วิธีการ เอาชนะความขี้เกียจ

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

ไม่ว่าจะเป็นความขี้เกียจ ความเกียจคร้าน ความไม่เอางาน ความเฉื่อยชา หรืออะไรก็ตามที่เป็นการไม่อยากทำอะไรเลยทั้งๆ ที่คุณต้องทำ ล้วนแต่เป็นสัญญาณของความไร้สรรถภาพหรือการหนีงานทั้งสิ้น บางครั้งความขี้เกียจก็เกิดขึ้นเวลาคุณไม่อยากเผชิญหน้าอะไรบางอย่าง เช่น งานบ้านที่น่าเบื่อหรือการเผชิญหน้ากับใครสักคน หรือบางครั้งคุณอาจจะแค่รู้สึกเหนื่อยและคิดว่างานนี้ควรจะใช้ทั้งทีมมาช่วยกันทำมากกว่าแค่คุณคนเดียว แล้วยังมีเวลาที่คุณไม่อยากให้อะไรมายุ่งกับคุณเลย ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ความขี้เกียจก็ไม่ใช่ลักษณะนิสัยที่ควรมีเลย

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

ตั้งจิตให้แน่วแน่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 หาปัญหาที่แท้จริง.
    ทุกครั้งที่คุณเริ่มจะขี้เกียจ ลองถอยออกมาแล้วประเมินสถานการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น ความขี้เกียจนั้นเป็นเพียงอาการ ไม่ใช่ปัญหาที่แท้จริง อะไรคือต้นเหตุของการขาดแรงกระตุ้น คุณเหนื่อย กลัว เจ็บปวดหรือเปล่า หรือคุณแค่ไม่มีแรงบันดาลใจและรู้สึกค้างคา จริงๆ แล้วปัญหาการค้างคาเป็นปัญหาเล็กกว่าที่คุณคิด คุณสามารถผ่านมันไปได้ง่ายกว่าที่คุณรู้เสียอีก
    • ไม่ว่าอะไรทำให้คุณชักช้า พยายามอย่างเต็มที่ที่จะหามันให้เจอ ส่วนมากมักจะเป็นปัญหาหรือรายละเอียดเพียงอย่างเดียว การหาต้นเหตุให้เจอเป็นวิธีเดียวที่เราจะบ่งชี้มันได้ และเมื่อบ่งชี้มันได้แล้ว คุณก็จะสามารถแก้ไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 จดจ่ออยู่กับปัญหาที่แท้จริง.
    ขณะที่คุณคิดถึงต้นเหตุของความขี้เกียจ ลองจดจ่ออยู่กับมัน คุณอาจจะแก้ไขมันได้ไม่เร็วทันใจ แต่การแก้ไขนี้จะอยู่ตลอดไป ลองดูวิธีเหล่านี้สิ:
    • หากคุณเหนื่อย พยายามทุ่มเทเวลาให้กับการพักผ่อน ทุกๆ คนอยากมีเวลาสบายๆ กันทั้งนั้น หากตารางเวลาของคุณไม่เอื้ออำนวย คุณอาจจะต้องยอมเสียสละบ้าง แต่ผลที่จะตามมานั้นจะดีขึ้นอย่างแน่นอน
    • หากคุณมีงานท่วมท้น ถอยออกมาหนึ่งก้าว คุณจะทำให้การทำงานง่ายขึ้นได้อย่างไร คุณสามารถแบ่งงานออกเป็นส่วนๆ แล้วทำให้งานน้อยลงได้หรือไม่ คุณสามารถจัดลำดับก่อนหลังแล้วค่อยๆ จัดการทีละอย่างได้หรือไม่
    • หากคุณกลัว คิดก่อนว่าคุณกลัวอะไร เห็นได้ชัดว่ามันคือบางสิ่งที่คุณหวังว่าคุณจะได้ทำ คุณกลัวที่จะพัฒนาศักยภาพของคุณหรือเปล่า กลัวการทำตามจุดมุ่งหมาย และการไม่มีความสุขหรือเปล่า คุณมองว่าความกลัวของคุณนั้นไม่มีเหตุผลอย่างไร
    • หากคุณเจ็บปวด คำตอบเดียวน่าจะเป็น เวลา ความโศกเศร้าและอารมณ์ในแง่ลบจะไม่หายไปเพียงเพราะคุณอยากให้มันหายไป แผลต้องใช้เวลาในการรักษา สิ่งที่คุณทำได้เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง คือ คุณต้องกดดันตัวเองให้น้อยลงเพื่อจะได้ยุติความเจ็บปวด
    • หากคุณไม่มีแรงบันดาลใจ ลองดูว่าคุณสามารถเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันของคุณได้หรือไม่ คุณสามารถพาตัวเองไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ต่างออกไป หรือคุณมีมารทางจิตที่ต้องจัดการ คุณสามารถปะติดปะต่อชีวิตประจำวันของคุณได้อย่างไร ลองคิดในแง่ของสัมผัสต่างๆ ดนตรี อาหาร แสงสีเสียง เป็นต้น
  3. How.com.vn ไท: Step 3 จัดระเบียบ.
    การมีข้าวของรกๆ อยู่รอบๆ ถึงแม้จะแค่รกสายตา แต่มันสามารถเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้แรงกระตุ้นในการทำงานของเราหมดลง ไม่ว่าคุณจะสามารถทำอะไรเพื่อจัดระเบียบมันได้ คุณก็ควรจะทำ ไม่ว่าจะเป็นบนโต๊ะทำงาน ในรถ ในบ้าน หรือแม้แต่กิจวัตรประจำวันของคุณ ลองจัดระเบียบให้กับสิ่งเหล่านี้
    • มีหลายสิ่งเกิดขึ้นในจิตใต้สำนึกของเราโดยที่เราไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นจานสีที่ไม่น่าดู หรือแสงที่ไม่เพียงพอ หรือการขาดสมดุลของอะไรบางอย่าง มันสามารถมีผลกระทบต่อเราได้ กำจัดสิ่งเล็กๆ ที่มีอำนาจยับยั้งเหล่านี้โดยการจัดระเบียบชีวิต
  4. How.com.vn ไท: Step 4 สำรวจการพูดกับตัวเอง.
    บางครั้งพฤติกรรมของเราทำให้เกิดความคิดต่างๆ และบางครั้งความคิดกลับทำให้เกิดพฤติกรรม หาหลักให้ตัวเองยึดและจำกัดการพูดกับตัวเองในแง่ลบ การคิดว่า "โอ้ย ฉันขี้เกียจ ฉันไม่มีค่า" จะไม่ทำให้คุณก้าวหน้า ดั้งนั้นคุณควรเลิกพฤติกรรมแบบนี้ คุณเท่านั้นที่จะสามารถควบคุมตัวเองได้
    • ทุกๆ ครั้งที่คุณเห็นว่าตัวเองทำงานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ ลองมองมุมกลับให้เป็นแง่บวก "เช้านี้ผ่านไปแบบสบายๆ แต่ตอนนี้ถึงเวลาต้องเติมพลังแล้ว บ่ายแล้ว ฉันจะเตรียมพร้อม" คุณจะตกใจที่คลื่นแง่บวกสามารถเปลี่ยนแปลงคุณได้
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ฝึกสมาธิ.
    มีเพียงไม่กี่คนหรอกที่จะหยุดดมดอกกุหลาบ เรามักจะรีบทานข้าวเพื่อจะได้ทานของหวาน ดื่มไวน์ และเข้านอนในขณะที่ยิ่งแน่นท้อง เรามักจะคิดถึงสิ่งต่างๆ ในอนาคตมากกว่าที่จะอยู่กับปัจจุบันซึ่งเป็นเวลาที่วิเศษอยู่ในตอนนี้ เมื่อเราเริ่มอยู่กับปัจจุบันได้ เราจะได้รับประโยชน์กับตัวเอง
    • ครั้งต่อไปที่คุณเห็นว่าคุณเริ่มคิดถึงอดีตหรืออนาคต รีบดึงตัวเองกลับมาสู่ปัจจุบัน ไม่ว่าคุณจะเห็นอะไรรอบๆ ตัว เช่น อาหารที่คุณใช้ส้อมจิ้มไว้ หรือเพลงที่คุณได้ยิน ให้สิ่งเหล่านี้ทำให้คุณรู้สึกดีที่มีชีวิตอยู่บนโลก บางครั้งการหยุดพักและใช้ชีวิตให้ช้าลงสามารถเพิ่มพลังให้เรากอบโกยจากสิ่งที่เรามีอยู่แล้วได้
  6. How.com.vn ไท: Step 6 คิดถึงผลประโยชน์.
    เมื่อคุณจดจ่ออยู่กับปัจจุบันได้แล้ว ต่อไปลองจดจ่อกับปัจจุบันที่ดีขึ้น จะเป็นอย่างไรหากคุณฉวยประโยชน์จากปัจจุบัน แทนที่คุณจะนอนอืดอยู่บนเตียงตอนเช้า จะเป็นอย่างไรหากคุณไปเล่นโยคะ ทำงานให้เสร็จ หรือทำอาหารเช้าอร่อยๆ จะเป็นอย่างไรหากคุณทำสิ่งเหล่านี้ทุกวันใน 6 เดือนข้างหน้า
    • หากคุณทำแบบนั้นได้ก็จะยอดเยี่ยมมาก ในหัวของคุณควรมีแต่ความคิดแง่บวก คุณควรรู้ไว้ว่าเมื่อคุณทำแบบนั้นจนเป็นนิสัย ทุกๆ อย่างก็จะง่ายขึ้น
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

เตรียมตัวให้พร้อม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 กระโดดออกจากเตียง.
    มีงานวิจัยบอกว่าการกดเลื่อนนาฬิกาปลุกแล้วนอนต่อนั้นไม่ดีต่อเรา[1] คุณอาจจะคิดว่าการนอนต่อในผ้าห่มอุ่นๆ จะทำให้คุณมีพลังมากกว่าเดิม แต่คุณคิดผิด คุณจะยิ่งรู้สึกเหนื่อยล้าในวันนั้น คุณควรกระโดดออกจากเตียงเลย สมองของคุณจะตามแรงกระตุ้นของร่างกาย หากคุณโดดออกจากเตียง คุณก็จะพร้อมและกระตือรือร้น
    • ลองวางนาฬิกาปลุกไว้อีกฟากของห้องจนคุณต้องลุกจากเตียงไปปิดมัน นี่จะทำให้การอยากกดปุ่มนอนหลับหรือกลับไปหลับต่อทำได้ยากขึ้น
    • กระโดดจริงๆ เลย หากคุณทำได้ ทำเช่นนี้ก็เพื่อให้เลือดไหลเวียน มันอาจจะเป็นอย่างสุดท้ายที่คุณอยากทำ แต่ถ้าคุณทำได้ คุณจะรู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้นหลังจากนั้น
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ตั้งเป้าหมายที่คุณน่าจะทำได้.
    คุณจะมีอะไรบางอย่างให้ตั้งหน้าตั้งตารอหากคุณตั้งเป้าหมายที่น่ายกย่องแต่สามารถทำได้จริง ตั้งเป้าหมายที่สร้างแรงบันดาลใจให้คุณจริงๆ และต้องอาศัยทักษะความสามารถของคุณแทบทั้งหมด เขียนรายการที่ต้องทำทั้งเรื่องใหญ่และเรื่องเล็ก จัดลำดับสิ่งที่ต้องทำโดยดูเวลาที่ใช้และความจำเป็น
    • การเขียนบันทึกประจำวันเกี่ยวกับจุดมุ่งหมายของคุณนั้นมีประโยชน์ บันทึกสิ่งที่ช่วยคุณหรือเป็นอุปสรรคต่อคุณในการไปให้ถึงเป้าหมายนี้ เพื่อจะได้เป็นการพัฒนาตัวเอง
    • ลองทำบอร์ดที่จะบ่งบอกวิสัยทัศน์ แสดงให้เห็นเป้าหมายและความฝันของคุณ ใช้ความสร้างสรรค์ในการติดภาพหรือบทความดีๆ ลงไป บอร์ดนี้จะเป็นแผนผังความฝันของคุณ ทุกๆ วันที่ตื่นมาให้คุณมองที่บอร์ดนี้แล้วมุ่งมั่นไปให้ถึงฝัน สิ่งนี้จะทำให้คุณมีแรงบันดาลใจให้คุณใช้ชีวิตในแต่ละวันและผลักดันคุณไปถึงความฝัน
      • ไม่ใช่ทุกคนที่จะเห็นว่าวิธีนี้สร้างแรงบันดาลใจได้ แต่ก็ยังมีวิธีอื่นๆ อีกเช่น การเขียนแผนผังความคิด เขียนบันทึก เขียนบรรยาย หรือเพียงแค่เล่าให้คนอื่นฟัง การสัญญาว่าจะทำอะไรสักอย่างด้วยการสัญญาผ่านทางออนไลน์ เป็นต้น
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ทำรายการของสิ่งที่อยากได้ เป้าหมาย และแรงบันดาลใจที่คุณอยากก้าวไปข้างหน้า....
    ทำรายการของสิ่งที่อยากได้ เป้าหมาย และแรงบันดาลใจที่คุณอยากก้าวไปข้างหน้า. เมื่อคุณทำสำเร็จแล้วก็ขีดออก การตั้งเป้าหมายจำเป็นต้องมีความทุ่มเท การทำรายการจะทำให้คุณมีพลัง ทำรายการไว้หลายๆ ชุดแล้ววางไว้หลายๆ ที่ บนตู้เย็น บนโต๊ะข้างเตียง ข้างคอมพิวเตอร์ บนกระจกในห้องน้ำ หรือแม้แต่ประตูห้องนอน แค่วางไว้ในที่ที่คุณจะเห็นบ่อยๆ
    • เมื่อคุณเริ่มขีดฆ่าบางอย่างออกแล้ว คุณจะหยุดไม่ได้ คุณจะเห็นได้เลยว่าคุณกำลังก้าวไปข้างหน้า ความสามารถของคุณและผลที่คุณเห็นจะทำให้คุณรู้สึกดีจนคุณต้องไปต่อ คุณจะผิดหวังและรู้สึกแย่ลงถ้าคุณไม่พยายามต่อไป
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ทบทวนความสำคัญและคุณค่าของปัญหาหรือเป้าหมายเป็นประจำ....
    ทบทวนความสำคัญและคุณค่าของปัญหาหรือเป้าหมายเป็นประจำ. เมื่อคุณมีเป้าหมายแน่นอนแล้ว หรือเผชิญหน้าโดยไม่หนีปัญหาแล้ว มันไม่ได้พาคุณไปโดยไม่ต้องใช้ความพยายาม เบื้องหลังความสำเร็จของเป้าหมายหรือการแก้ปัญหานั้นขึ้นอยู่กับการย้ำเตือนตัวเองถึงความสำคัญของสิ่งนั้น หากคุณไม่เห็นภาพเป้าหมายหรือวิธีแก้ปัญหา คุณจะไปต่อได้ยาก เพราะคุณจะถูกเบี่ยงเบนความสนใจและเจอทางตันได้ง่าย และทำให้คุณขี้เกียจ การประเมินคุณค่าและความสำคัญของปัญหาและเป้าหมายอยู่เสมอจะทำให้คุณจดจ่อและกระตือรือร้น สิ่งที่คุณควรถามตัวเองมีดังนี้:
    • นี่เป็นสิ่งที่ฉันสามารถเพิกเฉยหรือปล่อยไปอีกหน่อยได้หรือไม่
    • นี่เป็นสิ่งที่จะพัฒนาได้โดยการมีคนช่วยฉันหรือแบ่งปันความรู้กับฉันหรือไม่
    • ฉันกำลังไปตามทางที่ถูกในการแก้ปัญหาหรือทำตามเป้าหมายนี้หรือไม่ (บางครั้งคุณอาจจะต้องเปลี่ยนวิธีแทนที่จะได้ทางเดิมๆ ต่อไป)
    • ฉันกำลังคาดหวังความสมบูรณ์แบบอยู่หรือไม่ (การแสวงหาความสมบูรณ์แบบทำให้เกิดการผัดวันประกันพรุ่ง ซึ่งอาจจะนำไปสู่การไม่ทำอะไรเลย เพราะอะไรๆ ก็ไม่ดีพอ ผลสุดท้ายก็จะเกิดความขี้เกียจเพราะทุกอย่างยากเกินไป พยายามอย่าตกอยู่ในวังวนนี้โดยการพยายามทำให้ดีที่สุดเสมอ แทนที่จะมุ่งหวังแต่ความสมบูรณ์แบบเท่านั้น)
  5. How.com.vn ไท: Step 5 บอกตัวเองว่าคุณทำได้.
    การกระทำสามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้ ในขณะหนึ่งคุณหยุดนิ่งอยู่เฉยๆ แต่อีกขณะหนึ่งคุณเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ได้เพราะคุณมีการเคลื่อนไหว มีการตัดสินใจและลงมือทำ คุณจะไม่ถูกตัดสินโดยสิ่งที่คุณเคยผ่านมาก่อน คุณสามารถสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่และสร้างความเปลี่ยนแปลงได้เสมอ คุณเพียงต้องคิดและเชื่อ
    • หากคุณรู้สึกว่าติดขัด ลองลุกขึ้นมาทำงานทันที และบอกตัวเองว่า "ถึงแม้นิสัยเดิมๆ ที่ชอบหยุดอยู่เฉยๆ ตอนนี้ฉันลุกขึ้นมาแล้วและฉันจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ" บอกตัวเองด้วยประโยคบอกเล่าในปัจจุบัน ไม่ใช่ประโยคเงื่อนไข หรืออนาคตหรือดีต และไม่มีการพูดว่า"ถ้าเกิดวันนั้น...” คำพูดนี้มีไว้สำหรับคนที่ไม่อยากได้รับการเติมเต็มในชีวิตเท่านั้น
  6. How.com.vn ไท: Step 6 รีดเสื้อผ้าของคุณ.
    ลองคิดว่าคุณนั่งจ้องคอมพิวเตอร์อยู่บนโซฟา จ้องหน้าจอที่มีหน้ากระดาษว่างเปล่าที่คุณอยากจะให้มันสร้างตัวเองขึ้นมา แทนที่คุณจะนั่งอยู่อย่างนั้น ลองไปทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่น รีดเสื้อผ้า คุณจะต้องไปหยิบเตารีดมา จัดโต๊ะรองรีด เตรียมเสื้อ ในเวลา 5 นาทีที่คุณรีดเสื้อผ้า คุณจะคิดว่า "ทำไมฉันต้องเสียเวลาทำงานมารีดเสื้อผ้า" คุณจะวางเสื้อผ้าลง และรู้สึกตื่นตัวขึ้นและสามารถทำสิ่งที่คุณอยากทำให้เสร็จจริงๆ ได้
    • ข้อดีอีกอย่างก็คือ คุณจะได้เสื้อเรียบๆ ตัวหนึ่ง
      • ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นการรีดผ้าเท่านั้น คุณอาจจะไปอาบน้ำก็ได้ การลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างบางครั้งอาจเป็นเรื่องยาก แต่เมื่อเป็นเรื่องเล็กๆ เราก็จะทำได้ง่ายขึ้น
  7. How.com.vn ไท: Step 7 ออกกำลังกาย.
    ประโยชน์ของการออกกำลังกายนั้นมีมากมาย แต่สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งก็คือการรู้สึกมีพลังตลอดทั้งวัน[2] การออกกำลังนั้นทำให้เลือดไหลเวียน ทำให้ระบบเผาผลาญทำงาน และทำให้ร่างกายมีเรี่ยวแรงทั้งวัน หากการเตรียมตัวในตอนเช้านั้นเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคุณ ลองออกกำลังกายเพียง 15 นาที คุณจะรู้สึกสดชื่นขึ้นตลอดบ่าย
    • เรายังไม่ได้พูดถึงส่วนสำคัญของการมีสุขภาพดี เวลาเรามีสุขภาพดี เราจะรู้สึกดีไปด้วย หากคุณไม่ออกกำลังกาย (ทั้งแบบแอโรบิคและแอนแอโรบิค) ลองใส่เข้าไปในกิจวัตรประจำวันของคุณ เป้าหมายของคุณควรจะอยู่ประมาณ 150 นาทีต่อสัปดาห์ ไม่ว่าอย่างไร ทำเท่าที่คุณจะทำได้[3]

    • เมื่อออกกำลังกายแล้ว ก็ต้องทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพด้วย อาหารขยะไม่สามารถให้คุณค่าทางโภชนาการที่ร่างกายต้องการในการตื่นตัวได้ ร่างกายที่ไร้พลังงานจะทำให้คุณรู้สึกขี้เกียจและเฉื่อยชา เป็นความคิดที่ดีที่จะไปตรวจสุขภาพหากคุณกังวลเกี่ยวกับสารอาหารที่คุณได้รับและระดับพลังงานของคุณ
  8. How.com.vn ไท: Step 8 แต่งตัวให้รู้สึกดี.
    บางครั้งเมื่อเรารู้สึกไม่มีแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต แค่การใช้ชีวิตเท่านั้น เราพอใจในการทำงาน ในสภาพชีวิต ในความสัมพันธ์ และเราก็เพียงแค่อยู่ในโลกใบเล็กๆ ของเรา ทั้งๆ ที่รู้ว่าเราควรพยายามที่จะก้าวหน้าต่อไป ทางที่ง่ายที่สุดที่จะเปลี่ยนหนทางของเราก็คือการแต่งตัวให้แปลกไป
    • ไม่ว่าคุณจะเป็นพนักงานส่งพิซซ่าที่ฝันจะเป็นนักเล่นหุ้น หรือคุณเป็นคนที่ชอบนอนอืดดูทีวีที่หวังว่าคุณจะไปวิ่งมาราธอน การเปลี่ยนเสื้อผ้าสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของคุณได้ หากคุณไม่เชื่อ เราอยากให้คุณลองคิดแบบนี้: คุณจะพูดกับผู้ชายใส่สูทว่าอะไร เพียงไม่นานผู้ชายที่ใส่สูทก็จะอยู่ในโลกที่ทุกคนพูดกับเขาแบบผู้ชายใส่สูท ลองไปใส่กางเกงวิ่งของคุณดู ในที่สุดคุณจะสงสัยเองว่าทำไมคุณไม่ออกไปวิ่ง
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

ลงมือทำ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เริ่ม.
    ทุกอย่างต้องมีจุดเริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นการดึงที่เย็บกระดาษออกจากกระดาษที่คุณจะต้องอ่าน หรือการปัดน้ำฝนออกจากกระจกเพื่อที่คุณจะได้ขับรถได้ การเอาชนะความเฉื่อยชาเป็นเรื่องธรรมชาติที่มนุษย์จะต้องเผชิญเวลาที่ต้องจัดการกับสถานการณ์ยากๆ และจะสามารถช่วยลดความยากเย็นลงไปได้ นอกจากนั้นการเอาชนะความเฉื่อยชายังเป็นการแสดงให้เห็นวิธีการจัดการสิ่งนั้นต่อไป การค่อยๆ ตั้งใจทำเรื่องยากๆ จะสร้างแรงผลักดันและคุณจะมีความมั่นใจในการมีแรงที่จะทำ รวมถึงเห็นว่าสิ่งนั้นน่ากลัวน้อยลง
    • การคาดหวังว่าชีวิตนี้เป็นเรื่องง่ายนั้นเป็นการมองแบบไม่เป็นจริง ชีวิตนั้นมักจะเป็นเรื่องยาก และบางครั้งก็ยากมากจริงๆ แต่ชีวิตก็ยังวิเศษ น่าประหลาดใจ น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความหวัง หากคุณขี้เกียจก็เท่ากับว่าคุณกีดกันตัวเองออกจากความเป็นไปได้ต่างๆ ของชีวิต และนั่นคือการทำลายตัวเอง การพัฒนาทัศนคติที่คุณมีต่อความยุ่งยากในชีวิตประจำวัน และการเรียนรู้ที่จะอดทนต่อสิ่งต่างๆ จะทำให้คุณมีความยืดหยุดและคุณจะพบว่าคุณมั่นคงกว่าเดิม เมื่อใดก็ตามที่บางอย่างดูยิ่งใหญ่ ยาก และไม่น่าทำ คุณก็แค่ลงมือทำ อย่าบ่น อย่าหาข้ออ้าง และอย่าต่อสู้กับมัน เพียงแค่ก้าวออกไปทำมันเลย
    • ในการช่วยหาแรงจูงใจให้ตัวเองนั้น ลองใช้กฎ 5 วินาทีดู เมื่อคุณเริ่มรู้สึกเครียดหรืออยากผัดออกไปก่อน ลองให้เวลากับตัวเองสัก 5 วินาทีในการเริ่มทำกิจกรรมนั้น นี่จะช่วยไม่ให้คุณเอาแต่นั่งพยายามหาเหตุผลให้มัน และทำให้คุณเดินหน้าต่อ[4]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ค่อยๆ ทำ.
    การแบ่งงานของคุณออกเป็นขั้นตอนย่อยๆ นั้นเป็นเรื่องสำคัญ ยิ่งเรื่องเล็กเท่าไหร่ เรื่องนั้นก็ยิ่งทำได้ง่ายขึ้นเท่านั้น เมื่อคุณหาวิธีการทำงานหรือทำตามเป้าหมายที่มีทั้งการควบคุมตัวเองและการพักผ่อนได้แล้ว คุณจะรู้สึกว่าคุณทำได้มากกว่าจะรู้สึกตื่นตระหนก โดยปกติแล้ว ความขี้เกียจเป็นความรู้สึกท่วมท้นไปกับทุกสิ่งและอยากยอมแพ้ เพราะภาระที่อยู่ตรงดูจะหนักเกินไป ทางแก้ไขก็คือความเชื่อมั่นในพลังแห่งสิ่งเล็กๆ
    • ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่สามารถสลับงานไปมาได้ คุณทำได้แน่นอนเพราะความหลากหลายเป็นรสชาติของการรักษาความสนใจเอาไว้ สิ่งที่วิธีนี้ตั้งใจจะหมายถึงก็คือ งานเล็กๆ สามารถแยกออกมาทำได้โดยมีช่วงพักระหว่างการทำงาน แทนที่จะทำนู่นทำนี่ไปพร้อมๆ กัน สำหรับการสลับงานไปมา หาเวลาพักที่แน่นอนเพื่อให้การกลับมาทำงานที่ทำค้างไว้นั้นทำได้ง่ายขึ้น
    • มักจะมีการกล่าวว่า คนที่บ่นว่าตนไม่มีเวลา กำลังสูญเสียเวลาไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพ เช่น การทำงานหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน สมองของมนุษย์จะทำงานอย่างไม่มีประสิทธิภาพเมื่อมีแรงกดดันอย่างต่อเนื่องว่าจะต้องทำหลายๆ อย่างในเวลาที่กำหนดไว้อย่างเร่งรัด พูดง่ายๆ คือ การทำงานหลายๆ อย่างทำให้เราช้าลง อย่ารู้สึกผิดถ้าจะต้องค่อยๆ ทำงานต่างๆ ตามลำดับความสำคัญ
  3. How.com.vn ไท: Step 3 สร้างความฮึกเหิมให้กับตัวเอง.
    คุณคือโค้ชส่วนตัวของตัวเองและเป็นแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง คุณสามารถทำให้ตัวเองลงมือทำได้ด้วยการบอกตัวเองถึงสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจต่างๆ และยืนยันในการกระทำของคุณ บอกตัวเองว่า "ฉันอยากทำสิ่งนี้ ฉันกำลังทำสิ่งนี้อยู่" และ "ฉันจะพักเมื่อฉันทำเสร็จและฉันสมควรได้พักเพราะทำงานเสร็จ" พูดสิ่งเหล่านี้ออกมาดังๆ ถ้าจำเป็น คุณจะรู้สึกมีกำลังใจด้วยการพูดถึงการกระทำของตัวเอง
    • การพูดถ้อยคำให้กำลังใจกับตัวเองซ้ำๆ ในหนึ่งวันสามารถช่วยคุณได้ เช่น "ฉันรู้ว่าฉันทำได้" คุณยังสามารถวาดภาพว่างานนี้เสร็จแล้วและเฝ้ารอความรู้สึกแห่งความสำเร็จที่คุณจะได้รู้สึกเมื่อทำเสร็จ
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ขอความช่วยเหลือเมื่อคุณต้องการ.
    หลายๆ คนกลัวว่าการขอความช่วยเหลือจากคนอื่นนั้นจะเป็นเรื่องผิด ไม่ว่าคุณจะรู้สึกแบบนี้เพราะคุณเคยผิดใจกันมาก่อน หรือคุณมีประสบการณ์ตอนเรียนไม่ดีนัก หรือคุณอยู่ในที่ทำงานที่มีการแข่งขันสูงมาก นี่เป็นทัศนคติที่ไม่ดีต่อชีวิต พวกเราเป็นสัตว์สังคมและการมีชีวิตอยู่ของเรานั้นคือการแบ่งปันและช่วยเหลือผู้อื่น การเปลี่ยนจากคำว่า "ฉัน" ไปเป็น "เรา" ต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่ก็เป็นเรื่องสำคัญของการเติบโตและการที่ไม่ต้องต่อสู้ไปคนเดียว
    • บางครั้งการมีอีกคนอยู่กับเราด้วยเป็นการกระตุ้นให้เราทำสิ่งที่ต้องการ ถ้าคุณกำลังพยายามลดน้ำหนัก คุณควรมีคู่หูออกกำลังกายสักคน การมีเพื่อนสักคนจะช่วยกดดันเราอย่างที่เราไม่สามารถทำได้ (ในทางที่ดี)
    • พยายามอยู่กับคนที่สนับสนุนและช่วยผลักดันคุณ หากเรามีความสัมพันธ์ที่น่าเหนื่อยหน่าย เราจะเห็นได้ว่าความขี้เกียจนั้นเป็นปัญหา หากลุ่มคนที่ทำให้คุณรู้สึกดีและแนะนำแนวทางให้คุณได้
  5. How.com.vn ไท: Step 5 จริงจังกับตัวเอง.
    อย่าอยู่ใกล้โซฟาจนกว่าคุณจะได้พัก เมื่อคุณมานั่งพักแล้ว กำหนดเวลาที่จะกลับไปทำงานที่ค้างอยู่ เช่น อ่านหนังสือเรียน ซักผ้ากองใหญ่ หรือเขียนจดหมายหาเพื่อน เป็นต้น การมีวินัยในตัวเองคือการทำสิ่งที่คุณควรทำในเวลาที่ควรทำ ไม่ว่าคุณจะอยากทำหรือไม่ก็ตาม ไม่ว่าคุณจะเริ่มฝึกกำจัดความขี้เกียจเร็วแค่ไหน ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ทำได้ยากที่สุด หาจุดสมดุลระหว่างการผ่อนผันและความเข้มงวดกับตัวเอง และจัดลำดับให้งานมาก่อนความสุข
    • รางวัลเป็นสิ่งที่หอมหวานเมื่อคุณต้องรอและเมื่อถึงเวลาที่คุณควรได้รับ หากคุณดูทีวี 2 ชั่วโมงหลังจากทำงานไปเพียง 10 นาที นั่นหมายความว่าคุณกำลังทำให้ชีวิตคุณยากขึ้น ฝืนตัวเองไว้ คุณจะรู้สึกดีกว่าในระยะยาว
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ชมตัวเองในทุกๆ ขั้นตอน.
    ก่อนที่คุณจะทำตามวิธีที่ดูเย่อหยิ่งนี้ จำไว้ว่ามันไม่ใช่การอวดดี แต่มันคือการรักษาแรงบันดาลใจ เมื่อใดก็ตามที่คุณทำสำเร็จไปอีกขั้น ทำตามเป้าหมายเล็กๆ ได้ คุณควรหาวิธีทำให้ตัวเองมีความสุข การทำอะไรสำเร็จจะได้ทำให้คุณรู้สึกดีทุกๆ ครั้ง
    • ฉลองความสำเร็จโดยการบอกตัวเองว่าคุณทำมาดีแล้ว พูดกับตัวเองว่า "ดีมาก เธอทำได้แล้ว พยายามต่อไป แล้วเธอจะทำทั้งหมดได้สำเร็จ" เนื่องจากความสำเร็จอันยิ่งใหญ่นั้นประกอบไปด้วยความสำเร็จเล็กๆ ที่เชื่อมโยงกันมากมาย (ในความสำเร็จเล็กๆ นั้นเองก็ยิ่งใหญ่) คุณควรจะตระหนักถึงความขยันขันแข็งของคุณอยู่เสมอ
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

มีแรงบันดาลใจอยู่เสมอ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เรียนรู้ที่จะให้รางวัลกับตัวเองกับสิ่งเล็กๆ ที่คุณทำได้หรือคุณพยายามทำ....
    เรียนรู้ที่จะให้รางวัลกับตัวเองกับสิ่งเล็กๆ ที่คุณทำได้หรือคุณพยายามทำ. การให้รางวัลกับตัวเองสม่ำเสมอจะทำให้การทำงานนั้นสนุกขึ้นและทำให้คุณไม่หลงทาง หากคุณทำอะไรบางอย่างที่คุณไม่ยอมทำเมื่อวันก่อนหรือบางอย่างที่คุณกลัว คุณก็สมควรจะได้รับรางวัล คุณจะสร้างความมั่นใจให้ตัวเองว่าคุณกำลังทำในสิ่งที่ถูกเมื่อคุณให้รางวัลตัวเองหลังจากทำบางอย่างได้สำเร็จ หรือเมื่อคุณก้าวผ่านขั้นตอนเล็กๆ ไปสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ รางวัลนั้นควรเป็นรางวัลที่เรียบง่ายแต่มีผลต่อคุณ เช่น วันหยุดยาว การไปดูหนัง การทานขนมที่มีแคลอรีสูง (นานๆ ทีเท่านั้น) หรือสิ่งอื่นๆ เก็บรางวัลใหญ่ๆ ไว้สำหรับความสำเร็จโดยรวม การให้รางวัลตัวเองนี้จะทำให้จิตใจของคุณอยากทำงานเพื่อจะได้รับรางวัล
    • การหยุดพักเป็นทั้งรางวัลและความจำเป็น อย่าลังเลที่จะหาเวลาพักสั้นๆ เพื่อกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ทำให้หัวโล่ง ปราศจากความขี้เกียจ
    • แน่นอนว่า ที่ตรงข้ามกับรางวัลก็คือบทลงโทษ คนเราจะตอบสนองได้ดีที่สุดต่อการสนับสนุนในแง่บวก การให้รางวัลนั้นดีที่สุด การลงโทษตัวเองเมื่อไม่สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้จะส่งผลในทางตรงกันข้าม เป็นการตอกย้ำความเชื่อที่แย่ที่สุดเกี่ยวกับตัวคุณเองว่า คุณนั้นขี้เกียจและทำอะไรได้ไม่ดีเลย หากมีการทำโทษจริงๆ ก็ถือว่าเป็นการกระทำที่ไร้จุดหมาย
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เขียนเป้าหมายในแต่ละสัปดาห์.
    รายการของเป้าหมายรายสัปดาห์จะช่วยให้คุณมุ่งมั่นและมีแรงผลักดัน คุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงการที่เป้าหมายของคุณจะเปลี่ยนไป คุณจะได้หาวิธีที่คุณทำแล้วมีประสิทธิภาพมากที่สุดด้วย หากมันเริ่มเปลี่ยนไป รายการของคุณก็ควรจะเปลี่ยนไปด้วย
    • ติดรายการเอาไว้ทุกที่ ที่ใดก็ได้ ลองตั้งเป็นภาพหน้าจอโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ แค่เพียงเขียนลงบนแอพโน้ต แล้วถ่ายภาพหน้าจอ ตั้งเป็นรูปพื้นหลัง ลองเขียนเป้าหมายในแต่ละวัน แต่ละเดือน หรือแม้แต่เป้าหมายของแต่ละปีเพื่อที่จะเก็บไว้ดูในแต่ละวัน
  3. How.com.vn ไท: Step 3 จำไว้ว่าชีวิตคือการซื้อขายต้นทุนและกำไร.
    การจะมีความสุขกับผลกำไรก็ต้องต้นทุนที่ต้องเสียไป การลงทุนที่ทำให้เป็นทุกข์นั้นมักจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึก บางครั้งก็เป็นทางร่างกายและทางจิต หลายๆ ครั้งที่ความรู้สึกนั้นเป็นความรู้สึกของความโดดเดียว ถูกทอดทิ้ง ในขณะที่คนอื่นๆ ดูจะไม่ต้องเจอปัญหาเดียวกัน (จริงๆ แล้วพวกเขาก็มีปัญหาที่คุณมองไม่เห็น) ความรู้สึกเจ็บปวดนี้สามารถหลีกเลี่ยง เบี่ยงเบนได้ คุณจะหาความมั่นคงให้ตัวเองได้ ในการที่จะก้าวออกจากระยะปลอดภัยของตัวเอง คุณจะต้องเผชิญหน้ากับปัญหาก่อนที่คุณจะทำอะไรต่อไป[5]
    • ประเมินว่ากำไรนั้นคุ้มค่ากับต้นทุนที่จะเสียไปหรือไม่ หากคุ้มค่า (และส่วนใหญ่มันจะคุ้มค่า) กระตุ้นความเป็นผู้ใหญ่ของคุณเพื่อรวบรวมความกล้า ความอดทน และความมีวินัย ที่จะทำให้คุณมีแรงที่จะได้ผลลัพธ์ที่ดี ไม่มีใครได้สิ่งที่อยากได้มาโดยไม่ต้องใช้ความพยายามและไม่มีความทุกข์
  4. How.com.vn ไท: Step 4 รู้ไว้ว่าการทำงานนี้คุ้มค่า.
    ผู้เชี่ยวชาญ มืออาชีพ และอัจฉริยะหลายคนยอมรับว่าความสำเร็จของพวกเข้ามาจากหยาดเหงื่อ 99% และความสามารถเพียง 1% หากมีความสามารถแต่ไม่มีวินัยก็จะไม่ก้าวหน้าเลย ความเป็นเลิศทางวิชาการ การเงิน กีฬา ศิลปะการแสดง และความสัมพันธ์ ล้วนต้องการความมั่นคงและความรอบคอบอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการทำงานที่เราต้องทุ่มเทสิ่งที่ดีที่สุดของเราทั้งในด้านอารมณ์และร่างกาย คุณจะต้องเปลี่ยนความอยากเอาตัวรอดและก้าวหน้าของคุณให้กลายเป็นความอยากทำงานและอยากมีทุกข์ เพราะการทำเช่นนี้เป็นทั้งเรื่องจำเป็นและมีประโยชน์
    • คุณจะไม่ได้เป็นนักธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ นักวิ่งฝีมือฉกาจ พ่อครัวมือฉมัง หรือแม้แต่ทำงานดีภายในข้ามคืนได้ คุณจะล้มเหลว และล้มเหลว และล้มเหลว และล้มเหลว นี่เป็นเรื่องที่ดี เพราะหมายความว่าคุณกำลังก้าวต่อไป
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ลดตารางเวลาให้ว่างขึ้น.
    การมีกิจกรรมมากเกินไปในชีวิตประจำวันทำให้คุณไม่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำได้โดยง่าย พยายามลดตารางนัดหมายลงโดยการเน้นเรื่องสำคัญและเอาเรื่องที่ไม่สำคัญเท่าไหร่ออก หยุดรับรู้สิ่งที่กวนใจและมุ่งเน้นไปที่เป้าหมาย
    • ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณพยายามจะเขียนให้ได้ 1,000 คำในทุกวันหยุดแต่ทำไม่ได้เพราะติดกิจกรรมพิเศษ ลองตัดพวกนั้นทิ้งไปบ้าง โดยการตัดออกแม้การนัดหมายหนึ่งชั่วโมงต่อสัปดาห์ คุณก็มีเวลามุ่งสู่เป้าหมายมากขึ้น
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ทำต่อไป.
    คงจะมีบ้างที่อะไรๆ ก็ยากขึ้น และคุณอาจจะรู้สึกไม่ค่อยอยากกลับมาทำงานหลังจากให้รางวัลตัวเองไปแล้ว ในเวลาอย่างนี้ คุณจะต้องรวบรวมสติและเตือนตัวเองถึงเป้าหมายหรือทางออกที่คุณควรจะจดจ่อ พยายามทำให้เต็มที่ขณะที่คุณจดจ่อกับงาน หรืออยู่ในสภาวะที่ตั้งใจแน่วแน่ (flow state) ใช้ความตั้งใจนี้ก้าวกระโดดไปทำงานต่อไปหรือเป้าหมายต่อไปทันทีที่คุณให้รางวัลตัวเองแล้ว
    • ยิ่งคุณเริ่มทำงานหลังจากเสร็จไปแล้วส่วนหนึ่งช้าเท่าไหร่ ก็ยิ่งยากที่จะเริ่ม จดจำความรู้สึกของความมุ่งมั่นในการทำงานและความรู้สึกดีเมื่อทำสำเร็จเอาไว้ ยิ่งเริ่มเร็ว คุณก็จะยิ่งมั่นใจและรู้สึกดี
    • ลองคิดหาใครสักคนมาเป็นคู่หูที่เชื่อใจได้ เช่น ถ้าคุณมีเป้าหมายจะไปฟิตเนสทุกวัน ลองหาเพื่อนเพื่อช่วยสนับสนุนคุณ ส่งข้อความหาเขาทุกวันที่คุณไป วันไหนไม่ได้ไปก็ให้เขาส่งข้อความมาเตือนคุณถึงเป้าหมาย
  7. How.com.vn ไท: Step 7 อย่ายอมแพ้.
    การหาแรงบันดาลใจก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่การไม่ยอมแพ้เวลาเจอกับงานหนักก็เป็นอีกเรื่อง โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปัญหาที่ไม่คาดคิด จำไว้ว่าสิ่งรบกวนเหล่านี้เกิดขึ้นเสมอโดยไม่มีเหตุผล และจะมีผลกระทบต่อการทำงานของคุณ แทนที่จะยอมให้ความล้มเหลวมาทำให้คุณหมดแรง ลองมองว่ามันคืออะไรและอย่าให้มันทำลายคุณได้ คุณไม่ได้เผชิญหน้าอยู่คนเดียว การจดจ่อกับงานที่ท้าทายเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรับมือกับปัญหาและการกลับสู่สภาพปกติ
    • เตือนตัวเองว่าคุณอยากทำเป้าหมายหรืองานนี้ให้สำเร็จมากแค่ไหน ขอความช่วยเหลือเมื่อคุณต้องการ กลับไปดูสิ่งที่คุณทำสำเร็จไปแล้ว และอย่ายอมแพ้ คุณทำได้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ดื่มน้ำเย็นเมื่อคุณรู้สึกขี้เกียจ น้ำจะช่วยกระตุ้นสมอง เพิ่มความอยากขยับเขยื้อนและทำสิ่งต่างๆ
  • หลีกเลี่ยงน้ำตาลและอาหารที่มีน้ำเชื่อมฟรัคโทสหรือน้ำเชื่อมข้าวโพดเป็นส่วนผสม ซึ่งจะทำให้ร่างกายไปเผาผลาญน้ำตาลเหล่านี้แทนที่จะเป็นไขมัน น้ำตาลสังเคราะห์ (ไม่มีไฟเบอร์)จะทำให้คุณมีพลังงานเพิ่มขึ้นในเวลาสั้นๆ หลังจากนั้นน้ำตาลในเลือดจะต่ำลง คุณจะรู้สึกเหนื่อยและหิว การทานอาหารที่ไม่ดีก็สามารถทำให้เกิดความขี้เกียจได้
  • หากคุณไม่จำเป็นต้องทำงานหรือไม่ต้องรีบออกจากบ้านในตอนเช้า ตั้งนาฬิกาปลุกไว้เช้าๆ ประมาณ 7 โมง อาบน้ำแต่งตัว ทำให้ตัวเองดูดีก่อนที่จะออกจากห้อง แต่งตัวเหมือนคุณมีแผนจะออกไปข้างนอกเสมอ ถอดชุดนอนของคุณทิ้งไว้ในห้องนอน จัดเตียงให้เรียบร้อยเพื่อที่คุณจะได้ไม่กลับไปนอนต่อและไม่เพิ่มความยุ่งเหยิงให้กับห้องนอน
  • ลองใช้เทคนิค 20/10 เทคนิคนี้คือการทำงาน 20 นาที (ทำความสะอาด เรียน หรือทำสิ่งที่ต้องทำ) จากนั้นพัก 10 นาที วิธีการ 45/15 ก็ใช้หลักการเดียวกัน ลองเริ่มจากน้อยๆ ก่อนถ้าจำเป็น เช่น 10/5
  • เตือนตัวเองเรื่องเป้าหมายและสาเหตุที่คุณทำสิ่งนี้อยู่เสมอ ลองคิดถึงข้อเสียที่จะเกิดขึ้นในระยะยาวหากคุณไม่ทำตามเป้าหมายให้สำเร็จ จะทำให้คุณเกิดความมุ่งมั่นขึ้นมาทันที
  • อยู่กับคนที่ทำให้คุณฮึมเหิม ไม่ว่าจะผ่านสื่อ เทคโนโลยี หรืออื่นๆ ความรัก การสนับสนุน และกำลังใจจากผู้อื่นสามารถปลุกพลังในตัวคุณได้
  • ลองคิดถึงการเลิกดูโทรทัศน์ดู ความทุกข์นั้นคุ้มค่ากับสิ่งที่จะได้รับ คุณจะมีเวลาเพิ่มขึ้นอีกมากที่จะไล่ล่าสิ่งต่างๆ ที่น่าตื่นเต้น เมื่อไม่มีสิ่งยั่วยวนอย่างเช่นการนอนดูโทรทัศน์
  • เวลาคุณคิดว่าคุณควรหรือไม่ควรทำอะไรบางอย่าง ลองคิดว่า "ฉันจะทำสิ่งที่ฉันต้องทำ ดังนั้นฉันสามารถทำสิ่งที่ฉันอยากทำได้"
  • การนั่งสมาธิจะช่วยลดความขี้เกียจโดยการพัฒนาระดับความตื่นตัวและการอยู่กับปัจจุบัน เพราะคุณต้องจดจ่ออยู่กับลมหายใจ กิริยา และสัมผัสทั้งห้า รวมถึงต้องควบคุมจดจ่อกับความคิด อารมณ์ และระดับของพลังงานในแง่บวก
  • หากคุณเปลี่ยนช่องเพื่อดูรายการต่อไป แทนที่จะทำโปรเจคหรืองานบ้านให้เสร็จ แค่คิดว่า "นี่คือแรงผลักดันให้ทำสิ่งที่น่าพอใจเพียงชั่วครู่ หรือฉันรู้สึกไม่อยากทำและอยากหลีกเลี่ยงประสบการณ์ที่น่าเจ็บปวด" ในการเอาชนะความขี้เกียจและการผัดวันประกันพรุ่ง ลองดูสัญญาณทั้งสองชนิดนี้ และค่อยๆ ทำให้มันผ่านไป
โฆษณา

คำเตือน

  • หากคำแนะนำข้างต้นไม่สามารถเพิ่มความอยากทำสิ่งต่างๆ หรือยกระดับจิตใจคุณได้ หากคุณยังรู้สึกพ่ายแพ้และไม่มีคุณค่า คุณอาจจะมีอาการซึมเศร้าที่ร้ายแรงกว่า คุณควรจะพบแพทย์ทันที
  • ดูให้แน่ใจว่าคุณไม่มีภาวะโลหิตจางหรือโรคอื่นๆ ที่จะทำลายแผนการก้าวหน้าของคุณ "คุณต้องรู้จักตัวเอง" ตั้งเป้าหมายที่สามารถเป็นจริงได้สำหรับสภาพร่างกายของคุณและทำตาม
  • ทุกคนจะรู้สึกท้อแท้เมื่อถึงจุดๆ หนึ่ง ส่วนมากแล้วเกิดจากสถานการณ์ที่หดหู่ (เช่น การตาย การตกงาน เป็นต้น) คนส่วนมากหายจากความท้อแท้เมื่อถึงเวลาที่สมควร แต่ถ้าปัญหานั้นยังไม่หมดไป คุณควรหาความช่วยเหลือ ตรวจดูว่าคุณอาจจะจำเป็นต้องได้รับการรักษา เพื่อที่คุณจะได้รักษาและรับคำแนะนำที่ถูกต้อง
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: ทีมงานวิกิฮาว
ร่วมเขียน โดย:
นักเขียนในทีมวิกิฮาว
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา

ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 63,211 ครั้ง
หมวดหมู่: สุขภาพ
มีการเข้าถึงหน้านี้ 63,211 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา