วิธีการ รักษาภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำ

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

ร่างกายของคุณนั้นใช้โพแทสเซียมในทุกๆ อย่างตั้งแต่การรักษาสมดุลของของเหลวเพื่อรักษาการทำงานของสมองและหัวใจอย่างที่ควรจะเป็น[1] แม้ว่าจะมีอาหารที่อุดมโพแทสเซียมมากมาย หลายคนก็อาจจะได้รับโพแทสเซียมในปริมาณน้อยกว่าครึ่งจากปริมาณโพแทสเซียมที่ควรได้รับต่อวัน[2] การทำความเข้าใจอาการของภาวะขาดโพแทสเซียมและรู้เกี่ยวกับวิธีที่ปลอดภัยที่สุดที่จะเสริมปริมาณโพแทสเซียมที่ควรได้รับต่อวัน คุณก็จะสามารถรักษาภาวะโพแทสเซียมต่ำด้วยตนเองได้อย่างง่ายๆ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

รู้อาการของภาวะโพแทสเซียมต่ำ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ดูอาการของระดับโพแทสเซียมต่ำ.
    การมีโพแทสเซียมในกระแสเลือดมากไปหรือน้อยไปนั้นจะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพแทรกซ้อนได้ การมีโพแทสเซียมในระดับต่ำนั้นเรียกว่าโรค Hypokalemia[3] ผลจากภาวะโพแทสเซียมต่ำนั้นได้แก่อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง การเต้นของหัวใจผิดปกติ และความดันเลือดสูงขึ้นเล็กน้อย[4] อาการอื่นๆ นั้นได้แก่[5]
    • ท้องผูก
    • อ่อนแรง
    • กล้ามเนื้อกดเกร็ง
    • ปวดแปลบที่กล้ามเนื้อหรือชา
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ดูสาเหตุทั่วไปของระดับโพแทสเซียมต่ำ.
    ปัญหาสุขภาพที่พบได้ทั่วไปหรือที่ไม่ค่อยได้พบกันนั้นสามารถทำให้ระดับของโพแทสเซียมต่ำลงได้ ที่คุณมีระดับโพแทสเซียมต่ำนั้นอาจจะเป็นเพราะสาเหตุต่อไปนี้[6]
    • ใช้ยาปฏิชีวนะ
    • มีปัญหาอาเจียนหรือท้องเสีย
    • มีเหงื่อไหลจำนวนมาก
    • ใช้ยาระบายมากไป
    • เป็นโรคไตเรื้อรัง
    • ใช้ยาเจือจางเลือด (water pills) เพื่อรักษาโรคหัวใจล้มเหลวหรือความดันเลือดสูง
    • ป่วยเป็นโรคการกินผิดปกติ
    • มีระดับแมกนีเซียมต่ำ
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ดูสัญญาณของภาวะโพแทสเซียมสูง.
    Hyperkalemia นั้นเป็นภาวะที่มีโพแทสเซียมสูงไปในกระแสเลือด[7] ภาวะนี่นั้นมีอาการอยู่ 2-3 อย่าง คุณอาจจะสังเกตว่าคุณมีอาการคลื่นไส้ ชีพจรต่ำหรือผิดปกติ การเต้นของหัวใจผิดปกติจนถึงขั้นล้มเหลว[8] หากคุณมีอาการเหล่านี้เพราะการทานอาหารที่มีโพแทสเซียมเพิ่มขึ้น คุณควรที่จะไปพบแพทย์ทันที
    • ปกติแล้วไตจะช่วยขจัดโพแทสเซียมส่วนเกินผ่านทางปัสสาวะ ซึ่งก็ทำให้ภาวะมีโพแทสเซียมสูงเกินนั้นเป็นสิ่งที่พบได้ค่อนข้างปกติในผู้ที่เป็นโรคไตหรือมีอาการอื่นๆ รวมถึงผู้ที่เป็นโรคแอดดิสัน (Addison’s disease) ผู้ที่ใช้ยาความดันเลือด ผู้ที่เป็นโรคโลหิตจางจากเม็ดเลือดแดงแตก และผู้ที่มีเนื้องอกบางชนิด[9]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

เพิ่มโพแทสเซียมมากขึ้นในการทานอาหาร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ไปพบแพทย์.
    ถ้าคุณสงสัยว่าคุณอาจจะมีภาวะโพแทสเซียมต่ำ คุณควรไปพบแพทย์ก่อนที่จะลองใช้อาหารเสริมหรือวิธีอื่นๆ เพื่อเสริมปริมาณโพแทสเซียมที่ได้รับ เมื่อลองเปลี่ยนการทานอาหารจากการทานแบบเดิม เป็นเรื่องง่ายที่คุณจะทานมันมากเกินไปและจบลงด้วยการได้รับโพแทสเซียมมากเกินไป ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าเราควรได้รับโพแทสเซียม 4,700 มิลลิกรัมต่อวันในการทานอาหารแบบสมดุล[10]แพทย์จะทำการทดสอบเลือดเพื่อระบุระดับโพแทสเซียมของคุณอย่างแม่นยำและจะวางแผนที่ถูกต้องเพื่อให้คุณทำตาม
    • ในกรณีส่วนใหญ่การรักษานั้นจะเกี่ยวข้องกับการเพิ่มการทานอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง
    • ทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับโพแทสเซียมมากไปจากการทานอาหาร
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ให้ระดับโพแทสเซียมของคุณฟื้นตัวโดยธรรมชาติ....
    ให้ระดับโพแทสเซียมของคุณฟื้นตัวโดยธรรมชาติ. หากคุณมีภาวะโพแทสเซียมต่ำจากสาเหตุทั่วไป เช่น ท้องเสีย อาเจียน เหงื่อออกเพราะอาการป่วย หรือคุณเพิ่งจะใช้ยาปฏิชีวนะในระยะสั้นๆ บ่อยๆ แล้วระดับโพแทสเซียมของคุณก็จะกลับคืนสู่ระดับปกติเมื่อคุณหายดี แพทย์อาจจะแนะนำให้ทานอาหารที่มีโพแทสเซียมเพิ่มขึ้นจนกระทั่งคุณสบายดีอีกครั้งแทนที่จะใช้อาหารเสริมโพแทสเซียม
  3. How.com.vn ไท: Step 3 เพิ่มผลิตภัณฑ์จากนมในการทานอาหาร.
    ผลิตภัณฑ์จากนมนั้นเป็นแหล่งของโพแทสเซียมที่มากที่สุดที่คุณสามารถหาได้ในการทานอาหาร 1 หน่วยบริโภค ตัวอย่างเช่น โยเกิร์ต 1 ถ้วยมีโพแทสเซียมประมาณ 580 มิลลิกรัม [11] นมไร้ไขมัน 1 แก้วมีโพแทสเซียมสูงถึง 380 มิลลิกรัม[12]
    • เลือกเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีไขมันหากเป็นไปได้เพราะการทานผลิตภัณฑ์จากนมที่มีไขมันจะเพิ่มปริมาณแคลอรี่ที่คุณได้รับอย่างมาก
    • อย่าทานผลิตภัณฑ์จากนมหากคุณมีภาวะไม่ย่อยแลคโทส คุณยังสามารถทานโพแทสเซียมได้อีกมากจากอาหารประเภทอื่นๆ
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ทานผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง.
    เลือกผลไม้ที่เป็นแหล่งของโพแทสเซียม อย่างไรก็ตาม ขอให้แน่ใจว่าคุณเลือกผลไม้ที่อุดมด้วยโพแทสเซียม เพราะไม่ใช่ผลไม้ทั้งหมดจะมีโพแทสเซียมเท่ากัน ผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูงได้แก่[13][14]
    • กล้วยขนาดกลาง 1 ผล มีโพแทสเซียม 420 มิลลิกรัม
    • มะละกอครึ่งผล มีโพแทสเซียม 390 มิลลิกรัม
    • แอปริคอตขนาดปกติ 3 ผล มีโพแทสเซียม 380 มิลลิกรัม
    • แคนตาลูป 1 ถ้วย มีโพแทสเซียม 370 มิลลิกรัม
    • น้ำส้ม 3/4 ถ้วย มีโพแทสเซียม 360 มิลลิกรัม
    • ลูกเกด 1/4 ถ้วย มีโพแทสเซียม 270 มิลลิกรัม
    • สตรอว์เบอร์รี่ 1 ถ้วย มีโพแทสเซียม 250 มิลลิกรัม
  5. How.com.vn ไท: Step 5 เพิ่มการทานผักที่มีโพแทสเซียมให้มากขึ้น.
    ผลไม้ใช่ทางเลือกเดียวที่มีโพแทสเซียมสูง คุณสามารถได้รับโพแทสเซียมในปริมาณมากในผักทั่วไปหลายชนิด ผักที่ดีที่สุดนั้นได้แก่[15][16]
    • มันฝรั่งอบขนาดกลางพร้อมเปลือก 1 หัว มีโพแทสเซียม 925 มิลลิกรัม (ถ้าไม่มีเปลือกจะมี 610 มิลลิกรัม)
    • มันหวาน 1 หัวใหญ่ๆ มีโพแทสเซียม 690 มิลลิกรัม
    • น้ำแครอท 3/4 ถ้วย มีโพแทสเซียม 520 มิลลิกรัม
    • ฟักทองเทศ 1/2 ถ้วย มีโพแทสเซียม 450 มิลลิกรัม
    • ผักโขม 1/2 ถ้วย มีโพแทสเซียม 420 มิลลิกรัม
    • น้ำมะเขือเทศ 3/4 ถ้วย มีโพแทสเซียม 420 มิลลิกรัม (หรือมีโพแทสเซียม 300 มิลลิกรัม ในมะเขือเทศลูกใหญ่)
    • คื่นช่าย 1 ต้น มีโพแทสเซียม 310 มิลลิกรัม
    • บล็อคโคลี่ 1/2 ถ้วย มีโพแทสเซียม 280 มิลลิกรัม
    • หัวบีท 1/2 ถ้วย มีโพแทสเซียม 270 มิลลิกรัม
  6. How.com.vn ไท: Step 6 เพิ่มเนื้อสัตว์ที่อุดมด้วยโพแทสเซียม.
    แม้ว่าจะมีโพแทสเซียมไม่เยอะเท่าวิธีอื่นๆ แต่คุณก็ยังพบโพแทสเซียมในปริมาณหนึ่งในเนื้อสัตว์หลายๆ ชนิด ปริมาณโพแทสเซียมต่อเนื้อสัตว์ 1 หน่วยบริโภคปริมาณ 35 กรัมนั้นมีดังนี้[17][18]
    • เนื้อไก่ มีโพแทสเซียม 380 มิลลิกรัม
    • เนื้อวัว มีโพแทสเซียม 290 มิลลิกรัม
    • เนื้อแกะ มีโพแทสเซียม 260 มิลลิกรัม
    • ไก่งวงดำ มีโพแทสเซียม 250 มิลลิกรัม
  7. How.com.vn ไท: Step 7 ทานอาหารทะเลที่เป็นแหล่งของโพแทสเซียม.
    ปลานั้นเป็นแหล่งของโพแทสเซียมที่ดี สำหรับเนื้อปลา 35 กรัม คุณจะได้โพแทสเซียมดังนี้[19]
    • แซลมอนหรือทูน่ากระป๋อง มีโพแทสเซียม 500 มิลลิกรัม
    • ในปลาชนิดอื่นๆ ส่วนใหญ่แล้วจะมีโพแทสเซียมเฉลี่ยอยู่ที่ 380 มิลลิกรัม
  8. How.com.vn ไท: Step 8 เพิ่มการทานถั่วเปลือกแข็งและถั่วเมล็ดแห้งที่มีโพแทสเซียมสูง....
    เพิ่มการทานถั่วเปลือกแข็งและถั่วเมล็ดแห้งที่มีโพแทสเซียมสูง. ถั่วเปลือกแข็งและถั่วเมล็ดแห้งหลายชนิดนั้นเป็นแหล่งของโพแทสเซียมที่ดี นอกจากนี้ มันมักจะเป็นแหล่งของโปรตีน ไฟเบอร์ และแร่ธาตุอื่นๆ อีกด้วย ถั่วที่มีโพแทสเซียมสูงนั้นมีดังนี้[20][21]
    • ถั่วปินโต (pinto beans) สุก 1/2 ถ้วย มี 400 มิลลิกรัม
    • ถั่วเมล็ดแบนสุก 1/2 ถ้วย มี 360 มิลลิกรัม
    • ถั่วไม่ปอกเปลือก 1/2 ถ้วย มี 340 มิลลิกรัม
    • เมล็ดทานตะวัน 1/4 ถ้วย มี 240 มิลลิกรัม
    • เนยถั่ว 2 ช้อนโต๊ะ มี 208 มิลลิกรัม
  9. How.com.vn ไท: Step 9 ใช้โมลาส molasses หรือกากน้ำตาลในสูตรอาหาร.
    แม้ว่ามันจะไม่ใช่ส่วนผสมที่คนส่วนใหญ่ใช้กัน (แต่เป็นแหล่งอาหารที่ดีเกินคาด) กากน้ำตาลนั้นมีโพแทสเซียมสูงถึง 498 มิลลิกรัม ใน 1 ช้อนโต๊ะ[22] ลองโรยบนโยเกิร์ต ข้าวโอ๊ต หรือใช้ในสมูทตี้ ก็เป็นวิธีที่ดีและง่ายๆ ที่จะเสริมโพแทสเซียมที่อยู่ในกากน้ำตาลไปในอาหารทั่วๆ ไป[23]
  10. How.com.vn ไท: Step 10 เรียนรู้ว่าอาหารอะไรที่มีโพแทสเซียมต่ำ.
    นอกเหนือจากการเน้นไปที่อาหารที่มีโพแทสเซียมสูงแล้ว คุณควรรู้ว่าอาหารทั่วๆ ไปที่มีโพแทสเซียมต่ำ บางอย่างนั้นเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากๆ แต่ถ้าโพแทสเซียมเป็นสิ่งที่คุณกำลังเน้นอยู่ ดังนั้น มันก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดี อาหารที่มีโพแทสเซียมต่ำได้แก่[24][25]
    • น้ำมันมะกอกดำ มี 0 มิลลิกรัม (และยังมีโซเดียมสูงด้วย)
    • เนย 1 ช้อนโต๊ะ มี 3 มิลลิกรัม
    • ชีส 1 กรัม มี 20-30 มิลลิกรัม
    • เบคอน 85 กรัม มี 45 มิลลิกรัม (และยังมีโซเดียมสูงมากๆ)
    • บลูเบอร์รี่ 1/2 ถ้วย มี 50 มิลลิกรัม
    • ไข่ 1 ฟอง มี 55 มิลลิกรัม
    • ขนมปัง 1 แผ่น มี 70 มิลลิกรัม
    • องุ่นผลกลางๆ 10 ผล มี 72 มิลลิกรัม
    • พาสต้า 3/4 ถ้วย มี 80 มิลลิกรัม
    • แอปเปิ้ลซอส 1/2 ถ้วย มี 90 มิลลิกรัม
    • ข้าวโพด มี 100 มิลลิกรัม
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ใช้วิธีทางการแพทย์ในการรักษา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 พูดคุยเกี่ยวกับการบำบัดทดแทนโพแทสเซียม.
    ความเสี่ยงสำคัญหนึ่งที่เกี่ยวกับภาวะโพแทสเซียมต่ำนั่นคือโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ ผู้ที่มีอายุเยอะและผู้ที่เป็นโรคหัวใจอยู่ก่อนแล้วนั้นมีความเสี่ยงสูงที่จะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หากแพทย์สงสัยว่าคุณมีระดับโพแทสเซียมอยู่ต่ำมากๆ แพทย์อาจจะทำการทดสอบเพื่อตัดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ออกไป เช่น โรคไตผิดปกติในการขับกรด โรคในกลุ่มอาการคุชชิง และภาวะแคลเซียมต่ำ จากนั้นแพทย์จะยืนยันการวินิจฉัย[26]
    • แพทย์อาจจะทำการตรวจเลือดเพื่อตรวจระดับอิเล็กทรอไลต์ กลูโคส แมกนีเซียม แคลเซียม และฟอสฟอรัส
    • หากคุณใช้ยารักษาโรคหัวใจอยู่แล้ว เช่น ยาดิจิทัลลิสเพื่อทำให้หัวใจแข็งแรงขึ้น แพทย์อาจจะตรวจระดับไดจอกซินของคุณ[27]
    • แพทย์ของคุณอาจจะสั่งให้ตรวจคลื่นหัวใจไฟฟ้า (EKG) เพื่อตรวจหาความผิดปกติของการเต้นของหัวใจ[28]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 รักษาด้วยการบำบัดทดแทนโพแทสเซียมในระดับสี่....
    รักษาด้วยการบำบัดทดแทนโพแทสเซียมในระดับสี่. หากแพทย์ยืนยันว่าคุณมีระดับโพแทสเซียมต่ำกว่าปกติในระดับรุนแรง หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือมีอาการร้ายแรงที่แพทย์จะให้โพแทสเซียมผ่านทางเส้นเลือดดำ[29] โพแทสเซียมจะค่อยๆ เข้าไปในเส้นเลือดดำอย่างช้าๆ ภายใต้การดูแลของแพทย์เพื่อให้แน่ใจว่ามันจะไม่ส่งผลกระทบต่อหัวใจของคุณ[30]
    • การรักษาแบบนี้นั้นจะระคายเคืองมากตรงบริเวณที่ฉีดเข้าไป
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ทานโพแทสเซียมแบบเม็ดหรือแบบน้ำ.
    คุณจะใช้อาหารเสริมโพแทสเซียมส่วนใหญ่ในรูปแบบยาเม็ด ยาน้ำ หรือแบบผง[31] วิตามินรวมหลายชนิดนั้นมีโพแทสเซียม ขอให้แน่ใจว่าคุณได้ใช้ตามปริมาณการใช้ที่แพทย์จ่ายให้โดยที่ไม่ใช้มากกว่าหรือน้อยกว่า นี่จะทำให้แน่ใจว่าคุณมีระดับโพแทสเซียมในเลือดเหมาะสม
    • เพราะมันเป็นไปได้ว่าอาหารของคุณอาจจะมีโพแทสเซียมมากเกินไป คุณควรปรึกษากับแพทย์ก่อนที่จะเพิ่มการทานอาหารเสริม นี่อาจจะต้องใช้การตรวจเลือดเพื่อระบุว่าคุณควรได้รับโพแทสเซียมเพิ่มในปริมาณเท่าไหร่
    • ปกติแล้วแพทย์จะจ่ายอาหารเสริมโพแทสเซียมพร้อมกับยาอื่นๆ ที่ทำให้โพแทสเซียมลดลง[32] หากแพทย์ให้คุณใช้ยาเหล่านี้ แพทย์ก็อาจจะแนะนำอาหารเสริมโพแทสเซียมแม้ว่าระดับโพแทสเซียมของคุณจะปกติก็ตาม
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ติดตามผลกับแพทย์เสมอ.
    แพทย์จะทำการทดสอบเพื่อดูผล ตรวจระดับของโพแทสเซียม และตรวจว่าวิธีการรักษาที่ได้ใช้ไปนั้นได้ผลหรือไม่ การเช็คผลอาจจะเป็น 2-3 วันหลังจากที่คุณรักษาแรกๆ [33]
    โฆษณา

คำเตือน

  • ระมัดระวังเมื่อทานโพแทสเซียมเอง มีความเป็นไปได้ว่าจะมีโพแทสเซียมมากเกินไปในร่างกายซึ่งก็จะมีปัญหาสุขภาพและผลข้างเคียงด้วย เช่น ปัญหาโรคหัวใจหลายประเภท ผู้ที่เป็นโรคไตไม่ควรทานโพแทสเซียมโดยที่ไม่ได้อยู่ในการดูแลของแพทย์[34]
โฆษณา
  1. http://www.webmd.com/food-recipes/potassium-sources-and-benefits?page=2
  2. http://www.ext.colostate.edu/pubs/foodnut/09355.html
  3. http://www.ext.colostate.edu/pubs/foodnut/09355.html
  4. http://www.ext.colostate.edu/pubs/foodnut/09355.html
  5. http://www.drugs.com/cg/potassium-content-of-foods-list.html
  6. http://www.ext.colostate.edu/pubs/foodnut/09355.html
  7. http://www.drugs.com/cg/potassium-content-of-foods-list.html
  8. http://www.ext.colostate.edu/pubs/foodnut/09355.html
  9. http://www.drugs.com/cg/potassium-content-of-foods-list.html
  10. http://www.ext.colostate.edu/pubs/foodnut/09355.html
  11. http://www.ext.colostate.edu/pubs/foodnut/09355.html
  12. http://www.drugs.com/cg/potassium-content-of-foods-list.html
  13. http://www.ext.colostate.edu/pubs/foodnut/09355.html
  14. http://www.organicauthority.com/health/how-and-why-to-use-molasses.html
  15. http://www.ext.colostate.edu/pubs/foodnut/09355.html
  16. http://www.drugs.com/cg/potassium-content-of-foods-list.html
  17. http://www.emedicinehealth.com/low_potassium/page4_em.htm#low_potassium_diagnosis
  18. http://www.emedicinehealth.com/low_potassium/page4_em.htm#low_potassium_diagnosis
  19. http://www.emedicinehealth.com/low_potassium/page4_em.htm#low_potassium_diagnosis
  20. http://www.emedicinehealth.com/low_potassium/page5_em.htm
  21. http://www.emedicinehealth.com/low_potassium/page5_em.htm
  22. http://www.mayoclinic.org/drugs-supplements/potassium-supplement-oral-route-parenteral-route/description/drg-20070753
  23. http://www.mayoclinic.org/drugs-supplements/potassium-supplement-oral-route-parenteral-route/description/drg-20070753
  24. http://www.emedicinehealth.com/low_potassium/page5_em.htm
  25. http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/001179.htm

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Chris M. Matsko, MD
ร่วมเขียน โดย:
อายุรแพทย์
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Chris M. Matsko, MD. ดร.แมทสโกเป็นแพทย์เกษียณในเพนซิลเวเนีย เขาได้รับปริญญาจากคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเทมเพิลในปี 2007 บทความนี้ถูกเข้าชม 23,100 ครั้ง
หมวดหมู่: สุขภาพทั่วไป
มีการเข้าถึงหน้านี้ 23,100 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา