บทความนี้ร่วมเขียนโดย Julien Miller หนึ่งในผู้ร่วมเขียนบทความของเรา ผู้ร่วมเขียนบทความของเราจะทำงานร่วมกับบรรณาธิการอย่างใกล้ชิด เพื่อความมั่นใจว่าบทความนั้นถูกต้องและมีเนื้อหาครอบคลุมมากที่สุด
บทความนี้ถูกเข้าชม 8,532 ครั้ง
หอยเชลล์เป็นหอยเนื้อเบาและฉ่ำที่เสิร์ฟในร้านอาหารชั้นเยี่ยม แต่ก็ง่ายพอที่จะทำในครัวของคุณเองได้ หอยเชลล์แช่แข็งเป็นตัวเลือกที่ไม่แพงและสามารถมีรสชาติสดใหม่ได้ถ้าปรุงอย่างถูกต้อง เมื่อคุณละลายน้ำแข็งหอยเชลล์แล้วคุณสามารถย่างหรืออบเป็นอาหารแสนอร่อยที่คุณจะชื่นชอบได้อย่างแน่นอน!
ส่วนประกอบ
- หอยเชลล์แกะเปลือก 680 กรัม
- เกลือและพริกไทย
- น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ (15 มิลลิลิตร)
- น้ำมะนาว 1 ช้อนชา (5 มิลลิลิตร) (ตัวเลือก)
ทำเสิร์ฟ 4 ที่
- หอยเชลล์แกะเปลือก 680 กรัม
- เนยละลาย ½ ถ้วย (120 มิลลิลิตร)
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ (5 กรัม)
- เกล็ดขนมปังเปล่า ¾ ถ้วย (70 กรัม)
- เกลือ ½ ช้อนชา (2.5 กรัม)
- พริกไทย ¼ ช้อนชา (0.5 กรัม)
- พาร์สลีย์สดสับ 2 ช้อนชา (2.5 กรัม)
- มะนาวสด 1 ลูก
- ไวน์ขาว 1 ช้อนโต๊ะ (15 มิลลิลิตร) (ตัวเลือก)
- เลมอนไธม์ ½ ช้อนชา (2.5 กรัม) (ตัวเลือก)
ทำเสิร์ฟ 3 ที่
ขั้นตอน
- ทำความสะอาดหอยเชลล์ถ้ามันแช่แข็งทั้งเปลือก. แงะเปิดเปลือกด้วยมีดตัดเนยโดยสอดมีดไว้ระหว่างฝาเปลือก เมื่อเปิดแล้วให้ล้างเนื้อหอยใต้ก๊อกน้ำโดยใช้น้ำเย็นเพื่อขจัดทรายหรือกรวดออก ใช้มีดตัดเนื้อสีขาวชิ้นใหญ่ออกจากส่วนที่เหลือของหอยเชลล์[1]
- ถ้าหอยเชลล์แช่แข็งไม่อยู่ในเปลือก คุณสามารถข้ามขั้นตอนนี้ได้
- ให้ใช้น้ำเย็นล้างหอยเชลล์เท่านั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อหอยเละ
- ใส่หอยเชลล์ไว้ในตู้เย็น 24 ชั่วโมงก่อนนำไปใช้. ใส่เนื้อหอยเชลล์ลงในชามใบใหญ่แล้วคลุมด้วยแร็ปพลาสติก เก็บชามไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 1 วันก่อนนำไปปรุงอาหาร วันรุ่งขึ้นให้ตรวจดูว่าหอยเชลล์ยังเป็นน้ำแข็งหรือเนื้อยังแข็งอยู่หรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นให้ทิ้งไว้ในตู้เย็นอีกชั่วโมงก่อนนำไปใช้[2]
- ให้แน่ใจว่าชามใหญ่พอที่จะรองรับหอยเชลล์และน้ำจากน้ำแข็งที่ละลายได้
- ใช้หอยเชลล์ภายใน 1-2 วันหลังจากแช่ในตู้เย็น
- แช่หอยเชลล์ในน้ำเย็น 1 ชั่วโมงก่อนปรุงเพื่อละลายน้ำแข็งในวันเดียวกัน. เติมน้ำเย็นลงในชามหรืออ่างล้างจานและนำถุงหอยเชลล์ลงไปแช่ ให้แน่ใจว่าบรรจุภัณฑ์ปิดสนิทเพื่อไม่ให้น้ำเข้าไปข้างใน ทิ้งไว้นานถึง 1 ชั่วโมงเพื่อให้อุณหภูมิค่อยๆ เปลี่ยน[3]
- ถ้าหอยเชลล์แฉะจะมีผลต่อเนื้อสัมผัส
- ถ้าคุณมีหอยเชลล์ที่ไม่ได้บรรจุห่อ ให้นำใส่ถุงซิปล็อคก่อนนำไปแช่น้ำ
- ละลายน้ำแข็งหอยเชลล์ในไมโครเวฟถ้าคุณต้องการใช้ทันที. ใส่หอยเชลล์ลงในภาชนะที่ปลอดภัยสำหรับใช้ในไมโครเวฟและคลุมด้วยกระดาษอเนกประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำกระเด็นและเพื่อให้ได้ความร้อนสม่ำเสมอกัน ใช้การตั้งค่าการละลายน้ำแข็งในไมโครเวฟทีละ 30 วินาทีจนกว่าน้ำแข็งจะละลายหมด[4]
- ตั้งไมโครเวฟเป็นพลังงาน 30% ถ้าไม่มีตัวเลือกการละลายน้ำแข็ง
โฆษณา
- ใช้กระดาษอเนกประสงค์ซับหอยเชลล์ให้แห้ง. ซับหอยเชลล์ให้แห้งไม่เช่นนั้นมันอาจจะหดตัวและปล่อยไอน้ำก่อนนำไปปรุง พับกระดาษอเนกประสงค์เป็นครึ่งหนึ่งแล้วซับหอยเชลล์แต่ละด้านให้แห้ง วางหอยเชลล์บนจานใหม่เพื่อไม่ให้เปียกอีก[5]
- การทำให้หอยเชลล์แห้งยังช่วยให้หอยเชลล์สุกเป็นสีน้ำตาลทอง
- โรยเกลือและพริกไทยบนหอยเชลล์แต่ละตัว. หยิบเกลือและพริกไทยขึ้นมาหยิบมือหนึ่งแล้วโรยให้ทั่วหอยเชลล์เพื่อปรุงรส ถูเกลือและพริกไทยให้เข้าเนื้อหอยเชลล์เพื่อให้ดูดซับรสชาติ[6]
- อุ่นน้ำมันมะกอกในกระทะด้วยไฟแรงปานกลาง. ทาน้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ (15 มิลลิลิตร) ในกระทะให้ทั่วแล้วรอจนร้อน กระทะพร้อมเมื่อคุณพรมน้ำลงบนกระทะและดูว่าหยดน้ำระเหยเมื่อสัมผัสกระทะหรือไม่[7]
- อีกทางเลือกหนึ่งคือคุณสามารถใช้เนยแทนน้ำมันมะกอกก็ได้
- วางหอยเชลล์ในกระทะให้ห่างกัน 2.5 เซนติเมตร. ใช้ที่คีบวางหอยเชลล์ลงบนกระทะ ให้แน่ใจว่าหอยเชลล์ตัวแรกส่งเสียงฉ่าเมื่อคุณวางลงไป จากนั้นใส่หอยเชลล์ลงไปให้มากที่สุดโดยอย่าให้มันแน่นเกินไป[8]
- ถ้าจำเป็น ให้แบ่งปรุงหอยเชลล์เป็นชุดเล็กๆ
- ปรุงหอยเชลล์ด้านละ 2-3 นาที. อย่าขยับหอยเชลล์ในขณะที่กำลังปรุงเพื่อให้ด้านล่างเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลทอง เมื่อพวกมันพร้อมให้พลิก พวกมันควรจะหลุดร่อนจากกระทะได้อย่างง่ายดายเมื่อคุณใช้ที่คีบหยิบ ปรุงอีกด้านหนึ่งเป็นเวลา 2 นาทีจนหอยเชลล์มีเนื้อแน่นแล้วจึงนำออกจากเตา[9]
- อย่าปรุงหอยเชลล์นานเกินไปไม่เช่นนั้นเนื้อจะเหนียวและเคี้ยวยาก
- ใช้เครื่องวัดอุณหภูมิเนื้อเพื่อตรวจสอบว่าอุณหภูมิภายในอยู่ที่ประมาณ 65 องศาเซลเซียสหรือไม่
- เสิร์ฟหอยเชลล์จากกระทะโดยตรง. เสิร์ฟหอยเชลล์ในจานร้อนจานละ 4-5 ตัวสำหรับแต่ละคน บีบน้ำมะนาวสองสามหยดบนหอยเชลล์ปรุงสุกเพื่อเพิ่มรสชาติ[10]
- ปรุงหอยเชลล์ก่อนเสิร์ฟอาหารเย็นเพื่อให้พวกมันยังร้อนอยู่
- เก็บส่วนที่เหลือไว้ในตู้เย็นในภาชนะที่ปิดสนิทได้ 3-4 วัน[11]
- อุ่นจานในไมโครเวฟเป็นเวลา 30 วินาที
โฆษณา
- อุ่นเตาอบที่ 200 องศาเซลเซียส. ให้แน่ใจว่าตะแกรงชั้นหนึ่งในเตาอบนั้นอยู่ในตำแหน่งกึ่งกลาง ปล่อยให้เตาอบร้อนขึ้นเต็มที่ก่อนปรุงหอยเชลล์[12]
- เทเนยละลายและกระเทียมลงในจานที่ปลอดภัยสำหรับใช้ในเตาอบ. ละลายเนยในไมโครเวฟ 30 วินาทีก่อนเทลงในถาดอบ ผสมกระเทียมสับเข้ากับเนยให้ทั่วก้นถาดโดยสม่ำเสมอกัน[13]
- เติมไวน์ขาว 1 ช้อนโต๊ะ (15 มิลลิลิตร) ที่ก้นถาดเพื่อเพิ่มรสชาติ
- จัดหอยเชลล์ไว้ก้นถาด. วางหอยเชลล์ทั้งหมดเรียงกันให้พอดีกับถาด ให้แน่ใจว่าหอยเชลล์แต่ละตัวแช่อยู่ในเนยละลายผสมกระเทียมเพื่อให้สามารถดูดซับรสชาติได้[14]
- ผสมเกล็ดขนมปัง เกลือ พริกไทย และพาร์สลีย์ก่อนโรยบนหอยเชลล์. นำส่วนประกอบใส่ลงในชามใบใหญ่แล้วตีจนเข้ากันดี หยิบส่วนผสมเกล็ดขนมปังขึ้นมาหยิบมือหนึ่งแล้วโรยเคลือบบางๆ บนหอยเชลล์แต่ละตัว[15]
- ผสมเลมอนไธม์เข้าไปด้วย ½ ช้อนชา (2.5 กรัม) ถ้าคุณต้องการรสสมุนไพรและซิตรัสบนหอยเชลล์
- อบหอยเชลล์เป็นเวลา 18-20 นาที. วางถาดอบบนตะแกรงชั้นกลางในเตาอบแล้วปล่อยให้ปรุงสุก อย่าเปิดประตูเตาอบในขณะที่กำลังปรุงอาหารไม่เช่นนั้นความร้อนจะลอดออกมา ดึงหอยเชลล์ออกมาหลังจากผ่านไปประมาณ 20 นาทีเมื่อเกล็ดขนมปังเป็นสีน้ำตาล[16]
- เช็คอุณหภูมิภายในของหอยเชลล์ให้แน่ใจว่าอยู่ที่อย่างน้อย 65 องศาเซลเซียส ถ้ายังไม่ถึงก็ให้ปรุงให้นานขึ้น
- เสิร์ฟหอยเชลล์ในขณะที่ยังร้อน. ใช้หอยเชลล์ 4-5 ตัวต่อการเสิร์ฟหนึ่งที่ ใส่บนจานร้อนเพื่อไม่ให้อุณหภูมิลดลงเมื่อคุณเสิร์ฟ บีบมะนาวซีกหนึ่งลงบนหอยเชลล์อบเพื่อให้มีรสเปรี้ยวเล็กน้อย[17]
- เก็บอาหารที่เหลือไว้ในตู้เย็นได้นานถึง 4 วันในภาชนะที่ปิดสนิทไม่ให้อากาศเข้า[18]
- ใส่จานในไมโครเวฟเป็นเวลา 30 วินาทีเพื่ออุ่นให้ร้อนขึ้น
โฆษณา
คำเตือน
- ให้แน่ใจว่าอุณหภูมิภายในหอยเชลล์อยู่ที่ประมาณ 65 องศาเซลเซียส
- ถ้าหอยเชลล์มีกลิ่นเหม็นหรือเป็นเมือกให้ทิ้งไป
สิ่งของที่ใช้
การละลายน้ำแข็งหอยเชลล์
- มีดตัดเนย
- ตู้เย็น
- ชาม
- ไมโครเวฟ
- ภาชนะที่ปลอดภัยสำหรับใช้ในไมโครเวฟ
การย่างหอยเชลล์
- ช้อนตวง
- กระทะทอดด้ามยาว
- เตา
- ที่คีบ
การอบหอยเชลล์
- เตาอบ
- จานที่ปลอดภัยสำหรับใช้ในเตาอบ
- ช้อนตวง
- ชามผสม
- ที่ตีไข่
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://chewtheworld.com/how-to-defrost-scallops/
- ↑ https://chewtheworld.com/how-to-defrost-scallops/
- ↑ https://www.quora.com/What-is-the-best-way-to-cook-frozen-sea-scallops
- ↑ https://chewtheworld.com/how-to-defrost-scallops/
- ↑ https://www.thekitchn.com/how-to-cook-scallops-on-the-stovetop-cooking-lessons-from-the-kitchn-203516
- ↑ https://www.thekitchn.com/how-to-cook-scallops-on-the-stovetop-cooking-lessons-from-the-kitchn-203516
- ↑ https://www.thekitchn.com/how-to-cook-scallops-on-the-stovetop-cooking-lessons-from-the-kitchn-203516
- ↑ https://www.thekitchn.com/how-to-cook-scallops-on-the-stovetop-cooking-lessons-from-the-kitchn-203516
- ↑ https://www.thekitchn.com/how-to-cook-scallops-on-the-stovetop-cooking-lessons-from-the-kitchn-203516
- ↑ https://www.thekitchn.com/how-to-cook-scallops-on-the-stovetop-cooking-lessons-from-the-kitchn-203516
- ↑ https://www.stilltasty.com/Fooditems/index/18278
- ↑ https://www.geniuskitchen.com/recipe/jumbo-baked-diver-scallops-345217
- ↑ https://www.geniuskitchen.com/recipe/jumbo-baked-diver-scallops-345217
- ↑ https://www.geniuskitchen.com/recipe/jumbo-baked-diver-scallops-345217
- ↑ https://www.geniuskitchen.com/recipe/jumbo-baked-diver-scallops-345217
- ↑ https://www.geniuskitchen.com/recipe/jumbo-baked-diver-scallops-345217
- ↑ https://www.geniuskitchen.com/recipe/jumbo-baked-diver-scallops-345217
- ↑ https://www.stilltasty.com/Fooditems/index/18278
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.