ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความบทความนี้ ร่วมเขียน โดย Ollie George Cigliano. ออลี จอร์จ ซิกลิอาโนเป็นเชฟส่วนตัว ครูสอนการทำอาหาร และเจ้าของ Ollie George Cooks ซึ่งตั้งอยู่ที่ลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย เธอเชี่ยวชาญการใช้ส่วนผสมที่สดใหม่ให้เกิดประโยชน์และความสนุก รวมทั้งการนำเทคนิคการทำอาหารแบบดั้งเดิมมาผสมผสานกับเทคนิคการทำอาหารแบบใหม่ โดยมีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ออลี จอร์จได้รับปริญญาศิลปศาสตร์บัณฑิต สาขาวรรณคดีเปรียบเทียบ จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตเบิร์กลีย์และได้รับประกาศนียบัตรด้านโภชนาการและการดำรงชีวิตเพื่อสุขภาพที่ดีจากมหาวิทยาลัยอีคอร์เนล
มีการอ้างอิง 7 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 15,212 ครั้ง
กีวี่จะอร่อยที่สุดเมื่อถูกทิ้งให้สุกที่ต้น แต่ว่ากีวี่บางสายพันธุ์ก็อร่อยไม่แพ้กันหากนำมาบ่มให้สุกเองที่บ้าน ทริคง่ายๆ คือคุณต้องเลือกกีวี่ที่ดีมาจากร้าน หลังจากนั้นคุณแค่วางมันทิ้งไว้บนเคาน์เตอร์ครัว แล้วรอให้กีวี่สุกอร่อยเท่านั้นเอง ดูตามขั้นตอนแรกเพื่อเรียนรู้การบ่มกีวี่ให้สุกอย่างถูกวิธี
ขั้นตอน
เลือกผลกีวี่ที่ไม่มีรอยใดๆ บนเปลือก. มองหาผลกีวี่ที่ไม่มีจุดสีดำ หรือรอยถลอกบนเปลือก ลองบีบสัมผัสกีวี่เบาๆ เพื่อเลือกผลที่มีเนื้อแน่น- กีวี่สายพันธุ์ต่างๆ ที่คุณเจอในซูเปอร์มาร์เก็ตสามารถนำมาบ่มให้สุกได้ทั้งนั้น
- หากคุณปลูกกีวี่ด้วยตัวเอง และอยากรู้ว่าผลกีวี่สุกแล้วหรือยัง ให้คุณตรวจสอบดูว่าคุณมีกีวี่สายพันธุ์อะไร เพื่อจะได้รู้ว่าคุณควรทิ้งให้มันสุกที่ต้น หรือเก็บมันขณะที่เนื้อยังแข็ง แล้วค่อยนำมาบ่มให้สุกทีหลัง
ตรวจดูเมล็ดกีวี่. หากคุณมีกีวี่สำรองหลายลูก ให้คุณเลือก 1 ลูกมาผ่าดูเมล็ดข้างใน กีวี่จะไม่สามารถสุกได้หากเมล็ดยังเป็นสีเขียวหรือสีเหลือง เมล็ดที่ดีควรเป็นสีดำ เพราะสีดำเป็นตัวบ่งชี้ว่ากีวี่ลูกนั้นๆ มีน้ำตาลมากเพียงพอที่จะสุกได้[1]
เก็บกีวี่ไว้ในตู้เย็นจนกว่าคุณพร้อมจะบ่มมันให้สุก. คุณสามารถเก็บกีวี่ที่เนื้อยังแข็งอยู่ไว้ในตู้เย็นได้อย่างต่ำ 4 เดือน[2]เก็บผลกีวี่แยกจากผลไม้อื่นๆ ไม่เช่นนั้น กีวี่จะสุกก่อนเวลาที่คุณต้องการเพราะไปสัมผัสกับแก๊สเอธิลีนที่ถูกปล่อยออกมาจากผลไม้ชนิดอื่น
วางกีวี่ที่คุณต้องการบ่มให้สุกไว้ในอุณหภูมิห้อง. ใส่กีวี่ลงในชามแล้ววางไว้บนเคาน์เตอร์ครัว จากนั้นรอ 3-5 วันกีวี่ก็สุกแล้ว- อย่าให้กีวี่โดนแสงแดดโดยตรง ไม่เช่นนั้นกีวี่จะเปลี่ยนสีและเน่าเร็วกว่าปกติ
คุณสามารถเร่งให้กีวี่สุกเร็วขึ้นได้โดยให้กีวี่สัมผัสแก๊สเอธิลีน. วางกีวี่ไว้ใกล้กับแอปเปิ้ล กล้วย หรือลูกแพร์ การทำเช่นนี้ทำให้กีวี่สัมผัสแก๊สเอธิลีนที่ถูกปล่อยออกมาจากผลไม้ชนิดอื่น เก็บกีวี่ให้ห่างจากแสงแดดหรือแหล่งความร้อนใดๆ ก็ตาม- เพื่อเร่งให้กีวี่สุกเร็วยิ่งขึ้นอีก ใส่กีวี่ พร้อมกับแอปเปิ้ล กล้วย หรือลูกแพร์ลงในถุงกระดาษหรือถุงพลาสติกที่มีรูระบายอากาศ วางถุงทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง 1-2 วัน
ทดสอบว่ากีวี่สุกหรือยังโดยการใช้นิ้วหัวแม่โป้งกดดู. หากกีวี่สุกแล้ว คุณจะสามารถกดให้มันบุ๋มลงไปได้เล็กน้อย นอกจากนี้ หากกีวี่สุกแล้วคุณจะได้กลิ่นของมันชัดเจนด้วย
อย่าลืมทานกีวี่ที่สุกแล้ว. ทานกีวี่ตอนที่มันอร่อยที่สุด ไม่เช่นนั้นมันจะเริ่มเน่าโฆษณา
คุณสามารถเก็บกีวี่ที่สุกแล้วไว้ในตู้เย็นได้นานถึง 7 วัน. และคุณสามารถยืดเวลาไปได้อีก 7 วันด้วยหากคุณนำกีวี่ใส่ถุงพลาสติกก่อนแช่เย็น ถุงพลาสติกจะทำให้กีวี่แห้งช้าลง และคงความสดเอาไว้ได้นานยิ่งขึ้น
แช่แข็งกีวี่ทั้งลูก. วางกีวี่ที่ยังไม่ปลอกหรือหั่นลงในภาชนะที่ใส่ช่องฟรีซได้ คุณสามารถเก็บกีวี่ด้วยวิธีนี้ได้นานหลายเดือนเลยทีเดียว
แช่แข็งกีวี่หั่นแว่น. กีวี่หั่นแว่นเป็นเครื่องตกแต่งและส่วนประกอบที่ดีสำหรับสมูธตี้ผลไม้และของว่างเพื่อสุขภาพแบบต่างๆ ถ้าคุณมีกีวี่เหลือเยอะ คุณอาจหั่นมันเป็นแว่นๆ แล้วแช่แข็งมัน[3]- หั่นกีวี่เป็นแว่นๆ แล้วโรยน้ำตาลเพื่อคงเนื้อสัมผัสให้แน่นและคงรสชาติให้จัดจ้านอยู่เหมือนเดิม
- วางกีวี่หั่นแว่นที่โรยน้ำตาลแล้วบนถาดจากนั้นนำไปแช่ช่องฟรีซ
- ย้ายกีวี่หั่นแว่นจากถาดไปยังถุงพลาสติกสำหรับแช่แข็ง จากนั้นนำไปแช่ช่องฟรีซ
โฆษณา
เคล็ดลับ
- หลังจากการเก็บเกี่ยว กีวี่ต้องผ่านการรมแก๊สเอธิลีนเพื่อเร่งให้เกิดกระบวนการสุก กีวี่จะได้สุกทันเมื่อลูกค้าซื้อกลับบ้าน หากชาวสวนผู้ปลูกกีวี่และผู้ขนส่งไม่เริ่มกระบวนการสุกนี้ แป้งในกีวี่จะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลไม่เร็วพอให้กีวี่สุก ซึ่งจะทำให้ผลกีวี่หดตัว
- กีวี่เป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ เช่น วิตามินซี วิตามินอี โปแทสเซียม แมกนีเซียม และทองแดง กีวี่เป็นผลไม้ที่มีแคลอรี่ต่ำ แต่ว่ามีกากใยสูง และไม่มีไขมันหรือโซเดียม
สิ่งของที่ใช้
- กีวี่
- ถุงพลาสติก
- กล้วย แอปเปิ้ล หรือลูกแพร์
- ถุงกระดาษ
- น้ำตาล
- ถาด
- ถุงพลาสติกสำหรับแช่แข็ง
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://homeguides.sfgate.com/ripen-kiwi-off-tree-50295.html
- ↑ http://homeguides.sfgate.com/ripen-kiwi-off-tree-50295.html
- ↑ http://www.kiwifruit.org/recipes/misc/freezing-kiwifruit.aspx
- http://www.ces.ncsu.edu/depts/hort/hil/hil-208.html
- http://extension.oregonstate.edu/lane/sites/default/files/images/sp50832.pdf
- http://www.kiwifruit.org/about/selecting.aspx
- http://www.fruitsandveggiesmatter.gov/month/kiwi.html
- http://www.recipelink.com/mf/31/29870
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
