บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
มีการอ้างอิง 7 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 31,826 ครั้ง
ถ้าคุณมีกล้วยเหลืออยู่เยอะจนรับประทานไม่ทันก่อนที่มันจะงอม ให้แช่ช่องฟรีซเอาไว้แทนที่จะโยนทิ้งไป กล้วยแช่แข็งสามารถนำไปใส่ในสมูตตี้ มิลก์เชค และขนมอบอร่อยๆ ได้หลากหลาย ถ้าคุณอยากนำกล้วยมาทำเป็นสมูตตี้หรือมิลก์เชค ให้คุณหั่นเป็นแว่นและวางลงบนถาดอบแช่ช่องฟรีซไว้ แต่ถ้าคุณจะเอาไปทำขนมอบ คุณก็สามารถประหยัดแรงได้ด้วยการแช่แข็งทั้งลูก
ขั้นตอน
- ปล่อยให้กล้วยสุกก่อนค่อยนำไปแช่แข็ง. เวลาที่กล้วยสุกแล้ว เปลือกของมันจะกลายเป็นสีเหลือง คุณจะปล่อยไว้จนเปลือกเป็นจุดหรือเป็นสีน้ำตาลแล้วค่อยเอาไปแช่แข็งก็ได้ แต่อย่าแช่ทั้งที่เปลือกกล้วยยังเป็นสีเขียวอยู่[1]
กล้วยเมื่อนำไปแช่แข็งแล้วจะไม่สุกเพิ่ม เพราะฉะนั้น แช่แข็งตามระดับความสุกที่คุณต้องการสำหรับทำสมูตตี้ หรือมิลก์เชค
- ปอกเปลือกกล้วย. อย่าแช่แข็งกล้วยทั้งเปลือกเพราะว่ามันจะกลายเป็นสีดำและเป็นเมือกในช่องฟรีซ จริงอยู่ว่าคุณจะใช้มีดปอกเปลือกออกก็ได้ แต่มันยากกว่าการเอามือปอกก่อนนำกล้วยไปแช่แข็ง[2]
- หั่นกล้วยเป็นแว่นหนาประมาณ 1 นิ้ว (2.5 ซม.). ถ้าคุณหั่นกล้วยเป็นชิ้นหนา มันจะใช้เวลาแช่แข็งนานกว่า แต่ก็จะประหยัดเวลาในการหั่น เพราะฉะนั้นแล้วแต่คุณเลย คุณไม่จำเป็นต้องหั่นกล้วยให้ได้ขนาดเป๊ะๆ[3]
นอกจากจะหั่นกล้วยเป็นแว่นแล้ว คุณยังสามารถ ใช้มือหักกล้วยออกเป็นชิ้นๆ ได้ด้วย
- เรียงกล้วยหั่นแว่นเป็นชั้นเดียวบนถาดอบ. พยายามเหลือที่ว่างระหว่างแต่ละชิ้นเล็กน้อยเพื่อไม่ให้มันเกาะกันเป็นก้อนเวลาแข็ง ถ้าคุณกะจะแช่แข็งกล้วยหลายลูกพร้อมๆ กัน คุณอาจจะต้องใช้ถาดหลายใบ[4]
- เพื่อให้แกะกล้วยออกจากถาดง่ายขึ้น คุณอาจจะปูกระดาษรองอบไว้บนถาดอบ แต่จริงๆ แล้วถึงไม่ปูรองก็แกะไม่ยากอยู่ดี[5]
- เหตุผลที่เราแช่แข็งไว้บนถาดอบก่อนก็เพราะว่า มันจะได้ไม่รวมกันกลายเป็นกล้วยแช่แข็งก้อนใหญ่ๆ
- แช่กล้วยไว้ในช่องฟรีซ 1 ชั่วโมงหรือจนกว่าจะแข็ง. นำถาดอบที่ใส่กล้วยลงไปแล้วแช่ในช่องฟรีซ คุณอาจจะต้องเรียงของในช่องฟรีซใหม่เล็กน้อยเพื่อให้ใส่ถาดอบเข้าไปได้ ผ่านไป 1 ชั่วโมงให้กลับมาดู ถ้ายังไม่แข็งดี ผ่านไปครึ่งชั่วโมงให้กลับมาดูอีกครั้ง[6]
- คุณอาจจะหาอะไรจิ้มลงไปในกล้วยเพื่อดูว่ามันแข็งได้ที่หรือยัง ถ้ามันยังเละอยู่แปลว่าต้องแช่ต่อ
- นำกล้วยแช่แข็งใส่ลงในถุงและเขียนฉลากวันที่ไว้. นำกล้วยหั่นแว่นใส่ลงในถุงพลาสติกที่แช่ในช่องฟรีซได้ ไล่อากาศออกจากถุงและปิดผนึก เขียนวันที่แช่กล้วยในช่องฟรีซไว้บนฉลาก คุณจะได้ไม่เผลอแช่กล้วยไว้ในช่องฟรีซนานหลายปี[7]
- คุณอาจจะใช้ตะหลิวช่วยแซะกล้วยออกจากถาดอบ
- นำกล้วยแช่แข็งไปทำสมูตตี้หรือมิลก์เชคภายใน 6 เดือน. ครั้งหน้าที่คุณปั่นเครื่องดื่ม ให้นำกล้วยแช่แข็งจากถุงที่อยู่ในช่องฟรีซมากสัก 4-5 ชิ้น แค่ใส่ลงไปในเครื่องปั่นแล้วคอยดูมันกลายร่างเป็นเครื่องดื่มเนื้อครีมเย็นๆ แสนอร่อย[8]
ถ้าเครื่องปั่นของคุณยังคงมีปัญหาเวลาปั่นกล้วย คุณอาจจะต้องหั่นเป็นชิ้นเล็กลงอีก
โฆษณา
- ปล่อยให้กล้วยสุกหรืองอม. กล้วยเมื่อนำไปแช่แข็งแล้วจะไม่สุกเพิ่ม เพราะฉะนั้นอย่านำกล้วยที่ยังเป็นสีเขียวอยู่ไปแช่แข็ง แต่ให้ใช้กล้วยสีเหลืองหรือกล้วยที่เป็นจุดแทน กล้วยงอมเหมาะนำไปอบขนมเพราะมันหวานมาก ดังนั้นคุณจึงสามารถนำกล้วยที่เปลือกกลายเป็นสีน้ำตาลหมดแล้วไปแช่แข็งได้เช่นกัน[9]
- ถ้ากล้วยงอมมากจนเหลว คุณควรนำไปทิ้ง
- ปอกเปลือกกล้วยทั้งหมด. อย่าแช่แข็งกล้วยทั้งเปลือก! เปลือกจะกลายเป็นสีดำและเป็นเมือก ซึ่งน่าขยะแขยงมากและคุณก็จะต้องใช้มีดปอกเปลือกออก ตัวคุณในอนาคตจะขอบคุณที่คุณยอมทำงานเพิ่มอีกนิดตั้งแต่ตอนนี้[10]
- นำเปลือกกล้วยไปหมักปุ๋ยถ้าคุณมีกองปุ๋ยหมัก
- แช่แข็งกล้วยทั้งลูกหรือบดก่อน. คุณจะแช่แข็งกล้วยทั้งลูกแล้วนำไปบดหลังจากละลายแล้วก็ได้ หรือคุณจะบดตอนนี้เลยก็แล้วแต่! นำกล้วยใส่ลงในชามและใช้ส้อมบดกล้วยจนเนื้อเละเสมอกัน[11]
- เติมน้ำมะนาว 2-3 หยดลงในกล้วยบดถ้าคุณอยากคงสีเอาไว้ แต่เนื่องจากว่าคุณจะนำไปอบขนมก็อาจจะไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น
- ถ้าคุณต้องบดกล้วยเป็นเครือ การบดในเครื่องบดสับอาหารหรือเครื่องปั่นก็อาจจะง่ายกว่า แต่กล้วยก็นิ่มพอที่จะใช้มือบดได้
- นำกล้วยใส่ลงในถุงที่แช่แข็งได้พร้อมกับเขียนวันที่ลงบนฉลาก. ตักกล้วยบดหรือนำกล้วยทั้งลูกใส่ลงในถุงแช่แข็ง อย่าลืมไล่อากาศออกจากถุงให้ได้มากที่สุดก่อนปิดผนึก ใช้ปากกาเคมีเขียนวันที่ลงบนถุง วันหลังคุณจะได้รู้ว่าคุณแช่กล้วยไว้ในช่องฟรีซมานานแค่ไหนแล้ว จากนั้นก็นำถุงใส่ไว้ในช่องฟรีซ[12]
มัน อาจจะใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง กว่ากล้วยจะแข็งได้ที่
- นำกล้วยไปอบขนมภายใน 6 เดือน. นำกล้วยออกจากช่องฟรีซก่อนนำไปเริ่มอบ 1 ชั่วโมงและทิ้งไว้ให้ละลายบนจานที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ครัว ถ้าภายใน 6 เดือนคุณยังไม่ได้ใช้กล้วยแช่แข็ง ก็โยนทิ้งไปได้เลย[13]
- ลองนำกล้วยที่ละลายแล้วไปทำขนมปังกล้วยหรือมัฟฟินกล้วย
- ถ้าคุณแช่แข็งกล้วยทั้งลูก หลังจากละลายแล้วคุณก็น่าจะใช้ส้อมบดได้ไม่ยาก
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ลองทำไอศกรีมกล้วยแช่แข็งเพื่อทำเป็นของหวานที่ดีต่อสุขภาพ
- จุ่มกล้วยหั่นแว่นแช่แข็งในช็อกโกแลตละลายก่อนนำไปแช่ช่องฟรีซเพื่อทำเป็นขนมแสนอร่อย
สิ่งของที่ใช้
- กล้วยสุก
- มีด
- ถาดอบ
- กระดาษรองอบ
- ถุงพลาสติกสำหรับแช่แข็ง
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://dish.allrecipes.com/how-to-freeze-bananas/
- ↑ https://youtu.be/H_7MM44G8JQ?t=64
- ↑ https://fitfoodiefinds.com/how-to-freeze-bananas/
- ↑ https://fitfoodiefinds.com/how-to-freeze-bananas/
- ↑ https://youtu.be/jtNgSruXVxs?t=75
- ↑ https://youtu.be/jtNgSruXVxs?t=329
- ↑ http://dish.allrecipes.com/how-to-freeze-bananas/
- ↑ http://dish.allrecipes.com/how-to-freeze-bananas/
- ↑ https://youtu.be/H_7MM44G8JQ?t=37
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.