วิธีการ บรรเทาอาการบวมน้ำด้วยวิธีธรรมชาติ

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

อาการบวมน้ำ (Edema) ก็คืออาการบวมที่เกิดเพราะมีน้ำหรือของเหลวส่วนเกินถูกกักเก็บไว้ในเนื้อเยื่อของร่างกาย จุดที่มักบวมน้ำก็เช่น ข้อเท้า เท้า ขา แขน และมือ บางทีก็บวมน้ำเพราะเป็นอาการชั่วคราวของโรคบางอย่าง เช่น ช่วงตั้งครรภ์ หรือหลังอาการบาดเจ็บ หรือบวมน้ำเพราะโรคหัวใจ ตับ และไต อีกทีคือเป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยา อาการบวมน้ำเกิดได้ทั้งตามส่วนรยางค์ (นอกลำตัว) คือข้อเท้า เท้า ขา แขน หรือมือ และบริเวณกลางลำตัว เช่น รอบอวัยวะภายใน อย่างปอด[1]

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

รู้จักอาการบวมส่วนปลาย (Peripheral Edema)

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 สำรวจอาการที่พบบ่อย.
    อาการบวมน้ำส่วนปลาย สังเกตได้โดยจะบวมตามข้อเท้า เท้า แขน และมือ พอบวมแล้วผิวหนังบริเวณนั้นจะดูตึงๆ หรือมันวาว
    • ถ้าลองเอานิ้วจิ้มๆ กดๆ แล้วบริเวณที่บวมนั้นบุ๋มลงไป กว่าจะคืนตัวก็สักพัก แสดงว่าคุณมีอาการบวมกดบุ๋ม (pitting edema) มักเกิดจากการนั่งนานๆ ไม่ลุกเดินไปไหน
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ประเมินปัจจัยเสี่ยงของอาการบวมส่วนปลาย.
    ถ้าเป็นอาการบวมส่วนปลายแบบปานกลางหรือไม่รุนแรง มักเกิดได้เพราะหลายสาเหตุ เช่น[2]
    • นั่งๆ นอนๆ นานเกินไป ไม่ค่อยขยับตัวหรือออกกำลังกาย
    • กินอาหารเค็มๆ โซเดียมสูงมากเกินไป
    • ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง (เช่น บวมน้ำก่อนเป็นเมนส์ หรือฮอร์โมนเอสโตรเจนเปลี่ยนแปลง)
    • ตั้งครรภ์
    • หลังผ่าตัดเกิดอาการบาดเจ็บที่ระบบน้ำเหลืองและต่อมน้ำเหลือง (มักพบหลังผ่าตัดรักษามะเร็งเต้านม)
    • กินยาบางอย่าง เช่น สเตียรอยด์ ยาความดัน ยาเบาหวาน และ NSAIDs (non-steroidal anti-inflammatory drugs)
  3. How.com.vn ไท: Step 3 บางทีก็บวมน้ำเพราะโรคอื่นๆ.
    นอกจากปัจจัยเสี่ยงที่กล่าวไปแล้ว อาการบวมน้ำยังเกิดได้เพราะโรคที่มีผลต่อระบบร่างกาย เพราะงั้นแนะนำให้หาหมอตรวจร่างกายว่าเป็นโรคต่อไปนี้หรือเปล่า[3]
    • ภาวะหัวใจล้มเหลว
    • โรคตับ
    • โรคไตหรือกลุ่มอาการโปรตีนรั่วในปัสสาวะ หรือ nephrotic syndrome คือโรคไตที่เกิดเพราะอัลบูมินในเลือดต่ำ โดยอัลบูมินคือโปรตีนสำคัญในเลือด)
    • หลอดเลือดดำบกพร่องเรื้อรัง (Chronic venous insufficiency) เช่น หลอดเลือดขอด (varicose veins) เลือดไหลเวียนได้ไม่สะดวก
    • ระบบน้ำเหลืองบกพร่องหรือเสียหาย (Lymphatic insufficiency) เกิดได้เพราะการทำคีโม ผ่าตัด หรือบาดเจ็บอื่นๆ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

ปรับเปลี่ยนอาหารและวิถีชีวิต

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ลดปริมาณเกลือในอาหารประจำวัน.
    เกลือส่วนเกินในร่างกายจะทำให้เนื้อเยื่ออุ้มน้ำ เพราะงั้นถ้ากินเกลือน้อยลง จะช่วยลดอาการบวมน้ำได้[4] อาจจะปรึกษาคุณหมอหรือนักโภชนาการ เรื่องการจัดอาหารรสอ่อน ไม่เค็ม แต่จริงๆ แล้วเราก็มีเคล็ดลับลดเกลือในมื้ออาหารมาฝากกัน[5]
    • อย่าเติมเกลือในอาหาร อาจต้องใช้เวลากว่าจะชินกับอาหารรสอ่อนลง แต่สักพักจะรู้สึกถึงรสชาติอาหารที่แท้จริง ถ้าไม่ใช้เกลือ ให้ลองปรุงรสด้วยสมุนไพรและเครื่องเทศต่างๆ แทน เช่น ผักชีลาว, ผงกะหรี่, พริกไทย, ยี่หร่าแขก หรือไทม์ จะได้ไม่จืดเกินไป
    • ลดอาหารแปรรูป เช่น อาหารกล่อง อาหารกระป๋อง อาหารแช่แข็ง (รวมถึงซุปสำเร็จรูป) ที่ซื้อตามซูเปอร์หรือร้านสะดวกซื้อ
    • ทำอาหารกินเองจากวัตถุดิบธรรมชาติ ถ้าทำอาหารกินเอง ก็จะควบคุมปริมาณเกลือที่ใส่ได้ พูดง่ายๆ คือให้เข็นรถอยู่รอบนอก บริเวณผัก ผลไม้ ของสด อย่าไปชั้นกลางๆ พวกอาหารสำเร็จรูปทั้งหลาย ของที่ควรหยิบติดมือไปจากซูเปอร์ก็คือผักผลไม้ เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ผลิตภัณฑ์นม และวัตถุดิบอื่นๆ เช่น ถั่วฝัก ถั่วเมล็ดแห้ง ธัญพืชโฮลเกรน และถั่วเปลือกแข็ง
    • เลือกซื้ออาหารออร์แกนิกในซูเปอร์ เดี๋ยวนี้ตามซูเปอร์ในห้างก็มีอาหารเพื่อสุขภาพขายแยกเป็นแผนกเลย แต่ถ้าเป็นอาหารที่บรรจุห่อมาแล้ว ให้สำรวจปริมาณโซเดียมให้ดี
  2. How.com.vn ไท: Step 2 กินอาหารให้ครบหมู่.
    วิธีที่จะทำให้ร่างกายได้รับคุณค่าทางสารอาหารครบถ้วนในแต่ละมื้อ ก็คือต้องเพิ่มผักผลไม้ต่างๆ เพราะไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องเกลือ แถมเต็มไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์
    • กินผักผลไม้ให้หลากหลาย เช่น แอสพารากัส พาร์สลีย์ หัวบีท องุ่น ถั่วแขก ผักใบเขียว ฟักทอง สับปะรด หัวหอม กระเทียมต้น และกระเทียม
    • ผักที่สีเข้ม จะมีคุณค่าทางอาหารมากกว่าแบบสีอ่อน
    • จะช่วยเรื่องบวมน้ำได้มาก ถ้ากินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ เชอร์รี่ มะเขือเทศ ฟักสปาเก็ตตี้ (สควอช) และพริกหยวก
  3. How.com.vn ไท: Step 3 กินเนื้อให้น้อยๆ.
    พยายามกินเนื้อสัตว์ให้น้อยลง เพราะเนื้อสัตว์บางชนิด (เช่น เนื้อหมักเกลือ เนื้อตัดเย็น (cold cuts) และเนื้อแดง) มีโซเดียมสูง[6] นอกจากนี้ถ้ากินอาหารที่มีไขมันมากเกินไป จะรบกวนการทำงานของตับ ถุงน้ำดี และการย่อยอาหาร ทำให้บวมน้ำหนักกว่าเดิม
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ดื่มน้ำเยอะๆ.
    หลายคนพอเกิดอาการบวมน้ำ อาจจะกลัวจนไม่กล้าดื่มน้ำเยอะๆ แต่จริงๆ แล้วเป็นวิธีที่ช่วยขับน้ำออกจากร่างกายได้ดี พยายามดื่มน้ำให้ได้ 6 - 8 แก้วต่อวัน (แก้วละ 8 ออนซ์)
    • ถ้าคุณหมอสั่งยาขับปัสสาวะให้ ก็ต้องปรึกษาคุณหมอก่อน ว่าในแต่ละวันควรดื่มน้ำมากแค่ไหน
  5. How.com.vn ไท: Step 5 งดแอลกอฮอล์ คาเฟอีน และบุหรี่.
    พวกนี้จะทำให้ยิ่งบวมน้ำหนักตามแขนขา และส่งผลต่อสุขภาพร่างกายโดยรวมด้วย แอลกอฮอล์กับคาเฟอีนจะทำให้ร่างกายขาดน้ำได้[7] เพราะงั้นถ้าอดใจไม่ไหว ดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ไป ก็ต้องดื่มน้ำตามเยอะๆ เพื่อต้านฤทธิ์กัน
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ออกกำลังกายให้ถูกวิธี แบบพอดีๆ.
    อย่างที่บอกไปตอนต้น ว่าคุณบวมน้ำได้เหมือนกัน ถ้านั่งๆ นอนๆ ทั้งวัน ไม่ขยับตัวหรือออกกำลังกาย แต่จริงๆ แล้วถ้าออกกำลังกายแบบหักโหม ก็ทำให้บวมน้ำได้เช่นกัน เพราะงั้นควรปรึกษาคุณหมอว่าสภาพร่างกายของคุณเหมาะจะออกกำลังกายมากน้อยแค่ไหน (และลักษณะไหน)
    • ถ้าปกติไม่ได้ออกกำลังกายหนักๆ ก็ต้องค่อยเป็นค่อยไป หรือถ้าอยู่ในระยะฟื้นตัวจากการผ่าตัดหรือโรคภัยไข้เจ็บ ก็ต้องระวัง ค่อยๆ กลับมาออกกำลังกายตามคำแนะนำของคุณหมอหรือนักกายภาพบำบัด[8]
  7. How.com.vn ไท: Step 7 อย่านั่งเฉยๆ นานๆ.
    การนั่งทั้งวัน ไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว นี่แหละสาเหตุหลักของการบวมน้ำ เวลาเดินไปมา กล้ามเนื้อขาจะมีการยืดและหด ช่วย “นวด” หรือกระตุ้นหลอดเลือด ให้เลือดสูบฉีดกลับไปที่หัวใจและปอดได้ดี แต่ถ้านั่งนานๆ จะทำให้เลือดคั่งอยู่ตามแขนขา[9]
  8. How.com.vn ไท: Step 8 เวลานั่งหรือผ่อนคลายนานๆ ให้ยกเท้าสูง.
    ถ้าหลีกเลี่ยงการนั่งเฉยๆ นานๆ ไม่ได้ ก็อย่าห้อยขานานๆ ให้ยกหนุนขาสูงหน่อย อาจจะพาดบนโต๊ะหรือม้านั่งเตี้ยๆ กระทั่งหาหมอนอิงหรือเบาะมาหนุนพักเท้าให้สบาย
  9. How.com.vn ไท: Step 9 ลุกเดินไปมาทุกชั่วโมง.
    ถ้าจำเป็นต้องนั่งๆ นอนๆ ต่อเนื่องนานๆ ต้องพยายามลุกเดินอย่างน้อย 5 นาทีทุกชั่วโมง จะช่วยเรื่องบวมน้ำได้[10] อาจจะเดินไปมารอบๆ ห้อง เดินไปกินน้ำ เติมน้ำใส่ขวด หรือดีกว่านั้นคือเดินเล่นนอกบ้านหรือนอกออฟฟิศ นอกจากทำให้ผ่อนคลาย เปลี่ยนอารมณ์แล้ว ยังช่วยเรื่องบวมน้ำด้วย
    • หลายคนบ่นว่าบวมน้ำเป็นพิเศษช่วงกลางคืน เพราะงั้นถึงจะนั่งแช่ให้สบายหลังทำงานมาทั้งวัน ก็ต้องพยายามลุกเดินไปมา 1 - 2 ครั้งทุกชั่วโมง
  10. How.com.vn ไท: Step 10 ชูมือขึ้นสูงๆ.
    ถ้ามักมีอาการบวมน้ำที่มือและข้อมือ ให้พยายามยกแขนชูมือเหนือหัวทุก 30 - 60 นาที แรงโน้มถ่วงจะได้ช่วยไล่ของเหลวลงมาจากปลายแขนปลายมือ
    • อีกวิธีที่ช่วยได้คือสะบัดมือเบาๆ หรือนวดมือตอนชูมือเหนือหัว
  11. How.com.vn ไท: Step 11 สวมถุงน่องรัดกล้ามเนื้อ (compression stockings).
    compression (หรือ support) stockings คือถุงน่องอีลาสติกที่ช่วยรัดพยุงบริเวณน่องและข้อเท้า ป้องกันไม่ให้ของเหลวไปคั่งบริเวณนั้น[11] หาซื้อได้ตามร้านขายยาตรงอุปกรณ์การแพทย์
    • หลายคนบ่นว่าถุงน่องชนิดนี้ใส่ยากเพราะคับเหลือเกิน ง่ายสุดคือต้องม้วนถุงน่องลงไปให้หมด แล้วใส่จากข้อเท้าขึ้นมา โดยสอดปลายเท้าเข้าไปแล้วค่อยๆ รูดถุงน่องขึ้นมาตามข้อเท้าและน่อง
    • คุณหมอและนักกายภาพบำบัดส่วนใหญ่จะแนะนำให้สวมถุงน่องรัดกล้ามเนื้อตอนออกกำลังกาย[12] แต่ให้ปรึกษาคุณหมอประจำตัวก่อนจะดีที่สุด
    • เสื้อผ้าหรือถุงน่องที่รัดพยุงต้องกระชับรับกับรูปร่างของคุณ เช่น หลังผ่าตัดหน้าอก ผู้หญิงบางคนจะใส่ผ้ารัดพยุงแขนที่สั่งตัดให้พอดีกับสัดส่วนของตัวเองโดยเฉพาะ
    • บางสภาพอาการก็ต้องใช้ผ้ารัดพยุงแบบอัดอากาศ คือจะมีการรัดกระชับเป็นระยะ[13]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

ลองใช้สมุนไพรเป็นวิธีทางเลือก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ปรึกษาคุณหมอ.
    การรักษาด้วยสมุนไพรปกติก็ปลอดภัยดี แต่ควรปรึกษาคุณหมอก่อนเสมอเพื่อความปลอดภัยและจะได้รักษาตรงสภาพอาการที่สุด
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ดื่มชาขับปัสสาวะ.
    ชาพวกนี้มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ จะทำให้ฉี่เยอะขึ้น ช่วยขับน้ำส่วนเกินออกไปจากร่างกาย แต่ก็ต้องเช็คให้ดีก่อนว่าคุณไม่ได้แพ้สมุนไพรชนิดไหน และควรปรึกษาคุณหมอหรือเภสัชกรก่อน ว่าชาจะไปทำปฏิกิริยาอะไรกับยาที่ใช้อยู่หรือเปล่า แนะนำให้ดื่มชาสมุนไพร 3 - 4 ถ้วยต่อวัน จะแต่งรสหวานด้วยน้ำผึ้ง หญ้าหวาน หรือมะนาวด้วยก็ได้[14]
    • ชาใบแดนดิไลออน (Dandelion): ย้ำว่าต้องเป็นชาจากใบแดนดิไลออน (dandelion leaf) ไม่ใช่ชารากแดนดิไลออน (dandelion root) เพราะอย่างหลังไม่ได้ช่วยเรื่องบวมน้ำ
    • ชากระวาน (Cardamom): ถ้าจะชงเองให้ใช้ลูกหรือผงกระวาน 1 ช้อนชา ต่อน้ำร้อน 1 ถ้วยตวง
    • ชาคาโมไมล์ (Chamomile): เป็นชาที่ช่วยให้คลายเครียด หลับง่าย
    • ชาชิโครี (Chicory): ดื่มชาชนิดนี้แทนกาแฟได้เลย
    • ชา Fennel: fennel คือผักชีล้อม บางทีก็เรียกยี่หร่าหวาน หรือเทียนข้าวเปลือก เวลาชงชาให้ใช้เมล็ดหรือใบ fennel 1 ช้อนชา ต่อน้ำ 1 ถ้วยตวง นอกจากเรื่องบวมน้ำแล้ว fennel ยังช่วยเรื่องการย่อยอาหาร แถมทำให้ลมหายใจสดชื่น
    • ชาผักชีฝรั่ง (Parsley): เป็นชาขับปัสสาวะ และช่วยเรื่องการย่อยอาหารด้วย
    • ชา Stinging nettle: เป็นพืชตระกูลตำแย ชงชาแล้วมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ แถมได้วิตามินและแร่ธาตุด้วย
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ร่างกายต้องได้สารต้านอนุมูลอิสระ.
    สารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยเรื่องบวมน้ำได้ทางอ้อม เพราะไปทำให้หลอดเลือดแข็งแรง นอกจากกินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระแล้ว ให้ลองกินอาหารเสริม เช่น สารสกัดจากเมล็ดองุ่น (360 มก. 2 ครั้งต่อวัน) หรือบิลเบอร์รี่ (80 มก. 3 ครั้งต่อวัน) ร่วมด้วย[15]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ไปฝังเข็ม.
    การฝังเข็ม (acupuncture) เป็นการรักษาแบบแพทย์แผนจีนที่คนไทยคุ้นเคยกันดี วิธีการคือฝังเข็มตามจุดต่างๆ ของร่างกาย แพทย์แผนจีนจะเน้นปรับสมดุลของร่างกาย และมองว่าอาการบวมน้ำเป็นสัญญาณที่บอกว่าร่างกายไม่สมดุล การฝังเข็มจะช่วยปรับสมดุลให้ร่างกาย น้ำหรือของเหลวในร่างกายก็จะกลับมาไหลเวียนได้สะดวก[16]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ไปนวดบำบัด.
    การนวดบำบัดช่วยกระตุ้นให้เลือดและของเหลวในตัวไหลเวียนสะดวกขึ้น ช่วยขับน้ำส่วนเกินออกจากเนื้อเยื่อ ให้กลับเข้ากระแสเลือดและระบบน้ำเหลือง Lymphedema massage หรือ Lymphatic Drainage (MLD) หรือ Lymph Drainage Therapy (LDT) เป็นเทคนิคการนวดที่ช่วยเรื่องระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกันโดยเฉพาะ[17]
    • คุณหมอประจำตัวน่าจะช่วยโอนเคสไปให้คุณหมอเฉพาะทางที่ผ่านการอบรมและมีประสบการณ์ด้าน MLD/LDT ให้คุณได้
    • ถ้าอยากหาหมอนวดที่เชี่ยวชาญและมีใบอนุญาต ลองปรึกษาสมาคมแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทยดู โดยย้ำว่าสนใจเรื่อง “นวดระบายน้ำเหลือง (lymphatic drainage)”
  6. How.com.vn ไท: Step 6 นวดตัวเองด้วยน้ำ.
    ทางธรรมชาติบำบัด (Naturopaths) มักแนะนำให้รักษาด้วย “water massage” หรือการนวดด้วยน้ำ เพื่อกระตุ้นให้น้ำเหลืองไหลเวียนสะดวก ลดอาการบวมน้ำได้เพราะทำให้หลอดน้ำเหลือง (lymphatic vessels) และลิ้น (valves) หดและขยาย ขับของเหลวไปทางหัวใจ ไม่คั่งอยู่ตามแขนขา คุณทำได้เองที่บ้านด้วยสายฉีดฝักบัวธรรมดานี่แหละ
    • เริ่มจากล้างเท้าด้วยน้ำเย็น ราดน้ำให้เท้าข้างหนึ่งชุ่ม แล้วตามด้วยอีกข้าง จากนั้นค่อยๆ เลื่อนกระแสน้ำจากฝักบัวขึ้นมาตามขา จนไปถึงหัวใจ โดยนวดแบบนี้ทีละข้าง
    • จากนั้นฉีดน้ำเย็นใส่มือทั้ง 2 ข้าง พอเปียกชุ่มแล้ว ให้ค่อยๆ ฉีดน้ำเย็นจากมือข้างหนึ่งไล่ขึ้นมาตามแขนจนถึงหัวใจ แล้วย้ายไปฉีดมืออีกข้าง ทำซ้ำตามเดิม
    • เปลี่ยนไปใช้น้ำร้อน (ให้ร้อนเท่าที่ทนได้ อย่าถึงกับร้อนลวก)
    • ทำซ้ำตามขั้นตอน โดยฉีดน้ำใส่เท้าให้ชุ่ม ไล่ฉีดขึ้นมาตามขา แล้วสลับไปฉีดน้ำใส่มือทั้ง 2 ข้าง ไล่ขึ้นมาตามแขน แค่เปลี่ยนเป็นน้ำร้อนแทน
    • ต่อมาให้สลับกลับมาใช้น้ำเย็น โดยฉีดน้ำตามขั้นตอนเดิมอีกรอบ เท่ากับจบกระบวนการ
  7. How.com.vn ไท: Step 7 ระบายน้ำเหลืองโดยใช้แปรง.
    Lymphatic brushing (หรือ “dry skin brushing” เป็นอีกวิธีของแพทย์แผนจีน คุณทำได้ด้วยตัวเอง ที่ต้องใช้มีแค่แปรงขนนุ่มแบบด้ามยาว หรือจะใช้ผ้าคอตตอนนุ่มๆ แทนก็ได้[18]
    • ย้ำว่าทั้งผิวของคุณและแปรง (หรือผ้า) ต้องแห้งสนิทก่อนเริ่มขั้นตอน
    • เวลาแปรง ให้ลากยาวๆ ไปในทิศทางของหัวใจ ห้ามขัดถูแรงๆ
    • แปรงจากมือขึ้นมาที่แขน แล้วขึ้นไปที่ไหล่
    • แปรงขึ้นมาที่หลัง จากก้นกบขึ้นมาถึงไหล่
    • แปรงลงมาตามคอ จากตีนผมจนถึงไหล่
    • แปรงขึ้นไปตามหน้าอก ถึงลำคอ
    • แปรงจากสะดือไปถึงกลางอก
    • แปรงขึ้นและรอบหน้าอก ไปถึงใต้รักแร้
    • แปรงจากเท้าขึ้นไปตามขา แล้วแปรงจากข้อเท้าขึ้นไปที่เข่า ทั้งหน้าและหลัง และทั้งซ้ายขวา จากนั้นแปรงจากเข่าขึ้นมาที่ขาหนีบ ทั้งหน้าและหลัง ซ้ายและขวา
    • แปรงจากขาหนีบขึ้นไปจนถึงสะดือ
    • ขั้นตอนการแปรงระบายน้ำเหลืองปกติจะใช้เวลาประมาณ 5 นาที เสร็จแล้วให้แช่น้ำอุ่นหรืออาบน้ำเย็นจากฝักบัวแทน แนะนำให้แปรงระบายน้ำเหลืองแบบนี้วันละ 1 - 2 ครั้ง
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

รับมือกับอาการบวม (ภายใน) ส่วนกลาง (Central (Internal) Edema)

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 สังเกตอาการ.
    อาการบวมน้ำภายในสังเกตได้ว่าท้องจะป่อง (ท้องมาน (ascites)) ถ้าปอดบวมน้ำ (Pulmonary edema) ก็อาจทำให้หายใจติดขัด หายใจไม่ค่อยออก หรือเจ็บแน่นหน้าอกได้[19]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 หาหมอ.
    อาการบวมส่วนกลางหรือภายในนั้นถือเป็นอาการที่อันตรายมาก อย่าพยายามรักษาบรรเทาอาการด้วยตัวเอง ต้องรีบไปหาหมอเพื่อตรวจรักษา และต้องทำตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด[20]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 รักษาอาการบวมน้ำภายใต้การดูแลของคุณหมอ.
    ถ้าเป็นอาการบวมน้ำประเภทนี้ ส่วนใหญ่จะต้องกินยา เช่น ยาขับปัสสาวะ, ยาความดันกลุ่ม ACE inhibitors, ยากลุ่ม beta blockers หรือสเตียรอยด์ (corticosteroids) ไม่ว่าจะเป็นการรักษาแบบไหนก็ต้องปรึกษาและอยู่ภายใต้การดูแลของคุณหมอเท่านั้น
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ตอนเกิดอาการบวมน้ำ ต้องดูแลผิวให้ดี อาจจะต้องทาโลชั่นหรือครีมมากกว่าปกติ เพื่อแก้ผิวตึงจนแตกเพราะบวมน้ำ
  • ถ้าบวมแค่เล็กน้อยประคบเย็นช่วยก็ยุบลงได้ ให้เอาเจลแพ็คหรือถุงน้ำแข็งห่อผ้า แล้วเอามาประคบบริเวณที่บวมประมาณ 10 นาทีด้วยกัน จากนั้นทำซ้ำทุก 2 - 4 ชั่วโมง
โฆษณา

คำเตือน

  • ห้ามนวดด้วยน้ำควบคู่ไปกับการแปรงระบายน้ำเหลือง เพราะจะไปกระตุ้นการไหลเวียนของน้ำเหลืองมากเกินไป
  • ถ้าอาการบวมน้ำไม่ดีขึ้นใน 4 - 5 วันหลังรักษาบรรเทาอาการเอง หรืออาการหนักกว่าเดิม ต้องรีบหาหมอทันที
  • ต้องปรึกษาคุณหมอเสมอ ก่อนลองรักษาด้วยสมุนไพรหรือวิธีการอื่นๆ ด้วยตัวเอง
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Lisa Bryant, ND
ร่วมเขียน โดย:
แพทย์แผนธรรมชาติ
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Lisa Bryant, ND. ดร.ไบรอันท์เป็นแพทย์แผนธรรมชาติและผู้เชี่ยวชาญในเรื่องยาจากธรรมชาติในพอร์ตแลนด์ เธอผ่านการฝึกงานในศูนย์อายุรแพทย์แผนธรรมชาติในวิทยาลัยยาธรรมชาติแห่งชาติในปี 2014 บทความนี้ถูกเข้าชม 10,701 ครั้ง
หมวดหมู่: สุขภาพทั่วไป

คำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบทางการแพทย์

เนื้อหาของบทความชิ้นนี้มิได้มีเจตนาที่จะใช้ทดแทนคำแนะนำ การตรวจ วินิจฉัยและการรักษาทางการแพทย์ คุณควรปรึกษาแพทย์หรือมืออาชีพทางการดูแลสุขภาพที่ได้รับอนุญาตเสมอ ก่อนที่จะทำการเริ่มต้น เปลี่ยนแปลง หรือหยุดการดูแลสุขภาพไม่ว่าประเภทใด

มีการเข้าถึงหน้านี้ 10,701 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา