วิธีการ ทำสีผสมอาหารสีน้ำตาล

ถ้าคุณไม่มีสีผสมอาหารสีน้ำตาล หรือไม่อยากใช้สีที่ซื้อจากร้านค้าแล้วล่ะก็มีวิธีในการผสมเองได้ที่บ้าน อ่านต่อเพื่อเรียนรู้วิธีการผสมสีต่างๆ ให้เป็นสีน้ำตาลที่สมบูรณ์แบบ และวิธีการใช้สิ่งที่กินได้ทั่วไปอย่างเช่น โกโก้และกาแฟ เพื่อทำเป็นสีน้ำตาลจากธรรมชาติที่มีรสชาติเล็กน้อย

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 2:

การผสมสีผสมอาหาร

ดาวน์โหลดบทความ

1
หาสีผสมอาหาร 2 สีที่ตรงข้ามกันบนวงจรสี. สีแดงและสีเขียว สีส้มและสีน้ำเงิน หรือสีเหลืองและสีม่วงนั้นสามารถนำมารวมกันเพื่อทำสีน้ำตาลได้^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- คุณอาจจะใช้สีผสมอาหารแบบน้ำหรือแบบเจลก็ได้ สีผสมอาหารแบบเจลมักเป็นที่นิยมเพราะคุณไม่ต้องใช้เยอะเพื่อที่จะได้สีที่สดใส
2
ผสมสีในอัตราส่วน 1:1. ดังนั้นสำหรับสีแดงทุก 1 หยด ให้เติมสีเขียวลงไป 1 หยด^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ผสมสีในชามแก้วหรือชามสเตนเลส เพราะสีผสมอาหารอาจจะทำให้ชามพลาสติกเป็นคราบ
3
ลองเล่นกับสีต่างๆ เพิ่มจนกว่าคุณจะได้เฉดสีน้ำตาลที่ต้องการ.
- ผสมสีแดงและสีเหลืองในอัตราส่วน 1:10 (สีแดง 1 หยดต่อสีเหลือง 10 หยด) สำหรับสีน้ำตาลไหม้
- เติมสีน้ำเงิน 1 หยดสำหรับน้ำตาลเข้ม
- เติมสีแดงหรือสีเหลืองถ้าสีดูเป็นสีเทาหรือสีดำ^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- เติมสีส้มและสีเขียวเพื่อทำให้ส่วนผสมสีแดงและสีเขียวอ่อนลงและทำสีน้ำตาลไหม้^{[4]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- เติมสีดำ 1 หยดสำหรับสีน้ำตาลเข้มมาก
4
จำไว้ว่าสีผสมอาหารสีน้ำตาลจะเข้มขึ้นเมื่อแห้ง. คุณอาจจะคิดว่าคุณได้เฉดสีน้ำตาลเอสเพรสโซที่สมบูรณ์แบบแล้วและจากนั้นพบว่าในวันต่อมาสีเข้มขึ้นจนเกือบดำ ผสมสีให้อ่อนกว่าที่คุณคิดว่าคุณต้องการเผื่อไว้ตอนมันเปลี่ยนสี^{[5]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าคุณจะผสมสีฟรอสติ้ง ให้ลองทำล่วงหน้า 1-2 วันเพื่อให้คุณรู้เฉดสีที่แท้จริงที่คุณจะทำ^{[6]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าฟรอสติ้งสียังไม่เข้มพอก็ให้เติมสีดำหยดหนึ่งหรือมากกว่านั้นเพื่อให้เป็นสีน้ำตาลที่ต้องการ
- ถ้าฟรอสติ้งสีเข้มเกินไปก็ให้เติมฟรอสติ้งสีขาวลงไปเล็กน้อยเพื่อทำให้สีเจือจาง
มันมักจะใช้สีผสมอาหารสีน้ำตาลจำนวนมากเพื่อให้มีสีเข้มข้น แต่คุณเสี่ยงที่จะทำให้ฟรอสติ้ง แป้งโดว์ ฯลฯ เสียหาย โดยการทำให้พวกมันเหลว
โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 2:

การทำสีผสมอาหารจากธรรมชาติ

ดาวน์โหลดบทความ

1
เลือกสารสี. สารสีคือสิ่งที่จะทำให้สีผสมอาหารเป็นสีน้ำตาล คุณสามารถใช้เอสเพรสโซ่บด กาแฟสำเร็จรูป ผงโกโก้ อบเชย หรือชาดำเพื่อให้ได้สีน้ำตาลก็ได้^{[7]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- จำไว้ว่าคุณอาจต้องใช้สีจำนวนมากเพื่อให้ได้สีน้ำตาลเข้มมากซึ่งหมายความว่าคุณจะได้รับรสชาติของสารสีที่เข้มขึ้น อบเชยนั้นดีเยี่ยมสำหรับทำสีน้ำตาลอ่อน แต่อาจจะให้รสชาติมากเกินไปถ้าคุณทำสีน้ำตาลเข้ม^{[8]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ใช้ในปริมาณเล็กน้อย คุณไม่น่าจะได้รสชาติสารสี คุณจะใช้สารสีที่มาจากเมล็ดผักชีฝรั่งสำหรับบัตเตอร์ครีมก็ได้ถ้าคุณใช้มันเท่าที่จำเป็น^{[9]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- สีจากธรรมชาติอาจจะไม่สามารถให้สีสดใสเช่นเดียวกับที่จะได้จากสีที่ซื้อจากร้านค้า สีปิโตรเลียมต้องการแค่สองสามหยดเพื่อเพิ่มสี ในขณะที่คุณอาจจะต้องการสีจากธรรมชาติจำนวนมากเพื่อเพิ่มสี สูตรอาหารส่วนใหญ่จะเสียหายจากการเติมสีมากเกินไป เพราะพวกมันจะมีรสชาติแปลกๆ หรือเหลวเกินกว่าจะใช้ได้^{[10]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
2
แช่สารสีในน้ำเพื่อทำสีผสมอาหารแบบน้ำ. เติมกาแฟ 1 ถ้วย โกโก้ 1/2 ถ้วย ถุงชา 10 ถุง หรือเครื่องเทศ 4 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำทุก 1 ถ้วย^{[11]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- นำส่วนผสมน้ำและสารสีไปต้ม
- ต้มใช้ไฟอ่อนๆ หรือเคี่ยวระหว่าง 15-30 นาที
- ปล่อยให้ส่วนผสมเย็นลงที่อุณหภูมิห้อง
- เทส่วนผสมผ่านที่กรองตาข่ายตาถี่เพื่อกรองเม็ดที่ไม่ได้ละลายน้ำออก เก็บในชามแก้วหรือชามสเตนเลสเพราะว่าสีย้อมจะไม่ทำให้วัสดุเหล่านี้เป็นคราบ
3
บดสารสีในเครื่องบดกาแฟหรือเครื่องเทศเพื่อทำสีผง. กุญแจสำคัญของสีผงคือมันจะต้องละเอียดมากๆ ถ้าสารสีใดๆ มีความหยาบ (อย่างเช่น ผลึกของกาแฟสำเร็จรูป) ให้บดเพิ่มจนกว่าจะได้เนื้อเป็นผง^{[12]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- สีผงมีความเข้มข้นมากกว่า ดังนั้นคุณอาจจะได้สีเข้มขึ้นโดยใช้สีผงน้อยลง จำไว้ว่าถ้าเยอะเกินไปจะสามารถเปลี่ยนรสชาติของสิ่งที่คุณจะย้อมสีได้^{[13]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
4
เติมสีทีละน้อย. จำไว้ว่าถ้าใช้สีผสมอาหารแบบน้ำมากเกินไปจะสามารถทำลายเนื้อสัมผัสและโครงสร้างของสิ่งที่คุณกำลังย้อมสีได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟรอสติ้ง ถ้าใช้สีผสมอาหารแบบน้ำหรือแบบผงมากเกินไปสามารถส่งผลต่อรสชาติได้ ดังนั้นให้ชิมไปด้วย
- ยุติปัญหาโดยให้คิดว่าคุณอาจจะไม่ได้สีเข้มและสดใสที่คุณต้องการจากสีผสมอาหารจากธรรมชาติ ท้ายที่สุดแล้วรสชาติและความเหนียวข้นมีความสำคัญกว่าการได้เฉดสีที่สมบูรณ์แบบ
โฆษณา

เคล็ดลับ

ใส่ผ้ากันเปื้อนเมื่อไรก็ตามที่คุณทำงานกับสีเพื่อที่คุณจะได้ไม่ทำให้เสื้อผ้าเสียหาย
เมื่อบดกาแฟสำเร็จรูปเมล็ดใหญ่หรือชาเกล็ดใหญ่ ให้เติมน้ำตาลทรายบดละเอียด/ แป้ง/ และอื่นๆ เพิ่ม 1 ช้อนชา (ไม่ว่าผงพื้นฐานสำหรับไอซิ่งนั้นจะเป็นอะไร) ช่วยให้ส่วนประกอบบดได้ละเอียดยิ่งขึ้น โดยไม่กระทบต่อรสชาติมากเกินไป

โฆษณา