วิธีการ กำจัดตุ่มบนลิ้นให้หายไป

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

หากมีตุ่มสีแดงหรือสีเหลืองเกิดขึ้นบนลิ้น คุณอาจกำลังมีอาการ Transient lingual papillitis (อาการตุ่มรับรสของลิ้นบวมขึ้น)[1]ที่สามารถก่อให้เกิดอาการเจ็บเพียงเล็กน้อยไปจนถึงอาการเจ็บอย่างรุนแรงได้[2] อาการ Transient lingual papillitis มักพบได้บ่อยในเด็กและหญิงสาววัยรุ่น และแม้จะมีการวิจัยไม่มากนักที่ศึกษาเกี่ยวกับอาการนี้อย่างละเอียด แต่จากการวิจัยบางส่วนพบว่าอาการ Transient lingual papillitis อาจมีสาเหตุมาจากการแพ้อาหารได้เช่นกัน[3] รวมถึงยังมีโรคอื่นๆ อีกมากมายที่มีส่วนทำให้เกิดตุ่มขึ้นบนลิ้นได้ ดังนั้นคุณจึงควรไปพบแพทย์ทันทีหากอาการยังไม่หายดีหลังผ่านไปแล้ว 1-2 วัน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

รักษาด้วยวิธีที่ไม่เกี่ยวกับการแพทย์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 กลั้วปากด้วยน้ำเกลือ.
    น้ำเกลือมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและมีส่วนช่วยในการบรรเทาตุ่มที่เกิดขึ้นบนลิ้นรวมถึงลดการอักเสบที่อาจเกิดขึ้น[4]
    • คุณสามารถทำน้ำเกลือได้โดยละลายเกลือ ½ ช้อนชาในน้ำอุ่น 8 ออนซ์
    • กลั้วปากด้วยน้ำเกลือนาน 30 วินาทีแล้วจึงบ้วนทิ้ง
    • พยายามกลั้วปากด้วยน้ำเกลือทุกครั้งหลังทานอาหารเพื่อขจัดเศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟันหรือบนลิ้น[5]
    • กลั้วปากซ้ำ 3-4 ครั้งต่อวันจนกระทั่งตุ่มบนลิ้นหายดี
    • ห้ามใช้น้ำเกลือสำหรับล้างคอนแทคเลนส์ในการกลั้วปากเด็ดขาด
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ดื่มน้ำเย็น.
    ผลการวิจัยบางส่วนพบว่าการดื่มน้ำเย็นสามารถบรรเทาความเจ็บปวดและลดการอักเสบที่เกิดจากตุ่มบนลิ้นได้ พยายามดื่มเครื่องดื่มเย็นเมื่อรู้สึกกระหายน้ำในระหว่างวันหรือจะเลือกดื่มเมื่อรู้สึกไม่สบายที่ลิ้นก็ได้เช่นกัน[6]
    • เพื่อไม่ให้ร่างกายเกิดการขาดน้ำ พยายามดื่มน้ำอย่างน้อย 9 แก้วต่อวันสำหรับผู้หญิงและ 13 แก้วต่อวันสำหรับผู้ชาย และสำหรับผู้ที่เคลื่อนไหวร่างกายมากหรือผู้ที่กำลังตั้งครรภ์อาจจำเป็นต้องดื่มน้ำมากถึง 16 แก้วต่อวัน[7]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 เลียก้อนน้ำแข็ง.
    การเลียน้ำแข็งทั้งแบบก้อนหรือแบบบดและไอศกรีมแท่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ตุ่มบนลิ้นมีอาการดีขึ้น[8] โดยความเย็นจากน้ำแข็งจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บและลดการอักเสบที่เกิดขึ้น[9]
    • น้ำแข็งที่ละลายยังมีส่วนช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำและลดความเสี่ยงของอาการลิ้นแห้งที่อาจมีส่วนทำให้อาการไม่สบายที่ลิ้นแย่ลง
    • คุณยังสามารถวางก้อนน้ำแข็งตรงบริเวณที่เกิดตุ่มพองบนลิ้นได้เช่นกันเพื่อให้ความเย็นสัมผัสถูกลิ้นของคุณอย่างเต็มที่
    • คุณสามารถเลียก้อนน้ำแข็งได้บ่อยครั้งตามต้องการ
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ทานอาหารที่ช่วยบรรเทาอาการแสบร้อน.
    แพทย์บางส่วนแนะนำให้เลือกทานอาหารที่มีฤทธิ์ในการลดการแสบร้อนอย่างโยเกิร์ตเพื่อช่วยให้อาการเจ็บและไม่สบายที่ลิ้นบรรเทาลง[10]
    • พยายามทานอาหารที่เย็นเพื่อเพิ่มผลลัพธ์ในการลดการแสบร้อน
    • ผลิตภัณฑ์นมประเภทต่างๆ อย่างโยเกิร์ต ไอศกรีม และนมสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บบนลิ้นของคุณ[11] รวมถึงอาหารอื่นๆ อย่างพุดดิ้งหรือไอศกรีมแท่งเช่นเดียวกัน
  5. How.com.vn ไท: Step 5 หลีกเลี่ยงอาหารและผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มอาการไม่สบายที่ลิ้น....
    หลีกเลี่ยงอาหารและผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มอาการไม่สบายที่ลิ้น. อาหารและผลิตภัณฑ์บางประเภทอาจส่งผลให้อาการเจ็บและบวมที่เกิดจากตุ่มบนลิ้นแย่ลงได้ พยายามหลีกเลี่ยงอาหารต่างๆ ที่ทำให้อาการเจ็บบนลิ้นแย่ลงอย่างอาหารรสเผ็ดหรืออาหารที่เป็นกรดรวมถึงงดใช้ยาสูบ
    • อาหารและเครื่องดื่มที่เป็นกรดต่างๆ เช่น มะเขือเทศ น้ำส้ม น้ำอัดลม และกาแฟ สามารถส่งผลให้คุณรู้สึกเจ็บที่ลิ้นมากยิ่งขึ้น รวมถึงหลีกเลี่ยงการทานพริกไทย พริกป่น อบเชย และใบสะระแหน่ด้วยเช่นกัน
    • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่หรือใช้ยาสูบแบบเคี้ยวที่เป็นสาเหตุทำให้อาการไม่สบายที่ลิ้นแย่ลง
    • หากคุณสงสัยว่าตุ่มบนลิ้นของคุณเกิดจากการแพ้อาหาร ให้หลีกเลี่ยงอาหารที่คุณคาดว่าเป็นสาเหตุทำให้เกิดตุ่มบนลิ้นและสังเกตดูว่าอาการดีขึ้นหรือไม่
  6. How.com.vn ไท: Step 6 รักษาสุขภาพช่องปาก.
    แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันทุกวันเช้าเย็นและหลังมื้ออาหารรวมถึงหมั่นตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำเพื่อรักษาสุขภาพของฟัน ลิ้น และเหงือกให้ดีอยู่เสมอ นอกจากนี้ความสะอาดของช่องปากยังสามารถป้องกันการเกิดตุ่มบนลิ้นได้อีกด้วย
    • หมั่นแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันทุกครั้งหลังมื้ออาหาร เนื่องจากเศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟันเป็นแหล่งสำคัญของเชื้อโรคซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดการติดเชื้อ แต่หากไม่มีแปรงสีฟัน คุณสามารถเคี้ยวหมากฝรั่งแทนได้เช่นกัน[12]
    • ไปพบทันตแพทย์อย่างน้อย 2 ครั้งต่อปีเพื่อทำความสะอาดฟันและตรวจสุขภาพช่องปาก
  7. How.com.vn ไท: Step 7 พยายามไม่ยุ่งกับตุ่มบนลิ้นมากนัก.โดยส่วนใหญ่แล้วตุ่มบนลิ้นจะหายดีเองโดยที่คุณไม่จำเป็นต้องรักษาด้วยวิธีใดๆ[13]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้DermNet NZไปที่แหล่งข้อมูล ซึ่งตุ่มบนลิ้นมักหายดีภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่วันเท่านั้น[14]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้DermNet...
    พยายามไม่ยุ่งกับตุ่มบนลิ้นมากนัก.โดยส่วนใหญ่แล้วตุ่มบนลิ้นจะหายดีเองโดยที่คุณไม่จำเป็นต้องรักษาด้วยวิธีใดๆ[13] ซึ่งตุ่มบนลิ้นมักหายดีภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่วันเท่านั้น[14]
    • ควรไปพบแพทย์หากคุณมีอาการเจ็บหรือไม่สบายที่ลิ้นหรือตุ่มบนลิ้นดูไม่มีท่าทีที่จะบรรเทาลง
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ใช้ยาที่ไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ใช้ยาอมหรือสเปรย์แก้เจ็บคอ.
    ยาอมหรือสเปรย์แก้เจ็บคอที่ประกอบด้วยตัวยาระงับอาการเจ็บปวดมีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการเจ็บที่เกิดจากตุ่มบนลิ้นได้ คุณสามารถหาซื้อยาอมหรือสเปรย์แก้เจ็บคอได้ตามร้านขายยาและร้านค้าทั่วไป
    • ใช้ยาอมหรือสเปรย์แก้เจ็บคอทุกๆ 2-3 ชั่วโมง หรือใช้ตามคำแนะนำของแพทย์หรือที่ระบุไว้บนฉลาก[15]
    • อมยาอมทิ้งไว้ให้ละลายจนหมดและหลีกเลี่ยงการเคี้ยวหรือกลืนลงไปทั้งเม็ด เพราะการทำเช่นนี้อาจทำให้ลำคอของคุณมีอาการชาและกลืนอาหารได้ยากยิ่งขึ้น
  2. How.com.vn ไท: Step 2 กลั้วปากด้วยน้ำยาบ้วนปากที่ผสมสารฆ่าเชื้อ.
    กลั้วปากด้วยน้ำยาบ้วนปากที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อที่ประกอบด้วยเบนไซดามีนและคลอร์เฮกซิดีน น้ำยาบ้วนปากประเภทนี้จะช่วยรักษาอาการติดเชื้อรวมถึงมีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการเจ็บและบวมได้เป็นอย่างดี[16]
    • เบนไซดามีนมีคุณสมบัติในการบรรเทาอาการเจ็บ[17]
    • คลอร์เฮกซิดีนมีส่วนช่วยในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
    • กลั้วปากด้วยน้ำยาบ้วนปาก 15 มิลลิลิตรนาน 15-20 วินาทีแล้วจึงบ้วนออก[18]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ปรึกษาแพทย์และใช้ยา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ปรึกษาแพทย์.
    หากวิธีการรักษาด้วยตัวเองที่บ้านไม่ทำให้ตุ่มบนลิ้นของคุณบรรเทาลง คุณควรหาเวลาไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด แพทย์ของคุณจะตรวจดูอาการที่เกิดขึ้นและกำหนดวิธีการรักษาที่เหมาะกับอาการของคุณ
    • ตุ่มบนลิ้นอาจมีสาเหตุเกิดจากอาการแพ้หรือการติดเชื้อไม่ว่าจะเป็นเชื้อรา เชื้อไวรัส หรือเชื้อแบคทีเรีย[19]
    • หากตุ่มบนลิ้นยังไม่หายดีหลังผ่านไปแล้ว 2-3 วันหรือมีอาการเกิดขึ้นซ้ำๆ ควรไปพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ได้ทำการรักษาหรือวินิจฉัยหาโรคประจำตัวของคุณ เช่น การแพ้อาหาร[20]
    • ไปพบแพทย์ทันทีหากตุ่มบนลิ้นมีขนาดใหญ่ขึ้นหรือแพร่กระจายไปทั่ว[21]
    • หากตุ่มบนลิ้นมีอาการเจ็บหรืออักเสบเป็นพิเศษ หรือกระทั่งเป็นอุปสรรคในการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันต่างๆ อย่างการทานอาหาร ควรรีบไปพบแพทย์โดยทันที[22]
    • ตุ่มบนลิ้นยังอาจเป็นอาการข้างเคียงของโรคอื่นๆ นอกเหนือจากการแพ้อาหาร ได้แก่ แผลร้อนใน หูดในช่องปาก ซิฟิลิส ไข้อีดำอีแดง หรือลิ้นอักเสบที่เกิดจากการสูบบุหรี่หรือการติดเชื้อ[23]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 รับการตรวจและวินิจฉัย.
    แพทย์ของคุณจะทำการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุของการเกิดตุ่มที่ลิ้น ซึ่งแม้ว่าในบางครั้งการตรวจอาจไม่สามารถยืนยันสาเหตุที่แน่ชัดที่ทำให้เกิดตุ่มที่ลิ้น แต่ก็ช่วยให้แพทย์ของคุณสามารถกำหนดวิธีรักษาที่เหมาะกับอาการของคุณได้
  3. How.com.vn ไท: Step 3 รักษาตุ่มที่ลิ้นด้วยการใช้ยา.
    แพทย์ของคุณอาจสั่งจ่ายยาหรือแนะนำยาที่ไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ที่มีคุณสมบัติช่วยในการบรรเทาอาการเจ็บที่เกิดจากตุ่มบนลิ้น และเนื่องจากตุ่มบนลิ้นโดยส่วนใหญ่จะหายดีได้เอง แพทย์จึงมักสั่งจ่ายเพียงยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อเท่านั้นหากมีอาการข้างเคียงใดๆ เกิดขึ้น[25]
    • หากตุ่มที่ลิ้นทำให้คุณรู้สึกเจ็บและก่อให้เกิดอาการข้างเคียงที่รุนแรงอย่างอาการปวดร้อนในช่องปากและลิ้น แพทย์ของคุณอาจสั่งจ่ายยาอะมิทริปไทลีนและยาอะมิซัลไพรด์ให้กับคุณ[26]
    • แม้ว่าจะมีผลการวิจัยเพียงเล็กน้อยที่ยืนยันว่ายาแก้ปวดสามารถช่วยบรรเทาตุ่มที่ลิ้นได้[27] แต่แพทย์ของคุณอาจแนะนำให้คุณใช้ยาแก้ปวดที่ไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ด้วยเช่นกัน ยาแก้ปวดที่เป็นที่นิยมได้แก่ยาอะซีตามิโนเฟน ยาไอบูโพรเฟน และยาแอสไพริน
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Mark Ziats, MD, PhD
ร่วมเขียน โดย:
แพทย์
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Mark Ziats, MD, PhD. ดร.เซียตส์เป็นแพทย์ภายใน นักวิจัย และนักลงทุนทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพ เขาสำเร็จปริญญาเอกด้านพันธุกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ในปี 2014 และปริญญาโทแพทยศาสตร์ไม่นานจากนั้นที่มหาวิทยาลัยเบย์เลอร์ในปี 2015 บทความนี้ถูกเข้าชม 76,052 ครั้ง
หมวดหมู่: สุขภาพทั่วไป
มีการเข้าถึงหน้านี้ 76,052 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา