บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Anthony Stark, EMR. แอนโธนี สตาร์คเป็นผู้รับผิดชอบหน่วยแพทย์ฉุกเฉินที่มีใบอนุญาตในบริติชโคลัมเบีย ปัจจุบันเขาทำงานให้กับศูนย์แพทย์ฉุกเฉินบริติชโคลัมเบีย
บทความนี้ถูกเข้าชม 66,625 ครั้ง
เสี้ยนนั้นมักชอบมีขนาดเล็ก แต่ทำให้เจ็บชะมัด แถมยากจะเอาออกอีก ถ้าเสี้ยนนั้นใหญ่หรือทำให้เจ็บมาก คุณก็จำต้องไปพบแพทย์ให้เอาออก อย่างไรก็ดี ถ้าคุณเจอเสี้ยนเล็กๆ ตำให้เจ็บและชวนหงุดหงิด มีหลายวิธีที่คุณจะใช้เอาเสี้ยนออกได้และรักษาแผลนั้นเช่นกัน
ขั้นตอน
- ล้างบริเวณที่ถูกตำ. ก่อนจะเอาเสี้ยนออก ล้างมือกับผิวรอบบริเวณที่ถูกตำด้วยน้ำอุ่นกับสบู่ มันจะช่วยลดความเสี่ยงที่เชื้อโรคจะแพร่กระจายจนเกิดการติดเชื้อ [1]
- ล้างมือด้วยสบู่อ่อนกับน้ำอุ่นนาน 20 วินาที[2]
- ใช้สบู่อ่อนกับน้ำหรือใช้น้ำยาฆ่าเชื้อล้างบริเวณที่โดนตำ
- เช็ดมือและบริเวณที่โดนตำให้แห้งก่อนจะเอามันออก
- ใช้แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อที่แหนบ. ก่อนใช้แหนบต้องแน่ใจว่าได้ใช้รับบิ้งแอลกอฮอล์มาฆ่าเชื้อบนแหนบแล้ว เพื่อลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อหรือเกิดเชื้อกระจายภายในแผล การมีเชื้อโรคในแผลจะทำให้แผลอักเสบ[3] .
- เวลาจะใช้แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อบนแหนบ ให้แช่มันในถ้วยแอลกอฮอล์สักสองสามนาที หรือใช้สำลีที่ผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้วเช็ดแหนบด้วยรับบิ้งแอลกอฮอล์
- หาซื้อรับบิ้งแอลกอฮอล์ได้ตามร้านขายยา ร้านของชำหรือร้านค้าปลีกใหญ่ๆ ก็มีขาย
- ผ่าและยกผิวหนังเหนือเสี้ยนขึ้นถ้าจำเป็น. หากเสี้ยนมีผิวหนังปิดไว้อยู่ คุณต้องใช้เข็มที่ผ่านการฆ่าเชื้อมาเขี่ยแยกผิวหนังและยกผิวตรงนั้นขึ้น ฆ่าเชื้อเข็มโดยแช่หรือเช็ดด้วยรับบิ้งแอลกอฮอล์ แล้วใช้เข็มเขี่ยหนังให้แยกออกแล้วยกมันขึ้นเพื่อเอาเสี้ยนออกได้ง่ายกว่าเดิม [6]
- ถ้าเสี้ยนอยู่ลึกเกินกว่าจะเขี่ยผิวให้เปิดออก ลองคิดไปโรงพยาบาลให้แพทย์จัดการให้จะดีกว่า
- ใช้แหนบคีบเสี้ยนออก. พอเห็นปลายเสี้ยนแล้ว ใช้แหนบคีบมันออกมาในทิศทางเดียวกับที่มันตำเข้าไป[7]
- ถ้าต้องใช้แหนบจิ้มลึกเกินไปถึงจะเอาเสี้ยนออกได้ อาจต้องไปหาแพทย์เอาออกให้ดีกว่า
- ถ้าเสี้ยนมันหักครึ่งเสียก่อน ไม่ไปพบแพทย์ก็ต้องใช้แหนบลองคีบใหม่[8]
โฆษณา
- หาเทปกาว. เสี้ยนที่บอบบาง อย่างพวกเสี้ยนไม้หรือไฟเบอร์กลาส มักจะตอบสนองต่อการเอาออกด้วยเทปกาวได้ดี คุณสามารถใช้เทปกาวต่างชนิดมาใช้ในการนี้ ไม่ว่าจะกระดาษกาว เทปกาวหนังไก่ หรือเทปพันสายไฟ คุณแค่ใช้มันชิ้นเล็กๆ เอง
- ให้แน่ใจว่าบริเวณรอบเสี้ยนนั้นแห้งสะอาดก่อนจะใช้เทปกาวแปะลงไป
- ล้างและเช็ดมือให้แห้งก่อนเริ่มเช่นกัน
- แปะเทปกาวเหนือเสี้ยน. แปะเทปลงไปบนจุดที่เสี้ยนตำและกดไว้ให้แน่นเพื่อให้มันติดกับเสี้ยน ให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้ไปกดให้เสี้ยนยิ่งจมลงไปในชั้นผิวหนัง ให้กดออกไปจากจุดที่เสี้ยนตำเข้าไป[9]
- ดึงเทปออก. หลังจากแน่ใจว่าเทปกาวติดเสี้ยนแล้ว ให้ดึงเทปออก ลอกเทปออกช้าๆ ในทิศทางเดียวกับที่เสี้ยนตำเข้าไปในผิว[10] เมื่อดึงเทปกาวออก เสี้ยนน่าจะติดกับเทปถูกดึงออกมาด้วย
- ตรวจดูเทป. หลังดึงเทปออก ตรวจดูว่ามีเสี้ยนติดอยู่หรือไม่ คุณควรตรวจที่ผิวด้วยว่ายังมีเศษเสี้ยนทิ่มอยู่ในผิวหรือเปล่า ถ้ายังมีเสี้ยนหรือเศษของมันอยู่ ให้ลองทำซ้ำหรือลองวิธีอื่นดูโฆษณา
- ทากาวตรงเสี้ยน. คุณสามารถใช้กาวอย่างกาวขาวที่เด็กนักเรียนใช้ แค่ทากาวตรงที่เสี้ยนตำกับบริเวณรอบๆ[11] ให้แน่ใจว่ากาวหนาพอที่จะครอบคลุมเสี้ยนได้หมด
- ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง. กาวจะต้องแห้งสนิทก่อนถึงจะลอกออกได้ มิฉะนั้นมันจะไม่ติดเสี้ยน ทิ้งกาวไว้สัก 30 นาทีถึงหนึ่งชั่วโมง ตรวจดูอยู่เรื่อยๆ ว่ากาวแห้งหรือยัง มันไม่ควรรู้สึกแฉะหรือเหนอะ
- ลอกกาวออก. หลังจากแน่ใจว่ากาวแห้ง ลอกขอบกาวและดึงออกในทิศทางเดียวกับที่เสี้ยนตำเข้าไป ดึงช้าๆ อย่างสม่ำเสมอ เมื่อคุณลอกกาวไปเหนือตำแหน่งเสี้ยน เสี้ยนสมควรติดออกมา
- ตรวจดูเสี้ยน. หลังลอกกาวออกแล้ว ดูที่กาวว่ามีเสี้ยนติดอยู่หรือไม่ ควรตรวจดูว่ามีเศษเสี้ยนติดผิวหรือเปล่า ถ้ามีให้ทำซ้ำหรือลองวิธีอื่นโฆษณา
- บีบแผลเบาๆ. เมื่อคุณเอาเสี้ยนออกสำเร็จแล้ว บีบแผลเบาๆ จนกระทั่งเห็นเลือดออกมา นี่จะช่วยเอาเชื้อโรคที่ติดอยู่กับเสี้ยนออกมาจากบาดแผล[14]
- อย่าบีบแรงเกินไป ถ้าบีบเบาๆ ที่แผลแล้วไม่มีเลือดไหล ก็ทิ้งไว้เช่นนั้น คุณสามารถใช้วิธีอื่นฆ่าเชื้อโรค รวมไปถึงใช้ยาฆ่าเชื้อ
- ล้างแผลด้วยน้ำอุ่นอย่างน้อยหนึ่งนาทีจะช่วยทำความสะอาดผิวบริเวณนั้น
- ฆ่าเชื้อบริเวณนั้น. ล้างแผลเสี้ยนตำด้วยสบู่กับน้ำอุ่นหลังจากเอาเสี้ยนออก นี่จะช่วยทำความสะอาดแบคทีเรียกับเชื้อโรคที่ยังหลงเหลืออยู่ในบาดแผล หลังทำเสร็จแล้ว คุณยังอาจทาขี้ผึ้งฆ่าเชื้ออีกก็ได้[19]
- ปิดบาดแผล. หลังเลือดหยุดไหลและทำความสะอาดแผลแล้ว คุณอาจต้องการปิดบริเวณนั้นเพื่อป้องกันแบคทีเรียเข้าสู่บาดแผล ให้ใช้ผ้ากอซหรือพลาสเตอร์ยามาติดทับบริเวณนั้น พลาสเตอร์ยาจะเพิ่มแรงกดที่จะช่วยให้เลิอดหยุดไหลด้วย[22]โฆษณา
- ตัดสินว่าคุณควรเอาเสี้ยนออกเองหรือไปพบแพทย์. เสี้ยนเล็กๆ ที่อยู่ใต้ชั้นผิวนั้นสามารถเอาออกเองที่บ้านได้อย่างปลอดภัย[23] อย่างไรก็ตาม ในบางสถานการณ์อาจจำเป็นต้องให้แพทย์เอาเสี้ยนออก
- เมื่อคุณไม่แน่ใจว่ามันเป็นเสี้ยนอะไรหรือทำไมถึงรู้สึกปวดเหลือเกิน ก็ควรไปพบแพทย์ทันที[24]
- ไปพบแพทย์ถ้าเสี้ยนนั้นอยู่ลึกเกินกว่าครึ่งเซนติเมตร หรือถ้าเสี้ยนนั้นไปโดนกล้ามเนื้อหรือเส้นประสาท
- ไปพบแพทย์ถ้าเสี้ยนนั้นมันรุนแรง. ถ้าเสี้ยนตำลึก ทำให้ปวดมาก ไม่ยอมหลุดออก หรือแค่คุณไม่อยากเอามันออกเอง ให้ไปพบแพทย์ทันที มันจะช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อรุนแรงให้น้อยลง[25] ไปพบแพทย์ด้วยถ้า:[26]
- เสี้ยนนั้นมีตาเสี้ยน
- เสี้ยนไม่หลุดออกง่ายๆ
- แผลนั้นลึกและสกปรก
- คุณฉีดยาแก้บาดทะยักครั้งสุดท้ายเกินห้าปีแล้ว
- ลองคิดที่จะไม่เอาเสี้ยนออก. ถ้าเสี้ยนนั้นเล็กมากและไม่ก่อความเจ็บปวดใดๆ คุณอาจปล่อยมันทิ้งไว้ได้เลย ผิวหนังคุณอาจดันเสี้ยนออกมาเอง ผิวยังอาจทำให้เกิดสิวรอบๆ เสี้ยนแล้วให้มันไหลออกมาเอง[29]
- รักษาบริเวณนั้นให้สะอาดและสังเกตดูสัญญาณการติดเชื้อ ถ้าคุณเห็นอาการบวมแดง แสบร้อน หรือเจ็บบริเวณนั้น ให้ไปพบแพทย์[30]
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้าจะทำให้บริเวณนั้นรู้สึกชาก่อนเอาเสี้ยนออก ให้ถูน้ำแข็งรอบๆ เสี้ยน แต่อย่าถูตรงนั้นโดยตรง เช็ดให้แห้งแล้วลองเอาเสี้ยนออก
- ใช้แหนบ กรรไกรตัดเล็บ หรืออะไรที่พอหาได้มากดรอบๆ เสี้ยน เพราะการกดไปที่ผิวจะทำให้มันลดต่ำลง แล้วดันผิวตรงกลางให้สูงนูนขึ้นมา
- แช่เสี้ยนในน้ำร้อนแล้วค่อยดึงออกมา
- ใช้ครีมรักษาริดสีดวงทวารบนบริเวณที่ถูกเสี้ยนตำจะช่วยลดอาการบวมแดง ดังนั้นจะช่วยอาการปวดลงให้เหลือน้อยที่สุด
- เหยาะเกลือลงไปในบริเวณที่ถูกตำ แล้วเอาน้ำแข็งกดไว้กับเกลือ
คำเตือน
- ให้แน่ใจว่าได้ทำความสะอาดบริเวณที่ถูกเสี้ยนตำเพื่อช่วยลดโอกาสติดเชื้อ
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid/basics/art-20056604
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid/basics/art-20056604
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid/basics/art-20056604
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid/basics/art-20056604
- ↑ http://www.seattlechildrens.org/medical-conditions/symptom-index/splinter/
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid/basics/art-20056604
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid/basics/art-20056604
- ↑ http://www.seattlechildrens.org/medical-conditions/symptom-index/splinter/
- ↑ http://www.seattlechildrens.org/medical-conditions/symptom-index/splinter/
- ↑ http://www.seattlechildrens.org/medical-conditions/symptom-index/splinter/
- ↑ http://www.whattoexpect.com/toddler/childhood-injuries/splinters-in-children.aspx
- ↑ http://www.peoplespharmacy.com/2014/06/30/household-glue-offers-remedy-for-easy-splinter-removal/
- ↑ http://www.seattlechildrens.org/medical-conditions/symptom-index/splinter/
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid/basics/art-20056604
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid/basics/art-20056604
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid/basics/art-20056604
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid/basics/art-20056604
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid/basics/art-20056604
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid/basics/art-20056604
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid/basics/art-20056604
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid/basics/art-20056604
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid/basics/art-20056604
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid/basics/art-20056604
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid/basics/art-20056604
- ↑ http://www.seattlechildrens.org/medical-conditions/symptom-index/splinter/
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid/basics/art-20056604
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid/basics/art-20056604
- ↑ http://www.seattlechildrens.org/medical-conditions/symptom-index/splinter/
- ↑ http://www.seattlechildrens.org/medical-conditions/symptom-index/splinter/
- ↑ http://www.seattlechildrens.org/medical-conditions/symptom-index/splinter/
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.