วิธีการ สังเกตอาการของโรคมะเร็งลำไส้

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา คนไทยเสียชีวิตจากโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เพิ่มขึ้นถึง 2.4 เท่า โรคมะเร็งลำไส้นั้นเกิดขึ้นทั้งกับผู้หญิงและผู้ชาย ทุกกลุ่มเชื้อชาติและชาติพันธุ์ กว่า 90% จะเกิดขึ้นกับคนอายุ 50 ปีขึ้นไป แต่โชคร้ายที่โรคมะเร็งลำไส้ในระยะแรกนั้นแทบไม่มีอาการใดๆ เลย ถ้าคุณมีอาการเข้าข่ายที่จะเป็นโรคมะเร็งลำไส้ พยายามอย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ เพราะอาการที่ว่านี้คล้ายคลึงกับโรคอื่นๆ อีกหลายโรค แต่ก็ควรไปพบแพทย์ทันที วิธีที่จะพบมะเร็งลำไส้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ก็คือการตรวจสุขภาพและตรวจคัดกรองเป็นประจำ[1]

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

สังเกตอาการของโรคมะเร็งลำไส้

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 สังเกตว่ามีเลือดปนในอุจจาระหรือไม่.
    ถ้าคุณมีเลือดออกทางทวารหนักอย่างต่อเนื่องที่น่าจะไม่ได้เกิดจากริดสีดวงทวารหรือการฉีกขาด คุณควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ แม้ว่าคุณจะเห็นเป็นแค่จุดเล็กๆ บนกระดาษชำระ คุณก็ต้องให้แพทย์ตรวจ[2] เลือดออกในอุจจาระคืออาการของโรคมะเร็งลำไส้ที่พบบ่อย
    • เลือดอาจทำให้อุจจาระของคุณเป็นสีแดงสดหรือสีเข้มกว่าปกติ หากเลือดออกตรงต้นทางเดินอาหาร อุจจาระก็อาจจะเป็นสีดำ ถ้าคุณไม่แน่ใจว่ามันเป็นเลือดหรือเปล่า ให้ติดต่อแพทย์เพื่อความปลอดภัย
    • นอกจากนี้เลือดในอุจจาระก็อาจทำให้เกิดกลิ่นเหม็นด้วย ถ้าคุณสังเกตได้ว่ากลิ่นอุจจาระเปลี่ยนไปมาก ให้ปรึกษาแพทย์โดยเร็ว
  2. How.com.vn ไท: Step 2 สังเกตว่าการขับถ่ายเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ เช่น ท้องเสียหรือท้องผูก....
    สังเกตว่าการขับถ่ายเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ เช่น ท้องเสียหรือท้องผูก. ถ้าคุณมีอาการท้องเสียและท้องผูกเป็นระยะ ต้องสังเกตให้ดี นอกจากนี้อุจจาระของคนที่เป็นโรคมะเร็งลำไส้ก็อาจจะมีลักษณะเป็นก้อนยาวตรง หรือคุณอาจจะอยากเข้าห้องน้ำอีกแม้ว่าจะขับถ่ายไปแล้วก็ตาม ลองปรึกษาแพทย์หากอาการที่ว่านี้คงอยู่นานเกิน 3-4 วัน[3]
    • สังเกตรูปแบบการขับถ่ายของตัวเอง ถ้าการขับถ่ายเปลี่ยนไปหรือคุณสังเกตว่ามีบางอย่างที่น่ากังวล ไม่ว่าจะเป็นความถี่ในการขับถ่ายหรือความเหนียวข้นของอุจจาระที่เปลี่ยนไป ให้นัดพบแพทย์
    • อาการเหล่านี้ไม่ได้บ่งบอกว่าคุณเป็นโรคมะเร็งลำไส้เสมอไป และอาการเดียวกันนี้อาจเกิดกับโรคลำไส้แปรปรวน (IBS) และอาการป่วยอื่นๆ ได้เช่นกัน
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ระวังอาการปวดท้องและท้องอืด.
    อาการเหล่านี้มาคู่กับการเปลี่ยนแปลงที่อาจทำให้รู้สึกขับถ่ายไม่ค่อยสะดวก ถ้าคุณมีอาการปวดบริเวณท้องร่วมกับอาการท้องอืดที่ไม่ได้มาจากสาเหตุอื่น ให้ไปพบแพทย์[4]
    • คุณอาจจะปวดกระดูกอุ้งเชิงกรานร่วมด้วย
    • ย้ำอีกครั้งอาการที่ว่านี้คล้ายคลึงกับอาการป่วยอื่นๆ อีกมากมาย เพราะฉะนั้นหากคุณมีอาการเหล่านี้ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะเป็นมะเร็งลำไส้เสมอไป แต่ก็ควรไปตรวจอยู่ดี
  4. How.com.vn ไท: Step 4 สังเกตน้ำหนักตัวหรือความอยากอาหารที่เปลี่ยนแปลงไป....
    สังเกตน้ำหนักตัวหรือความอยากอาหารที่เปลี่ยนแปลงไป. คนที่เป็นโรคมะเร็งลำไส้อาจรู้สึกเบื่ออาหารและอาจจะน้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุหรือไม่ก็ได้ ถ้าคุณไม่อยากรับประทานอาหารเต็มมื้อและไม่อยากรับประทานอาหารที่เคยชอบ สาเหตุก็อาจจะมาจากโรคมะเร็งลำไส้ สังเกตความเปลี่ยนแปลงในเรื่องของน้ำหนักตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมันค่อยๆ ลดลงอย่างต่อเนื่องโดยไม่ได้ตั้งใจ[5]
    • คนเราน้ำหนักตัวขึ้นๆ ลงๆ เล็กน้อยเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่ถ้าน้ำหนักตัวคุณลด 5 กิโลกรัมหรือมากกว่านั้นภายในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือนโดยไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด ให้นัดพบแพทย์[6]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 สังเกตว่าตัวเองรู้สึกเหนื่อยผิดปกติหรือไม่....
    สังเกตว่าตัวเองรู้สึกเหนื่อยผิดปกติหรือไม่. อาการนี้เป็นอาการที่พบบ่อยในผู้ป่วยมะเร็งชนิดต่างๆ รวมถึงมะเร็งลำไส้ด้วย ถ้าคุณมีอาการเหนื่อยและอ่อนเพลียอย่างมากร่วมกับอาการอื่นๆ ของโรคมะเร็งลำไส้ ให้ไปพบแพทย์ทันที[7]
    • สังเกตอาการอ่อนเพลียหรือเหนื่อยล้าที่ไม่ดีขึ้นเลยแม้จะพักผ่อนแล้วก็ตาม[8]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

เข้ารับการวินิจฉัยโดยแพทย์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 โทรศัพท์หาแพทย์หากคุณมีอาการของโรคมะเร็งลำไส้....
    โทรศัพท์หาแพทย์หากคุณมีอาการของโรคมะเร็งลำไส้. ถ้าคุณมีอาการที่อาจบ่งบอกว่าเป็นโรคมะเร็งลำไส้ ให้นัดพบแพทย์ทันที แพทย์จะดำเนินการตรวจสอบสัญญาณของโรคมะเร็งหรือตัดโรคอื่นๆ ที่ส่งผลให้เกิดอาการเดียวกันออกไป[9]
    • โรคอื่นๆ ที่มีอาการคล้ายคลึงกับโรคมะเร็งลำไส้ได้แก่ การติดเชื้อที่ระบบทางเดินอาหาร โรคลำไส้แปรปรวน และริดสีดวงทวาร
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับประวัติสุขภาพและปัจจัยเสี่ยง....
    ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับประวัติสุขภาพและปัจจัยเสี่ยง. การแจ้งปัจจัยเสี่ยงของตัวเองให้แพทย์ทราบจะช่วยให้แพทย์สามารถระบุได้ว่าคุณอาจเป็นโรคมะเร็งลำไส้หรือไม่ ในแง่ของความเสี่ยงแล้วนั้นอายุถือเป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับต้นๆ เนื่องจากคนที่เป็นมะเร็งลำไส้ส่วนใหญ่นั้นจะอายุ 50 ปีขึ้นไป แต่นอกจากนี้ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายร่วมด้วย[10] ได้แก่ :
    • มีเชื้อสายแอฟริกัน คนที่มีเชื้อสายแอฟริกันมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งลำไส้มากกว่าเชื้อชาติอื่นๆ
    • มีประวัติเป็นโรคมะเร็งลำไส้หรือติ่งเนื้อ
    • มีกลุ่มอาการทางพันธุกรรมที่อาจทำให้เป็นโรคมะเร็งลำไส้ เช่น Familial Adenomatous Polyposis (FAP) และ Hereditary Nonpolyposis Colorectal Cancer ( HNPCC) หรือ Lynch Syndrome
    • มีวิถีชีวิตเนือยนิ่ง การออกกำลังกายให้มากขึ้นช่วยลดความเสี่ยงได้
    • รับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย ไขมันสูง การเปลี่ยนมารับประทานผักและผลไม้มากขึ้น และรับประทานไขมันและเนื้อสัตว์ให้น้อยลงช่วยลดความเสี่ยงได้
    • เป็นโรคเบาหวานหรือโรคอ้วน
    • สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ตรวจคัดกรองเป็นประจำหากแพทย์แนะนำ.
    วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคมะเร็งลำไส้หรือรู้ตัวตั้งแต่เนิ่นๆ ก็คือ การเข้ารับการตรวจคัดกรองเป็นประจำหลังจากอายุ 50 ปี การตรวจคัดกรองเหล่านี้ช่วยระบุได้ว่ามีการเจริญเติบโตของมะเร็งหรือระยะก่อนมะเร็งปรากฏไหม แพทย์จะทำการตรวจสอบดังต่อไปนี้อย่างน้อย 1 อย่างเพื่อระบุว่าคุณเป็นโรคมะเร็งลำไส้หรือไม่:[11]
    • การตรวจเลือดแฝงในอุจจาระ (FOBT) เพื่อตรวจสอบว่ามีเลือดปนอยู่ในอุจจาระหรือไม่
    • การตรวจ DNA ของอุจจาระเพื่อตรวจสอบสารบ่งชี้มะเร็งทางพันธุกรรมในอุจจาระ การตรวจชนิดนี้สามารถตรวจจับการเจริญเติบโตระยะก่อนเป็นมะเร็งในลำไส้ได้ ซึ่งเพิ่มโอกาสที่จะป้องกันไม่ให้กลายเป็นมะเร็งหรือรู้ตัวตั้งแต่เนิ่นๆ[12]
    • การตรวจลำไส้ใหญ่ส่วนปลายและทวารหนัก ซึ่งจะใช้เครื่องมือมีแสงที่เรียกว่าซิกมอยด์โดสโคปตรวจหาติ่งเนื้อและการเจริญเติบโตในช่องทวารหนักและลำไส้ใหญ่ส่วนล่าง
    • การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ ซึ่งจะใช้กล้องส่องลำไส้ใหญ่เพื่อตรวจหาการเจริญเติบโตของมะเร็งหรือระยะก่อนมะเร็งในลำไส้ทั้งหมด และหากพบก็จะตัดเนื้อเยื่อเพื่อนำไปตรวจ
    • การตรวจลำไส้ใหญ่ด้วยเทคโนโลยี CT สแกนหรือการสวนแบเรียม (DCBE) ซึ่งเป็นการใช้เอกซเรย์ประเภทต่างๆ แสดงภาพติ่งเนื้อและการเจริญเติบโตในลำไส้
  4. How.com.vn ไท: Step 4 หากตรวจพบว่าเป็นมะเร็งลำไส้ ปรึกษาทางเลือกในการรักษากับแพทย์....
    หากตรวจพบว่าเป็นมะเร็งลำไส้ ปรึกษาทางเลือกในการรักษากับแพทย์. การได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งนั้นทั้งน่ากลัวและทำให้ใจเสีย แต่โชคดีที่มีทางเลือกในการรักษามากมายที่ช่วยต่อสู้กับโรคมะเร็งและควบคุมอาการได้ ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและข้อดีของการรักษาแบบต่างๆ[13]
    • การรักษาที่เหมาะกับคุณจะขึ้นอยู่กับสุขภาพโดยรวมของคุณและข้อเท็จจริงที่ว่ามะเร็งกระจายไปแค่ไหนแล้ว เช่น ถ้าก้อนมะเร็งลำไส้ยังมีขนาดเล็กและอยู่ในระยะต้นๆ แพทย์ก็อาจจะสามารถผ่าตัดก้อนมะเร็งออกมาได้ระหว่างส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่[14]
    • แต่ถ้ามะเร็งลำไส้ลุกลามไปมากกว่านั้นแล้ว คุณอาจจะต้องอาศัยการรักษาเพิ่มเติม เช่น เคมีบำบัด การรักษาด้วยรังสี หรือการผ่าตัดลำไส้ออกบางส่วน
    • ถ้าคุณมีปัญหาด้านจิตใจ แพทย์สามารถแนะนำนักจิตบำบัดหรือกลุ่มสนับสนุนที่เชี่ยวชาญด้านการช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งและครอบครัวโดยเฉพาะ และอย่าลังเลที่จะขอกำลังใจจากคนที่คุณรักด้วยเช่นกัน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • การพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่า การตรวจคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้เป็นประจำ (ตั้งแต่อายุ 50 ปี) ลดสาเหตุการตายจากโรคมะเร็งลำไส้ได้ ปรึกษาแพทย์ว่าคุณเหมาะเข้ารับการตรวจด้วยวิธีไหนมากที่สุด
  • ถ้าคุณมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งลำไส้ ให้ปรึกษาแพทย์ว่าคุณจะสามารถลดความเสี่ยงได้อย่างไรบ้าง นอกจากการตรวจคัดกรองเป็นประจำแล้ว แพทย์ก็อาจจะแนะนำให้คุณปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต เช่น รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและออกกำลังกายให้มากขึ้น รวมถึงไม่สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ด้วย[15]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Joshua Ellenhorn, MD
ร่วมเขียน โดย:
ศัลยแพทย์ที่มีใบรับรอง
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Joshua Ellenhorn, MD. โจชัว เอลเลนฮอร์นเป็นศัลยแพทย์ที่มีใบรับรองที่เชี่ยวชาญการผ่าตัดเนื้องอก การผ่าตัดที่ล่วงล้ำร่างกายน้อยที่สุดและการผ่าตัดด้วยเครื่องกล เขามีคลินิกส่วนตัวในศูนย์แพทย์ซีดาร์-ไซนายในลอสแองเจลิสและเป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำด้านศัลยกรรมและการวิจัยมะเร็ง เขาได้ฝึกศัลยแพทย์ด้านเนื้องอกกว่า 60 คนในระหว่างเป็นอาจารย์และหัวหน้าทีมศัลยแพทย์ที่ศูนย์แพทย์ซิตี้ออฟโฮป โดยผ่าตัดทั้งนิ่ว รักษาไส้เลื่อน มะเร็งลำไส้ มะเร็งผิวหนังและมะเร็งถุงน้ำดี เขาจบปริญญาโทจากคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยบอสตัน และผ่านการเป็นแพทย์ประจำที่มหาวิทยาลัยซินซินเนติ บทความนี้ถูกเข้าชม 5,338 ครั้ง
หมวดหมู่: สุขภาพทั่วไป
มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,338 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา