วิธีการ รับมือกับอาการเป็นลมหมดสติ

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

เมื่อเริ่มมีอาการ

เมื่อฟื้นจากการหมดสติ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

การเป็นลม หมดสติ อาจเป็นเรื่องที่น่ากลัว เมื่อคุณไม่รู้ว่าควรทำเช่นไรเมื่อกำลังจะเป็นลม แต่จริงๆ แล้ว เราสามารถเตรียมรับมือกับมันไว้ก่อนได้ และนี่คือวิธีที่จะช่วยให้คุณพร้อมที่จะช่วยเหลือตัวเอง (หรือผู้อื่น) เมื่อมันเกิดขึ้นในอนาคตได้

ขั้นตอน

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 2:

เมื่อเริ่มมีอาการ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ลองสังเกตอาการ. ก่อนคุณจะหมดสติไป คุณจะเริ่มมองเห็นแสงรอบๆ ตัวมืดลง รู้สึกหัวเบาหวิว วิงเวียน ได้ยินเสียงพร่ามัวไม่ชัดเจน ถ้าคุณมีอาการที่กล่าวมานี้ ให้รีบลดตัวลงนั่งก่อนที่จะล้ม เพื่อไม่ให้ตัวเองบาดเจ็บ

   • บางคนอาจมีอาการตาพร่า มองเห็นสีเปลี่ยนไปจากเดิม รู้สึกพะอืดพะอม หรืออาจจะไม่รู้สึกอะไรเลยก็ได้ อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่ก็มักจะต้องมีอาการเวียนหัว และมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นกับการมองเห็นและได้ยินก่อนเสมอ
2. 
   2
   นอนพัก “ทันที” เพราะอันตรายมักจะเกิดขึ้นจากการล้มหมดสตินั่นเอง. โดยปกติ มันไม่น่าวิตกเท่าใดนัก (เว้นเสียแต่ในรายที่มีอาการร้ายแรง) ก่อนอื่น ยกเท้าคุณให้สูงไว้ด้วยหมอนหรือเสื้อหนาๆ เพื่อให้เท้าอยู่เหนือกว่าระดับหัวใจ จะช่วยให้เลือดไหลเวียนสู่หัวใจและสูบฉีดไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น ซึ่งจำเป็นมากสำหรับคนที่กำลังจะเป็นลม

   • รู้ไว้ว่า แม้แต่ตอนที่คุณนอนลง คุณก็มีโอกาสที่จะหมดสติได้เสมอ แต่อย่างน้อยคุณก็ปลอดภัยหล่ะ
   • กรณีที่คุณไม่อยู่ในที่ที่จะนอนได้ ให้คุณนั่งซบศีรษะกับหัวเข่าทั้งสองข้างแทน จะช่วยเพิ่มเลือดไปที่สมอง อีกทั้งยังช่วยให้มีเวลาพอที่ใครสักคนจะมาเห็นคุณและพาคุณไปยังที่โล่งและปลอดภัยได้
3. 
   3
   ถ้าเป็นไปได้ บอกคนรอบข้างว่าคุณกำลังจะหมดสติ. การเป็นลมอาจจะทำให้คุณบาดเจ็บอย่างรุนแรงได้ ทางที่ดีคุณควรหาใครสักคนมาช่วยก่อนที่คุณจะล้มไป แม้แต่คนแปลกหน้าก็ตาม ว่าคุณกำลังหน้ามืดและรู้สึกเวียนหัว เพื่อเขาจะได้ช่วยประคองคุณลงพื้นหรือพาไปยังที่ที่ปลอดภัยแล้วคอยดูแลคุณได้

   • แต่ถ้าคุณอยู่ในฝูงชนก็อาจจะยากหน่อย คุณควรหาทางพาตัวเองไปอยู่บริเวณรอบนอก แต่ไม่ให้ห่างไกลผู้คนมากนัก เพราะคุณยังต้องการใครสักคนมาช่วยหากเกิดอะไรขึ้น แต่อีกแง่หนึ่ง คุณควรระวังไม่ให้คนอื่นล้มตามไปด้วย ถ้าเป็นไปได้ ให้คุณบอกพวกเขาไว้ก่อนว่าคุณจะล้ม เพื่อที่พวกเขาจะได้รู้ตัวและระวังที่จะไม่ล้มไปด้วย อีกอย่างพวกเขาจะได้ช่วยประคองตัวคุณไว้ไม่ให้คุณได้รับบาดเจ็บอีกด้วย
4. 
   4
   ถ้าคุณยืนอยู่ แล้วกำลังจะหมดสติ โดยไม่มีคนอยู่แถวนั้นที่พอจะช่วยคุณได้ ให้คุณมองหากำแพงไว้. อย่างน้อยคุณจะสามารถพิงตัวแล้วค่อยๆ ไถลล้มลงกับกำแพงได้ มันก็ยังดีกว่าที่คุณจะล้มลงตรงๆ โดยที่หน้าคุณอาจจะฟาดกับพื้น หรือแขนอาจจะหักได้

   • หรือไม่คุณอาจจะมองหาที่นุ่มๆ ไว้รองรับเพื่อไม่ให้คุณกระแทกแรงมากก็ได้
5. 
   5
   หากคุณกำลังเดินอยู่ที่บันได ให้พยายามจับราว “ฝั่งด้านใน” เอาไว้. นั่นก็คือ ด้านที่ใกล้กำแพงที่คุณมองลงไปไม่เห็นบันไดข้างล่างนั่นแหล่ะ เมื่อเวลาล้มให้คุณปล่อยตัวห้อยไปกับราวบันไดที่จับอยู่ คุณอาจจะไถลไปสักหนึ่ง หรือสองฟุตเท่านั้น

   • แต่จำไว้ว่า ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน (จะที่บันไดหรือที่อื่นก็ตาม) พยายามลงมาอยู่กับพื้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
   โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 2:

เมื่อฟื้นจากการหมดสติ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ถ้าคุณอยู่คนเดียว หายใจเข้าลึกๆ. แล้วตรวจดูบาดแผลตามร่างกายก่อน แต่อย่าเพิ่งลุกขึ้นทันที รอให้ร่างกายฟื้นตัวก่อนสักประมาณ 10 ถึง 15 นาที ถ้าทำได้ ให้คุณพยายามยกเท้าขึ้นสูงๆ เพื่อให้เลือดไหลเวียนมาที่สมองไว้ br>

   • ถ้าคุณมีโทรศัพท์มือถือ ให้โทรเรียกเพื่อนหรือผู้ปกครองหรือใครก็ได้ที่คุณรู้จัก
2. 
   2
   ดื่มน้ำ. โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นลมจากการที่ร่างกายสูญเสียน้ำหรืออากาศที่ร้อนมากเกินไป บางครั้งอุณหภูมิที่สูงก็มักจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้คนเป็นลมหมดสติได้
3. 
   3
   ทานของที่มีรสเค็ม. เป็นที่รู้กันว่าอาหารที่มีรสเค็มจะช่วยเพิ่มความดันโลหิต แพทย์ทั้งหลายจึงมักจะแนะนำผู้ที่เป็นลมให้ทานอาหารหรือดื่มน้ำที่มีส่วนผสมของเกลือ (เช่นแครกเกอร์ ขนมปังแท่ง น้ำเกลือแร่เป็นต้น) การบริโภคเกลือจะช่วยกระตุ้นความดันโลหิตที่เสียไปให้กลับคืนมาได้

   • โดยปกติ การบริโภคเกลือในปริมาณมากไม่ใช่เรื่องดี โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยง แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนที่คุณจะได้รับยาหรืออาหารที่มีส่วนผสมของเกลือ
4. 
   4
   ค่อยๆ ขยับตัว. ลาพักบ้างสักวัน อย่าเพิ่งทำอะไรเร่งรีบหรือกิจกรรมที่ทำให้เหนื่อยง่ายจนกว่าคุณจะรู้สึกว่าหายแล้ว 100% กินอาหารอ่อนๆ ดื่มน้ำมากๆ พักผ่อนเยอะๆ เข้าไว้ แล้วจะดีเอง

   • ข้อแนะนำ หมั่นขยับขาในขณะที่นอนพักจะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี และทำให้ร่างกายกลับคืนสู่สภาพปกติได้ร็วขึ้น
5. 
   5
   ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น. Call the Emergency Services การเป็นลมมักจะใช้เวลาแค่ไม่ถึงนาที ถ้านานกว่านั้น ควรรีบพาผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที

   • หากคุณเป็นลมอยู่บ่อยครั้ง ควรพบแพทย์ เนื่องจากอาจมาจากภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ หรือโรคความดันโลหิตต่ำได้
   โฆษณา

คำแนะนำ

• ถ้าคุณอยู่ที่โรงเรียน คุณสามารถบอกครูเพื่อให้ครูช่วยเรียกพยาบาลให้
• พยายามบอกใครสักคนให้ช่วยจับคุณไว้เสมอก่อนที่คุณจะล้มหมดสติ เพื่อที่เขาหรือเธอจะได้ช่วยคุณได้ทัน
• ถ้ายังคงมีอาการเป็นลมต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งหรือสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน
• แนะนำให้หาของนุ่มๆ มาวางที่พื้นไว้ก่อน เพราะเวลาที่จะเป็นลม คุณมักจะไม่ค่อยรู้ตัวและจะไม่มีเวลาเตรียมตัวรับมืออะไรทั้งนั้น สิ่งเดียวที่รู้ก็ตอนที่เริ่มมองเห็นอะไรเป็นสีแดงสีฟ้า มีแต่จุดบังสายตาไปหมดเสียแล้ว

ข้อควรระวัง

• หลังจากฟื้นคืนสติแล้ว ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุของการเป็นลม แม้จะไม่พบร่องรอยการบาดเจ็บก็ตาม
• ถ้าเกิดอาการว่าจะเป็นลมในขณะขับรถ ให้เลี้ยวไปจอดที่ปลอดภัยไว้ก่อน
• ถ้าคุณมีอาการอย่างอื่น – เช่น ปวดหัว ปวดหลัง ปวดหน้าอก หายใจติดขัด ปวดท้อง ร่างกายอ่อนแรง หรือสูญเสียการควบคุม รีบพบแพทย์โดยด่วน