บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
มีการอ้างอิง 14 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 36,618 ครั้ง
ความดีงามของสลัดก็คือ คุณสามารถใส่วัตถุดิบได้ตามความชอบ และสามารถผสมผสานในรูปแบบต่างๆ ได้หลายพันรูปแบบ โดยพื้นฐานแล้วคุณจะต้องเลือกผักยืนพื้น เช่น ผักกาดโรเมนสุดคลาสสิกหรือผักใบเขียวต่างๆ ผสมกัน หรือจะเป็นผักที่แปลกขึ้นมาสักหน่อยอย่างบีตรูตอบก็ยังได้ จากนั้นก็เลือกท็อปปิ้ง เช่น ผลไม้ ผักดิบ ถั่วเปลือกแข็ง หรือชีส เพิ่มโปรตีน เช่น เต้าหู้ ปลาทูน่า หรือเนื้อไก่ ตามด้วยน้ำสลัด (หรือจะไม่ใส่ก็ได้) ส่วนประกอบเพิ่มเติมที่แปลกใหม่อย่างฮัมมูส ถั่วเม็ดสน หรืออะโวคาโดก็เพิ่มสีสันให้กับการรับประทานสลัดได้ เลิกติดอยู่ในกรอบและอย่ากลัวที่จะลองผสมผสานวัตถุดิบในรูปแบบใหม่!
ขั้นตอน
- เลือกผักกาดแก้ว ผักสลัดบัตเตอร์เฮด หรือผักกาดโรเมนหากต้องการสลัดแบบคลาสสิก. ผักเหล่านี้เหมาะนำมาทำสลัดมากเพราะมันทำให้สลัดมีเนื้อสัมผัสกรุบกรอบแถมยังมีวิตามินและแร่ธาตุอีกด้วย แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่กลบรสชาติวัตถุดิบอื่นๆ ในจาน อย่าลืมล้างผักกาดให้สะอาดก่อนนำมาทำอาหารทุกครั้ง[1]
- ใช้ที่สลัดน้ำออกจากผักเพื่อล้างและสลัดน้ำจากผักกาดให้แห้ง หรือแค่ล้างผักใต้น้ำไหลและค่อยๆ ใช้กระดาษทิชชูอเนกประสงค์ที่สะอาดซับให้แห้ง
- คุณอาจจะซื้อผักกาดหั่นสำเร็จจากซูเปอร์มาร์เก็ต หรือไม่ก็ซื้อมาทั้งหัว ถ้าคุณซื้อมาทั้งหัว ให้ล้างใบให้สะอาดและใช้มือฉีกให้ได้ขนาดพอดีคำ หรือใช้มีดสะอาดหั่นลงบนเขียงก็ได้
- เลือกผักใบเขียวอย่างเคล อารูกูลา หรือผักปวยเล้งหากต้องการผักยืนพื้นที่ทั้งอร่อยและอุดมไปด้วยสารอาหาร. ถ้าคุณอยากได้ผักยืนพื้นที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุมากขึ้น ให้เลือกผักสีเขียวเข้ม เคล อารูกูลา ผักเบี้ยใหญ่ และผักปวยเล้งล้วนเป็นตัวเลือกที่ดีที่จะกลายเป็นผักยืนพื้นหลักให้กับวัตถุดิบที่เหลือในสลัด[2]
- อารูกูลาจะมีกลิ่นฉุน
- ผักเคลดิบอาจเคี้ยวยาก คุณอาจจะใช้เบบี้เคลเพื่อให้เคี้ยวง่ายขึ้น หรือหั่นก้านใบเคลทิ้งไปเพื่อให้รับประทานง่ายขึ้น
- ทำสลัดกะหล่ำปลีหากต้องการผักยืนพื้นที่กรุบกรอบและสีสันสวยงามสำหรับสลัด. ใช้กะหล่ำปลีม่วงและกะหล่ำปลีขาว คุณจะซื้อแบบหั่นสำเร็จที่ซูเปอร์มาร์เก็ตหรือจะใช้มีดหั่นกะหล่ำปลีลงบนเขียงให้ได้ขนาด ¼ นิ้วก็ได้ ใส่กะหล่ำปลีลงในน้ำสลัดที่มีส่วนประกอบของน้ำส้มสายชู หรือจะไม่ใส่อะไรเลยก็ได้และเติมวัตถุดิบอื่นๆ ลงไป[3]
- กะหล่ำปีที่ใช้กันมากที่สุดก็คือกะหล่ำปลีขาวและกะหล่ำปลีม่วง แต่คุณก็สามารถใช้ผักกวางตุ้ง ผักกาดขาว กะหล่ำปลีใบย่น และกะหล่ำปลีสายรุ้งได้เช่นกัน ลองไปแผนกผักในซูเปอร์มาร์เก็ตว่ามีผักอะไรขายบ้าง
- เตรียมสลัดบร็อกโคลีกับแคร์รอตหากต้องการผักยืนพื้นเนื้อแข็งสำหรับสลัด. ใช้บร็อกโคลีและแคร์รอตสดแทนแบบนึ่งหรือแช่แข็ง ล้างให้สะอาดก่อนหั่น จากนั้นก็ใช้มีดหรือชุดมีดสไลด์ผักหั่นเป็นชิ้นบางๆ[4]
- บร็อกโคลีและแคร์รอตเป็นตัวเลือกที่ดีถ้าคุณชอบรับประทานสลัดแต่ไม่ชอบเนื้อสัมผัสหรือรสชาติของผักกาดหรือกะหล่ำปลี
- นอกจากนี้คุณยังสามารถใส่กะหล่ำดาวหั่นฝอยหรือแม้แต่แรดิชก็ยังได้ แล้วแต่ว่ามีอะไรอยู่ในตู้เย็น
- ใช้บีตรูตสีม่วงเข้มเป็นผักยืนพื้นถ้าคุณชอบสลัดรสชาติหวาน. บีตรูตมีรสหวานเล็กน้อยและอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมาย เช่น วิตามินซี ใยอาหาร และโฟเลต ถ้าคุณอยากได้เนื้อสัมผัสกรุบกรอบให้ใช้บีตรูตดิบ หรือใช้บีตรูตอบรสชาติหวานหอมกลิ่นควันเป็นฐานให้กับวัตถุดิบที่เหลือ[5]
- รสชาติของชีสแพะและอารูกูลาเข้ากับบีตรูตมากๆ
โฆษณา
- ใช้ผักสดเพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหาร. หน่อไม้ฝรั่ง พริกหวาน บร็อกโคลี กะหล่ำดาว แคร์รอต ข้าวโพด แตงกวา เห็ด ถั่วหวาน มะเขือเทศ และเทอร์นิปเป็นผักที่เหมาะใส่เพิ่มลงในสลัด เลือกผักที่ชอบ ล้างให้สะอาด และหั่นให้ได้ขนาดพอดีคำ[6]
- คุณสามารถนำผักไปนึ่งหรืออบก็ได้ถ้าคุณอยากได้เนื้อสัมผัสที่นุ่มลงและรสชาติที่เข้มข้นขึ้น แต่ถ้าเป็นผักดิบก็จะได้วิตามินมากที่สุด
- ใส่ผลไม้สดหรือแห้งลงในสลัดเพื่อเพิ่มรสหวาน. เบอร์รี แอปเปิล ส้ม แครนเบอร์รีแห้ง ลูกเกด แตงโม องุ่น มะม่วง หรือแม้แต่อะโวคาโดช่วยเพิ่มรสหวานอร่อยให้กับสลัด แถมยังมีสารต้านอนุมูสอิสระอีกเพียบ![7]
- ถ้าคุณใช้เบอร์รีหรือผลไม้สดที่รับประทานทั้งเปลือก ต้องล้างให้สะอาดก่อนใส่ลงในสลัด แต่ถ้าเป็นผลไม้ที่ต้องปอกเปลือกก่อน ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการล้างมากนัก
- ระวังอย่าใส่ผลไม้แห้งลงในสลัดมากเกินไป เพราะมีน้ำตาลสูง
- โรยชีสเพื่อเพิ่มรสเค็มและความมัน. ขั้นตอนต่อไปก็ใส่พาร์เมซาน เชดดาร์ เฟต้า มอซซาเรลลา บลูชีส ชีสแพะ หรือชีสชนิดไหนก็ได้ที่คุณชอบ ใส่ชีส 30-60 กรัมต่อจานและฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ โรยบนผักที่ใส่ไปก่อนหน้านี้[8]
- ถ้าคุณซื้อชีสมาเป็นก้อน ใช้ให้ที่ขูดชีสขูดเป็นฝอยๆ
- ใส่ถั่วเปลือกแข็งที่มีโอเมก้าสูงเพื่อเพิ่มเนื้อสัมผัสกรุบกรอบ. วอลนัต อัลมอนด์ มะม่วงหิมพานต์ เมล็ดทานตะวัน พีแคน พิทาชิโอ และเมล็ดสนเป็นวัตถุดิบที่อร่อย ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความกรุบกรอบแล้ว ยังมีไขมันที่ดีต่อสุขภาพและสารอาหารสำคัญอื่นๆ อีกด้วย[9]
- นอกจากถั่วเปลือกแข็งรสดั้งเดิมแล้ว ยังมีถั่วเปลือกแข็งปรุงรสอีกมากมายให้คุณเลือก ตั้งแต่พีแคนรสหวานไปจนถึงพิทาชิโอรสเผ็ด
- ใส่ธัญพืช ถั่ว ถั่วเลนทิล หรือถั่วลูกไก่ลงในสลัดเพื่อให้หนักท้องยิ่งขึ้น. สลัดไม่จำเป็นต้องมีแค่ผักกาดกับผักเท่านั้น แต่คุณสามารถรับประทานสลัดเป็นจานหลักในมื้อถัดไปได้ด้วยผสมข้าว ควินัว คูสคูส ถั่วดำ ถั่วเลนมิล ถั่วลูกไก่ หรือถั่วอะไรก็ได้ที่คุณชอบลงไปเล็กน้อย[10]
- วิธีนี้ยังช่วยกำจัดของเหลือได้ด้วย ถ้าคุณมีเส้นพาสต้า ข้าว หรือธัญพืชอะไรก็แล้วแต่เหลือจากมื้อก่อน ก็สามารถนำมาใส่สลัดได้ในครั้งต่อไป
โฆษณา
- ใส่ไก่ย่างหรือสเต๊กเพราะเป็นท็อปปิ้งที่ใส่ในอาหารได้หลากหลาย. ถ้ามีเหลืออยู่แล้วก็นำมาใส่สลัดเพื่อประหยัดเวลา หรือจะรับประทานแล้วค่อยเตรียมก็ได้ เนื้อไก่และสเต๊กมีโปรตีนสูงแถมยังราคาไม่แพงนัก ขึ้นอยู่กับว่าคุณซื้อเนื้อสเต๊กแบบไหน[11]
- คุณจะใช้ไก่ฉีกหรือไก่อบก็ได้ แล้วแต่ว่าในบ้านมีอะไร
- ใส่ปลาทูน่าเพื่อเพิ่มโปรตีนให้กับสลัดแบบง่ายๆ. ปลาทูน่ากระป๋องหรือแบบซองนั้นผ่านการทำให้สุกเรียบร้อยแล้ว จึงสามารถนำไปใส่สลัดเพื่อเพิ่มโปรตีนได้เลย ถ้าเป็นปลาทูน่าในน้ำมัน อย่าลืมกรองน้ำมันออกก่อนใส่ลงในสลัด[12]
- คุณสามารถทำสลัดทูน่าได้อย่างรวดเร็วด้วยการใส่มายองเนส เซเลอรี และเครื่องปรุงรสลงไป
- ใส่กุ้งหากต้องการโปรตีนแคลอรี่ต่ำ. คุณจะซื้อกุ้งพร้อมรับประทานจากซูเปอร์มาร์เก็ตหรือซื้อกุ้งดิบมาผัดในกระทะ 5-7 นาทีก็ได้ ใส่กุ้งลงในสลัด จับคู่กับท็อปปิ้งและน้ำสลัดที่ชอบเพื่อให้ได้มื้ออาหารแสนอร่อย[13]
- ถ้าคุณใช้กุ้งแช่แข็ง คุณต้องปฏิบัติตามวิธีใช้บนบรรจุภัณฑ์เพื่อให้คุณละลายกุ้งได้อย่างปลอดภัยทั่วทั้งหมดก่อนนำมาใช้
- ใส่เต้าหู้หากต้องการสลัดมังสวิรัติที่อุดมไปด้วยโปรตีน. นำเต้าหู้ไปทอดสักครู่เพื่อให้มันกรอบ หรือคุณจะนำไปหมักกับซอสที่ชอบข้ามคืนเพื่อเพิ่มรสชาติก็ได้[14]
- เต้าหู้แข็งหรือแข็งพิเศษเหมาะจะนำไปผัดหรือทอดในกระทะมากที่สุด
- เต้าหู้อ่อนจะนุ่มและเละง่าย จึงเหมาะใส่ในสลัดทั้งดิบๆ
โฆษณา
- ทำน้ำสลัดเองเพื่อกำหนดสิ่งที่คุณจะรับประทานเข้าไป. น้ำสลัดสำเร็จรูปแม้จะอร่อยและสะดวกก็จริง แต่ถ้าคุณแพ้อาหารหรือกังวลเรื่องสารเติมแต่งและสารกันบูด การทำน้ำสลัดเองก็เป็นวิธีที่ทำให้คุณรู้ว่า สิ่งที่คุณรับประทานเข้าไปมีส่วนผสมของอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นน้ำสลัดใสง่ายๆ หรือน้ำสลัดซีซาร์เนื้อข้น อย่ากลัวที่จะลองทำน้ำสลัดเอง[15]
- ถ้าคุณทำน้ำสลัดเองตั้งแต่ต้น อย่าลืมจดสูตรลงไปด้วย! วันหลังคุณจะได้ทำตามสูตรเดิมได้ง่ายๆ
- ทำน้ำสลัดใสไวน์แดงด้วยการผสมน้ำส้มสายชูหมักไวน์แดง ½ ถ้วย (120 มล.) น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ (40 มล.) น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา (10 มล.) น้ำมันมะกอก 1 ถ้วย (240 มล.) และเกลือพริกไทย จากนั้นก็แค่คนหรือเขย่าทุกอย่างรวมกัน
- เลือกน้ำสลัดสำเร็จรูปเพื่อความสะดวก. ถ้าการทำน้ำสลัดเองทำให้คุณต้องกลอกตา อย่าเพิ่งหมดหวัง! ซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้านมีน้ำสลัดมากมายหลากหลายยี่ห้อให้คุณเลือก อ่านข้อมูลด้านโภชนาการตรงด้านหลังของบรรจุถัณฑ์ หรือไม่ก็เลือกยี่ห้อที่คุณวางใจ[16]
- เก็บน้ำสลัดสำเร็จรูปในตู้เย็นหลังเปิดใช้เสมอ
- ทำน้ำสลัดแบบเรียบง่ายด้วยน้ำมันมะกอกกับน้ำส้มสายชูบัลซามิก. ถ้าคุณอยากให้รสชาติวัตถุดิบอื่นๆ ในสลัดโดดเด่น คราวหน้าให้เหยาะน้ำมันมะกอกและน้ำส้มสายชูบัลซามิกลงไปเล็กน้อย น้ำมันมะกอกเพิ่มรสชาติอร่อยที่ลงตัว และน้ำส้มสายชูบัลซามิกก็เพิ่มความสดชื่นและรสเปรี้ยวในสลัด[17]
- คุณจะโรยเกลือพริกไทยลงในสลัดก็ได้ถ้าคุณชอบ
- ใช้ซอสเนื้อครีมอื่นๆ แทนน้ำสลัด. สลัดไม่จำเป็นต้องมีน้ำสลัดเสมอไป! ซอสหรือเครื่องจิ้ม เช่น ฮัมมูส กัวกาโมเล หรือทาฮินีช่วยเพิ่มความมันให้สลัดได้ ครั้งหน้าที่ทำสลัดลองไม่ใส่น้ำสลัด แล้วเปลี่ยนไปใส่เครื่องจิ้มหรือสเปรดแทน[18]
- แม้แต่ซัลซาเองก็ใช้เป็น “น้ำสลัด” ได้
โฆษณา
เคล็ดลับ
- อย่ากลัวที่จะใส่ผัก (และผลไม้!) ย่างลงในสลัด การนำวัตถุดิบไปอบหรือย่างทำให้รสชาติโดยรวมของสลัดเปลี่ยนไป และยังเปลี่ยนเนื้อสัมผัสของสลัดได้ด้วย
- ถ้าคุณพยายามจะเปลี่ยนจากแซนด์วิชมาเป็นสลัด แต่ไม่สามารถหักดิบได้ ลองเปลี่ยนมาใช้แร๊พคาร์โบไฮเดรตต่ำแล้วใส่สลัดตามชอบลงไป วิธีนี้คุณจะยังได้ความรู้สึกเหมือนรับประทานแซนด์วิช แต่ก็ได้ประโยชน์จากสลัดที่อุดมไปด้วยสารอาหารและหนักท้องด้วย
สิ่งของที่ใช้
- มีด
- เขียง
- ที่สลัดน้ำออกจากผัก (ถ้ามี)
- กระดาษทิชชูอเนกประสงค์
- ชามหรือจาน
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.thekitchn.com/how-to-make-the-perfect-simple-salad-cooking-lessons-from-the-kitchn-173111
- ↑ https://www.geniuskitchen.com/ideas/fun-salad-ideas-6301?c=19442
- ↑ https://www.geniuskitchen.com/ideas/fun-salad-ideas-6301?c=19462
- ↑ https://www.geniuskitchen.com/ideas/fun-salad-ideas-6301?c=19438
- ↑ https://cookieandkate.com/2017/20-epic-salad-recipes/
- ↑ https://www.producemarketguide.com/category/salad-vegetables
- ↑ https://www.thekitchn.com/quick-tip-add-fresh-fruit-to-g-86622
- ↑ https://www.thekitchn.com/5-great-cheeses-164094
- ↑ https://www.thekitchn.com/croutons-to-pine-nuts-10-favor-141515
- ↑ https://www.thekitchn.com/croutons-to-pine-nuts-10-favor-141515
- ↑ https://cookieandkate.com/2017/20-epic-salad-recipes/
- ↑ https://cookieandkate.com/2017/20-epic-salad-recipes/
- ↑ https://cookieandkate.com/2017/20-epic-salad-recipes/
- ↑ http://www.onegreenplanet.org/vegan-food/things-to-add-to-salads-for-more-protein-power/
- ↑ https://www.acouplecooks.com/how-to-make-homemade-salad-dressing/
- ↑ https://www.eatthis.com/healthy-salad-dressing/
- ↑ https://www.geniuskitchen.com/recipe/basic-vinaigrette-dressing-with-8-variations-213989
- ↑ https://joanne-eatswellwithothers.com/2014/08/greek-salad-hummus-dressing.html
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.