วิธีการ ลดอัตราการเต้นของหัวใจขณะพัก

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

อัตราการเต้นของหัวใจหรือชีพจร คือการวัดการเต้นของหัวใจต่อนาที หรือวัดว่าหัวใจต้องทำงานหนักเท่าไหร่ในการสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงทั่วร่างกาย อัตราการเต้นของหัวใจขณะพักจะบอกถึงอัตราการเต้นของหัวใจต่ำสุด คือเมื่อร่างกายใกล้เข้าสู่ช่วงพักโดยสมบูรณ์ การทราบอัตราการเต้นของหัวใจขณะพักจะช่วยให้คุณสามารถประเมินสุขภาพโดยรวมได้ และช่วยในการกำหนดชีพจรเป้าหมาย การลดอัตราการเต้นของหัวใจขณะพักจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวและอาการชักได้อย่างมาก

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ประเมินอัตราการเต้นของหัวใจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 รู้อัตราการเต้นของหัวใจขณะพักในปัจจุบัน.
    ก่อนที่คุณจะเริ่มทำการลดอัตราการเต้นของหัวใจขณะพัก คุณจำเป็นต้องรู้ก่อนว่าจุดเริ่มต้นของคุณอยู่ตรงไหน วิธีการก็แค่วัดชีพจรและนับจำนวนชีพจร สามารถจับได้ที่หลอดเลือดแดงคาโรติด (บริเวณคอ) หรือที่ข้อมือ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 วัดชีพจร.
    การจับชีพจรตรงหลอดเลือดแดงคาโรติด ทำได้โดยวางนิ้วชี้และนิ้วกลางเบาๆ บริเวณข้างลำคอ ข้างๆ หลอดลม กดเบาๆ จนเจอชีพจร ถ้าจะวัดค่าให้ได้แม่นยำที่สุด ให้นับจำนวนชีพจรใน 60 วินาที [2]
    • อีกวิธีหนึ่งคือนับจำนวนชีพจรใน 10 วินาที แล้วคูณด้วย 6 หรือนับ 15 วินาที แล้วคูณด้วย 4
    • การจับชีพจรตรงข้อมือ ให้หงายมือข้างหนึ่งขึ้น
    • ใช้มืออีกข้างจับโดยแตะปลายนิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนาง บริเวณใต้ฐานนิ้วหัวแม่มือจนเจอชีพจร
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ประเมินอัตราการเต้นของหัวใจขณะพัก.
    เมื่อคุณรู้อัตราการเต้นของหัวใจขณะพักของตัวเองแล้ว คุณต้องหาว่ามันอยู่จุดไหนของระดับวัดสุขภาพ อัตราการเต้นของหัวใจขณะพักปกติควรอยู่ระหว่าง 60-100 ครั้งต่อนาที [3] แต่ค่าที่เกิน 90 จะถือว่าสูงแล้ว [4]
    • ถ้าอัตราการเต้นของหัวใจคุณต่ำกว่า 60 ครั้งต่อนาที และมีอาการเวียนศีรษะ หายใจลำบาก และสายตาแคบลง ควรไปให้แพทย์ตรวจ
    • อัตราการเต้นของหัวใจขณะพักของนักกีฬาที่ผ่านการฝึกความอดทนมาดี จะอยู่ระหว่าง 40-60 ครั้งต่อนาที [5] พวกเขาจะไม่มีอาการที่เป็นอันตรายอย่างเวียนศีรษะ
    • ลองวัดอีก 2-3 วันเพื่อหาค่าเฉลี่ย
  4. How.com.vn ไท: Step 4 รู้ว่าเมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์.
    อัตราการเต้นของหัวใจขณะพักที่สูงจะไม่ทำให้เป็นอันตรายในทันที แต่อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพในระยะยาวได้ ในกรณีนี้คุณควรค่อยๆ ลดอัตราการเต้นของหัวใจขณะพักโดยการออกกำลังกาย [6] แต่ถ้าชีพจรคุณต่ำมาก หรือหัวใจเต้นเร็วเป็นช่วงๆ โดยหาสาเหตุไม่ได้อยู่บ่อยๆ และยิ่งถ้ามีอาการเวียนศีรษะร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์ [7]
    • โดยปกติแล้ว ถ้ามีอัตราการเต้นของหัวใจสูงร่วมกับอาการอื่นๆ คุณควรไปพบแพทย์
    • หาสาเหตุหลักๆ เช่น ปริมาณการดื่มกาแฟ ก่อนจะไปพบแพทย์ [8]
    • แจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณกำลังกินยาที่อาจส่งผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจ เช่น กลุ่มยาปิดกั้นเบต้า (beta blockers)
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ออกกำลังกายเพื่อลดอัตราการเต้นของหัวใจขณะพัก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เริ่มออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ.
    วิธีที่ดีที่สุดที่จะค่อยๆ ลดอัตราการเต้นของหัวใจขณะพักอย่างปลอดภัย คือการออกกำลังกายแบบแอโรบิกให้เป็นกิจวัตร ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) แนะนำว่าผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีควรออกกำลังกายแบบแอโรบิกระดับปานกลาง (เดินเร็ว) 150 นาทีต่อสัปดาห์ และฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ 2 วันต่อสัปดาห์ หรือมากกว่านั้น การฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อควรได้ใช้กล้ามเนื้อหลักทุกกลุ่ม (ขา สะโพก หลัง หน้าท้อง อก ไหล่ และแขน) [9]
    • เพื่อหัวใจที่แข็งแรงขึ้น ควรตั้งเป้าออกกำลังกายระดับปานกลางถึงหนัก 40 นาที ให้ได้ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์
    • ควรออกกำลังกายแบบยืดเหยียดกล้ามเนื้อ และแบบยืดหยุ่นอย่างการเล่นโยคะด้วย
    • ลองทำควบคู่กับการออกกำลังกายเพื่อฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง [10]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 หาอัตราการเต้นสูงสุดของหัวใจ.
    การจะกำหนดเป้าหมายของอัตราการเต้นของหัวใจขณะพัก คุณสามารถปรับกิจวัตรการออกกำลังกายเพื่อให้คุณตั้งเป้าอัตราการเต้นของหัวใจขณะออกกำลังกายได้ ด้วยวิธีนี้ คุณจะหาระดับความเข้มข้นของการออกกำลังกายและการทำงานของหัวใจได้ และค่อยๆ เพิ่มมันเมื่อร่างกายคุณแข็งแรงขึ้น คุณต้องหาอัตราการเต้นสูงสุดของหัวใจก่อน วิธีการที่ปลอดภัยเหล่านี้เป็นเพียงการประมาณค่า แต่มันจะทำให้คุณเห็นภาพรวมได้
    • วิธีหนึ่งที่ง่ายๆ คือแค่นำ 220 ไปลบอายุของคุณ [11]
    • ถ้าคุณอายุ 30 ปี อัตราการเต้นสูงสุดของหัวใจคุณจะอยู่ที่ประมาณ 190 ครั้งต่อนาที
    • วิธีนี้จะใช้ได้แม่นยำกว่าสำหรับผู้ที่อายุไม่เกิน 40 ปี
    • อีกวิธีที่ซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย คือนำอายุของคุณไปคูณ 0.7 และเอามาลบด้วย 208
    • ด้วยวิธีนี้ ผู้ที่อายุ 40 ปี จะมีอัตราการเต้นสูงสุดของหัวใจอยู่ที่ 180 (208 - 0.7 x 40)[12]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 หาค่าเป้าหมายของอัตราการเต้นของหัวใจ.
    เมื่อรู้ค่าโดยประมาณของอัตราการเต้นสูงสุดของหัวใจแล้ว คุณจะสามารถหาค่าเป้าหมายของอัตราการเต้นของหัวใจสำหรับการออกกำลังกายของคุณได้ การออกกำลังกายให้อัตราการเต้นของหัวใจอยู่ในระหว่างค่าเป้าหมาย จะทำให้คุณรู้ว่าหัวใจทำงานหนักได้แค่ไหน และจัดแผนการออกกำลังกายได้ละเอียดขึ้น
  4. How.com.vn ไท: Step 4 เฝ้าสังเกตอัตราการเต้นของหัวใจขณะออกกำลังกาย....
    เฝ้าสังเกตอัตราการเต้นของหัวใจขณะออกกำลังกาย. การจะสังเกตอัตราการเต้นของหัวใจขณะออกกำลังกาย ทำได้โดยจับชีพจรที่ข้อมือหรือคอ นับจำนวนครั้งใน 15 วินาที และคูณด้วย 4 ถ้ากำลังออกกำลังกาย คุณต้องรักษาอัตราการเต้นของหัวใจให้อยู่ระหว่าง 50-85 เปอร์เซ็นต์ของอัตราการเต้นสูงสุดของคุณ ถ้ามันลดลง ลองเพิ่มระดับความเข้มข้นขึ้น [16]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

เปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ออกกำลังกายควบคู่กับการกินอาหารที่มีประโยชน์....
    ออกกำลังกายควบคู่กับการกินอาหารที่มีประโยชน์. การมีน้ำหนักตัวมากเกินจะทำให้หัวใจของคุณทำงานหนักขึ้นในการสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย ถ้าคุณมีน้ำหนักเกินเกณฑ์ การออกกำลังกายอย่างเคร่งครัดและการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพจะช่วยลดน้ำหนักและบรรเทาความตึงเครียดของกล้ามเนื้อหัวใจ ซึ่งจะเป็นการลดอัตราการเต้นของหัวใจขณะพัก [18]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ไม่สูบบุหรี่.
    ผู้ที่สูบบุหรี่จะมีอัตราการเต้นของหัวใจขณะพักที่สูงกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ และยังเป็นอันตรายต่อร่างกายด้วย การลดหรือเลิกบุหรี่จะช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจ และทำให้สุขภาพหัวใจดีขึ้น [19]
    • สารนิโคตินจะทำให้เส้นเลือดตีบ เป็นอันตรายต่อกล้ามเนื้อหัวใจและหลอดเลือด การเลิกสูบบุหรี่สามารถทำให้ความดันโลหิต การไหลเวียน และสุขภาพโดยรวมดีขึ้นได้อย่างมาก ทั้งยังลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งและมีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจอีกด้วย
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ลดคาเฟอีน.
    เป็นที่รู้กันดีว่าสารคาเฟอีนและผลิตภัณฑ์ที่มีคาเฟอีนอย่างกาแฟและชา จะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น [20] ถ้าคุณคิดว่าตัวเองมีอัตราการเต้นของหัวใจขณะพักค่อนข้างสูง การลดปริมาณการบริโภคคาเฟอีนจะช่วยทำให้มันต่ำลงได้ [21]
    • การดื่มกาแฟเกินสองแก้วต่อวันจะทำให้เกิดผลข้างเคียงหลายอย่าง รวมถึงเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจด้วย [22]
    • เครื่องดื่มที่สกัดคาเฟอีนออกแล้ว (Decaffeinated drinks) สามารถช่วยคุณลดปริมาณคาเฟอีนที่บริโภคได้
  4. How.com.vn ไท: Step 4 หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์.
    การดื่มแอลกอฮอล์จะสัมพันธ์กับอัตราการเต้นของหัวใจที่เพิ่มขึ้น และค่าเฉลี่ยอัตราการเต้นของหัวใจที่สูงขึ้น การลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจขณะพัก [23]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 เครียดให้น้อยลง.
    การลดความเครียดที่ต้องเจอไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันสามารถช่วยคุณลดอัตราการเต้นของหัวใจขณะพักได้ หากมีความเครียดมากจะส่งผลเสียต่อร่างกายของคุณ ลองทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย เช่น ฝึกสมาธิ หรือฝึกไทชิ [24] พยายามหาเวลาเล็กน้อยในแต่ละวันเพื่อผ่อนคลายและหายใจลึกๆ
    • แต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน ควรหาอะไรที่ทำให้คุณผ่อนคลายได้
    • บางทีอาจจะเป็นการฟังเพลงที่ช่วยให้ใจสงบ หรือการแช่น้ำนานๆ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ยาบางชนิดอาจเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจขณะพัก เช่นเดียวกับคาเฟอีนและนิโคติน แพทย์จะสามารถประเมินระหว่างผลกระทบกับประโยชน์ของยาได้ดีที่สุด
  • ปรึกษาแพทย์ถึงสุขภาพโดยรวมของคุณ อัตราการเต้นของหัวใจขณะพักเป็นเพียงตัววัดสุขภาพหัวใจ แพทย์อาจจะแนะนำให้ทำการทดสอบเพิ่มเติม
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • นาฬิกาที่มีเข็มวินาที หรือนาฬิกาจับเวลา
  1. http://www.heart.org/HEARTORG/Conditions/HighBloodPressure/PreventionTreatmentofHighBloodPressure/Physical-Activity-and-Blood-Pressure_UCM_301882_Article.jsp
  2. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/fitness/in-depth/exercise-intensity/art-20046887?pg=2
  3. http://www.webmd.com/fitness-exercise/the-truth-about-heart-rate-and-exercise?page=3
  4. http://www.heart.org/HEARTORG/HealthyLiving/PhysicalActivity/FitnessBasics/Target-Heart-Rates_UCM_434341_Article.jsp#.Vt47mY-cHIUShow less
  5. http://www.heart.org/HEARTORG/GettingHealthy/PhysicalActivity/FitnessBasics/Target-Heart-Rates_UCM_434341_Article.jsp
  6. http://www.heart.org/HEARTORG/HealthyLiving/PhysicalActivity/FitnessBasics/Target-Heart-Rates_UCM_434341_Article.jsp#.Vt47mY-cHIUShow less
  7. http://www.heart.org/HEARTORG/Conditions/HighBloodPressure/PreventionTreatmentofHighBloodPressure/Physical-Activity-and-Blood-Pressure_UCM_301882_Article.jsp
  8. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/fitness/in-depth/exercise-intensity/art-20046887?pg=2
  9. http://www.health.harvard.edu/blog/increase-in-resting-heart-rate-is-a-signal-worth-watching-201112214013
  10. http://www.health.harvard.edu/blog/increase-in-resting-heart-rate-is-a-signal-worth-watching-201112214013
  11. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/15730434
  12. http://www.vacardio.com/for-patients/blog/fast-heart-rate-when-to-worry/
  13. http://www.uhs.umich.edu/caffeine
  14. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC1767471/
  15. http://www.health.harvard.edu/blog/increase-in-resting-heart-rate-is-a-signal-worth-watching-201112214013

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Shari Forschen, NP, MA
ร่วมเขียน โดย:
พยาบาลฝึกหัด
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Shari Forschen, NP, MA. ชาริ ฟอร์สเคนเป็นพยาบาลขึ้นทะเบียนของศูนย์สุขภาพแซนฟอร์ดในนอร์ธดาโกตา เธอได้รับปริญญาโทการเป็นพยาบาลฝึกหัดจากมหาวิทยาลัยนอร์ธดาโกตาและเป็นพยาบาลมาตั้งแต่ปี 2003 บทความนี้ถูกเข้าชม 8,595 ครั้ง
หมวดหมู่: สุขภาพ
มีการเข้าถึงหน้านี้ 8,595 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา