วิธีการ ป้องกันการเกิดฝี (Boils)

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

Boils ก็คือฝี (abscesses) หรืออาการผิวหนังติดเชื้อ ที่เกิดลึกลงไปในต่อมไขมัน (oil glands) หรือรูขุมขน (hair follicles) เวลาเป็นฝีขึ้นมาแต่ละทีนอกจากเจ็บปวดแล้วยังไม่น่าดู แต่ก็ยังดีที่มีวิธีป้องกัน! ฝีจะเริ่มปรากฏตัวบนผิวหนังของคุณเป็นจุดแดงๆ สุดท้ายก็กลายเป็นก้อนแข็ง เต็มไปด้วยหนอง[1] ฝีเกิดจากแบคทีเรียที่ผ่านเข้าไปในผิวหนังทางรอยแผลหรือรูขุมขน คนที่เสี่ยงเป็นฝีได้ง่ายกว่าคนทั่วไป ก็คือคนที่เป็นเบาหวาน ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นโรคผิวหนังบางชนิดอยู่แล้ว แต่บางทีฝีก็เกิดเพราะไม่ดูแลสุขอนามัยของตัวเอง หรือขาดสารอาหารด้วย[2] สิวซีสต์ (Cystic acne) ก็เป็นอาการที่เกี่ยวข้องกัน มักพบในวัยรุ่น พอเป็นแล้วก็ลุกลามไปเป็นฝีบนใบหน้า ต้นคอ และแผ่นหลังได้ หลายวิธีที่ใช้ป้องกันฝี ก็ใช้บรรเทาอาการของสิวซีสต์ได้เช่นกัน[3]

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 6:

รักษาสุขอนามัยส่วนตัว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 อาบน้ำฝักบัวหรือในอ่างเป็นประจำ เพื่อรักษาความสะอาดของผิวและผม....
    อาบน้ำฝักบัวหรือในอ่างเป็นประจำ เพื่อรักษาความสะอาดของผิวและผม. โดยเฉพาะหน้าร้อนหรือวันที่อากาศร้อนๆ ยิ่งต้องอาบน้ำอย่าได้ขาด เพราะฝีขึ้นง่ายมาก ให้อาบน้ำวันละครั้ง และมากกว่านั้นถ้าเหงื่อออกเป็นพิเศษ จะได้ป้องกันไม่ให้แบคทีเรียบนผิวหนังอย่าง Staphylococcus aureus (staph) เล็ดลอดเข้าไปในรูขุมขนหรือใต้ผิวหนังจนเกิดเป็นฝีในที่สุด[4]
    • รักษาความสะอาดบริเวณที่เสี่ยงเกิดฝีเป็นพิเศษ เช่น ใบหน้า ต้นคอ รักแร้ ไหล่ และก้น[5]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ให้ใช้สบู่ฆ่าเชื้อแบบอ่อนๆ ทุกวัน เพื่อกำจัดแบคทีเรียบนผิวหนัง....
    ให้ใช้สบู่ฆ่าเชื้อแบบอ่อนๆ ทุกวัน เพื่อกำจัดแบคทีเรียบนผิวหนัง. เลือกสบู่ก้อน สบู่เหลว หรือโฟมล้างหน้าที่มีคำว่า "antibacterial" ที่ฉลาก ซึ่งก็มีให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ ทั้งในซูเปอร์และร้านขายยาทั่วไป[6]
    • ถ้าใช้สบู่ฆ่าเชื้อแบคทีเรียแล้วรู้สึกว่าผิวแห้ง ให้เลือกที่อ่อนโยนกว่า เช่น Cetaphil
    • สบู่ฆ่าเชื้อแบคทีเรียส่วนใหญ่จะมี triclosan เป็นส่วนผสมหลัก ถ้าอยากได้สูตรธรรมชาติ ให้เลือกที่ผสมทีทรีออยล์ เพราะเป็นสารต้านแบคทีเรียตามธรรมชาติ[7]
    • แต่บางเคสก็ต้องใช้สบู่ฆ่าเชื้อแบคทีเรียแรงๆ แบบที่คุณหมอสั่งให้ถึงจะเอาอยู่ ถ้าคุณมีปัญหาเรื่องฝีหรือผิวหนังติดเชื้อเรื้อรัง ก็ลองปรึกษาคุณหมอเรื่องนี้ดู
    • หรือใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำเน้นแก้ปัญหาสิว ที่ผสม benzoyl peroxide ก็ได้
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ขัดผิวเบาๆ ด้วยใยบวบหรือผ้าขนหนู.
    เพื่อป้องกันรูขุมขนอุดตันอันเป็นสาเหตุของฝี ระวังอย่าขัดแรงเกินไป เพราะผิวจะเสียได้
  4. How.com.vn ไท: Step 4 อาบน้ำเสร็จต้องเช็ดตัวให้แห้ง.
    แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดีในที่อุ่นและชื้น เพราะงั้นต้องเช็ดตัวให้แห้งสนิท อาจจะทาแป้งเด็กหรือแป้งเด็กอัดแข็ง เช่น Gold Bond ให้ส่วนที่อับชื้นง่ายแห้งสนิทตลอดวัน
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ลอง bleach bath.
    ส่วนใหญ่คุณหมอจะแนะนำให้อาบน้ำคลอรีน (bleach bath) ถ้าคุณเป็นโรคผิวหนังต่างๆ เช่น ผื่นผิวหนังอักเสบ (eczema) แต่ก็น่าจะช่วยฆ่าแบคทีเรียบนผิวหนังที่เป็นสาเหตุของฝีได้ด้วย[8] ให้ผสมน้ำยาซักผ้าขาวที่ใช้ในบ้าน ½ ถ้วยตวง ในน้ำอุ่นเต็มอ่างอาบน้ำ แล้วแช่ตัว 10 - 15 นาที[9]
    • ห้ามแช่ bleach bath บ่อยเกิน 3 ครั้งต่ออาทิตย์[10]
    • ห้ามเอาหัวดำลงไปในน้ำ หรืออย่าให้น้ำเข้าจมูก ปาก และตา
    • ถึงปกติเด็กจะแช่ bleach bath ได้ แต่ควรปรึกษาคุณหมอหรือหมอเด็กก่อนเพื่อความปลอดภัย[11]
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ใส่เสื้อผ้าสะอาดหลวมๆ.
    เสื้อผ้าที่ใส่แล้วเหงื่อท่วมก็อย่าเอามาใส่ซ้ำอีก พยายามใส่เสื้อผ้าหลวมๆ ที่ไม่คับหรือเสียดสีจนระคายผิว ถ้าเสื้อผ้าคับหรือรัดรูป ผิวจะหายใจไม่ได้ ไม่ระบายอากาศมากพอ ทำให้ระคายผิว ยิ่งเสี่ยงเกิดฝี[12]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 6:

โกนขนป้องกันฝี

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ห้ามใช้มีดโกนร่วมกัน.
    แบคทีเรีย staph อันเป็นสาเหตุของฝีสามารถติดต่อกันได้ถ้าใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน เช่น มีดโกน ถึงจะเป็นสมาชิกในบ้าน ก็ควรมีมีดโกนประจำตัวคนละอันไปเลย
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ใช้เจลโกนหนวดบนผิวเปียก.
    การโกนหนวดเป็นสาเหตุหลักของขนคุด ที่สุดท้ายแล้วอาจติดเชื้อจนกลายเป็นฝีได้[13] ใช้เจลหรือครีมโกนหนวดบนผิวหน้าที่เปียก จะช่วยให้โกนได้ลื่นไหลยิ่งขึ้น ไม่สะดุดหรือครูดจนขนคุด งอกกลับเข้าไปในผิวหนัง[14]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 มีดโกนต้องสะอาดและคมกริบอยู่เสมอ.
    ระหว่างโกนต้องล้างเรื่อยๆ และใช้มีดโกนแบบใช้แล้วทิ้ง เปลี่ยนบ่อยๆ จะได้คมกริบอยู่เสมอ[15] พอมีดโกนคม เวลาโกนก็ไม่ต้องออกแรงเยอะ โกนได้ลื่นไหล ไม่เสี่ยงบาดผิวหรือทำขนคุด
  4. How.com.vn ไท: Step 4 โกน “ตามแนวขนงอก”.
    อันนี้เป็นความเชื่อกันมานาน ว่าเวลาโกนขนให้โกนย้อนทิศทางกับที่ขนงอก แต่จริงๆ แล้วโกนแบบนั้นทำให้ขนคุด เสี่ยงเป็นฝี แนะนำให้ลองโกนลง คือโกนไป ทางเดียว กับที่ขนงอกดู[16]
    • ถ้าใครขนหยิกหน่อยอาจจะดูยากว่าขนงอกไปทางไหน แนะนำให้โกน "ลง" จะง่ายที่สุด หรือเอามือลูบผิวดูก่อนว่าฝั่งไหนขนเรียบ ฝั่งไหนทวนขนจนยุ่งเหยิง
  5. How.com.vn ไท: Step 5 จะโกนขนในร่มผ้าต้องคิดดีๆ.
    เขาวิจัยกันมาแล้วว่าพบการติดเชื้อ MRSA (methicillin-resistant Staphylococcus aureus หรือเชื้อ staph ดื้อยา) รุนแรงในหมู่ผู้หญิงที่โกนขนในที่ลับ[17] “Cosmetic body shaving” หรือการโกนขนเพื่อความสวยงามในผู้ชาย ก็ทำให้เกิดการติดเชื้อ MRSA ได้เช่นกัน[18] สรุปแล้วอย่าไปโกนขนบริเวณที่บอบบางจะดีกว่า
    • พอโกนขนในร่มผ้าแล้วจะเกิดแผลเล็กๆ ที่ผิวเต็มไปหมด ถึงไม่สังเกตเห็นแต่เชื้อแบคทีเรีย staph ก็สามารถผ่านเข้าไปได้ จนเกิดการติดเชื้อเป็นฝี นอกจากนี้ยังเป็นบริเวณที่เหงื่อออกง่ายกว่าส่วนอื่นของร่างกาย เลยเป็นฝีได้ง่ายกว่าด้วย
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ห้ามโกนขนบริเวณที่เกิดการอักเสบ.
    ถ้าสังเกตเห็นว่าตรงไหนอักเสบติดเชื้อหรือเป็นฝี ก็ห้ามโกนขนบริเวณนั้นเด็ดขาด เพราะเสี่ยงแพร่เชื้อแบคทีเรียไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย[19][20]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 6:

ป้องกันการติดเชื้อจากผู้อื่น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ป้องกันการติดเชื้อ.
    แบคทีเรีย staphylococcus aureus' ที่เป็นสาเหตุของฝีนั้นติดต่อกันง่ายมาก ถ้าไปสัมผัสหนองหรือผิวหนังที่ติดเชื้อโดยตรง ก็เสี่ยงได้รับเชื้อ staph ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือมีคนใกล้ชิดที่เป็นฝี/ติดเชื้อ ยิ่งต้องระวังตัวอย่าให้รับเชื้อมาได้[21]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 อย่าใช้เครื่องนอน ผ้าเช็ดตัว ผ้าขนหนู...
    อย่าใช้เครื่องนอน ผ้าเช็ดตัว ผ้าขนหนู หรือเสื้อผ้าร่วมกับคนที่เป็นฝีหรือติดเชื้อ staph. ทุกคนในบ้านต้องมีผ้าเช็ดตัวและผ้าขนหนูแยกกันของใครของมันไปเลย ที่สำคัญคือซักบ่อยๆ และอย่าปะปนกัน
    • หนองที่ไหลจากฝีนี่แหละตัวแพร่เชื้อเลย แถมแบคทีเรียจะติดอยู่ตามพื้นผิวต่างๆ สักพัก ไม่ตายในทันที
    • ห้ามใช้สบู่ก้อนร่วมกัน ไม่ว่าคุณจะเป็นฝี หรือคนอื่นเป็นฝีก็ตาม
    • อย่าใช้มีดโกนกับอุปกรณ์กีฬาร่วมกัน เพราะทั้งเชื้อ staph และ MRSA “ธรรมดา” สามารถติดกันได้ถ้าใช้ของใช้ส่วนตัวหรืออุปกรณ์กีฬาร่วมกัน
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ซักและฆ่าเชื้อเครื่องนอนและผ้าเช็ดตัวให้หมดจดบ่อยๆ เพื่อกำจัดแบคทีเรียต้นเหตุของฝี....
    ซักและฆ่าเชื้อเครื่องนอนและผ้าเช็ดตัวให้หมดจดบ่อยๆ เพื่อกำจัดแบคทีเรียต้นเหตุของฝี. เวลาซักให้ใช้น้ำร้อนที่สุดเท่าที่เนื้อผ้าชนิดนั้นรับได้ ถ้าเป็นผ้าขาวให้ใช้น้ำยาฟอกขาวด้วย
    • ให้สวมถุงมือเวลาซักทำความสะอาดของใช้ของคนที่เป็นฝีเพื่อกันไว้ก่อน
    • ถ้าชอบฝีขึ้นที่หน้า ให้เปลี่ยนปลอกหมอนทุกวัน จะได้ไม่แพร่เชื้อไปที่อื่น
  4. How.com.vn ไท: Step 4 รักษาความสะอาดของแผล รวมถึงพันแผลและเปลี่ยนผ้าพันแผลบ่อยๆ....
    รักษาความสะอาดของแผล รวมถึงพันแผลและเปลี่ยนผ้าพันแผลบ่อยๆ. หนองที่ไหลจากฝีนั้นทำให้ติดเชื้อง่ายมาก ถ้าไปสัมผัสอาจลุกลามเป็นฝีมากกว่าเดิม ถ้าคนอื่นมาสัมผัสก็ติดเชื้อได้
    • อย่าเจาะฝี แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณหมอจะดีกว่า ถ้าทำเองจะเสี่ยงเป็นแผลหรือติดเชื้อหนักกว่าเดิม[22]
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 6:

ทำแผลให้ถูกวิธี

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ล้างแผลให้สะอาดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ.
    ต้องขจัดสิ่งสกปรกและแบคทีเรียจากแผลให้หมด โดยเปิดน้ำเย็นให้ไหลผ่านแผล หรือใช้น้ำเกลือ "สำหรับล้างแผล" หาซื้อได้ตามร้านขายยาและออนไลน์[23]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ขจัดสิ่งสกปรกและแบคทีเรียจากแผลด้วยสบู่และผ้าสะอาดนุ่มๆ ที่เปียกหมาด....
    ขจัดสิ่งสกปรกและแบคทีเรียจากแผลด้วยสบู่และผ้าสะอาดนุ่มๆ ที่เปียกหมาด.
    • ถ้าล้างแผลแล้วยังเหลือเศษสิ่งสกปรกตกค้าง ให้ใช้แหนบที่ฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์แล้วคีบออก
    • ถ้าแผลกว้างหรือลึกเกินจะล้างแผลได้ด้วยตัวเอง หรือกำจัดเศษสิ่งสกปรกจากแผลออกไม่หมด ให้ไปโรงพยาบาลทันทีจะดีกว่า
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ใส่ยาฆ่าเชื้อหรือขี้ผึ้งยาปฏิชีวนะที่แผลตามคำแนะนำที่ฉลาก....
    ใส่ยาฆ่าเชื้อหรือขี้ผึ้งยาปฏิชีวนะที่แผลตามคำแนะนำที่ฉลาก.
    • วัตถุดิบตามธรรมชาติที่มีสรรพคุณช่วยฆ่าเชื้อก็เช่น น้ำผึ้ง รวมถึงน้ำมันลาเวนเดอร์ ยูคาลิปตัส และทีทรีออยล์ ใช้ทาที่แผลโดยตรงได้เลย วันละ 1 - 2 ครั้ง ช่วยฆ่าแบคทีเรียได้
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ใช้ผ้าพันแผลสะอาดๆ และเปลี่ยนเรื่อยๆ.
    แผลจะหายเร็วกว่าถ้าพันแผลไว้ แถมยังช่วยป้องกันสิ่งสกปรกและเชื้อแบคทีเรียอื่นๆ ไม่ให้เข้าแผลเพิ่มเติมจนอาการหนักขึ้น[24]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ล้างมือให้สะอาดทั้งก่อนและหลังทำแผล และทิ้งผ้าพันแผลเก่าและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ทำแผลให้เป็นที่เป็นทาง....
    ล้างมือให้สะอาดทั้งก่อนและหลังทำแผล และทิ้งผ้าพันแผลเก่าและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ทำแผลให้เป็นที่เป็นทาง. วิธีล้างมือให้สะอาดหมดจดจริงๆ คือเอามือรองน้ำก๊อกให้เปียกชุ่มก่อน จากนั้นฟอกสบู่ให้ขึ้นฟอง ถูมือกันแรงๆ อย่างน้อย 20 วินาที ถูให้ทั่วทุกซอกทุกมุม รวมถึงหลังมือ ซอกนิ้ว และซอกเล็บ แล้วล้างน้ำให้สะอาด สุดท้ายใช้ไดร์เป่าหรือเอาผ้าเช็ดมือให้แห้งสนิท[25]
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 6:

ดูแลสุขภาพประจำวัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 กินอาหารที่มีประโยชน์.
    การขาดสารอาหารนี่แหละสาเหตุหลักที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอจนติดเชื้อได้ง่าย[26] ไม่ใช่แค่กินอาหารเพียงพอ อิ่มท้อง แต่ต้องเป็นอาหารที่มีประโยชน์ อุดมวิตามินและแร่ธาตุด้วย
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ดื่มน้ำมากๆ โดยเฉพาะวันที่อากาศร้อน.
    ดื่มน้ำเยอะๆ แล้วรูขุมขนจะสะอาด ไม่อุดตัน ป้องกันการเกิดฝีได้ วิธีที่ใช้คำนวณหาปริมาณน้ำที่ควรดื่มต่อวันได้ดี ก็คือคิดซะว่าต้องดื่มน้ำ 1/2 - 1 ออนซ์ต่อน้ำหนักตัวคุณ 0.5 กก. เพราะงั้นถ้าคุณหนัก 68 กก. ก็ต้องดื่มน้ำให้ได้ 75 - 150 ออนซ์ (2 - 4.5 ลิตร) ต่อวัน[28]
    • ถ้าอากาศร้อนเป็นพิเศษ หรือคุณออกกำลังกาย ใช้แรงเยอะเป็นพิเศษ ก็ต้องดื่มน้ำในปริมาณมากสุดของปริมาณที่แนะนำ
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ใช้ขมิ้นทุกวัน.
    ขมิ้นมีสรรพคุณต้านการอักเสบและต้านแบคทีเรียตามธรรมชาติ ช่วยบรรเทาอาการและป้องกันการเกิดฝีได้ ถ้าใช้โลชั่นหรือครีมที่มีขมิ้น ก็จะช่วยให้แผล เช่น ฝี หายเร็วขึ้น[29] ถึงงานวิจัยจะไม่มีหลักฐานแสดงว่าขมิ้นส่งผลต่อฝีโดยตรง แต่ก็มีสารต้านอนุมูลอิสระ เลยน่าจะช่วยป้องกันอาการอื่นๆ เช่น หัวใจวายหรือโรคหลอดเลือดสมองได้ เพราะงั้นจะเอาไปใช้ทำอาหารมากแค่ไหนก็ตามสะดวก[30]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ออกกำลังกาย 20 - 30 นาทีทุกวัน.
    แค่ออกกำลังกายปานกลาง เขาก็วิจัยกันมาแล้วว่าช่วยกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น เพราะงั้นให้ออกกำลังกายอย่างน้อย 20 - 30 นาทีต่อวัน ผิวจะได้สวย แข็งแรง ไม่เสี่ยงติดเชื้อ[31]
    • ถ้าเพิ่งจะมาเริ่มออกกำลังกาย ก็ค่อยเป็นค่อยไป อาจจะเดินสัก 20 นาที หรือเดิน 10 นาที 2 ครั้งต่อวัน เท่านี้ก็พอให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้นแล้ว
    • ออกกำลังกายไม่ซ้ำซากน่าเบื่อเสมอไป ลองหากิจกรรมสนุกๆ ชวนให้ลุกมาออกกำลังกาย เช่น การเต้น หรือไปเดินเล่นในสวนสาธารณะแถวบ้านกับลูกๆ ก็ยังได้
  5. How.com.vn ไท: Step 5 อย่าเครียดให้มาก.
    ใครที่เครียดจัดมักเป็นฝีและโรคต่างๆ ได้ง่ายกว่าคนอื่น เพราะงั้นต้องหาเวลามาผ่อนคลายให้ได้ทุกวัน และพยายามหาทางลดความเครียดในชีวิต จริงๆ แล้วการออกกำลังกายนี่แหละที่ช่วยคลายเครียดได้ดี แถมหลายคนยังได้ประโยชน์อื่นๆ เพิ่มเติมจากโยคะ การนั่งสมาธิ และไทเก๊กด้วย[32]
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ระวังอย่าสัมผัสสารเคมีเป็นพิษ.
    บางเคสก็เป็นฝีเพราะผิวหนังสัมผัสสารเคมีระคายผิว จะที่บ้านหรือที่ทำงานก็แล้วแต่ สารเคมีที่มักก่อให้เกิดโรคผิวหนังก็เช่น น้ำมันดิน และน้ำมันหล่อเย็น[34] ถ้าต้องใช้งานสารเคมีพวกนี้ ต้องใส่อุปกรณ์ป้องกันเสมอ และรีบล้างทำความสะอาดผิวส่วนที่สัมผัสสารเคมีให้หมดจด
    โฆษณา
วิธีการ 6
วิธีการ 6 ของ 6:

ตรวจรักษากับคุณหมอ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 หาหมอ.
    ถ้ารู้ตัวว่าเป็นฝีบ่อยๆ หรือเป็นนานไม่ยอมหายทั้งที่ดูแลตัวเองแล้ว ก็ควรไปหาหมอ เพื่อตรวจหาโรคอื่นๆ ที่อาจเป็นสาเหตุทำคุณเป็นฝีต่อไป เช่น เบาหวานที่ไม่ได้รับการวินิจฉัย (undiagnosed diabetes) ภาวะโลหิตจาง (anemia) และการติดเชื้อ คุณหมอจะสั่งยาหรือแนะนำวิธีดูแลตัวเองอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาทา และธาตุเหล็กเสริม[35]
    • ถ้ากลับมาเป็นฝีอีกก็ควรไปหาหมอ เช่น เป็นฝีนาน 2 อาทิตย์ เป็นฝีที่หน้า หรือที่สันหลัง ปวดฝีมาก หรือมีไข้ร่วมด้วย[36]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 กินยาปฏิชีวนะ.
    บางคนที่ต้องทนทรมานเพราะเป็นฝีหรือสิวซีสต์บ่อยๆ ก็อาจจะต้องกินยาปฏิชีวนะสักชุด เพื่อถอนรากถอนโคนเชื้อในร่างกายอันเป็นสาเหตุของฝี[37]
    • ส่วนใหญ่คุณหมอมักจะสั่งยาปฏิชีวนะ tetracycline, doxycycline หรือ erythromycin เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อกำจัดฝีและสิว
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ปรึกษาคุณหมอเรื่องยาปฏิชีวนะแบบพ่นจมูก.
    บางคนก็โชคร้าย เป็นพาหะของเชื้อ staph ที่พบได้ในจมูกของเรา ถ้าคุณหมอสันนิษฐานว่าคุณน่าจะเป็นพาหะ ก็จะให้ครีมยาปฏิชีวนะหรือยาพ่นจมูกมาใช้ทุกวันติดกันหลายๆ วัน เพื่อขุดรากถอนโคนเชื้อ staph ในจมูก ป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อไปตามผิวหนังส่วนต่างๆ ของตัวเอง หรือทำให้คนอื่นติดเชื้อผ่านการจาม หายใจรด และอื่นๆ[38]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ปรึกษาคุณหมอเรื่องครีมและสบู่ยาฆ่าเชื้อและ....
    ปรึกษาคุณหมอเรื่องครีมและสบู่ยาฆ่าเชื้อและ. ถ้าสบู่ฆ่าเชื้อตามปกติเอาไม่อยู่ หรือระคายผิว คุณหมอจะสั่งยาแรงขึ้น หรืออ่อนลงให้แทน ถ้าเป็นครีมหรือขี้ผึ้งยาปฏิชีวนะ ก็ใช้ทาบริเวณที่ฝีจะขึ้นหรือแผลเปิดได้เลย
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ปรึกษาคุณหมอเรื่อง MRSA.
    MRSA (methicillin-resistant Staphylococcus aureus) ก็คือเชื้อ staph ที่เกิดดื้อยาปฏิชีวนะขึ้นมา ทำให้รักษาได้ยากมาก ปกติมักติดกันจากในโรงพยาบาลและสถานพยาบาลอื่นๆ เช่น บ้านพักคนชรา แต่บางทีก็แพร่เชื้อจากการสัมผัสแตะต้องตัวกัน เช่น ระหว่างการเล่นกีฬา[39]
    • ฝีที่เกิดจากเชื้อ MRSA สัญญาณที่สังเกตได้ชัดเจนก็คือมีฝีหนอง (abscesses)[40] ฝีฝักบัว (carbuncles จะเป็นก้อน มีหนองและของเหลวข้างใน)[41] และโรคพุพอง (impetigo คือฝีหนา ขอบแห้ง คัน)[42] ถ้าสันนิษฐานว่าตัวเองติดเชื้อ MRSA ให้รีบไปหาหมอเพื่อตรวจให้แน่ใจจะดีที่สุด
    โฆษณา
  1. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/eczema/expert-answers/eczema-bleach-bath/faq-20058413
  2. http://pediatrics.aappublications.org/content/123/5/e808.abstract
  3. http://www.prevention.com/health-conditions/boils-and-carbuncles
  4. http://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/guide/ingrown-hair-causes-symptoms-treatment
  5. http://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/guide/ingrown-hair-causes-symptoms-treatment?page=2
  6. http://kidshealth.org/teen/your_body/skin_stuff/shaving.html
  7. http://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/guide/ingrown-hair-causes-symptoms-treatment?page=2
  8. http://link.springer.com/article/10.1007/s11908-009-0067-6#page-1
  9. http://cid.oxfordjournals.org/content/39/10/1446.short
  10. http://www.medicinenet.com/script/main/mobileart.asp?articlekey=293&page=6
  11. http://www.prevention.com/health-conditions/boils-and-carbuncles
  12. http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/staphylococcalinfections.html
  13. http://www.medicinenet.com/script/main/mobileart.asp?articlekey=293&page=6
  14. http://www.webmd.com/first-aid/how-to-clean-a-skin-wound
  15. http://www.palomarhealth.org/wound-care-centers/faqs
  16. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/adult-health/in-depth/hand-washing/art-20046253
  17. http://cid.oxfordjournals.org/content/46/10/1582.full
  18. http://www.dermnetnz.org/bacterial/boils.html
  19. http://www.webmd.com/diet/water-for-weight-loss-diet?page=2
  20. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/25200875
  21. http://umm.edu/health/medical/altmed/herb/turmeric
  22. http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/007165.htm
  23. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/stress-management/in-depth/stress-symptoms/art-20050987?pg=2
  24. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/stress-management/in-depth/stress-relief/art-20044456
  25. http://www.dermnetnz.org/acne/folliculitis.html
  26. http://www.emedicinehealth.com/boils/page3_em.htm#boils_treatment
  27. http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/001474.htm
  28. http://www.netdoctor.co.uk/ate/infections/203245.html
  29. http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/druginfo/meds/a688004.html
  30. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/mrsa/basics/definition/con-20024479
  31. http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/abscess.html
  32. http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/000825.htm
  33. http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/impetigo.html

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Laura Marusinec, MD
ร่วมเขียน โดย:
แพทย์
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Laura Marusinec, MD. ดร.มารูซิเน็กเป็นกุมารแพทย์ที่มีใบรับรองในวิสคอนซิน เธอสำเร็จปริญญาโทจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยวิสคอนซินในปี 1995 บทความนี้ถูกเข้าชม 4,040 ครั้ง
หมวดหมู่: สุขภาพทั่วไป
มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,040 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา