วิธีการ บรรเทาดวงตาที่อ่อนล้าและตื่นตัว

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

เคยไหมที่คุณตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกว่าดวงตาหนักอึ้ง? ดวงตาของคุณอ่อนล้าหรือว่าทำงานหนักมากเกินไปใช่ไหม? มีวิธีง่ายๆ บางวิธีที่จะเพิ่มความตื่นตัวและบรรเทาดวงตาที่อ่อนล้า อย่างไรก็ตาม หากคุณมีคำถามหรือคิดว่าอาจจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนการรักษาด้วยยา จงปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพตาหรือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 5:

บรรเทาความอ่อนล้าของดวงตา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ล้างหน้าด้วยน้ำเย็น.
    จริงๆ แล้ว การล้างหน้าด้วยน้ำเย็นไม่ได้ปลุกให้คุณตื่นโดยตรง แต่ในทางกลับกัน การทำเช่นนี้ทำให้ในขั้นต้นนั้นหลอดเลือดแดงบนใบหน้าจะรัดหรือหดตัวลง คุณจึงกำลังลดการสูบฉีดโลหิตขึ้นสู่ใบหน้า การขาดเลือดมาหล่อเลี้ยงกระตุ้นให้เกิดการสะท้อนกลับของระบบประสาทที่ตื่นตัวมากขึ้นและต่อสู้เพื่อให้หลุดจากสภาพแวดล้อมนี้
    • การสูบฉีดโลหิตไปยังดวงตาที่ลดลงจะลดการติดเชื้อที่ดวงตา
    • ในตอนที่คุณหลับตาลงในช่วงนี้จะมีการผลิตน้ำตาตามธรรมชาติ เมื่อช่วงเวลาตื่นต้องยืดยาวออกไป ดวงตาก็อาจจะเริ่มแห้งและอ่อนล้า กลยุทธ์ต่างๆ ที่ทำให้คุณหลับตามากขึ้นจะช่วยลดความแห้งและทำให้แผ่นน้ำตา (Tear film) กระจายออกไป
    • ทดสอบอุณหภูมิของน้ำก่อนจะสาดใส่ใบหน้า น้ำสมควรจะเย็นแต่ไม่ได้เป็นน้ำแข็ง
    • สาดน้ำใส่หน้าสามครั้งเป็นอย่างน้อยเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ อย่างไรก็ตาม จงจำใส่ใจว่าการใช้วิธีนี้จะช่วยบรรเทาอาการได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และหากสาดน้ำใส่หน้าน้อยครั้งเกินไปก็อาจไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ เลย
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ทดลองจุ่มหน้าลงในชามใส่น้ำเย็น.
    เพิ่มความเข้มข้นของการใช้น้ำเย็นปลุกให้ตื่นตัว ใส่น้ำเย็นลงในชามใบหนึ่ง แล้วจุ่มหน้าลงในชามนาน 30 วินาที สูดหายใจลึกๆ หนึ่งครั้งก่อนจะจุ่มใบหน้าของคุณลงในน้ำ เงยหน้าขึ้นจากน้ำในทันทีที่จำเป็นต้องได้อากาศหายใจ
    • หากรู้สึกเจ็บหรือเกิดอาการอื่นใด จงรีบหยุดใช้วิธีนี้ในทันทีและปรึกษาแพทย์
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ใช้แผ่นปิดตาแบบเย็น.
    เพื่อฟื้นคืนความมีชีวิตชีวาให้กับดวงตา เพื่อช่วยบำบัดให้ดวงตาบรรเทาความอ่อนล้าลง การใช้วิธีนี้ยังจะช่วยให้มีโอกาสพักดวงตาโดยหลับตาลงสี่หรือห้านาทีด้วย
    • พับผ้าขนหนูผืนเล็กให้เท่ากับขนาดของแผ่นปิดตาที่ใช้ปิดดวงตาทั้งคู่
    • ราดน้ำเย็นลงบนผ้าขนหนู
    • บิดน้ำออกจากผ้าขนหนูให้หมด
    • นอนสบายๆ บนเตียงหรือโซฟา แล้ววางผ้าขนหนูคลุมดวงตาทั้งคู่
    • ดึงผ้าขนหนูออกหลังจาก 2-7 นาที
    • ทำซ้ำตามที่จำเป็น
  4. 4
    ใช้การประคบเปียกแบบอุ่น. การประคบอุ่นสามารถช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อรอบดวงตา การทำเช่นนี้อาจช่วยฟื้นฟูความรู้สึกอ่อนล้าดังกล่าวได้ คุณทำประคบแบบง่ายๆ ได้โดยใช้ผ้าขนหนูสะอาดๆ สักผืนหนึ่ง หรือกระดาษชำระอเนกประสงค์สะอาดๆ สักแผ่นหนึ่งที่ชุ่มน้ำอุ่น (ไม่ใช่น้ำร้อน) แล้ววางลงเหนือดวงตานานสี่หรือห้านาทีจนกระทั่งรู้สึกดีขึ้น[1]
    • คุณอาจทำประคบร้อนได้เช่นกันโดยใช้ถุงชา จุ่มถุงชาลงในน้ำอุ่น ก่อนจะคั้นน้ำส่วนที่มากเกินไปออกจากถุงชา แล้ววางถุงชาบนดวงตาที่อ่อนล้าของคุณ
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ลองใช้ยาหยอดตาที่ใช้เพื่อหล่อลื่น.
    มียาหยอดตาหลากหลายประเภทที่อาจจะบรรเทาภาวะที่ดวงตาทำงานหนักเกินไป ซึ่งอาจมีส่วนประกอบของน้ำตาตามธรรมชาติที่ช่วยให้ตาชุ่มชื้นด้วย[2]
    • อาจจำเป็นต้องหยอดยาหยอดตาชนิดนี้บ่อยๆ โดยทำตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์เพื่อการใช้งานอย่างถูกต้อง
    • หากคุณมีอาการเรื้อรังที่อาจเป็นสาเหตุของดวงตาที่อ่อนล้า จงแจ้งให้จักษุแพทย์ทราบเพื่อการวินิจฉัยโรคที่ถูกต้องสำหรับอาการของคุณ
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ใช้ยาต้านฮีสตามีนชนิดหยอดตา (Antihistamine drop).
    ยาหยอดตาชนิดนี้จะขัดขวางการที่ร่างกายจะปล่อยฮีสตามีนเพื่อป้องกันตัวเองตามธรรมชาติจากสารที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ คุณสามารถหาซื้อยาต้านฮีสตามีนชนิดหยอดตาได้หลายขนานโดยไม่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์
    • ยาต้านฮีสตามีนชนิดหยอดตาอาจทำให้ดวงตา ริมฝีปาก จมูก และลำคอแห้งผาก
    • ทำตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์เพื่อการใช้งานอย่างถูกต้อง
  7. How.com.vn ไท: Step 7 ใช้ยาหยอดตาที่ทำให้เส้นเลือดหดตัว.
    ยาหยอดตาบางขนาน เช่น ไวซีน (Visine) ทำให้เส้นเลือดในดวงตาหดตัว ลดอาการตาแดง บางยี่ห้อมีน้ำยาหล่อลื่นด้วยเพื่อช่วยให้ดวงตายังคงชุ่มชื้น[3]
    • ยาหยอดตาเหล่านี้อาจทำให้ดวงตากลับมาแดง. เมื่อฤทธิ์ยาหยอดตาค่อยๆ จางลง หลอดเลือดอาจจะขยายออกมากกว่าที่เคย ทำให้อาการตาแดงเลวร้ายมากขึ้น
    • ทำตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์เพื่อการใช้งานอย่างถูกต้อง
  8. How.com.vn ไท: Step 8 สอบถามแพทย์เรื่องยาไซโครสปอรินสำหรับหยอดตา (ยาหยอดตารีสตาซิส)....
    สอบถามแพทย์เรื่องยาไซโครสปอรินสำหรับหยอดตา (ยาหยอดตารีสตาซิส). ยาหยอดตารีสตาซิสช่วยรักษาอาการตาแห้งเรื้อรังที่เกิดจากเชื้อโรคที่มีชื่อว่าภาวะตาแห้ง (Keratoconjunctivitis sicca) โดยหยุดปัจจัยด้านภูมิคุ้มกันบางอย่าง จะซื้อยาหยอดยาขนานนี้ได้ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์เท่านั้น คุณจึงต้องปรึกษาแพทย์ว่าเป็นยาที่คุณสมควรใช้หรือไม่ [4]
    • ผลข้างเคียงของยารีสตาซิส ได้แก่ แสบร้อน คัน ตาแดง ตามัว หรือตาไวต่อแสง ยาอาจทำให้บางคนมีอาการภูมิแพ้
    • ปฏิบัติตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์เพื่อการใช้งานอย่างถูกต้อง
    • สตรีมีครรภ์ไม่สมควรใช้ยาหยอดตารีสตาซิส[5]
    • ยาหยอดตารีสตาซิสอาจใช้เวลามากถึง 6 สัปดาห์ (หรือนานกว่าในบางกรณี) เพื่อบรรเทาอาการตาแห้งของคุณ[6]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 5:

เคลื่อนไหวดวงตาและร่างกายของคุณเพื่อให้ตื่นตัว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ลองใช้วิธี 20-20-20.
    กล่าวคือในทุกๆ 20 นาที ให้เบนสายตาจากหน้าจอไปมองที่สิ่งใดก็ได้ที่อยู่ห่างออกไป 20 ฟุต เป็นเวลานาน 20 วินาที [7]
    • ตั้งนาฬิกาปลุกเพื่อเตือนให้คุณยืดหยุ่นหรือพักสายตา
  2. How.com.vn ไท: Step 2 พยายามมองนาฬิกาในจินตนาการ (Imaginary clock).
    การออกกำลังบางอย่างถูกออกแบบมาสำหรับดวงตาโดยเฉพาะ เพื่อช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับตา การออกกำลังกายเช่นนี้อาจช่วยบรรเทาดวงตาที่อ่อนล้าได้ โดยอาจยับยั้งไม่ให้ดวงตาเหนื่อยเร็วเกินไปด้วย วาดภาพนาฬิกาในจินตนาการตรงหน้าคุณ แล้วมองหาจุดศูนย์กลางนาฬิกาด้วยการเหลือบตาขึ้นไปหาเวลา 12:00 น.โดยไม่ขยับศีรษะ หลังจากนั้น ให้ขยับตากลับไปยังจุดศูนย์กลาง ต่อไปคือการขยับดวงตาไปที่ 01:00 น. และถอยหลังไปทางจุดศูนย์กลาง
    • ออกกำลังเช่นนี้ต่อไปอีก 10 ครั้ง
    • การทำเช่นนี้จะช่วยให้ดวงตาที่อ่อนล้าเพ่งได้ดีมากขึ้น และยังเสริมความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อยึดเลนส์ตา (Ciliary eye muscles) ซึ่งจะช่วยในการเพ่งดวงตาของคุณ [8]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ใช้ดวงตาของคุณเขียนตัวอักษรในจินตนาการ (Imaginary letters)....
    ใช้ดวงตาของคุณเขียนตัวอักษรในจินตนาการ (Imaginary letters). วาดตัวอักษรต่างๆ บนกำแพงที่ตั้งอยู่ไกลออกไป และใช้ดวงตาของคุณวาดภาพตัวอักษรโดยไม่ต้องขยับศีรษะ[9]
    • จินตนาการภาพตัวเลขแปดในแนวตั้ง หรือสัญญลักษณ์อนันต์ (Infinity sign) ที่ด้านหน้าของคุณ แล้วไล่ไปตามแนวของเลขแปดโดยใช้เพียงแค่ดวงตา และไม่ขยับศีรษะ[10]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 กระพริบตาให้บ่อยมากขึ้น.
    ฝึกตัวเองให้กระพริบตาบ่อยมากขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้ตาแห้ง กระพริบหนึ่งครั้งทุกๆ สี่วินาทีเพื่อกระจายแผ่นน้ำตา และเพื่อป้องกันไม่ให้ดวงตาอ่อนล้า
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ.
    การนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ หรือจอมอนิเตอร์นานๆ อาจทำกล้ามเนื้อคอและหลังเกร็งได้ ซึ่งหากไม่ได้บำบัด กล้ามเนื้อเหล่านี้อาจเกิดอาการปวดระบมแทรกซ้อนหรือมีอาการคอแข็ง ปวดศีรษะ เพิ่มมาจากอาการตาอ่อนล้า การยืดเหยียดกล้ามเนื้อหรือการนั่งสมาธิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะหลับตา ช่วยลดอาการตาแห้งลงได้โดยหล่อลื่นดวงตาด้วยแผ่นน้ำตาตามธรรมชาติ เทคนิคนี้ยังช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อรอบๆ ดวงตาด้วย
    • การยืดเหยียดกล้ามเนื้อเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและออกซิเจนไปยังกล้ามเนื้อดวงตาที่ตึงเครียด ช่วยให้ผ่อนคลาย
    • ร่างกายของคุณจะผ่อนคลายความเครียดได้ด้วย เมื่อจับคู่กับเทคนิคการหายใจในการนั่งสมาธิ[11]
    • การยืดเหยียดกล้ามเนื้อช่วยลดความหงุดหงิดฉุนเฉียว และช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นกับบรรเทาดวงตาที่อ่อนล้า
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ออกกำลังกายแบบพอประมาณ.
    ออกกำลังกายแบบพอประมาณเพื่อเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งในทางกลับกัน จะเพิ่มการหมุนเวียนออกซิเจนซึ่งสามารถเพิ่มการสูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงดวงตาของคุณ
    • การที่ปริมาณโลหิตที่มาเลี้ยงดวงตาเพิ่มมากขึ้น มีความสำคัญสำหรับการทำงานของกล้ามเนื้อตาและเนื้อเยื่อรอบๆ ดวงตา
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 5:

ทำให้สภาพแวดล้อมสะดวกสบายมากขึ้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ปิดไฟดวงที่สว่างจ้า.
    สร้างสภาพแวดล้อมที่สุขสบาย และลดความอ่อนล้าของดวงตาด้วยการลดการเพ่งมองของดวงตาที่ใช้งานมาอย่างหนัก แสงไฟที่แรงเกินหรือสว่างจ้ามากไปทำให้ดวงตาต้องทำงานหนักมากขึ้นเพื่อปรับให้เข้ากัน การเปิดรับแสงมากเกินไปนานๆ กระตุ้นดวงตากับร่างกายมากเกินไป ส่งผลให้หงุดหงิดฉุนเฉียว และเกิดอาการเหนื่อยล้าโดยรวม
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ถอดพวกหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ออกไป.
    เริ่มโดยถอดหลอดฟลูออเรสเซนต์ออก เช่นเดียวกันกับหลอดไฟเสริมต่างๆ ที่ไม่จำเป็นเพื่อให้ได้แสงที่เหมาะสม. เปลี่ยนหลอดไฟเหล่านั้นเป็นหลอดไฟประเภทแสง “อ่อนนุ่ม/อบอุ่น”
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ติดตั้งสวิตช์หรี่แสงไฟกับไฟดวงต่างๆ  ของคุณ....
    ติดตั้งสวิตช์หรี่แสงไฟกับไฟดวงต่างๆ ของคุณ. จะช่วยให้ควบคุมระดับของแสงไฟได้ ซึ่งอาจช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ลงได้ .[12]
    • การทำเช่นนี้ยังช่วยให้สมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ มีทางเลือกเกี่ยวกับไฟเพิ่มมากขึ้นด้วย
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ปรับจอมอนิเตอร์ของคุณ.
    อาจจำเป็นต้องมีการปรับจอมอนิเตอร์หากคุณทำงานเป็นเวลานานๆ เพื่อทำให้ง่ายขึ้นที่จะเพ่งสายตา คุณยังจะทำให้ดวงตาต้องทำงานหนักเกินไปน้อยครั้งลงด้วย
    • ให้แน่ใจว่าจอมอนิเตอร์อยู่ในระยะห่างออกไปมากพอ คือประมาณ 20-40 นิ้วจากดวงตาของคุณ หรืออยู่ในระดับต่ำกว่าดวงตาเล็กน้อย[13]
    • ลดแสงจ้าลงด้วยการปิดม่านบังตา เพราะแสงแดดอาจจะรบกวน
    • ปรับจอมอนิเตอร์เพื่อให้แสงสว่างที่สุดในห้อง ส่องทำมุม 90°กับจอมอนิเตอร์ของคุณ
    • ปรับระดับความสว่างและระดับความคมชัดของจอมอนิเตอร์
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ฟังดนตรี.
    ดนตรีโดยรวมมักทำให้คนมีอารมณ์ดีขึ้น ดนตรีหลากหลายรูปแบบสามารถ "ปลุกให้เราตื่น" ด้วยวิธีการของพวกมันเอง [14]
    • ลองใช้เพลงเต้นรำ. เพลงเต้นรำทำให้คุณสามารถจินตนาการตัวเองกำลังเต้นรำและทำให้ตัวคุณสนุกได้ ผลก็คือ คุณอาจขยับตามจังหวะเพลงอย่างไม่รู้ตัว ด้วยการใช้เท้าเคาะพื้น ดีดนิ้ว หรือเต้นไปตามจังหวะ
    • ฟังเพลงที่คุ้นเคย. บรรเทาดวงตาที่เหนื่อยล้าด้วยการหลับตาของคุณลงสี่ห้านาทีและฟังเพลงที่คุ้นเคย การทำเช่นนี้สามารถปลุกความทรงจำที่น่ารื่นรมย์
    • ฟังเพลงจังหวะเร็วๆ สนุกสนาน เพิ่มการตระหนักรู้ทางจิต รวมทั้งเพลงจังหวะเร็วๆ สนุกสนาน พร้อมกับเนื้อร้องที่เป็นแรงบันดาลใจ เพียงทำให้คุณมีความสุขมากขึ้นแบบง่ายๆ
    • เปิดเพลงให้เสียงดังมากขึ้น การเพิ่มระดับเสียงให้สูงขึ้นเล็กน้อยเหนือที่คุณตั้งไว้ตามปกติ อาจกระตุ้นสัมผัสต่างๆ ของคุณให้ตื่นตัว
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 5:

ปรึกษานักตรวจวัดสายตา (Optometrist) และแพทย์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ตรวจดวงตาเป็นประจำ.
    คอยตรวจดวงตาให้ทันกับสถานการณ์อยู่เสมอโดยไปหานักตรวจวัดสายตา ผู้จะตรวจหาสัญญาณต่างๆ ของโรคตา และโรคภัยอื่นๆ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ให้แน่ใจว่าแว่นตาและคอนแทคเลนส์ที่ใส่ตามใบสั่งแพทย์นั้น ตรงกับระดับสายตาปัจจุบัน....
    ให้แน่ใจว่าแว่นตาและคอนแทคเลนส์ที่ใส่ตามใบสั่งแพทย์นั้น ตรงกับระดับสายตาปัจจุบัน. หากมีปัญหาดวงตาอ่อนล้า คุณอาจกำลังทำให้ดวงตาต้องทำงานหนักเกินไปเพราะใช้แว่นตาตามแพทย์สั่งซึ่งไม่ตรงกับขนาดสายตาปัจจุบัน ตรวจสอบกับนักตรวจวัดสายตาเพื่อปรับใบสั่งของแพทย์ให้ทันสมัย
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ตรวจสุขภาพ.
    หากหลังจากพยายามใช้หลากหลายวิธีแล้ว คุณยังพบว่าดวงตามีอาการอ่อนล้าอยู่ ให้ไปพบแพทย์ คุณสมควรจัดการแม้กับอาการเฉียบพลันต่างๆ คุณอาจทุกข์ทรมานจากเชื้อโรคที่ซับซ้อนกว่าซึ่งทำให้หนึ่งในอาการป่วยคือดวงตาอ่อนล้า ขอแนะนำอย่างยิ่งให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ขณะที่เงื่อนไขทางการแพทย์ต่างๆ อาจรวมทั้ง:
    • กลุ่มอาการความล้าเรื้อรัง (Chronic Fatigue Syndrome) : อาการนี้ทำให้คนไข้เหนื่อยล้าเป็นนิจสิน ความเหนื่อยล้าอาจทำให้การมองเห็นมีปัญหา ซึ่งอาจเข้าใจผิดว่าเป็นดวงตาอ่อนล้า การเปลี่ยนเลนส์ให้ถูกต้องไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาการมองเห็นที่ผิดปกติไป เช่น สายตาพร่ามัว มีบ่อยครั้งที่มีการทดสอบต่างๆ เกี่ยวกับดวงตาเป็นเรื่องปกติ [15] อาการนี้จำเป็นต้องได้รับการดูแลทางการแพทย์[16]
    • อาการทางตาจากโรคไทรอยด์ (Thyroid eye diseases) : อาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆ กับดวงตาที่รู้สึกเหมือนกับดวงตาอ่อนล้า อาการนี้รวมทั้งปัญหาบางประการเกี่ยวกับโรคไทรอยด์ เช่น โรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษชนิดเกรฟส์ (Graves disease) ซึ่งร่างกายโจมตีเนื้อเยื่อของต่อมไทรอยด์กับเนื้อเยื่อดวงตาของตัวเอง ส่งผลให้ดวงตาบวม[17]
    • สายตาเอียง (Astigmatism): อาการนี้คือ กระจกตาโค้งผิดปกติทำให้การมองเห็นพร่ามัว[18]
    • อาการตาแห้งเรื้อรัง: อาการตาแห้งเรื้อรังอาจเกิดจากปัญหาอย่างเป็นระบบ เช่น เบาหวาน หรืออาการของโรคปากแห้งตาแห้ง (Sjogren's syndrome) ความผิดปกติของภูมิคุ้มกันที่ทำให้ดวงตาและปากแห้ง[19][20]
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 5:

ปรับเปลี่ยนอาหารของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 กินผลไม้ที่มีวิตามินซีเพิ่มมากขึ้น.
    กินผลไม้ตระกูลมะนาวและส้มให้มากขึ้น รสเปรี้ยวกระตุ้นสัมผัสและกล้ามเนื้อใบหน้าบริเวณรอบๆ ดวงตาของคุณ วิตามินซีในผลไม้เหล่านี้ให้สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ซึ่งช่วยป้องกันโรคต่างๆ ที่ทำให้อ่อนเพลีย
    • มะนาวกับส้มสามารถช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับดวงตาที่เกิดจากวัย เช่น โรคจอประสาทตาเสื่อม (Macular Degeneration) และโรคต้อกระจก (Cataracts) ได้เช่นกัน
  2. 2
    กินวิตามินเอเพิ่มมากขึ้น.[21] วิตามินเอเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของการมองเห็นของคุณ[22] แหล่งที่ดีของวิตามินเอ ได้แก่ ตับ น้ำมันปลา นม ไข่ และผักใบเขียว[23]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 กินผักใบสีเขียวเพิ่มมากขึ้น.
    นอกเหนือจากวิตามินเอ ผักใบเขียว เช่น ผักเคลหรือคะน้าใบหยิก และผักปวยเล้ง (Spinach) มีสารลูทีน (Lutein) และสารซีแทนทิน (Zeaxanthin) ซึ่งช่วยกรองแสงที่เป็นอันตราย ผักเหล่านี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) กับวิตามินบี 12 ซึ่งช่วยเรื่องการผลิตเม็ดเลือด การบริโภคผักใบเขียวเพิ่มมากขึ้นจะเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย ซึ่งจำเป็นสำหรับใช้ต่อสู้กับความเมื่อยล้าของดวงตา
    • ผักคะน้าใบหยิกและปวยเล้งสามารถช่วยป้องกันโรคต้อกระจกได้
  4. How.com.vn ไท: Step 4 เพิ่มปริมาณการกินกรดไขมันโอเมกา 3.
    ปลาแซลมอน ปลาทูน่า และปลาชนิดอื่นๆ มีกรดไขมันโอเมกา 3 ซึ่งสามารถป้องกันโรคตาได้ แถมยังสามารถป้องกันผลกระทบจากความเสียหายต่อดวงตาที่เกี่ยวข้องกับวัยได้ด้วย
  5. How.com.vn ไท: Step 5 เพิ่มปริมาณการบริโภคธาตุสังกะสี (Zinc) ของคุณ.
    ธาตุสังกะสีสามารถช่วยปกป้องผลกระทบที่สร้างความเสียหายจากแสงจ้า เพิ่มปริมาณธาตุสังกะสีของคุณโดยกินพืชพวกที่มีฝัก ผลิตภัณฑ์จากนม เนื้อวัวและเนื้อไก่เพิ่มมากขึ้น
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • บางคนมีความเสี่ยงมากกว่าคนอื่นที่ดวงตาจะแห้งและอ่อนล้า คุณมีความน่าจะเป็นเพิ่มมากขึ้นที่จะมีอาการป่วยต่างๆ หากว่าคุณสูงวัย เป็นเพศหญิง และอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสัมพัทธ์ต่ำ ใส่คอนแทคเลนส์ กินยาบางขนาน มีปัญหาการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน หรือมีปัญหาเรื่องขาดอาหาร


โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Kerry Assil, MD
ร่วมเขียน โดย:
จักษุแพทย์ที่มีใบรับรองจากคณะกรรมการ
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Kerry Assil, MD. ดร. เคอร์รี่ แอสซิล เป็นจักษุแพทย์ที่มีใบรับรองจากคณะกรรมการ และผู้อำนวยการด้านการแพทย์และ CEO ของ Assil Eye Institute (AEI) ซึ่งเป็นสถานประกอบการด้านจักษุวิทยาในลอสแองเจลิส ด้วยประสบการณ์กว่า 25 ปี และเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญแนวหน้าระดับโลกในด้านศัลยกรรมตา ดร.แอสซิลได้ฝึกอบรมแพทย์กว่า 14,000 คนในการผ่าตัดแก้ไขสายตาและต้อกระจก ทำศัลยกรรมตามากกว่า 70,000 ครั้ง และเขียนตำราเรียน บทเรียน และบทความเกี่ยวกับการผ่าตัดแก้ไขสายตาและต้อกระจกมากกว่า 100 ฉบับ เขาดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์พิศิษฐ์ที่ Harvard, Johns Hopkins, Duke, Baylor, Tokyo และ UCLA เป็นต้น เขาดำรงตำแหน่งเป็นคณะกรรมการที่ปรึกษาให้บริษัทด้านอุปกรณ์เกี่ยวกับตา ด้านเภสัชภัณฑ์ และด้านวิทยาศาสตร์มากกว่า 20 แห่ง และปรากฏตัวในสื่อในฐานะผู้มีอำนาจในความก้าวหน้าในการผ่าตัดฟื้นฟูสายตาและการผ่าตัดแก้ไขสายตา ดร.แอสซิลยังคงพัฒนาความก้าวหน้าอย่างมากในสาขาของเขาต่อไปด้วยสิ่งประดิษฐ์และการแนะนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากมาย บทความนี้ถูกเข้าชม 4,774 ครั้ง
หมวดหมู่: สุขภาพทั่วไป
มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,774 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา