ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Jennifer Lease, RD, CDN. เจนนิเฟอร์ ลิสเป็นนักกำหนดอาหารที่ได้รับการขึ้นทะเบียนและเชฟที่ได้รับการฝึกฝนแล้วในเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด เธอเชี่ยวชาญเรื่องอาหารที่มีพืชเป็นส่วนประกอบหลักไปจนถึงการนำข้อมูลโภชนาการมาประยุกต์ใช้ในการทำอาหาร โดยมีประสบการณ์ในแวดวงอาหารและโภชนาการหกปี เจนนิเฟอร์ได้รับปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาการกำหนดอาหารและได้รับใบรับรองการฝึกงานจากมหาวิทยาลัยเดลาแวร์ เธอยังได้รับการฝึกฝนเป็นเชฟอาชีพจาก Natural Gourmet Institute for Health and Culinary Arts
มีการอ้างอิง 7 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 38,866 ครั้ง
ผักโขมเป็นผักใบเขียวที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ไม่ใช่เฉพาะป๊อปอายเท่านั้น แต่ใครๆ ก็สามารถอร่อยกับผักโขมได้ ไม่ว่าจะแบบปรุงสุกหรือแบบสด คุณจะใส่ผักโขมลงไปในสลัดหรือน้ำปั่นก็ได้ จะนำไปต้ม ผัด หรือแม้แต่ทำครีมซอสก็ยังได้ เพื่อให้คุณสามารถเอร็ดอร่อยกับผักธรรมดาๆ แต่รสชาติดีนี้ได้มากที่สุด ถ้าคุณอยากรู้ว่าจะเตรียมเมนูผักโขมได้อย่างไรบ้าง มาเริ่มอ่านขั้นตอนแรกได้เลย
ขั้นตอน
เลือกผักโขมที่ลักษณะดี. หาส่วนที่ขายผักโขมในร้านค้าหรือตลาดเกษตรกร เลือกช่อที่มีใบสดสีเขียวเข้ม อย่าเลือกช่อที่ใบเหลือง เหี่ยว มีรอยช้ำ หรือดูนิ่มเละ[1] การเลือกผักโขมที่สดใหม่นั้นสำคัญ เพราะมันจะได้อยู่ได้นานจนกว่าจะนำไปทำเป็นอาหารรสอร่อย ที่ร้านขายของ ผักโขมส่วนใหญ่จะถูกแยกออกจากก้านและใส่ถุงปิดไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนที่ตลาดของเกษตรกร ส่วนมากจะนำมาขายทั้งช่อ- ผักโขมชนิดที่รู้จักทั่วไปจะเป็นผักโขมใบเรียบ มีใบที่แบนเรียบ ง่ายต่อการล้างทำความสะอาด [2]
- ผักโขมพันธุ์ซาวอย จะทนความเย็นได้ดีกว่าผักโขมชนิดอื่นๆ ใบของมันจะย่นงอเป็นรอยคลื่น ทำให้ยากต่อการล้างดินหรือกรวดออกจากใบ
- ผักโขมใบอ่อน เป็นผักโขมที่สามารถเก็บเกี่ยวได้หลังจากปลูก 15-20 วัน ต่างจากผักโขมทั่วไปที่ต้องใช้เวลาปลูก 45-60 วันกว่าจะเก็บได้ ผักโขมใบอ่อนมีใบที่อ่อนนุ่มกว่าและเหมาะสำหรับใช้ทำสลัด ส่วนผักโขมใบแก่เหมาะจะนำไปทำอาหารอื่นๆ มากกว่า
นำผักโขมใส่ถุงพลาสติกแช่ในตู้เย็น. วิธีนี้สามารถเก็บได้ถึง 3 วัน [3] ถ้าคุณซื้อผักโขมมาแบบเป็นถุง ควรปิดปากถุงให้สนิทหลังจากเปิดแล้ว เพื่อให้ผักที่เหลือยังสดอยู่ ถ้ายังไม่ใช้มันทันทีก็ให้เก็บไว้แบบนั้นก่อน ไม่ควรนำมาล้างหรือผึ่งไว้จนกว่าจะพร้อมนำไปใช้ปรุงอาหาร ไม่เช่นนั้นใบจะเหี่ยวได้
เอาก้านผักโขมออก. ถ้าผักโขมยังติดอยู่กับก้านหนา ควรหั่นก้านออกด้วยมีดหรือตัดด้วยกรรไกรทำครัว หรืออาจใช้มีดปอกเปลือกเพื่อเพิ่มความแม่นยำ แม้ว่าก้านผักโขมจะสามารถกินได้ แต่มันค่อนข้างเคี้ยวยากและไม่อร่อย ใบผักโขมของคุณจะมีรสชาติดีกว่าถ้ามันไม่มีก้าน
เปิดน้ำไหลผ่านเพื่อล้างสิ่งสกปรกออกจากใบ. หลายครั้งที่ผักโขมอาจมีเศษดินติดอยู่ ซึ่งมันจะให้รสสัมผัสที่หยาบ ถ้าคุณซื้อผักโขมแบบใส่ถุงปิดและแปะป้ายไว้ว่าล้างแล้ว คุณก็ยังล้างมันได้อีกเพื่อความปลอดภัย แต่อาจไม่ต้องระมัดระวังเท่าผักโขมที่ซื้อจากตลาด ต่อไปนี้เป็นวิธีการล้างผักโขม:- แยกใบออกจากกัน
- ไล่มือลงไปตามสันเพื่อแยกใบออกจากก้าน วิธีนี้จะทำหรือไม่ก็ได้ บางคนอาจจะชอบกินก้านผักโขม
- นำใบลงไปแช่ในชามที่ใส่น้ำไว้ แกว่งไปมา แล้วเทน้ำออก
- ทำซ้ำจนกว่าจะล้างเศษดินออกหมด
ผึ่งไว้ให้แห้ง. คุณควรรอให้ผักโขมแห้งก่อนที่จะนำไปปรุงอาหาร ยกเว้นว่าจะต้มอยู่แล้ว คุณสามารถเอาผักโขมใส่กระชอนแล้วทิ้งไว้ 10 นาที รอจนแห้ง หรือจะค่อยๆ เช็ดด้วยกระดาษก็ได้ แต่ต้องระวังหน่อย ไม่เช่นนั้นใบอาจจะถูกบดรวมกันจนเละ เมื่อแห้งแล้วควรนำไปทำอาหารทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้ใบเหี่ยวก่อนโฆษณา
ผักโขมต้ม. หนึ่งในวิธีการทำเมนูผักโขมที่ง่ายที่สุดก็คือนำไปต้ม คุณจะต้มแล้วกินเปล่าๆ หรือต้มก่อนจะนำไปทำครีมซอสต่อก็ได้ และนี่เป็นวิธีการต้มผักโขม:[4]- ใส่ผักโขมลงในหม้อน้ำเดือด
- ต้มประมาณ 3-5 นาที
- เทน้ำออก
- ใส่ผักโขมลงไปในน้ำเย็นจัดผสมน้ำแข็ง เพื่อให้มันช็อกความเย็นและคงสีเขียวสวยเอาไว้ จากนั้นเทน้ำออก (ทำหรือไม่ก็ได้)
- จัดใส่จานเสิร์ฟ และค่อยๆ พรมน้ำมันมะกอกลงไป
- ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย
ผัดผักโขม. การผัดแบบใช้น้ำมันน้อย หรือการรวน เป็นวิธีที่นิยมใช้มากที่สุดในการทำเมนูผักโขม สิ่งที่คุณต้องการนอกจากผักโขม 2 ช่อก็คือ น้ำมันมะกอกเล็กน้อย กระเทียมฝาน 2 กลีบ (ใช้หรือไม่ก็ได้) และเกลือกับพริกไทยสำหรับปรุงรส ต่อไปเป็นสิ่งที่คุณต้องทำ:[5]- ตั้งกระทะใช้ไฟร้อนปานกลาง ใส่น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
- ใส่กระเทียมลงไปผัดประมาณ 30 วินาที หรือจนกว่าจะส่งกลิ่นหอม
- ใส่ผักโขมลงไปหนึ่งช่อแล้วผัดประมาณหนึ่งนาทีจนใบเริ่มเหี่ยว คอยพลิกด้วยที่คีบระหว่างผัด
- ใส่ผักโขมอีกช่อลงไปแล้วผัดต่ออีก 2-3 นาที จนผักโขมทั้งหมดเริ่มเหี่ยว
- ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย
ผักโขมในครีมซอส. การนำผักโขมมาทำครีมซอสเป็นวิธีที่ดีมากในการทำให้เมนูผักโขมของคุณอุดมไปด้วยคุณค่า ดีต่อตัวคุณ และมีรสอร่อยยิ่งขึ้น จะกินเปล่าๆ หรือจะเสิร์ฟพร้อมสเต็ก เนื้อไก่ หรือโปรตีนอื่นๆ ที่คุณชื่นชอบก็ได้ตามใจ ส่วนผสมที่ต้องใช้มีดังต่อไปนี้: ผักโขม 24 ออนซ์, เนย 1 แท่ง (ประมาณ 113 กรัม), แป้ง 8 ช้อนโต๊ะ, หัวหอมขนาดกลางหั่นเต๋า ½ ลูก, กระเทียมสับ 3 กลีบ, นม 2 ถ้วย และเกลือกับพริกไทยสำหรับปรุงรส ต่อไปจะเป็นวิธีการทำครีมผักโขม: [6]- ละลายเนยในหม้อใหญ่
- โรยแป้งลงไปในเนยแล้วตีให้เข้ากัน
- ต้มโดยใช้ไฟปานกลาง 5 นาที
- ใส่หัวหอมใหญ่หั่นเต๋า และกระเทียมสับลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากันประมาณ 1 นาที
- เทนมลงไปแล้วคนส่วนผสมต่ออีก 5 นาที
- ผัดผักโขมในกระทะแยก คุณสามารถทำตามวิธีผัดด้านบนได้เลย (ไม่ต้องใส่กระเทียมเพิ่ม)
- ปรุงรสครีมซอสด้วยเกลือและพริกไทย และใส่ผักโขมลงไป
- คนผักโขมและครีมซอสเบาๆ จนเข้ากันดี
ผักโขมอบ. เช่นเดียวกับครีมซอสผักโขม การทำผักโขมอบเป็นอีกวิธีการปรุงที่ให้คุณค่าและดีต่อตัวคุณ แถมยังเพิ่มความดีงามอีกขั้นด้วยชีสอร่อยๆ ด้วย ส่วนผสมที่คุณต้องการก็คือ หอมหัวใหญ่สับ ½ ถ้วย, เนย 2 ช้อนโต๊ะ, ผักโขม 2 ถุง, วิปครีมชนิดข้น ½ ถ้วย, นม 1/3 ถ้วย, พาเมซานชีสขูดแยก 5 ช้อนโต๊ะ, เกล็ดขนมปังป่นแห้ง ¼ ถ้วย และเกลือกับพริกไทยสำหรับปรุงรส ต่อไปเป็นวิธีการอบ:[7]- ผัดหอมหัวใหญ่กับเนย 2-3 นาทีจนอ่อนนุ่ม
- ใส่ผักโขม นม และครีมลงไป คนให้เข้ากัน
- ยกลงจากเตา
- ใส่ชีส 4 ช้อนโต๊ะ เกล็ดขนมปัง เกลือ และพริกไทยลงไป คนให้เข้ากัน
- ตักส่วนผสมใส่ถาดอบขนาด 1 ควอร์ต ที่ทาน้ำมันไว้แล้ว
- โรยหน้าด้วยชีสที่เหลือ
- อบแบบไม่ต้องปิดฝาที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ (176 องศาเซลเซียส) ใช้เวลา 40-45 นาที หรือจนกว่าชีสจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเล็กน้อย
โฆษณา
สลัดผักโขมกับสตรอว์เบอร์รี่. สลัดผักโขมกับสตรอว์เบอร์รี่เป็นเมนูง่ายๆ ที่อุดมด้วยคุณค่าทางสารอาหาร แถมคุณยังไม่ต้องปรุงผักโขมให้สุกสักนิด ส่วนผสมที่ต้องใช้ทั้งหมดมีดังนี้: ผักโขม 1 ถุง, สตรอว์เบอร์รี่สด 10 ลูก, อัลมอนด์ฝาน ½ ถ้วย, หอมแดงขนาดกลางหั่น ½ ลูก, น้ำส้มสายชูบัลซามิก, น้ำมันมะกอก, น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ และเกลือกับพริกไทยสำหรับปรุงรส ต่อไปเป็นวิธีการทำ:- สับหอมแดง
- แบ่งสตรอว์เบอร์รี่เป็นสี่ส่วน
- คลุกหอมแดง สตรอว์เบอร์รี่ อัลมอนด์ และผักโขมเข้าด้วยกัน
- ทำน้ำสลัดโดยผสมน้ำส้มสายชูบัลซามิก ¼ ถ้วย กับน้ำมันมะกอก ¼ ถ้วย ใส่น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย
- ราดน้ำสลัดลงไปบนสลัดที่เตรียมไว้แล้วค่อยๆ คลุกเคล้าให้เข้ากัน
สลัดผักโขมใส่มะเดื่อและเฟตาชีส. สลัดรสหวานจานนี้เป็นเมนูที่ยอดเยี่ยมสำหรับตอนบ่ายในฤดูร้อน เวลาไปปิกนิก หรือจะใช้เป็นเครื่องเคียงกับมื้อไหนก็เหมาะ ที่คุณต้องทำก็คือผสมผักโขม 1 ถุง, เฟตาชีสบดหรือหั่นเต๋า ½ ถ้วย, ผลมะเดื่อแบ่งสี่ส่วน 10-15 ลูก, พีแคน ½ ถ้วย และองุ่น 1 ถ้วยเข้าด้วยกัน เติมน้ำสลัดง่ายๆ โดยใช้น้ำส้มสายชูบัลซามิก หรือจะเป็นน้ำสลัดราสเบอร์รี่ก็ได้ถ้าคุณชอบ เพียงเท่านี้สลัดของคุณก็เสร็จเรียบร้อยโดยที่ไม่ต้องปรุงสุกเลย!
น้ำผักโขมปั่น. ผักโขมสามารถเพิ่มรสชาติอร่อยให้กับน้ำผักผลไม้ปั่นได้ และช่วยให้คุณมีสุขภาพดีด้วย โดยทั่วไปแล้ว สิ่งที่คุณต้องทำเพื่อให้ได้น้ำปั่นผสมผักโขมก็แค่ใส่ผักโขมลงในเครื่องปั่นพร้อมกับส่วนผสมอื่นๆ ตามต้องการ แล้วปั่นให้เข้ากัน ต่อไปนี้เป็นส่วนผสมสำหรับน้ำผักโขมและลูกแพร์ปั่น: [8]- น้ำเปล่า หรือน้ำมะพร้าว 1 ½ ถ้วย
- ผักโขม 2 ถ้วย
- ลูกแพร์สุกหั่น 1 ลูก
- น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
- ขิงขูด 1 ช้อนชา
- เมล็ดแฟลกซ์บด 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา
เพียงเท่านี้เมนูผักโขมของคุณก็เสร็จเรียบร้อย!.โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://recipes.howstuffworks.com/tools-and-techniques/how-to-cook-vegetables10.htm
- ↑ http://www.grow-it-organically.com/spinach-varieties.html#savoy
- ↑ http://recipes.howstuffworks.com/tools-and-techniques/how-to-cook-vegetables10.htm
- ↑ http://www.food.com/recipe/boiled-spinach-9687
- ↑ http://www.doitdelicious.com/recipes/make_it/sauteed_spinach_and_garlic
- ↑ http://thepioneerwoman.com/cooking/2009/04/creamed-spinach-to-die-for/
- ↑ http://www.tasteofhome.com/recipes/herbed-baked-spinach
- ↑ http://www.yummly.com/recipe/external/Green-Smoothie-with-Spinach_-Pear_-and-Ginger-518721
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
นักกำหนดอาหารที่ได้รับการขึ้นทะเบียนและเชฟที่ได้รับการฝึกฝนแล้ว
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Jennifer Lease, RD, CDN. เจนนิเฟอร์ ลิสเป็นนักกำหนดอาหารที่ได้รับการขึ้นทะเบียนและเชฟที่ได้รับการฝึกฝนแล้วในเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด เธอเชี่ยวชาญเรื่องอาหารที่มีพืชเป็นส่วนประกอบหลักไปจนถึงการนำข้อมูลโภชนาการมาประยุกต์ใช้ในการทำอาหาร โดยมีประสบการณ์ในแวดวงอาหารและโภชนาการหกปี เจนนิเฟอร์ได้รับปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาการกำหนดอาหารและได้รับใบรับรองการฝึกงานจากมหาวิทยาลัยเดลาแวร์ เธอยังได้รับการฝึกฝนเป็นเชฟอาชีพจาก Natural Gourmet Institute for Health and Culinary Arts บทความนี้ถูกเข้าชม 38,866 ครั้ง
หมวดหมู่: ผักและผลไม้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 38,866 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
