วิธีการ รู้ว่าตัวเองเมาหรือเปล่า

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

ดูว่าในทางกฎหมายแล้วคุณเมาหรือเปล่า

ทดสอบความไม่เมาในสนาม

ดูว่าคุณมีพฤติกรรมอย่างไร

รู้ว่าตัวเองมีปัญหาหรือเปล่า

แสดงเพิ่มอีก 1...

แสดงน้อยลง...

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

ในประเทศไทยระดับแอลกอฮอล์ที่กฎหมายกำหนดคือต้องไม่เกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ในร่างกาย ในหลายๆ ประเทศถ้าคุณดื่มเกิน 1 ดริงค์ต่อชั่วโมง ในทางกฎหมายก็ถือว่าคุณเมาแล้ว ถ้าคุณไม่แน่ใจ่าตัวเองเมาหรือเปล่า ก็แสดงว่าคุณอาจจะเมาจริงๆ อย่าขับรถ ให้เดินหรือค้างบ้านเพื่อน หรือไม่ก็ให้เพื่อนที่ไม่เมาขับรถไปส่งคุณที่บ้าน อย่าเอาชีวิตไปเสี่ยง

ขั้นตอน

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 4:

ดูว่าในทางกฎหมายแล้วคุณเมาหรือเปล่า

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ดูว่าคุณดื่มเกิน 1 ดริงค์ต่อชั่วโมงไหม. ทุกประเทศจะมีระดับแอลกอฮอล์ที่กฎหมายกำหนดว่าอยู่ในเกณฑ์มึนเมาต่างกันเล็กน้อย ร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ถ้าเอากฎกำปั้นทุบดินก็คือร่างกายของคุณสามารถเผาผลาญ (ย่อย) แอลกอฮอล์ได้ชั่วโมงละ 1 ดริงค์ เพราะฉะนั้นถ้าคุณดื่มเกินชั่วโมงละ 1 ดริงค์ ก็เดาได้เลยว่าคุณเมา อย่างน้อยก็ในทางกฎหมาย ถึงคุณจะไม่ได้ รู้สึก เมา แต่ก็ไม่ต้องคิดเลยว่าจะขับรถ ไปทำงาน ดูแลลูก แก้งานวิกิฮาว หรือทำอะไรก็แล้วแต่ที่ต้องใช้ความสามารถในการควบคุมอย่างเต็มที่ได้ (ถึงคุณจะรู้สึกว่าตัวเองไม่เป็นอะไรเลยจริงๆ ก็เถอะ)

   • "1 ดริงค์" เท่ากับไวน์แก้วมาตรฐาน 1 แก้ว วอดก้า 1 ช็อต เบียร์ 12 ออนซ์ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆ ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์เท่ากัน ถ้าเป็นพวกเชอร์รี่ ไซเดอร์ 1 ไพน์ บาคาดี และอื่นๆ ปริมาณก็จะได้มากกว่า
2. 
   2
   ใช้เครื่องคำนวณออนไลน์. คุณมีคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มอืถืออยู่ใกล้มือไหม ถ้าคุณอยากจจะรู้ว่าในทางกฎหมายแล้ว ตอนนี้ คุณเมาแล้วหรือยัง ให้เข้าไปที่เว็บไซต์ https://www.siamhealth.net/public_html/calculator/blood.html เพื่อคำนวณปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดคร่าวๆ หรือจะลองค้นหาเว็บไซต์อื่นๆ ในอินเทอร์เน็ตเพิ่มเติมเพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์ที่ได้ด้วยก็ได้

   • เครื่องคำนวณออนไลน์ยังรวมอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญเข้ามาคำนวณด้วย นั่นก็คือน้ำหนัก ยิ่งคุณตัวใหญ่เท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งเมาช้าลงเท่านั้น เพราะฉะนั้นผู้หญิงน้ำหนัก 45 กก. ดื่มเบียร์ 2 แก้วจะเมากว่าผู้ชายน้ำหนัก 90 ที่ดื่มเบียร์ 2 แก้วเท่ากันมากๆ
   • เครื่องคำนวณอาจมีตัวเลือกให้ใส่นอกเหนือไปจากการใส่ข้อมูล "1 ดริงค์" ตามความหมายมาตรฐาน และเพิ่มตัวแปรอื่นๆ ให้คุณด้วยเพื่อให้คุณรู้ว่าจริงๆ แล้วคุณดื่มไปเท่าไหร่แล้วกันแน่
3. 
   3
   รู้ว่าอะไรคืออาการมึนเมาในทางกฎหมาย. โดยทั่วไปอาการมึนเมาคือปริมาณความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดที่ 0.5-10 ในบางประเทศเช่นรัสเซีย กฎหมายไม่อนุญาตให้คุณขับรถเลยหากคุณมีแอลกอฮอล์ในร่างกายแม้แต่นิดเดียว

   • อันนั้นเป็นเลขเปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นถ้าคุณมีปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดเกิน 0.1% ก็เป็นไปได้ว่าในทางกฎหมายอาจจะถือว่าคุณเมาแล้ว
   • แต่ประเทศไทยกำหนดว่าต้องมีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่เกิน 0.5 จึงจะขับรถได้
4. 
   4
   ใช้เครื่องเป่าวัดระดับแอลกอฮอล์. เครื่องเป่าวัดระดับแอลกอฮอล์เป็นอุปกรณ์เล็กๆ ที่คุณสามารถเป่าลมเข้าไปเพื่อวัดระดับปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดได้ ถึงตอนนี้คุณอาจจะยังไม่มีเครื่องเป่าวัดระดับแอลกอฮอล์ติดไว้ แต่คุณก็สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาหรือจะสั่งออนไลน์ก็ได้ หวังว่าคุณจะไม่ต้องใช้เครื่องนี้ในมือตำรวจ และคุณควรมีเครื่องเป่าวัดระดับแอลกอฮอล์ติดรถหรือติดบ้านไว้เพราะคุณจะได้รู้ว่าตัวคุณเองหรือแขกที่มาบ้านสามารถขับรถกลับบ้านได้อย่างไม่ผิดกฎหมายหรือเปล่า

   • อย่าดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พรวดๆ ก่อนวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดถึงจะแค่ทำเอาสนุกก็เถอะ เพราะว่าตัวเลขมันจะสูงกว่าค่าปกติ

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 4:

ทดสอบความไม่เมาในสนาม

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ทดสอบ "แตะจมูกขณะปิดตา". "การทดสอบความไม่เมาในสนาม" เป็นการทดสอบที่กระบวนการบังคับใช้กฎหมายจะใช้เพื่อดูว่าผู้ต้องสงสัยเมาหรือเปล่า ซึ่งมีประโยชน์ในการทดสอบว่าคุณเมาหรือเปล่าเพราะว่าให้ผลที่ค่อนข้างแม่นยำ หน่วยงานด้านความปลอดภัยทางจราจรบนถนนหลวงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาพบว่า คนที่ไม่เมาสามารถผ่านการทดสอบนี้ได้เกือบทุกกรณี ในขณะที่ 80% ของคนที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดในอเมริกา (.08%) จะสอบตก การทดสอบ "แตะจมูกขณะปิดตา" เป็นการทดสอบที่ลองทำได้ง่ายที่สุด สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ

   • ปิดตาและกางแขนออก
   • พยายามเอานิ้วชี้แตะปลายจมูกขณะที่ข้อศอกยืดตรง ถ้าศอกหล่นมาอยู่ข้างลำตัวจะไม่นับ
   • ถ้าคุณแตะไม่โดนจมูก ก็เป็นไปได้ว่าคุณอาจจะเมา
2. 
   2
   ทดสอบ "เดินบนเส้นตรง". การทดสอบนี้จะดูว่าคุณสามารถเดินตามเส้นตรง หมุน และเดินกลับมาได้หรือไม่ สิ่งที่คุณต้องทำคือ

   • หาเส้นตรงบนพื้น
   • เดินบนเส้นตรงไปข้างหน้าหกก้าวโดยให้ทั้งส้นและนิ้วเท้าลงพื้น จากนั้นหมุนโดยใช้ส้นเท้า แล้วเดินกลับมาอีก 6 ก้าว
   • ถ้าคุณต้องใช้แขนทรงตัว เดินออกนอกเส้น ไม่สามารถปฏิบัติตามคำสั่งได้ ไม่สามารถใช้ทั้งส้นและนิ้วเท้าลงพื้นได้ ถือว่าไม่ผ่านการทดสอบ
3. 
   3
   ทดสอบ "ยืนขาเดียว". การทดสอบนี้จะดูว่าคุณสามารถยืนขาเดียวโดยที่ขาอีกข้างยกขึ้นเล็กน้อยได้เป็นเวลา 30 วินาทีหรือเปล่า สิ่งที่คุณต้องทำคือ

   • ยกขาจากพื้นประมาณ 15 ซม.
   • ค้างไว้ 30 วินาที
   • ถ้าคุณตัวโคลงเคลง เอาขาลง กระโดด หรือใช้แขนทรงตัว ตั้งแต่ 2 อย่างขึ้นไป ถือว่าไม่ผ่านการทดสอบ

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 4:

ดูว่าคุณมีพฤติกรรมอย่างไร

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ดูว่าจู่ๆ คุณก็คิดว่าตัวเองเป็นซูเปอร์แมนหรือเปล่า. พอคุณเมา จู่ๆ คุณก็อาจจะเริ่มคิดว่าขวดเหล้ามอลต์ที่เกือบจะว่างเปล่าตรงหน้าเป็นแค่น้ำผลไม้ที่ทรงพลังหรือเปล่า คุณเริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีอำนาจอย่างแรงกล้าพร้อมที่จะทำทุกอย่าง และใช้ร่างกายทำภารกิจโหดๆ หรือไม่ คุณเคยลองยกคนที่หนักกว่าคุณ ใช้มือเดิน หรือปีนข้างกำแพงตึกหรือเปล่า เคยแข่งงัดข้อกับจิ๊กโก๋หรือไม่ แล้วพยายามจะยกกล่องหกใบที่ข้างในเป็นตะกั่วหรือเปล่า ถ้าเคย ก็แสดงว่าคุณเมา เมา เมาแน่ๆ
2. 
   2
   ดูว่าจู่ๆ คุณก็ลุกขึ้นมาเต้นแบบบ้าคลั่งหรือเปล่า. ถ้าปกติคุณก็เต้นอย่างนี้อยู่แล้วก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าปกติคุณเป็นพวกไม้ประดับที่ชอบแอบอยู่ตามมุมห้องแล้วจู่ๆ ก็ลุกขึ้นมาเต้น "มาการีน่า" กับคุณป้าเกอร์ต้าที่งานเลี้ยงเกษียณ หรือพยายามจะเต้นเบรกแดนซ์คลอฮิปฮอปแต่ก็ไม่วายหัวกระแทกพื้นจนได้ ก็แสดงว่าคุณอาจจะเมาไปหน่อย การดื่มสักเล็กน้อยเพื่อเติมเชื้อไฟในการเต้นถือเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าคุณเริ่มเต้นในแบบที่คุณไม่คิดไม่ฝันว่าตัวเองจะเต้นแบบนี้มาก่อนในคืนที่คุณไม่ได้ดื่มเลย ก็แสดงว่าคุณเมาแล้วล่ะ
3. 
   3
   ดูว่าคุณเริ่มเล่ารายละเอียดส่วนตัวที่ลับเฉพาะที่สุดให้คนแปลกหน้าฟังหรือยัง. คุณอาจจะเพิ่งเจอเพื่อนของเพื่อน เพิ่งจะรู้จักกับแฟนสาวคนใหม่ของลูกพี่ลูกน้อง หรือเพิ่งจะมีคนแนะนำให้คุณรู้จักหนุ่มที่ทำงานอยู่บนชั้น 3 ของตึกที่คุณไปจัดปาร์ตี้คริสมาสต์ทุกปี โอเค อันนั้นก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าคุณเริ่มเล่าว่าคุณสงสัยว่าตัวเองจะเป็นหูดหงอนไก่หรือเปล่า คุณทำใจไม่ได้ที่หนูเจอร์บิลชื่อพูห์พูห์ของคุณตายไปแล้ว ความกลัวการมีเพศสัมพันธ์ของคุณย้อนไปถึงตอนป.3 ที่คุณเดินเข้าบ้านแล้วเห็นพ่อแม่กำลังมีอะไรกันอยู่ ถ้าคุณเล่ารายละเอียดลับเฉพาะพวกนี้ให้ใครก็ตามแต่ที่พร้อม (หรือไม่พร้อม) จะรับฟัง ถ้างั้นรับประกันได้เลยว่าคุณเมาแล้วแน่ๆ
4. 
   4
   ดูว่าคุณเริ่มสารภาพรักกับคนที่คุณแอบชอบหรือเปล่า. คุณเพิ่งเปิดขวดไวน์หรือไวน์ Franzia กล่องที่สองแล้วคุณก็เหลือบไปเห็นคนที่คุณแอบชอบเดินเข้ามาในห้องพอดี แล้วจู่ๆ คุณก็ไปยืนอยู่ตรงหน้าเขา พล่ามไม่หยุดว่าเขาน่ารักและคุณเองก็ชอบเขามากแค่ไหน หลังจากหายใจเข้าลึกๆ หนึ่งเฮือก จู่ๆ คุณก็โน้มตัวจะไปจูบเขา...แล้วหน้าก็คะมำลงกับพื้น ถ้าคุณเริ่มบอกความในใจของตัวเองให้คนที่คุณชอบทั้งที่คุณรู้ดีแก่ใจว่าคุณไม่มีวันจะทำอย่างนั้นในวันที่หัวคุณโล่งๆ แน่ ก็แสดงว่าคุณเมาแล้วล่ะเพื่อน
5. 
   5
   ดูว่าคุณเริ่มส่งข้อความที่ไม่ปะติดปะต่อแล้วหรือยัง. ดูข้อความแชตในโทรศัพท์เมื่อชั่วโมงที่ผ่านมา ถ้าคุณเห็นว่าคุณแทบจะพิมพ์ข้อความหรือสะกดคำออกมาให้ปะติดปะต่อกันไม่ได้เลย ก็ได้เวลาเก็บเครื่องส่งข้อความใส่กระเป๋าก่อนแล้วไปหาน้ำเปล่ามากระแทกปากเยอะๆ
6. 
   6
   ดูว่าคุณเริ่มใช้อารมณ์แบบหาเหตุผลไม่ได้หรือเปล่า. จู่ๆ คุณก็ร้องไห้เพราะหน้าล็อกสกรีนตีมฮาโลวีนของเพื่อนขึ้นคำว่า Hocus Pocus หรือเปล่า คุณน้ำตาไหลพรากตอนมื้อค่ำเพราะว่าเพื่อนอวยพรวันเกิดให้คุณใช่มั้ย ไม่ว่าใครก็ปลอบคุณไม่ได้ที่คนที่คุณแอบชอบไม่มางานปาร์ตี้หรือเปล่า ถ้าปกติคุณไม่ใช่ดราม่าควีน แต่จู่ๆ คุณก็ไม่พอใจหรือประทับใจกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นทุกเรื่อง ก็แสดงว่าคุณเมาแล้วล่ะ

   • คุณเคยรู้สึกอบอุ่นปนสับสนจนคุณรู้สึกว่าคนรอบข้างคุณทุกคนรักคุณหรือโลกนี้ก็น่าอยู่หรือเปล่า ใช่แล้วล่ะ เจ้านั่นมันคือแอลกอฮอล์
7. 
   7
   ดูว่าคุณสูญเสียการเคลื่อนไหวหรือเปล่า. เปิดประตูห้องน้ำก็แทบจะทำไม่ได้เลยเหรอ แล้วรูดซิปกางเกงล่ะทำได้มั้ย เอาพิต้าชิพจิ้มฮัมมัสในชามใหญ่ก็ไม่ได้เหรอ ถ้าอย่างนั้นก็แสดงความคุณสูญเสียการเคลื่อนไหวเพราะว่าคุณดื่มมากเกินไป ถ้าการเดินจากมุมห้องหนึ่งไปยังอีกมุมหนึ่งจู่ๆ ก็กลายเป็นงานที่หนักหนา ก็แสดงว่าแอลกอฮอล์เข้าไปยับยั้งการทำงานของร่างกาย
8. 
   8
   ดูว่าคนรอบข้างดูสับสนกับคุณหรือเปล่า. คุณคิดว่าตัวเองกำลังเล่าชัยชนะตอนที่คุณชนะการแข่งขัน Spelling Bee เมื่อตอนป.4 หรือการเดินทางไปเป็นอาสาสมัครที่ประเทศคอสตาริกาได้เปลี่ยนชีวิตคุณไปตลอดกาลหรือเปล่า ว่าแต่ทำไมคนรอบข้างเขาถึงเหลือบตามองคุณ เกาหัว หรือดูสับสนกับทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณพูดนักล่ะ

   • ถ้ามีแต่คนคอยบอกให้คุณพูดซ้ำหรือถามว่า "คุณพูดเรื่องอะไรอยู่น่ะ" หรือแม้กระทั่งว่า "ผมรู้จักคุณด้วยเหรอ" ก็แสดงว่าคุณเมาแล้วแหงๆ
9. 
   9
   ดูว่าวันถัดไปคุณจำอะไรไม่ได้เลยหรือเปล่า. ถ้าคุณจำไม่ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน ก็แสดงว่าคุณเมาจนภาพตัดไป ถ้าคุณพอจะจำอะไรได้บ้าง ก็แสดงว่าภาพมันยังติดๆ ดับๆ แต่มันก็ไม่ดีทั้งคู่แหละเพื่อนเอ๋ย การจำอะไรไม่ได้เพราะว่าคุณดื่มมากเกินไปทั้งน่ากลัว อันตราย และไม่ใช่วิถีชีวิตในแบบที่ควรจะเป็นเลย
10. 
    10
    ดูว่าคุณกลายเป็นคนละคนเลยหรือเปล่า. ถ้าปกติแล้วคุณเป็นคนขี้อายแล้วจู่ๆ คุณก็กลายเป็นจุดสนใจของงานปาร์ตี้ หรือถ้าปกติคุณชอบคุยกับคนโน้นคนนี้แต่มาวันนี้คุณกลับนั่งข้างๆ วิทยุ ครุ่นคิดถึงความหมายของชีวิตแล้วโยกตามเพลง "ชีวิตไม่ได้มีด้านเดียว" ช้าๆ ก็แสดงว่าคุณไม่ได้กำลังเป็นตัวของตัวเอง ถ้าคุณนั่งคิดว่าตอนที่คุณดื่มคุณทำอะไรบ้างแล้วรู้สึกได้ว่าคุณกำลังกลายเป็นคนละคนไปเลย หรือกลายเป็นคนห้าว เสียงดัง ใช้อารมณ์ ก็แสดงว่าคุณอาจจะเมาแล้วล่ะ

วิธีการ 4

วิธีการ 4 ของ 4:

รู้ว่าตัวเองมีปัญหาหรือเปล่า

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   รู้ว่าคุณเมาเข้าขั้นอันตรายแล้วหรือยัง. ถ้าคุณเมาชนิดเข้าขั้น อันตราย คุณก็ไม่น่าจะจำได้ หรือไม่คุณก็เมามากเกินกว่าจะรู้ระดับความเมาของตัวเอง ถ้าคุณเมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ได้แต่หวังว่าคนรอบตัวคุณจะดูออก อาการที่บ่งบอกว่าคุณเมาเข้าขั้นอันตรายก็คือเดินโซเซและล้ม อาเจียนไม่หยุด ห้องหมุนเร็วจี๋ และโดยทั่วไปคือดูล่องลอยและไม่ใช่ตัวคุณเลย

   • เรื่องนี้ไม่ตลกเลย เพราะไม่มีตัวเลขปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเป๊ะๆ ที่บอกได้ว่าคุณเมาเข้าขั้นอันตรายแล้วหรือยัง แต่การเมามากๆ จะทำให้คุณเป็นอันตรายต่อทั้งตัวคุณเองและคนอื่นมากขึ้น
   • คนที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 0.19 เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนถึง 41%
   • ปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดที่ 0.3 ก็มีสิทธิ์เสียชีวิตได้ และคนส่วนใหญ่ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดเกิน .5% ก็มักจะเสียชีวิต เพราะฉะนั้นอย่าดื่มมากเกินไปแม้ว่าคุณจะอยู่ที่บ้านก็ตาม
2. 
   2
   ซื้อ "กุญแจปิดสวิทช์ไฟทางระบบไฟฟ้าของเครื่องยนต์" สำหรับรถถ้าคุณกลัวว่าตัวเองจะเมาแล้วขับ. วิธีนี้ป้องกันไม่ให้คุณขับรถขณะเมามายโดยอัตโนมัติ ในสหรัฐอเมริกากุญแจที่ว่านี้จะติดที่รถของผู้ที่เคยถูกจับข้อหาขับรถขณะมึนเมามากกว่า 1 ครั้ง แต่คุณเองก็สามารถใช้มาตรการป้องกันนี้เพื่อไม่ให้ตัวเองตกอยู่ในอันตรายได้ล่วงหน้า
3. 
   3
   รู้ว่าตัวเองติดเหล้าหรือเปล่า. การติดเหล้าไม่ใช่การที่นานๆ ทีคุณจะไปกินเหล้ากับเพื่อนสักดริงค์สองดริงค์ แต่มันคือการดื่มจนถึงขั้นที่คุณจำไม่ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น ดื่มคนเดียวอยู่บ่อยๆ และการพึ่งพาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยทั่วไป แต่ละคนนิยามการติดเหล้าไม่เหมือนกัน แต่ถ้าคุณคิดว่าการดื่มเหล้าสร้างปัญหาให้กับตัวคุณ ก็ถึงเวลาที่ต้องขอความช่วยเหลือแล้ว