วิธีการ รักษาอาการติดเชื้อในช่องคลอดโดยไม่ใช้ยา

ถ้าคุณมีอาการคัน แสบ หรือมีการเปลี่ยนแปลงของตกขาว คุณอาจจะกำลังติดเชื้อทางช่องคลอด คุณสามารถรักษาการติดเชื้อโดยไม่ใช้ยาด้วยวิธีแบบชาวบ้านแต่คุณควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรคให้กับคุณ

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 6:

การวินิจฉัยการติดเชื้อทางช่องคลอด

ดาวน์โหลดบทความ

1
รับรู้อาการของภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย. ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียมีอาการเฉพาะ ดังนี้:^{[1]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้US Office on Women's Healthไปที่แหล่งข้อมูล}
- ตกขาวมีกลิ่นไม่พึงประสงค์หรือกลิ่นคาว
- ตกขาวมีสีขาวหรือสีเทาและอาจจะมีฟอง
- แสบร้อนเมื่อปัสสาวะ
- คันและระคายเคืองในช่องคลอด
- รับรู้ว่าไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่มีอาการของภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
2
รับรู้อาการของเชื้อราในช่องคลอด. อาการของภาวะเชื้อราในช่องคลอดคล้ายคลึงกับภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ได้แก่:^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ตกขาวผิดปกติ ตกขาวอาจจะมีสีขาวเหลว ข้น และเหนียว ตกขาวอาจจะดูเหมือนชีส
- คันและแสบช่องคลอดและแคม
- เจ็บปวดเมื่อมีเพศสัมพันธ์
- เจ็บเมื่อปัสสาวะ
- แดงและบวมนอกช่องคลอด
3
รับรู้อาการของการติดเชื้อทริโคโมแนส. อาการของการติดเชื้อทริโคโมแนสในผู้หญิงมีดังนี้:^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ตกขาวมีกลิ่นหรือคัน
- ตกขาวมีฟองฟอด
- คันช่องคลอด
- ตกขาวสีเหลืองหรือเทาเขียว
- เจ็บเมื่อปัสสาวะ
4
บันทึกรอบเดือน. อาการติดเชื้อในช่องคลอดอาจจะแตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับว่าผู้หญิงคนนั้นอยู่ในช่วงไหนของรอบเดือน สิ่งนี้เป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนระหว่างรอบเดือนสามารถมีผลต่อการก่อตัวของเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดและรูปแบบของสภาวะในช่องคลอด ^{[4]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงBarousse MM, Theall KP, Van Der Pol B, Fortenberry JD, Orr DP, Fidel PL Jr. Susceptibility of middle adolescent females to sexually transmitted infections: impact of hormone contraception and sexual behaviors on vaginal immunity. Am J Reprod Immunol. 2007 Aug;58(2):159-68.}
- การรู้รอบเดือนของคุณสามารถช่วยบันทึกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
5
รับรู้ว่าผู้หญิงบางคนไม่มีอาการใดๆ. ผู้หญิงจำนวนมากมีภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียหรือติดเชื้อทริโคโมแนสโดยที่ไม่มีอาการใดๆ^{[5]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้Centers for Disease Control and Preventionไปที่แหล่งข้อมูล}
- ถ้าคุณสงสัยว่าคุณติดเชื้อก็ควรปรึกษาแพทย์
- การติดเชื้อทริโคโมแนสสามารถแพร่กระจายไปยังคู่นอนได้ ถ้าคุณสงสัยว่าคุณติดเชื้อทริโคโมแนสก็ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษา
6
รับรู้ว่าความเสี่ยงของภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียเพิ่มขึ้นจากการทำกิจกรรมบางอย่าง. ผู้หญิงหลายคนน่าจะเคยมีภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย มันไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน อะไรก็ตามที่รบกวนสมดุลปกติของเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดสามารถทำให้เกิดภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียได้ ความเสี่ยงของภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียเพิ่มขึ้นจาก:^{[6]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้US Office on Women's Healthไปที่แหล่งข้อมูล}
- การมีคู่นอนใหม่
- การมีคู่นอนหลายคน
- การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย
- การสวนช่องคลอด
- การใช้ห่วงคุมกำเนิดเพื่อคุมกำเนิด
7
รับรู้ว่าอะไรที่เพิ่มความเสี่ยงของเชื้อราในช่องคลอด. เชื้อราในช่องคลอดหรือแคนดิแดสเพิ่มขึ้นโดย:^{[7]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- การสวมกางเกงในที่คับหรือไม่ใช่ผ้าฝ้าย กางเกงในแบบนี้สามารถเพิ่มอุณหภูมิ ระดับความชื้น และทำให้ระคายเคืองได้
- ระบบภูมิคุ้มกันที่บกพร่อง
- การสวนช่องคลอดและ/หรือการใช้สเปรย์ที่มีน้ำหอมสำหรับจุดซ่อนเร้น
- การบาดเจ็บของช่องคลอด สิ่งนี้อาจจะเป็นรอยขีดข่วนในช่องคลอดที่เกิดจากการสอดใส่ผ้าอนามัยแบบสอดหรือวัตถุอื่น หรือระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง
8
รับรู้ว่าการติดเชื้อในช่องคลอดเกิดขึ้นได้อย่างไร. ประเภทของการติดเชื้อเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ
- ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียไม่มีสาเหตุที่เฉพาะเจาะจงแต่อาจเกิดจากปริมาณที่ไม่สมดุลของเชื้อแบคทีเรีย
- เชื้อราในช่องคลอดอาจเกิดหลังจากการใช้ยาปฏิชีวนะ ยาปฏิชีวนะทำลายเชื้อแบคทีเรียปกติซึ่งทำให้เชื้อราเข้ามาบุกรุก การติดเชื้อราในช่องคลอดอาจจะเป็นอาการแทรกซ้อนของโรคเบาหวานหรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนรวมถึงรอบเดือนปกติหรือการคุมกำเนิด
9
ปรึกษาแพทย์. คุณต้องได้รับการวินิจฉัยโรคที่ถูกต้องจากแพทย์ก่อนที่จะเริ่มรักษา การรักษาการติดเชื้อในช่องคลอดประเภทต่างๆ นั้นแตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการติดเชื้อ
- เมื่อไปพบแพทย์ แพทย์จะเก็บตัวอย่างของตกขาว ปัสสาวะ และทำการตรวจช่องคลอด การตรวจอาจจะไม่สบายตัวแต่จะจบลงอย่างรวดเร็ว แพทย์จะตรวจตกขาวเพื่อหาเชื้อแบคทีเรียเชื้อราหรือเชื้ออื่นๆ เช่น ทริโคโมแนส
- คุณต้องได้รับการวินิจฉัยที่ตรงจุดจากแพทย์ แนวทางการรักษาการติดเชื้อในช่องคลอดแตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับประเภทของการติดเชื้อ
ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียที่ไม่ได้รับการรักษาหรือรักษาไม่ถูกต้องอาจจะนำไปสู่อาการแทรกซ้อน เช่น โรคอุ้งเชิงกรานอักเสบ การคลอดก่อนกำหนดและทารกมีน้ำหนักตัวน้อย และทำให้ผู้หญิงเสี่ยงต่อการติดโรคทางเพศสัมพันธ์เพิ่มขึ้น เช่น เชื้อเอชไอวี หนองในเทียมและหนองในแท้ การติดเชื้อทริโคโมแนสที่ไม่ได้รับการรักษาหรือรักษาไม่ถูกต้องอาจจะทำให้คุณมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากการติดเชื้อเอชไอวี^{[8]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้Centers for Disease Control and Preventionไปที่แหล่งข้อมูล}
11
ปรึกษาแพทย์ทันทีถ้าคุณมีอาการรุนแรง. ถ้าคุณเลือกที่จะใช้การรักษาแบบธรรมชาติก็ควรปรึกษาแพทย์ถ้า:^{[9]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- อาการไม่ดีขึ้นหลังจาก 3 วัน
- มีไข้
- ปัสสาวะขัดหรือเจ็บ
- เจ็บเมื่อทำกิจกรรมทางเพศ
- เจ็บหน้าท้อง
- ปริมาณหรือรูปร่างของตกขาวเพิ่มหรือเปลี่ยนแปลง เช่น (กลิ่นหรือสี)
- มีผื่นขึ้นตามร่างกาย
12
บอกแพทย์ว่าคุณวางแผนที่จะรักษาด้วยวิธีแบบธรรมชาติ. คุณควรให้แพทย์วินิจฉัยโรคเมื่อเริ่มมีอาการ สิ่งนี้เป็นเพราะการรักษาด้วยวิธีแบบธรรมชาติบางวิธีได้ผลดีกว่ากับภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียหรือแคนดิดาส์แต่บางวิธีอาจจะไม่ได้ผล คุณยังสามารถใช้การรักษาเหล่านี้ควบคู่กับยาที่แพทย์จ่ายให้ มันไม่ขัดขวางการทำงานของยาปฏิชีวนะแบบทาน
- บอกแพทย์ว่าคุณกำลังจะใช้วิธีเหล่านี้ ถ้าคุณหาย แพทย์ของคุณสามารถแนะนำวิธีเหล่านี้ให้กับผู้อื่นได้
13
เตือนคู่นอนของคุณถ้าคุณสงสัยว่าจะติดเชื้อทริโคโมแนส. เชื้อทริโคโมแนสสามารถติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์เพราะฉะนั้นถ้าคุณตรวจพบเชื้อทริโคโมแนสก็ควรบอกคู่นอนเพื่อให้พวกเขารักษาอาการนี้เช่นกัน^{[10]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง},^{[11]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าคุณติดเชื้อทริโคโมแนสก็ไม่ควรใช้วิธีแบบธรรมชาติ

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 6:

การสวนเพื่อรักษาอาการติดเชื้อในช่องคลอด

ดาวน์โหลดบทความ

1
รับรู้ความเสี่ยงของการสวน. โดยทั่วไปการสวนไม่เป็นที่แนะนำเพราะช่องคลอดสามารถทำความสะอาดตัวเองได้ แต่คุณสามารถทำการสวนได้เป็นบางครั้งถ้าคุณมีภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย อย่างไรก็ตาม คุณต้องรับรู้ว่าการดันเชื้อแบคทีเรียไปยังปากมดลูกและมดลูกทำให้เกิดความเสี่ยงของการเป็นโรคอุ้งเชิงกรานอักเสบและการติดเชื้อที่รุนแรงประเภทอื่นๆ
- แพทย์หลายคนเชื่อว่าการสวนจะเพิ่มความเสี่ยงของภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย^{[12]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงJenny L. Martino and Sten H. Vermund. Vaginal Douching: Evidence for Risks or Benefits to Women's Health. Epidemiol Rev. 2002; 24(2): 109–124.}
2
ลองใช้อุปกรณ์การสวนที่ซื้อจากร้านค้า. การสวนคือขั้นตอนของการชะล้างหรือทำความสะอาดด้านในช่องคลอดด้วยน้ำหรือส่วนผสมของเหลวอื่นๆ คุณสามารถซื้ออุปกรณ์การสวนจากร้านขายยาทั่วไป อุปกรณ์เหล่านี้มาพร้อมกับขวดที่มีคอโค้งหรือถุง
- เริ่มด้วยการอาบน้ำหรือแช่อ่างอาบน้ำ ผู้หญิงส่วนใหญ่คิดว่าการยกขาข้างหนึ่งวางบนพื้นผิว เช่น ขอบอ่างอาบน้ำจะช่วยให้ขั้นตอนนี้ง่ายขึ้น ระวังการลื่นล้ม
- จากนั้นใช้มือข้างหนึ่งเปิดแคม (ริมขอบด้านใดด้านหนึ่งของช่องคลอด) และหาช่องคลอด
- ใช้มืออีกข้างหนึ่งถือขวดหรือถุง
- ค่อยๆ บีบอุปกรณ์สวนขึ้นด้านบนของช่องคลอดผ่านทางท่อหรือหัวฉีด
- ส่วนผสมจะไหลกลับออกมาทางช่องคลอด
3
ผสมน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์กับน้ำเพื่อสวน. เป็นที่เชื่อกันว่าน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์สามารถช่วยฟื้นฟูค่า pH ของช่องคลอดได้^{[13]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} มันสามารถใช้เพื่อลดภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ซื้ออุปกรณ์การสวนจากร้านขายยา คุณจะต้องใช้เครื่องมือที่อยู่ในชุดอุปกรณ์หรือคุณสามารถใช้อุปกรณ์สวนทวารซึ่งเป็นอุปกรณ์เกี่ยวกับการสวน
- ผสมน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ 2 ช้อนโต๊ะกับน้ำกรองอุ่น 1 ถ้วย อย่าใช้น้ำส้มสายชูใสเพราะว่าเป็นกรดมากเกินไป
- ทำการสวน 2 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 4 วันจากนั้นจึงสวนวันละครั้งจนกว่าอาการจะหายไป^{[14]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
4
สวนด้วยไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์. ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อและสามารถกำจัดสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ^{[15]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ผสมไฮโดรเจนเพอออกไซด์ 3% กับน้ำกลั่นปริมาณเท่ากันและสวนด้วยส่วนผสมนี้ ใช้น้ำกลั่นเพราะน้ำต้องสะอาดและไม่มีเชื้อแบคทีเรีย
- ทำการสวน 2 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 4 วันจากนั้นจึงสวนวันละครั้งจนกว่าอาการจะหายไป ^{[16]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงCardone A, Zarcone R, Borrelli A, Di Cunzolo A, Russo A, Tartaglia E. Utilisation of hydrogen peroxide in the treatment of recurrent bacterial vaginosis. Minerva Ginecol. 55(6), 483–492 (2003).}
5
สวนด้วยน้ำมันออริกาโนสกัดและน้ำ. ใช้น้ำมันออริกาโน่สกัด 2-3 หยดผสมน้ำกลั่น 8 ออนซ์ ทำวิธีนี้ 2 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ทำซ้ำ 2 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 4 วันจากนั้นจึงสวนวันละครั้งจนกว่าอาการจะหายไป ^{[17]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- สำหรับเชื้อราในช่องคลอด สวนด้วยน้ำมันทีทรีสกัด 2-3 เยอะผสมน้ำกลั่น 8 ออนซ์ ทำวิธีนี้ 2 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ทำซ้ำ 2 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 4 วันจากนั้นจึงสวนวันละครั้งจนกว่าอาการจะหายไป ห้ามบริโภคน้ำมันทีทรี ^{[18]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- คุณยังสามารถหยดน้ำมัน 2-3 หยดบนผ้าอนามัยแบบสอดและสอดเข้าไปในช่องคลอด ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง
- ห้ามใช้น้ำมันสกัดถ้าคุณตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หรือกำลังจะตั้งครรภ์ในไม่ช้า

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 6:

การเหน็บทางช่องคลอด

ดาวน์โหลดบทความ

1
ใช้โยเกิร์ตรสธรรมชาติ. มันฟังดูเลอะเทอะและมันเลอะเทอะจริงๆ แต่การเหน็บโยเกิร์ตในช่องคลอดเป็นวิธีสร้างแบคทีเรียที่ไม่เป็นอันตรายในช่องคลอดอีกครั้งซึ่งอาจจะสามารถกำจัดพยาธิได้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ระบุสิ่งนี้ ^{[19]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงDaniele M, Pascual L, Barberis L. Curative effect of the probiotic strain Lactobacillus fermentum L23 in a murine model of vaginal infection by Gardnerella vaginalis. Letters In Applied Microbiology [serial online]. July 2014;59(1):93-98.}, ^{[20]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงCooper NA, Moores R. A review of the literature regarding nutritional supplements and their effect on vaginal flora and preterm birth.Curr Opin Obstet Gynecol. 2014 Dec;26(6):487-92.}, ^{[21]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงCardone A, Zarcone R, Borrelli A, Di Cunzolo A, Russo A, Tartaglia E. Utilisation of hydrogen peroxide in the treatment of recurrent bacterial vaginosis. Minerva Ginecol. 55(6), 483–492 (2003).}, ^{[22]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงSobel J. Is There a Protective Role for Vaginal Flora?. Current Infectious Disease Reports [serial online]. October 1999;1(4):379-383.}
- ใช้โยเกิร์ตรสธรรมชาติและหลอดดูดยาขนาด 10 มิลลิลิตร (คุณสามารถซื้อหลอดดูดยาได้จากร้านขายยา)
- เติมหลอดดูดยาด้วยโยเกิร์ตรสธรรมชาติและสอดใส่ในช่องคลอดจากนั้นจึงฉีดเข้าไปทุกคืน
- เข้านอนตามปกติแต่ใส่ผ้าอนามัย ส่วนที่เลอะเทอะจะไหลออกมาในตอนเช้าเมื่อคุณตื่น คุณควรใส่แผ่นอนามัยระหว่างวัน
- ทำซ้ำทุกคืนจนกว่าอาการจะหายไป
- คุณยังสามารถใช้ผ้าอนามัยแบบสอดชุบโยเกิร์ตแต่ผ้าอนามัยแบบสอดที่ไม่มีตัวสอดใส่จะทำให้คุณสอดใส่ได้ยากและไม่สบายตัว
2
เติมแบคทีเรียที่ดีด้วยอาหารเสริมโปรไบโอติกส์. โปรไบโอติกส์จะช่วยฟื้นฟูแบคทีเรียที่ดีในร่างกาย^{[23]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงCooper NA, Moores R. A review of the literature regarding nutritional supplements and their effect on vaginal flora and preterm birth.Curr Opin Obstet Gynecol. 2014 Dec;26(6):487-92.}, ^{[24]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงCardone A, Zarcone R, Borrelli A, Di Cunzolo A, Russo A, Tartaglia E. Utilisation of hydrogen peroxide in the treatment of recurrent bacterial vaginosis. Minerva Ginecol. 55(6), 483–492 (2003).}, ^{[25]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงSobel J. Is There a Protective Role for Vaginal Flora?. Current Infectious Disease Reports [serial online]. October 1999;1(4):379-383.}
- แคปซูลโปรไบโอติกส์อาจจะมีราคาแพงและหาได้ตามร้านขายของและร้านขายยาส่วนใหญ่ใช้อาหารเสริมแบบเจลแคปเพราะอาหารเสริมเม็ดแข็งอาจจะไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ซื้อยี่ห้อที่มี Bifidobacterium longum Lactobacillus rhamnosus Bifidobacterium infantis Lactobacillus acidophilus หรือ Lactobacillus reuteri HA-188
- ไม่มีหลักฐานมากมายที่แสดงว่าอาหารเสริมโปรไบโอติกส์หรือในโยเกิร์ตสามารถช่วยป้องกันเชื้อทริโคโมแนสได้
ใช้เจลสำหรับโรคปริทันต์ยี่ห้อ Curasept ทารอบๆ ช่องคลอด Curasept มีตัวยา Cyclohexadiene 0.5% ซึ่งเป็นยาฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพในการรักษาภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ^{[26]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
4
ลองใช้กลีบกระเทียม. คุณสามารถใส่กลีบกระเทียมที่ปอกเปลือกทั้งหมดในช่องคลอดและมีรายงานว่ากลีบกระเทียมสามารถรักษาภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียได้ ^{[27]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงYoshida H, Katsuzaki H, Suzuki A, et al. Antimicrobial activity of the thiosulfinates isolated from oil-macerated garlic extract. Bioscience, Biotechnology, And Biochemistry [serial online]. March 1999;63(3):591-594.} สิ่งนี้เป็นเพราะกระเทียมมีอัลลิซินซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะตามธรรมชาติที่ต่อสู้กับภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
- ปอกเปลือกกระเทียม จิ้มกระเทียมเป็นรูเพื่อให้อัลลิซินออกมาได้ ใส่กลีบกระเทียมในช่องคลอดของคุณ เปลี่ยนกลีบกระเทียมทุกๆ 4 ชั่วโมงเป็นเวลา 7 วันหรือจนกว่าอาการจะหายไป ^{[28]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงVan Kessel K, Assefi N, Marrazzo J, Eckert L.Common complementary and alternative therapies for yeast vaginitis and bacterial vaginosis: a systematic review.Obstet Gynecol Surv. 2003 May;58(5):351-8.}
5
รักษาเชื้อราด้วยยาเหน็บกรดบอริก. กรดบอริกอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองดังนั้นคุณไม่ควรทำยาเหน็บด้วยตัวเอง อย่านำไปใช้กับช่องคลอดโดยตรง มองหา Vitanica Yeast Arrest ที่พบในร้านจำหน่ายอาหารเพื่อสุขภาพหลายแห่ง ผลิตภัณฑ์นี้เป็นสูตรพิเศษสำหรับเชื้อราในช่องคลอด ^{[29]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงVan Kessel K, Assefi N, Marrazzo J, Eckert L.Common complementary and alternative therapies for yeast vaginitis and bacterial vaginosis: a systematic review.Obstet Gynecol Surv. 2003 May;58(5):351-8.}
- ทำตามคำแนะนำของผู้ผลิตเพื่อการใช้งานที่เหมาะสม
- คุณต้องไม่มีออรัลเซ็กซ์ในขณะที่ใช้กรดบอริกเพราะกรดบอริกเป็นพิษต่อคู่นอนของคุณ

วิธีการ 4

วิธีการ 4 ของ 6:

การรักษาการติดเชื้อในช่องคลอดถ้าวิธีพื้นบ้านไม่ได้ผล

ดาวน์โหลดบทความ

เจลและครีมส่วนใหญ่สำหรับเชื้อราในช่องคลอดที่คุณสามารถซื้อได้ตามร้านขายยาเกือบจะมีประสิทธิภาพเท่ากับยาต้านเชื้อรา เช่น Monistat และ Gyne-Lotrimin ใช้ตามคำแนะนำ ถ้าคุณมีการติดเชื้อซ้ำก็ให้ใช้ 7 วัน^{[30]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
2
ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการติดเชื้อในช่องคลอดซ้ำหรือไม่หาย. ถ้าคุณยังติดเชื้อในช่องคลอดหรือไม่หายก็ควรไปพบแพทย์ เชื้อราที่เกิดขึ้นซ้ำอาจจะเป็นสัญญาณของโรคที่รุนแรงยิ่งขึ้น เช่น เบาหวาน มะเร็ง หรือติดเชื้อเอชไอวี-เอดส์ ^{[31]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าอาการของคุณไม่ดีขึ้นหลังจาก 3 วันก็ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการใช้ยา คุณควรพบแพทย์ถ้าอาการของคุณกลับมาหรือแย่ลง
- แพทย์อาจจะจ่ายยาต้านเชื้อราเพื่อระงับการติดเชื้อ คุณอาจจะต้องใช้ยานี้ทุกสัปดาห์หรือทุกเดือนเป็นเวลา 6 เดือนถึง 1 ปี^{[32]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
3
ใช้ยาปฏิชีวนะสำหรับภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อทริโคโมแนส. การรักษาจะขึ้นอยู่กับประเภทของการติดเชื้อ ความเข้มข้น หรือความรุนแรงของโรคและระยะเวลาที่คุณติดเชื้อ แพทย์จะจ่ายยาปฏิชีวนะสำหรับภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อทริโคโมแนส แต่ยาปฏิชีวนะไม่มีประสิทธิภาพในการรักษาเชื้อรา
- โดยทั่วไปแพทย์จะรักษาภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียด้วยเมโทรนิดาโซลหรือคลินดาไมซิน ยาเหล่านี้ปลอดภัยถ้าคุณกำลังตั้งครรภ์
  - โดยปกติแล้วคู่นอนชายจะไม่ต้องรักษา แต่ต้องบอกคู่นอนหญิงและทำการตรวจเชื้อ ^{[33]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้US Office on Women's Healthไปที่แหล่งข้อมูล}
- โดยทั่วไปแพทย์จะรักษาเชื้อทริโคโมแนสด้วยเมโทรนิดาโซลหรือทินิดาโซลเพียงโดสเดียว ยาเหล่านี้ปลอดภัยถ้าคุณกำลังตั้งครรภ์^{[34]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้Centers for Disease Control and Preventionไปที่แหล่งข้อมูล}
  - เชื้อทริโคโมแนสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ดังนั้นทำให้แน่ใจว่าคู่นอนของคุณได้รับการตรวจและรอ 7 วันหลังการรักษาก่อนมีเพศสัมพันธ์ ^{[35]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้Centers for Disease Control and Preventionไปที่แหล่งข้อมูล}
4
รักษาเชื้อราในช่องคลอดที่ดื้อยาด้วยครีมต้านเชื้อรา. เชื้อราในช่องคลอดสามารถรักษาได้ด้วยครีมต้านเชื้อราขี้ผึ้งและยาเหน็บ
- ตัวอย่างของการรักษา ได้แก่ บูโตโคนาโซล (Gynazole-1) โคลทิมาโซล (Gyne-Lotrimin) มิโคนาโซล (Monistat 3) และเทอร์โคนาโซล (Terazol 3) แพทย์สามารถจ่ายยาให้หรือมีจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไป
5
รักษาเชื้อราที่ยืดเยื้อด้วยฟลูโคนาโซล. เชื้อราในช่องคลอดสามารถรักษาได้ด้วยยาฟลูโคนาโซล (Diflucan) เพียงโดสเดียว^{[36]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้Mayo Clinicไปที่แหล่งข้อมูล} เชื้อราที่เกิดซ้ำหรือซับซ้อนกว่านั้นอาจจะต้องรักษาด้วยยาในปริมาณที่สูงขึ้นหรือคุณอาจจะต้องใช้ยาเป็นระยะเวลานาน
- โดยส่วนใหญ่คู่นอนของคุณจะไม่ต้องได้รับการรักษา นอกเสียจากว่าคุณมีเชื้อราที่เกิดซ้ำ ^{[37]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้Mayo Clinicไปที่แหล่งข้อมูล}
6
ใช้การรักษาที่ระมัดระวังถ้าคุณตั้งครรภ์. ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์อาจจะมีเชื้อราในช่องคลอดซึ่งต้องได้รับการรักษาก่อนการคลอดบุตร ถ้าคุณยังมีเชื้อราเมื่อคลอดบุตร เชื้อราอาจจะแพร่กระจายไปยังทารกทำให้เป็นโรคปากอักเสบเชื้อราได้^{[38]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการรักษาการติดเชื้อในช่องคลอดระหว่างช่วงนี้

วิธีการ 5

วิธีการ 5 ของ 6:

การป้องกันการติดเชื้อในช่องคลอด

ดาวน์โหลดบทความ

1
ทานโปรไบโอติกส์เพื่อป้องกันภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย. คุณสามารถทานโปรไบโอติกส์ (ทั้งในรูปแบบแคปซูลหรือในโยเกิร์ต) โปรไบโอติกส์มีประโยชน์ในการป้องกันมากกว่าการรักษาภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ถ้าคุณมีแนวโน้มที่จะเป็นภาวะซ่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียก็ควรทานโยเกิร์ต 1 หน่วยบริโภคทุกวัน (ประมาณ 150 กรัม) ที่มี 4-5 พันล้านหน่วย CFU (หน่วยนับปริมาณจุลินทรีย์) คุณต้องเลือกโยเกิร์ตที่มีข้อมูลนี้อยู่บนฉลาก
- คุณยังสามารถทานแคปซูลโปรไบโอติกส์ตามคำแนะนำของผู้ผลิต ผู้เชี่ยวชาญไม่ทราบว่าเชื้อแบคทีเรียในโยเกิร์ตหรืออาหารเสริมโปรไบโอติกส์สามารถเข้าสู่ช่องคลอดได้อย่างไร แต่มีหลักฐานว่าพวกมันสามารถทำได้^{[39]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงShalev E, Battino S, Weiner E, Colodner R, Keness Y. Ingestion of yogurt containing Lactobacillus acidophilus compared with pasteurized yogurt as prophylaxis for recurrent candidal vaginitis and bacterial vaginosis. Archives of Family Medicine. 1996;5(10):593–596}
2
ล้างบริเวณจุดซ่อนเร้นอย่างอ่อนโยน. ใช้สบู่อ่อนๆ และน้ำอุ่นเพื่อชำระล้างบริเวณจุดซ่อนเร้น เช็ดร่างกายให้แห้งด้วยผ้าขนหนูสะอาดหรือตากลม คุณยังสามารถทำจุดซ่อนเร้นให้แห้งด้วยไดร์เป่าผมโหมดลมเย็น ^{[40]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้Cleveland Clinicไปที่แหล่งข้อมูล}
- หลีกเลี่ยงการเกาหรือถูบริเวณจุดซ่อนเร้น ลดการระคายเคืองให้มากที่สุดด้วยการไม่สัมผัสบริเวณนั้น อย่าเกาหรือถูบริเวณจุดซ่อนเร้น
3
สวมเฉพาะกางเกงในสีขาวที่ทำจากผ้าฝ้าย 100% เท่านั้น. ผ้าฝ้ายช่วยให้บริเวณจุดซ่อนเร้นเย็นสบายกางเกงในสีขาวช่วยหลีกเลี่ยงสารที่ทำให้ระคายเคืองในสีย้อมผ้า หลีกเลี่ยงผ้าไนลอน อะซิเตท และผ้าสังเคราะห์ทุกชนิด
- หลีกเลี่ยงการสวมกางเกงในแบบจีสตริงเพราะอาจจะทำให้ระคายเคืองได้
4
ใช้ผงซักฟอกอ่อนๆ สำหรับกางเกงใน. ใช้ผงซักฟอกอ่อนๆ และไม่มีน้ำหอม (เช่น Woolite) สำหรับทำความสะอาดกางเกงใน อย่าใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มหรือแผ่นปั่นแห้ง ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีสารเคมีที่อาจจะทำให้ระคายเคืองได้
- ซักกางเกงในด้วยน้ำเปล่า 2 ครั้งเพื่อให้มั่นใจว่าผงซักฟอกออกหมด สารตกค้างจากผงซักฟอกอาจจะทำให้เกิดการระคายเคือง
ใช้กระดาษทิชชูสีขาวอ่อนนุ่ม คุณต้องเช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลังเพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อจากแบคทีเรียในอุจจาระ
6
ใช้ผ้าอนามัยแบบสอดระหว่างวัน. ใช้ผ้าอนามัยแบบสอดเมื่อมีประจำเดือนแทนที่จะใช้ผ้าอนามัย ห้ามใช้ผ้าอนามัยที่มีน้ำหอมเพราะอาจจะทำให้เกิดอาการท็อกซิกช๊อก เปลี่ยนผ้าอนามัยแบบสอดทุกๆ 2-3 ชั่วโมงโดยขึ้นอยู่กับปริมาณของประจําเดือน
- อย่าใช้ผ้าอนามัยแบบสอดข้ามคืน คุณควรใช้ผ้าอนามัยแบบธรรมดา
ถุงน่องทำให้อากาศไม่ถ่ายเทบริเวณจุดซ่อนเร้น มันยังกักเก็บความร้อนและความชื้นซึ่งสร้างสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับแบคทีเรีย เชื้อรา และอื่นๆ คุณควรสวมไนลอนที่มีส่วนผสมของผ้าฝ้าย
8
หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ระคายเคือง. หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์สำหรับสุขลักษณะของผู้หญิงซึ่งอาจจะทำให้จุดซ่อนเร้นระคายเคืองได้ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ได้แก่ ผ้าอนามัยที่มีน้ำหอม สเปรย์และผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายสำหรับผู้หญิง ผลิตภัณฑ์ใดๆ ก็ตามที่มีส่วนผสมของวาสลีน น้ำมัน หรือไขมัน
- หลีกเลี่ยงการแช่อ่างฟองสบู่ น้ำมันอาบน้ำ ผง หรือแป้ง โดยเฉพาะแป้งซึ่งมีส่วนผสมของแป้ง แป้งข้าวโพดเป็นอาหารของเชื้อจุลินทรีย์

วิธีการ 6

วิธีการ 6 ของ 6:

คุณควรลองวิธีเหล่านี้เมื่อไหร่?

ดาวน์โหลดบทความ

1
รักษาการติดเชื้อในช่องคลอดหลังจากแพทย์วินิจฉัย. ถึงแม้ว่าการติดเชื้อในช่องคลอดบางชนิดสามารถรักษาได้โดยไม่ต้องใช้ยาแต่คุณต้องปรึกษาสูตินารีแพทย์หรือแพทย์ทั่วไปก่อนที่จะทำการรักษาใดๆ วิธีพื้นบ้านที่มีประสิทธิภาพอาจจะแตกต่างกันตามประเภทและความรุนแรงของการติดเชื้อที่คุณมี
- เนื่องจากมีอาการบางอย่างที่พบบ่อยในการติดเชื้อในช่องคลอดหลายประเภท การวินิจฉัยโรคของตัวเองจึงทำได้ยากและมีความเสี่ยง การวินิจฉัยอย่างเป็นทางการจากแพทย์เป็นวิธีเดียวที่ปลอดภัยในการระบุประเภทและความรุนแรงของการติดเชื้อในช่องคลอดที่คุณมี
- บอกแพทย์ถ้าหากคุณต้องการใช้การรักษาแบบธรรมชาติมากกว่า แพทย์บางคนจะสนับสนุนความต้องการของคุณและสามารถแนะนำการรักษาที่คุณควรลองตามความต้องการของคุณ
- ตระหนักว่าเชื้อทริโคโมแนสสามารถติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การรักษาแบบธรรมชาติจะไม่สามารถรักษาการติดเชื้อทริโคโมแนสได้ คุณจะต้องใช้ยารักษา ^{[41]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
2
ลองใช้การรักษาแบบพื้นบ้านถ้าคุณไม่ได้ตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร. ถึงแม้ว่าการรักษาแบบธรรมชาติปลอดภัยสำหรับผู้หญิงที่มีภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียหรือติดเชื้อราแต่คุณควรหลีกเลี่ยงการรักษาแบบพื้นบ้านส่วนใหญ่ถ้าคุณกำลังตั้งครรภ์ อาจจะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร การรักษาอาจจะเป็นอันตรายต่อทารกได้
- เพราะเหตุนี้ ถ้าคุณติดเชื้อในช่องคลอดระหว่างตั้งครรภ์ก็ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อราในช่องคลอดที่สามารถแพร่กระจายไปยังทารกในระหว่างการคลอดและทำให้เป็นโรคปากอักเสบเชื้อราได้ ^{[42]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
3
ใช้การรักษาที่เหมาะสมกับอาการ. การรักษาบางประเภทได้ผลกับการติดเชื้อในช่องคลอดบางประเภทเท่านั้น คุณควรลองวิธีแบบธรรมชาติที่ใช้สำหรับประเภทของการติดเชื้อที่คุณมีเพื่อหลีกเลี่ยงอาการแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้น; อย่าใช้วิธีแบบธรรมชาติที่ใช้สำหรับประเภทการติดเชื้อในช่องคลอดแบบอื่นนอกเสียจากว่าเป็นคำแนะนำของแพทย์
- ตระหนักว่าคุณต้องไม่สวนช่องคลอดบ่อยจนเกินไปถ้าคุณมีภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย สิ่งนี้ไม่เหมาะสำหรับการติดเชื้อในช่องคลอดที่เกิดจากเชื้อราหรือเชื้อทริโคโมแนส คุณควรใช้เจลสำหรับโรคปริทนต์และกลีบกระเทียมสำหรับภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น
- ในทางกลับกัน การเหน็บโยเกิร์ตและโปรไบโอติกส์อาจจะสามารถรักษาเชื้อราและภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียได้^{[43]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้Go Ask Aliceไปที่แหล่งข้อมูล}
- ยาเหน็บกรดบอริกเหมาะสำหรับการติดเชื้อราเท่านั้น
4
ลองใช้วิธีแบบธรรมชาติถ้าคุณสามารถจำกัดหรืองดเว้นกิจกรรมทางเพศระหว่างการรักษาได้. การงดเว้นกิจกรรมทางเพศอาจจะไม่จำเป็นสำหรับการรักษาทุกชนิดแต่คุณควรปรึกษาแพทย์หรือทำการค้นคว้าเพื่อดูว่าการรักษาที่คุณใช้ปลอดภัยสำหรับคุณและคู่นอนก่อนที่จะทำกิจกรรมทางเพศระหว่างการรักษาหรือไม่
- ใช้ความระมัดระวังโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณใช้ยาเหน็บกรดบอริก กรดบอริกเป็นพิษเมื่อกลืนกิน การมีเพศสัมพันธ์ทางปากจึงเป็นอันตรายอย่างมาก ^{[44]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
5
ใช้การรักษาแบบธรรมชาติในขณะที่ได้ผล. การรักษาแบบธรรมชาติสามารถรักษาอาการติดเชื้อในช่องคลอดได้ในบางกรณี แต่ถ้าอาการของคุณไม่ตอบสนองต่อการรักษาที่ต่อเนื่องก็ควรปรึกษาแพทย์อีกครั้ง เป็นไปได้ว่าประเภทและความรุนแรงของการติดเชื้อของคุณต้องรักษาด้วยยาเท่านั้น
- การติดเชื้อในช่องคลอดโดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อราทีี่่จะไม่หายไปและอาจจะกลับมานั้นอาจจะเป็นเพราะสาเหตุที่ร้ายแรงกว่าเดิม ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางชนิด ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่เป็นแบบนี้เสมอไปแต่คุณควรลดโอกาสด้วยการให้แพทย์ทำการตรวจ ^{[45]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าอาการของคุณแย่ลงหรือไม่ดีขึ้นหลังจากการรักษา 3 วันก็ควรปรึกษาแพทย์
- คุณต้องกำจัดเชื้อในช่องคลอดสิ้นเชิงอย่างสมบูรณ์ คุณอาจจะมีภาวะแทรกซ้อนในอนาคตรวมถึงโรคกระดูกเชิงกรานอักเสบ ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการคลอดก่อนกำหนด และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ถ้าไม่ได้รับการรักษา แม้ว่าคุณคิดว่าคุณรักษาการติดเชื้อตามธรรมชาติแล้วแต่ก็ควรให้แพทย์ทำการตรวจอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

คำเตือน

วิธีแบบธรรมชาติไม่ได้ผลกับทุกคน คุณควรใช้ยาซึ่งมีอัตราความสำเร็จในการรักษา 80-90% ความสำเร็จในการรักษาโดยวิธีแบบธรรมชาติยังไม่ชัดเจน
ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ไม่จำเป็นต้องลองใช้วิธีรักษาแบบธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียสามารถนำไปสู่การคลอดก่อนกำหนดได้