วิธีการ หลีกเลี่ยงอาการคลื่นไส้เวลาอ่านหนังสือในรถ

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

บางครั้งการวางหนังสือดีๆ สักเล่มลงก็เป็นเรื่องยากมากๆ แม้กระทั่งอยู่บนรถ ปัญหาก็คือเวลาที่คุณอ่านหนังสือ ตาของคุณจะส่งสัญญาณไปยังสมองว่าร่างกายของคุณไม่มีการเคลื่อนไหว ซึ่งขัดแย้งกับสัญญาณจากหูชั้นใน กล้ามเนื้อ และข้อต่อของคุณซึ่งรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนของรถ [1] ความขัดแย้งนี้เป็นผลให้เกิดอาการเมารถซึ่งอาจประกอบด้วยอาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ เหงื่อออก หลั่งน้ำลายมาก หายใจได้ไม่ลึก ปวดหัว และง่วงนอน หากคุณจำเป็นต้องอ่านหนังสือเล่มนั้นจริงๆ เรามีเทคนิคบางอย่างที่คุณสามารถนำไปใช้เพื่อหลีกเลี่ยงอาการป่วยได้[2]

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

การใช้เทคนิคดูแลตนเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ละสายตาจากการอ่านทุกๆ ช่วงสั้นๆ.
    เมื่อคุณละสายตาขึ้นมา ให้มองออกไปที่ท้องฟ้า การจ้องมองวัตถุที่อยู่นิ่งและอยู่ไกลออกไปบนท้องฟ้าและการมองออกไปนอกหน้าต่างจะช่วยให้ร่างกายของคุณจับคู่สัญญาณภาพที่มองเห็นว่ามีการเคลื่อนไหวกับสัญญาณจากร่างกาย เช่น การสั่นสะเทือน[3]
    • อย่าเพ่งสายตาไปยังต้นไม้ที่แล่นผ่านข้างทาง การทำเช่นนี้จะทำให้คุณเวียนหัวมากขึ้น
    • การถือหนังสือตั้งตรงแทนการวางลงบนตักจะทำให้คุณสามารถตวัดสายตากลับไปมาระหว่างท้องฟ้าและหนังสือได้สะดวกมากขึ้น
    • หากคุณเริ่มรู้สึกไม่ดี คุณอาจจำเป็นต้องมองออกไปนอกหน้าต่างสักสองสามนาทีก่อน แล้วถึงจะกลับมาอ่านหนังสือได้
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ควบคุมความรู้สึกทางร่างกายที่บ่งบอกว่ามีการเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุดในขณะที่คุณอ่านหนังสือ....
    ควบคุมความรู้สึกทางร่างกายที่บ่งบอกว่ามีการเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุดในขณะที่คุณอ่านหนังสือ. การทำเช่นนี้จะช่วยลดความขัดแย้งระหว่างสิ่งที่ร่างกายและดวงตาของคุณบอกกับสมอง คุณสามารถทำขั้นตอนนี้ได้โดยการ:[4]
    • นั่งในส่วนของรถที่ไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวนัก โดยทั่วไปแล้ว ที่นั่งด้านหลังจะสั่นสะเทือนมากกว่าด้านหน้า ฉะนั้น จะเป็นการดีที่สุดหากคุณนั่งในที่นั่งด้านหน้าฝั่งผู้โดยสาร
    • พิงศีรษะบนหมอนหรือที่พิงศีรษะเพื่อทำให้ศีรษะของคุณอยู่นิ่งที่สุด
    • ไม่อ่านหนังสือเมื่อคุณออกจากทางหลวงและเริ่มแล่นไปบนถนนที่คดเคี้ยว ร่างกายของคุณจะรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวมากขึ้นในขณะที่รถเข้าโค้ง ซึ่งมักจะทำให้คุณมีอาการคลื่นไส้
  3. How.com.vn ไท: Step 3 เปิดหน้าต่าง.
    อากาศบริสุทธิ์จากภายนอกที่พัดโดนใบหน้าของคุณขณะที่คุณอ่านหนังสือจะช่วยลดอาการคลื่นไส้และป้องกันไม่ให้คุณรู้สึกร้อนเกินไป[5] อากาศที่บริสุทธิ์อาจทำให้คุณกลับมารู้สึกสดชื่นอีกครั้ง
    • การเปิดหน้าต่างจนสุดอาจทำให้หน้าหนังสือพัดตีกันจนเกินไป แต่แค่การเปิดหน้าต่างออกเล็กน้อยก็น่าจะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้เยอะแล้ว
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ทำตัวให้ผ่อนคลายและอย่าเครียดหากคุณเริ่มรู้สึกไม่ดี....
    ทำตัวให้ผ่อนคลายและอย่าเครียดหากคุณเริ่มรู้สึกไม่ดี. การวิตกกังวลจะทำให้คุณมีอาการเวียนศีรษะได้ง่ายขึ้น ให้หยุดพักจากการอ่านและหันไปให้ความสนใจกับการผ่อนคลาย คุณสามารถใช้เทคนิคการผ่อนคลายแบบต่างๆ เช่น: [6][7]
    • หายใจลึกๆ
    • ทำสมาธิ
    • เกร็งและคลายกล้ามเนื้อแต่ละกลุ่มในร่างกายของคุณ
    • นึกภาพทิวทัศน์ที่เงียบสงบในใจ
    • ฟังเพลง
    • หลับตาและนอนสักงีบ
  5. How.com.vn ไท: Step 5 กินอาหารเบาๆ ก่อนและขณะเดินทาง.
    แม้ว่าการกินอาหารขยะที่เต็มไปด้วยแคลอรี่เป็นของว่างขณะอ่านหนังสือจะเป็นสิ่งที่น่าทำ แต่การกินจนอิ่มมากๆ อาจทำให้คุณคลื่นไส้และอาเจียนได้ง่ายขึ้น อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงมีดังนี้:[8]
    • อาหารที่เลี่ยนและมันเยิ้ม
    • อาหารรสเผ็ด
    • แอลกอฮอล์
  6. How.com.vn ไท: Step 6 บรรเทาอาการคลื่นไส้และแน่นท้องในขณะที่คุณอ่านหนังสือ....
    บรรเทาอาการคลื่นไส้และแน่นท้องในขณะที่คุณอ่านหนังสือ. อาหารเหล่านี้เป็นอาหารเบาๆ ที่ย่อยง่าย และช่วยลดอาการคลื่นไส้:[9]
    • ขนมปังกรอบอบแห้งจะช่วยดูดซับกรดในกระเพาะอาหารของคุณได้บางส่วน
    • ลูกกวาดชนิดอม โดยเฉพาะรถมิ้นท์ ทั้งนี้ ควรอมลูกกวาดแทนการเคี้ยว
    • น้ำอัดลม เครื่องดื่มชนิดนี้จะช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้และแน่นท้องได้และยังมีอิเล็กโทรไลต์อีกด้วย
  7. How.com.vn ไท: Step 7 ใส่สายรัดข้อมือที่ช่วยกดจุดในขณะที่คุณอ่านหนังสือ....
    ใส่สายรัดข้อมือที่ช่วยกดจุดในขณะที่คุณอ่านหนังสือ. อุปกรณ์นี้เป็นสายรัดข้อมือชนิดผ้าแบบยางยืดที่มีปุ่มเล็กๆ ติดอยู่ ใส่สายรัดข้อมือบนข้อมือของคุณโดยให้ปุ่มกดที่ด้านในข้อมือระหว่างเอ็นสองเส้นที่ยาวลงมาตรงกึ่งกลางท้องแขน การกระตุ้นที่จุดกดนี้เชื่อกันว่าสามารถป้องกันอาการคลื่นไส้ได้[10]
    • ไม่ควรสวมสายรัดข้อมือแน่นเกินจนทำให้เจ็บปวดหรือทำให้เลือดไม่ไหวเวียนไปยังมือของคุณ
    • สายรัดข้อมือนี้ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่าได้ผลจริง แต่บางคนอาจพบว่าพอช่วยได้บ้าง
  8. How.com.vn ไท: Step 8 อย่าสูบบุหรี่หรือนั่งในรถที่มีกลิ่นควันบุหรี่....
    อย่าสูบบุหรี่หรือนั่งในรถที่มีกลิ่นควันบุหรี่. หากคุณเริ่มรู้สึกคลื่นไส้ คุณจะยิ่งมีความรู้สึกไวต่อสิ่งกระตุ้นอย่างควันบุหรี่ การได้กลิ่นควันบุหรี่อาจทำให้คุณมีแนวโน้มที่จะอาเจียนได้[11]
    • น้ำยาปรับอากาศที่มีกลิ่นแรงก็อาจทำให้เมารถได้เช่นกัน
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

การรักษาที่บ้านและการใช้ยา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ลองใช้ขิง.
    นักวิจัยยังยืนยันไม่ได้ว่าสารใดในขิงที่ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ได้ อาจเป็นน้ำมันและฟีนอลที่อยู่ในขิง ขิงถูกใช้มานานหลายศตวรรษเพื่อบรรเทาอาการแน่นท้องและแก้อาการคลื่นไส้ แต่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่าได้ผลกับอาการเมารถ ก่อนที่จะลองใช้ขิง ให้ปรึกษากับแพทย์ประจำตัวของคุณก่อนหากคุณกำลังตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หรือกินยาชนิดอื่นซึ่งขิงอาจมีฤทธิ์ต้าน หากแพทย์ของคุณตอบว่าลองใช้ได้ คุณอาจลองกิน:[12][13]
    • น้ำชาที่ชงจากขิงสด ชาแก้วอุ่นๆ เป็นอีกหนึ่งของเสริมที่ชวนให้รู้สึกสบายขึ้นสำหรับการอ่านหนังสือดีๆ สักเล่ม ชานี้อาจมีรสค่อนข้างเผ็ด ดังนั้นควรเตรียมตัวไว้ให้ดี! คุณอาจเติมน้ำผึ้งให้ชามีรสชาติหวานขึ้น
    • โซดาขิง น้ำอัดลมอาจช่วยบรรเทาอาการแน่นท้องได้
    • คุกกี้หรือขนมปังรสขิง
    • อาหารเสริมที่มีส่วนผสมของขิง
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ลองกินยาต้านฮิสตามีน (ยาแก้แพ้) ที่ซื้อได้เองโดยไม่ต้องมีใบสั่งยา....
    ลองกินยาต้านฮิสตามีน (ยาแก้แพ้) ที่ซื้อได้เองโดยไม่ต้องมีใบสั่งยา. ไดเมนไฮดริเนต (ดรามามีน) เป็นยาที่นิยมใช้กัน แต่เมคลิซีน (แอนไทเวิร์ท) ก็ใช้ได้เช่นกัน อ่านและปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตและปรึกษาแพทย์ประจำตัวของคุณก่อนใช้ยานี้หากคุณกำลังตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หรือกินยาชนิดอื่นอยู่[14]
    • ยาเหล่านี้อาจทำให้เกิดอาการง่วงซึม ดังนั้น คุณอาจมีปัญหาลืมตาไม่ขึ้นขณะอ่านหนังสือ
    • ห้ามขับรถหรือใช้งานเครื่องจักรกลขณะกินยานี้
    • กินยาก่อนขึ้นรถ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ขอยาตามใบสั่งแพทย์จากหมอหากคุณวางแผนที่จะอ่านหนังสือบนรถขณะเดินทางไกล....
    ขอยาตามใบสั่งแพทย์จากหมอหากคุณวางแผนที่จะอ่านหนังสือบนรถขณะเดินทางไกล. เมื่อคุณปรึกษาเรื่องยากับแพทย์ประจำตัวของคุณ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณกำลังตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หรือมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น โรคหอบหืด โรคต้อหิน ภาวะปัสสาวะขัด โรคลมชัก โรคหัวใจ โรคไต หรือโรคตับ เป็นต้น หากแพทย์พบว่าคุณสามารถใช้ยาได้อย่างไม่เป็นไร คุณอาจได้รับแผ่นแปะยาสโคโปลามีนหรือไฮออสซิน (ทรานส์เดิร์ม สค็อป)[15][16]
    • แปะแผ่นยาที่หลังใบหูสักสองสามชั่วโมงก่อนขึ้นรถ
    • แผ่นแปะชนิดนี้ควรป้องกันคุณจากอาการเมารถได้ประมาณ 3 วัน
    • ยาชนิดนี้อาจทำให้เกิดอาการง่วงซึม สายตาพร่ามัว และอาการเวียนศีรษะได้ ฉะนั้น หากมีผลข้างเคียงรุนแรง อาการดังกล่าวอาจรบกวนความสามารถในการอ่านของคุณ นอกจากนี้ หากคุณยังต้องเป็นคนขับรถในช่วงหนึ่งของการเดินทางด้วยแล้ว อย่าใช้ยาชนิดนี้
    • ยาชนิดนี้อาจหาซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ในบางประเทศ แต่ไม่ควรใช้ยากับเด็กหรือผู้สูงอายุโดยไม่ปรึกษากับแพทย์ก่อน
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Chris M. Matsko, MD
ร่วมเขียน โดย:
อายุรแพทย์
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Chris M. Matsko, MD. ดร.แมทสโกเป็นแพทย์เกษียณในเพนซิลเวเนีย เขาได้รับปริญญาจากคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเทมเพิลในปี 2007 บทความนี้ถูกเข้าชม 6,962 ครั้ง
หมวดหมู่: สุขภาพทั่วไป
มีการเข้าถึงหน้านี้ 6,962 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา