วิธีการ หารจำนวนคละ

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

แปลงจำนวนคละเป็นเศษเกิน

หารเศษเกิน

แปลงเศษเกินกลับไปเป็นจำนวนคละ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

จำนวนคละหรือเศษคละคือจำนวนที่ประกอบด้วยจำนวนเต็มและเศษส่วน เราสามารถหารจำนวนคละได้ แต่ต้องแปลงจำนวนคละเป็นเศษเกินก่อน พอจำนวนคละถูกแปลงเป็นเศษเกินแล้ว เราก็จะสามารถหารจำนวนคละได้เหมือนที่เราหารเศษส่วนปกติ

ขั้นตอน

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 3:

แปลงจำนวนคละเป็นเศษเกิน

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   นำจำนวนเต็มมาคูณกับตัวส่วนของจำนวนคละ.เราต้องนำจำนวนเต็มมาคูณกับตัวส่วนของจำนวนคละ นำจำนวนเต็มแต่ละจำนวนมาคูณกับตัวส่วนในจำนวนคละของมัน เมื่อคูณกันเสร็จแล้ว พักผลคูณไว้ก่อน ผลคูณจะเป็นแค่ส่วนหนึ่งของตัวเศษใหม่

   • ตัวอย่างเช่น โจทย์ของเราคือ $6{\frac {1}{2}}\div 2{\frac {1}{4}}$ เมื่อนำจำนวนเต็มมาคูณกับตัวส่วนของจำนวนคละ ก็จะได้เป็น $6\times 2=12$ และ $2\times 4=8$
2. 
   2
   นำตัวเศษไปบวกกับผลคูณ.นำตัวเศษไปบวกกับผลคูณ นำตัวเศษแต่ละตัวไปบวกกับผลคูณที่ได้จากการนำจำนวนเต็มมาคูณกับตัวส่วนของมัน ผลบวกที่ได้จะเป็นตัวเศษของเศษเกิน

   • จากตัวอย่างที่ยกมา $12+1=13$ และ $8+1=9$
3. 
   3
   นำผลบวกที่ได้ไปวางไว้บนตัวส่วนเดิม. นำผลบวกที่ได้ของแต่ละจำนวนไปวางไว้บนตัวส่วนเดิมของมัน ปล่อยตัวส่วนของแต่ละจำนวนไว้ตามเดิม เราได้เศษเกินเพื่อนำมาใช้ในการหารแล้ว

   • จากตัวอย่างที่ยกมา $6{\frac {1}{2}}$ กลายเป็น ${\frac {13}{2}}$ และ $2{\frac {1}{4}}$ กลายเป็น ${\frac {9}{4}}$
4. 
   4
   แปลงจำนวนเต็มเป็นเศษส่วน. ถ้าโจทย์ของเรามีจำนวนใดจำนวนหนึ่งเป็นจำนวนเต็ม เราต้องแปลงจำนวนเต็มเป็นเศษส่วน นำจำนวนเต็มมาเป็นตัวเศษของเศษส่วนเพื่อแปลงจำนวนเต็มเป็นเศษส่วน ตัวส่วนของจำนวนเต็มคือ 1

   • ตัวอย่างเช่น $3={\frac {3}{1}}$.
   โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 3:

หารเศษเกิน

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   เขียนโจทย์การหารใหม่. นำเศษเกินที่เราได้คำนวณไว้แล้วในส่วนที่ 1 มาเขียนโจทย์การหารใหม่

   • จากตัวอย่างที่ยกมา เมื่อเขียนใหม่จะได้เป็น ${\frac {13}{2}}\div {\frac {9}{4}}$.
2. 
   2
   หาส่วนกลับของเศษส่วนจำนวนที่สอง. ในการหาส่วนกลับของเศษส่วนจำนวนหนึ่งเราต้อง “สลับ” ให้ตัวเศษกลายเป็นตัวส่วนและตัวส่วนกลายเป็นตัวเศษ จากนั้นเปลี่ยนเครื่องหมายหารเป็นเครื่องหมายคูณ

   • จากตัวอย่างที่ยกมา ถ้าเราหาส่วนกลับของ ${\frac {9}{4}}$ ก็จะได้เป็น ${\frac {4}{9}}$ ฉะนั้น ${\frac {13}{2}}\div {\frac {9}{4}}$ ก็จะกลายเป็น ${\frac {13}{2}}\times {\frac {4}{9}}$
3. 
   3
   นำตัวเศษมาคูณกัน. นำตัวเศษมาคูณกันเหมือนกับที่เรานำจำนวนเต็มมาคูณกัน ผลคูณที่ได้จะเป็นตัวเศษของคำตอบเรา

   • จากตัวอย่างที่ยกมา ถ้าเราต้องการหาผลคูณของ ${\frac {13}{2}}\times {\frac {4}{9}}$ นำตัวเศษมาคูณกัน ก็จะได้เป็น: $13\times 4=52$.
4. 
   4
   นำตัวส่วนมาคูณกัน. นำตัวส่วนมาคูณกันเหมือนกับที่เรานำจำนวนเต็มมาคูณกัน ผลคูณที่ได้จะเป็นตัวส่วนของคำตอบเรา

   • จากตัวอย่างที่ยกมา ถ้าเราต้องการหาผลคูณของ ${\frac {13}{2}}\times {\frac {4}{9}}$นำตัวส่วนมาคูณกัน ก็จะได้เป็น: $2\times 9=18$ ประกอบตัวเศษและตัวส่วนเข้าด้วยกัน คำตอบของเราก็จะกลายเป็น ${\frac {52}{18}}$
5. 
   5
   ทำคำตอบให้เป็นเศษส่วนอย่างต่ำ ถ้าทำได้. ในการทำคำตอบให้เป็นเศษส่วนอย่างต่ำหรือการลดทอนคำตอบให้เป็นเศษส่วนอย่างต่ำเราต้องหาตัวประกอบที่มากที่สุด (นอกจาก 1) ซึ่งตัวเศษและตัวส่วนมีร่วมกัน จากนั้นหารตัวเศษและตัวส่วนด้วยตัวประกอบนั้น อ่านด้านล่างนี้เพื่อจะได้รู้ขั้นตอนอย่างละเอียดยิ่งขึ้น

   • จากตัวอย่างที่ยกมา $52$ และ $18$ สามารถหารด้วย $2$ ได้
     $52\div 2=26$
     $18\div 2=9$
     ฉะนั้น ${\frac {52}{18}}={\frac {26}{9}}$
   โฆษณา

ส่วน 3

ส่วน 3 ของ 3:

แปลงเศษเกินกลับไปเป็นจำนวนคละ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   หารตัวเศษด้วยตัวส่วน. ถ้าไม่มีเศษเหลือ คำตอบของเราก็จะเป็นจำนวนเต็ม ไม่ใช่จำนวนคละ และเราไม่ต้องทำอะไรอีกแล้ว แต่ถ้าเรามีเศษเหลือ เราก็จะต้องทำขั้นตอนต่อไป แต่ตอนนี้พักไว้ก่อน ผลหารที่ได้จากการหารตัวเศษด้วยตัวส่วนจะเป็นจำนวนเต็มของจำนวนคละ

   • จากตัวอย่างที่ยกมา $26\div 9=2$ มีเศษที่เหลือคือ $8$ ฉะนั้นจำนวนเต็มของจำนวนคละจะเป็น 2
2. 
   2
   นำเศษที่เหลือมาเป็นตัวเศษของเศษส่วน. วางเศษที่เหลือไว้บนตัวส่วนเดิม แล้วเราก็จะได้ส่วนประกอบที่เป็นเศษส่วนของจำนวนคละ

   • จากตัวอย่างที่ยกมาตัวส่วนเดิมของเราคือ $9$ และเศษที่เหลือของเราคือ $8$ ส่วนประกอบที่เป็นเศษส่วนของจำนวนคละคือ ${\frac {8}{9}}$.
3. 
   3
   นำจำนวนเต็มและเศษส่วนมาประกอบเข้าด้วยกัน. เมื่อประกอบเข้าด้วยกันแล้ว เราก็จะได้ผลหารของโจทย์ข้างต้น
   โฆษณา