วิธีการ ดูว่าไข่เน่าหรือไม่

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

ทดสอบไข่สด

หาไข่เน่า

เช็ควันและเวลาหมดอายุ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

เคยไหม? ที่กำลังจะอบขนมหรือทำอาหาร แล้วเพิ่งเห็นว่าไข่ที่ซื้อเตรียมไว้ เลย "วันหมดอายุ" ไปแล้วซะงั้น บอกเลยว่าอย่าเพิ่งรีบทิ้งลงถัง เพราะบทความวิกิฮาวนี้มี 2 - 3 วิธีช่วยเช็คว่าไข่เน่าแล้วจริงหรือเปล่า

ขั้นตอน

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 3:

ทดสอบไข่สด

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   เอาไข่ต้องสงสัย ใส่ชามหรือแก้วปากกว้าง ที่เติมน้ำเย็นไว้ แล้วดูว่าไข่ลอยหรือเปล่า. ปกติในไข่จะมีถุงอากาศจิ๋วๆ ยิ่งเวลาผ่านไป อากาศก็ยิ่งผ่านเข้าไปในรูพรุนของเปลือกไข่ อากาศเข้าไปในไข่มากเท่าไหร่ ถุงอากาศนี้ก็ยิ่งขยายใหญ่ ทำให้ไข่ยิ่งลอยตุ๊บป่องในน้ำ

   • ถ้าไข่ตะแคงข้างอยู่ก้นชาม แสดงว่าสดที่สุด
   • ถ้าไข่ตั้งตรงด้านใดด้านหนึ่ง แต่ยังจมติดก้นชาม แสดงว่าไม่ได้สดที่สุด แต่กินได้ ปลอดภัยดี
   • ถ้าไข่ลอย แสดงว่าไม่ใช่ไข่สด แต่ไม่ได้แปลว่าไข่เน่าหรือกินไม่ได้ แนะนำให้ทดสอบขั้นต่อไป คือตอกไข่ แล้วเช็ค (ทั้งหน้าตาและกลิ่น) ว่าเน่าแล้วหรือยัง
2. 
   2
   เขย่าไข่ข้างหู ฟังเสียงเฉาะแฉะข้างใน. ยิ่งไข่เก่า ทั้งความชื้นและคาร์บอนไดออกไซด์ก็ยิ่งทะลุผ่านเปลือกไข่ออกไป ทำให้ทั้งไข่แดงและไข่ขาวเริ่มแห้งและหดตัว ถุงอากาศในไข่ขยายใหญ่ขึ้น ยิ่งถุงอากาศนี้ใหญ่ ไข่ก็ยิ่งขยับไปมาในเปลือกได้ จนเกิดเสียงเฉาะแฉะเหมือนเวลาเขย่าน้ำ

   • ไข่สด เวลาเขย่าแล้วจะไม่ค่อยมีเสียง หรือไม่มีเลย
   • การที่เขย่าแล้วไข่มีเสียงเหมือนน้ำกระฉอก แค่แปลว่าไข่เก่า ไม่ได้แปลว่าไข่เน่าหรือกินไม่ได้
3. 
   3
   ตอกไข่ใส่จานหรือชามใบใหญ่ แล้วเช็คคุณภาพไข่แดงและไข่ขาว. ยิ่งไข่เก่า ก็ยิ่งไม่ยึดเกาะกันดีเหมือนไข่สด ให้ลองตอกไข่ แล้วสังเกตดูว่าไข่ไหลกระจายไปทั่วจานหรือเปล่า หรือว่าอยู่กับที่เป็นก้อนๆ ถ้าไข่ไหลกระจายไปทั่ว หรือไข่ขาวค่อนข้างเหลวเป็นน้ำ แสดงว่าไข่ไม่สดแล้ว

   • ถ้าไข่แดงแบน แตกง่าย ก็แสดงว่าไข่เก่าเช่นกัน
   • ถ้าไข่แดงไหลไปมาง่าย แสดงว่าขั้วยึดไข่แดง หรือ chalazae (ส่วนของไข่ขาวหนาๆ ที่ยึดไข่แดงไว้ตรงกลาง) อ่อนตัวลง แปลว่าไข่เก่าแล้ว
   • สังเกตสีของไข่ขาว ถ้าขาวเหมือนก้อนเมฆ แสดงว่าไข่สดมาก ถ้าไข่ขาวใส แสดงว่าไข่เก่า (แต่ยังกินได้อยู่)
   โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 3:

หาไข่เน่า

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ตอกไข่แล้วดมกลิ่น. กลิ่นนี่แหละเป็นตัวบ่งชี้ได้ดีมากว่าไข่เน่าหรือยัง ถ้าไข่เน่าแล้วจะมีกลิ่นเหม็นฉุนตั้งแต่ตอนตอกไข่เลย กลิ่นเหมือนกำมะถัน หรือ "กลิ่นตด" จะเตะจมูกทันทีที่เปลือกไข่แตกออกเลย (หรือดีไม่ดีจะส่งกลิ่นตั้งแต่ยังไม่ทันตอกไข่) แบบนี้ก็ชัดว่าทิ้งไปได้เลย

   • ซึ่งไข่ที่เน่าจะเหม็นตลอด ไม่ว่าจะเป็นไข่ดิบหรือปรุงสุกแล้วก็ตาม
2. 
   2
   ตอกไข่ใส่จานใบเล็ก แล้วสังเกตสี. สีของไข่แดงจะเปลี่ยนไปตามอาหารที่แม่ไก่กิน เพราะงั้นสีไข่แดงจะเป็นเหลืองหรือส้ม ก็ไม่มีผลต่อความสด ให้สังเกตสีไข่ขาวหรือ albumen แทน ถ้าเป็นสีชมพู เขียว หรือสีรุ้งเหมือนคราบน้ำมัน แสดงว่าไข่ปนเปื้อนแบคทีเรีย Pseudomonas กินไม่ได้แน่นอน ถ้ามีจุดดำหรือจุดเขียวในไข่ แสดงว่ามีเชื้อรา เอาทิ้งไปได้เลย

   • ถ้าไข่แดงต้มสุกมีวงสีเขียวรอบๆ แสดงว่าต้มไข่สุกไป หรือต้มด้วยน้ำที่มีธาตุเหล็กสูง กรณีนี้กินได้ ปลอดภัยดี
   • ถึงมีจุดเลือดหรือจุดเนื้อในไข่ ก็กินได้ ไม่ได้แปลว่าไข่ปนเปื้อนหรือเน่า ที่มีจุดเลือดเพราะหลอดเลือดฉีกขาดตอนไข่เติบโต ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความสด
   โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 3:

เช็ควันและเวลาหมดอายุ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   เช็ควันที่ "sell-by" ในบรรจุภัณฑ์. sell-by date คือวันสุดท้ายที่จำหน่ายได้ บางทีก็เป็น "not to be sold after" (ห้ามจำหน่ายหลังวันที่...) หรือ "EXP" ปกติวันที่ที่เห็น คือ 30 วันหลังไข่ถูกบรรจุในหีบห่อ ถ้าแช่ตู้เย็นไว้ และไข่ไม่แตก ก็กินต่อไปจากวัน sell-by date ได้อย่างน้อย 1 เดือน

   • ต้องดูดีๆ ว่า sell-by date เป็นเดือน/วัน หรือวัน/เดือน ตามประเทศที่คุณอยู่
   • "sell-by" คือวันสุดท้ายที่ไข่จะวางขายในชั้นตามร้านได้ หลังจากวันนั้น ไข่ที่ยังไม่ถูกจำหน่ายต้องเอาลงจากชั้น แต่ไม่ได้แปลว่าไข่เน่าเสียแต่อย่างใด ยังกินต่อได้หลังวันที่นั้นอีกสักพัก
2. 
   2
   เช็ควันที่ "best-by" ในบรรจุภัณฑ์. best-by date คือวันสุดท้ายที่ไข่สดเต็มที่ บางทีก็เป็น "use by" (ใช้ภายใน...), "use before" (ใช้ก่อน...) หรือ "best before" (สภาพสมบูรณ์ก่อน...) วันที่ best-by ที่เห็น คือภายใน 45 วันหลังไข่ถูกบรรจุหีบห่อ แนะนำให้ใช้ไข่ภายใน 2 อาทิตย์หลังวันที่ best-by

   • "best-by" คือระยะเวลาที่ไข่สดเต็มที่ ทั้งผิวสัมผัส รสชาติ ความข้น และการยึดเกาะของไข่แดงกับไข่ขาว แต่ผ่านวันที่นี้ไป ไม่ได้แปลว่าไข่จะเน่าเสียแต่อย่างใด
3. 
   3
   เช็คโค้ดตัวเลข 3 หลัก ว่าไข่ถูกบรรจุเมื่อไหร่. อันนี้ต้องพิจารณาเป็นประเทศๆ ไป อย่างของอเมริกา ตามกฎหมายก็ไม่ได้บังคับให้ระบุ sell-by หรือ best-by date ของไข่ (บางรัฐต้องมี แต่บางรัฐก็ห้ามมี) แต่ไม่ว่าจะกรณีไหน ไข่ทั้งหมดจะมีวันที่บรรจุบอกไว้ ปกติจะเป็นโค้ดตัวเลข 3 หลัก ตามปฏิทินจูเลียน (Julian date calendar) เช่น ไข่ที่บรรจุวันที่ 1 มกราคม จะใช้โค้ด 001 ไข่ที่บรรจุวันที่ 15 ตุลาคม จะใช้โค้ด 288 และ 31 ธันวาคม คือ 365 เป็นต้น

   • เช็ค Julian date นี้ได้ที่ล่างแพ็คไข่ จะมี plant code (ตัว P ตามด้วยหมายเลข) ใช้บอกว่าไข่ถูกแพ็คที่ไหน ส่วนข้างๆ จะเป็นโค้ดจูเลียน
   • ถ้าเป็นสหภาพยุโรป (European Union) จะบังคับให้ระบุวันที่แพ็คไข่ ถึงจะขายแยก ไม่ได้ขายในแพ็คที่ระบุวันที่ ผู้บริโภคก็สามารถเช็คข้อมูลตรงนี้ได้
4. 
   4
   ไข่ที่เอาออกจากตู้เย็นมาทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง 2 ชั่วโมงขึ้นไป ให้ทิ้งได้เลย. หลังเอาไข่แช่ตู้เย็นแล้ว สำคัญว่าต้องรักษาอุณหภูมินั้นไว้ เพราะไข่เย็นๆ พอมาอยู่ในที่ร้อนๆ จะมีเหงื่อ (หยดน้ำเกาะ) ทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตนอกไข่ได้ เพราะเปลือกไข่มีรูพรุน เลยทำให้บางทีแบคทีเรียที่เปลือกไข่ ทะลุผ่านเข้าไปปนเปื้อนภายในได้

   • วิธีป้องกันอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ให้เก็บไข่ในส่วนที่เย็นสุดของตู้เย็น ไม่ใช่ ที่ประตูตู้เย็น เพราะอุณหภูมิจะวูบวาบทุกครั้งที่คุณเปิด-ปิดตู้เย็น ทำให้หยดน้ำเกาะที่เปลือกไข่ได้
   • ถ้าตอนซื้อไข่มายังไม่ได้ทำความสะอาด และอยู่ในอุณหภูมิห้อง ก็ไม่ต้องเอาไข่แช่ตู้เย็น เพราะอย่างหลายประเทศ เช่น ประเทศในแถบยุโรป ก็นิยมเก็บไข่ในอุณหภูมิห้องเช่นกัน ไม่ต้องกลัวไข่เน่า เพราะตอนแม่ไก่ออกไข่ ไข่จะมี "bloom" หรือสารเคลือบผิวไข่ ที่คอยป้องกันแบคทีเรียตามธรรมชาติ แต่ถ้าล้างไข่เมื่อไหร่ ต้องแช่ตู้เย็นลูกเดียว ปกติประเทศแถบยุโรป จะฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส Salmonella ให้แม่ไก่ก่อนออกไข่อยู่แล้ว
5. 
   5
   อ่านรายละเอียดที่บรรจุภัณฑ์ ว่าเก็บไข่ไว้ได้นานเท่าไหร่ แต่ละประเทศก็ต่างกันไป. ถ้าได้ไข่สดมาแล้วสงสัยว่าจะเน่าเสียเมื่อไหร่ ลองศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมดู เพราะแต่ละประเทศจะมีกฎหมายและแนวทางปฏิบัติต่างกันไป เรื่องความสดของไข่ไก่ แต่ส่วนใหญ่ไข่จะยังสดอยู่ได้ประมาณ 2 เดือนขึ้นไป

   • ถ้าไม่แน่ใจว่าไข่ที่มีจะสดไปนานแค่ไหน หรือคิดว่าไข่อาจจะเก่ากว่า 2 เดือน ให้สังเกตหน้าตาและกลิ่น ทั้งไข่เก่าและไข่เน่า จะได้รู้ว่าควรใช้ต่อหรือทิ้งไป
   โฆษณา

คำเตือน

• ถ้าคนที่จะกินไข่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง (เด็กเล็กหรือคนชรา) แนะนำให้ใช้ไข่สดที่สุดเท่าที่หาได้ ถึงปกติไข่ที่เลยวันหมดอายุ (ที่ระบุ) แล้วจะยังกินได้ต่อไปอีกหลายอาทิตย์ แต่ถ้าเป็นคนที่ภูมิคุ้มกันต่ำ ก็ควรจะระวังไว้ก่อน เลือกเฉพาะไข่ที่แน่ใจว่าสดจริงๆ จะปลอดภัยกว่า

โฆษณา