าแห้งไป ให้เติมน้ำอีกครึ่งช้อนโต๊ะ แล้วนวดต่อ
- ใช้เวลาประมาณ 8 นาที ฟองดองจะเริ่มคงตัว เนียน ยืดหยุ่นได้ง่ายไม่แตกอีก
แร๊พฟองดองด้วยพลาสติกแร๊พ- เก็บฟองดองที่แร๊พแล้วในภาชนะปิดกันอากาศเข้าซึ่งจะทำให้เก็บฟองดองในตู้เย็นได้เกือบ 2 อาทิตย์
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้าไม่มีคอร์นไซรัป สามารถใช้น้ำเชื่อมแทนได้ โดยใช้น้ำตาล 1-1/4 ถ้วยตวงและน้ำเปล่า 1/3 ถ้วยตวงต้มรวมกันจนได้น้ำเชื่อม
สิ่งของที่ใช้
- ไม้พาย
- พลาสติกแร๊พ
- ชามผสม
- ไมโครเวฟ
- ตะกร้อ
- เขียงสำหรับนวดฟองดอง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 55,751 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
