บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Marrow Private Chefs. Marrow Private Chefs อยู่ที่ชายหาดซานตาโรซา รัฐฟลอริดา เป็นกลุ่มคนที่ประกอบด้วยเชฟและผู้เชี่ยวชาญการประกอบอาหารที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้โดยภูมิภาคแล้วจะได้รับอิทธิพลจากสไตล์และรสชาติอาหารชายฝั่งทะเล อาหารพื้นเมืองทางใต้ อาหารครีโอล และอาหารเคจันเป็นส่วนใหญ่ แต่เชฟที่ Marrow มีความเชี่ยวชาญในการทำอาหารทุกประเภท โดยมีประสบการณ์การทำอาหารรวมกันมากกว่า 75 ปี
บทความนี้ถูกเข้าชม 3,237 ครั้ง
ไอศกรีมโดยส่วนใหญ่มักมีส่วนผสมของเฮฟวี่ครีมและไข่ในปริมาณมาก ซึ่งแม้ว่าจะมีรสชาติที่อร่อยถูกปากใครหลายๆ คน แต่ไอศกรีมที่มีส่วนผสมเหล่านี้อาจไม่ดีต่อสุขภาพเท่าไรนัก คุณสามารถทำไอศกรีมจากนมสดแทนการใช้ครีมตามสูตรดั้งเดิมซึ่งดีต่อสุขภาพมากกว่าและมีรสชาติที่อร่อยไม่แพ้กัน หรือลองเลือกใช้นมข้นหวานแทนหากต้องการให้ไอศกรีมมีเนื้อสัมผัสที่เข้มข้นขึ้นอีกสักนิด และสำหรับผู้ที่ทานมังสวิรัติ คุณก็สามารถทำไอศกรีมสูตรปราศจากนมโดยเลือกใช้กะทิเป็นส่วนประกอบหลักแทนได้เช่นกัน
ส่วนประกอบ
- นมสด 960 มิลลิลิตร (ระดับไขมันตามความต้องการ)
- น้ำตาล 120 กรัม
- วานิลลาสกัด 1 ช้อนชา
สำหรับ 8 เสิร์ฟ
- นมข้นหวาน 400 มิลลิลิตร (สูตรปราศจากไขมันหรือสูตรปกติ)
- วิปปิ้งครีม 450 มิลลิลิตร แช่เย็น
- วานิลลาสกัด 1 ช้อนชา
สำหรับ 3 ไพน์
- กะทิ 380-450 มิลลิลิตร
- น้ำเชื่อมอากาเว่ น้ำเชื่อมเมเปิ้ล น้ำผึ้ง น้ำตาลทรายแดง หรือน้ำตาลอ้อย 60 กรัม
- เกลือ ¼ ช้อนชา
- แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
- วานิลลาสกัด 1 ½ ช้อนชา
- ท็อปปิ้งเพิ่มเติม: ถั่ว ช็อกโกแลตชิพ (หรือคารอบ) ซอสผลไม้ คาเคานิบส์ เป็นต้น
สำหรับ 6-8 เสิร์ฟ
ขั้นตอน
- ผสมนมสด น้ำตาล และวานิลลาสกัดให้เข้ากัน. ตวงวัตถุดิบแต่ละชนิดและเติมลงไปในชามผสมใบกลาง จากนั้นใช้ช้อนขนาดใหญ่คนวัตถุดิบทั้งหมดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งน้ำตาลละลายหมด
- คุณสามารถเลือกใช้นมที่มีระดับไขมันเท่าไรก็ได้ตามต้องการ (เช่น สูตรปราศจากไขมัน สูตรไขมัน 2% หรือสูตรเต็มมันเนย)
- คุณยังสามารถลองใช้นมช็อกโกแลตแทนได้เช่นกันเพื่อทำไอศกรีมรสช็อกโกแลต
- เทส่วนผสมลงไปในเครื่องทำไอศกรีม. หากคุณมีเครื่องทำไอศกรีม ให้คุณเทส่วนผสมลงไปในถังปั่นก่อนเปิดเครื่องและใช้เวลาปั่นประมาณ 20 นาทีจนกระทั่งส่วนผสมมีความข้นได้ที่ จากนั้นเทส่วนผสมลงไปในกล่องถนอมอาหารสูญญากาศและนำไปแช่ในช่องแช่แข็ง
- เทส่วนผสมลงไปในจานก้นตื้นแทนหากคุณไม่มีเครื่องทำไอศกรีม. การใช้เครื่องทำไอศกรีมไม่ใช่ขั้นตอนบังคับสำหรับการทำไอศกรีมสูตรนี้และเป็นเพียงตัวช่วยให้คุณสามารถทำไอศกรีมได้สะดวกขึ้นเท่านั้น เทส่วนผสมนมสด น้ำตาล และวานิลลาสกัดลงไปจานก้นตื้นที่สามารถนำเข้าช่องแช่แข็งได้และนำไปแช่ในช่องแช่แข็ง
- คนส่วนผสมทุกๆ 2-4 ชั่วโมง. เพิ่มความข้นหนืดให้กับเนื้อไอศกรีมด้วยการนำส่วนผสมออกมาคนทุกๆ 2-4 ชั่วโมงก่อนนำกลับไปแช่ในช่องแช่แข็งอีกครั้ง
- หากคุณใช้เครื่องทำไอศกรีม ให้คุณคนส่วนผสมทุกๆ 4 ชั่วโมง
- หากคุณไม่ได้ใช้เครื่องทำไอศกรีม ให้คุณคนส่วนผสมทุกๆ 2-4 ชั่วโมงหลังจากที่ส่วนผสมเริ่มจับตัวเป็นเกล็ดน้ำแข็ง
- แช่ส่วนผสมทิ้งไว้นาน 8 ชั่วโมงหรือข้ามคืน. หลังจากแช่ในช่องแช่แข็งจนครบ 8 ชั่วโมงแล้ว (พร้อมหมั่นคนเป็นระยะ) ส่วนผสมของคุณก็จะแข็งตัวได้ที่และมีเนื้อสัมผัสที่เรียบเนียนพร้อมเสิร์ฟได้ในทันที
- ตกแต่งด้วยท็อปปิ้งโปรดและจัดเสิร์ฟได้เลย. ตักไอศกรีมใส่ถ้วยเสิร์ฟและตกแต่งด้วยน้ำเชื่อมรสช็อกโกแลต วิปครีม ถั่ว ผลไม้แห้งหรือผลไม้กระป๋อง หรือท็อปปิ้งอื่นๆ ที่คุณชื่นชอบ
- นำไอศกรีมส่วนที่เหลือกลับไปแช่ในช่องแช่แข็ง โดยคุณสามารถเก็บไอศกรีมไว้ทานในภายหลังได้เป็นเวลานานหลายวัน
โฆษณา
- นำนมข้นหวานแช่ในตู้เย็น. นมข้นหวานที่วางขายโดยทั่วไปจะบรรจุในกระป๋องแบบไม่แช่เย็น ดังนั้นก่อนเริ่มต้นการทำไอศกรีมสูตรนี้ ให้คุณนำนมข้นหวานแช่ในตู้เย็นทิ้งไว้สัก 2-3 ชั่วโมงเพื่อให้นมข้นหวานมีความเย็นมากพอก่อนนำไปผสมเข้ากับวัตถุดิบอื่นๆ
- ใช้เครื่องผสมอาหารตีเฮฟวี่ครีมให้ขึ้นฟู. นำเฮฟวี่ครีมออกจากตู้เย็นและเริ่มต้นตีโดยทันทีเพื่อให้เฮฟวี่ครีมยังคงเย็นอยู่เมื่อผสมเข้ากับวัตถุดิบอื่นๆ ใช้หัวตีตะกร้อตีเฮฟวี่ครีมด้วยความเร็วปานกลางจนกระทั่งเริ่มตั้งยอดแข็ง
- หากไม่มีเครื่องผสมอาหารแบบตั้งโต๊ะ คุณสามารถใช้เครื่องผสมอาหารแบบมือถือแทนได้เช่นกัน
- ปรับความเร็วเป็นระดับต่ำและเติมนมข้นหวานและวานิลลาสกัดเพิ่มลงไป. เมื่อเฮฟวี่ครีมเริ่มตั้งยอดแข็งแล้วจึงนำนมข้นหวานที่แช่เย็นไว้ออกมาจากตู้เย็น ปรับความเร็วของเครื่องผสมอาหารเป็นระดับต่ำแล้วค่อยๆ เติมนมข้นหวานและวานิลลาสกัดลงไปผสมเข้ากับเฮฟวี่ครีม
- ปรับความเร็วกลับมาเป็นระดับปานกลาง. หลังจากเติมนมข้นหวานและวานิลลาสกัดเพิ่มลงไปแล้ว ให้คุณปรับความเร็วของเครื่องผสมอาหารกลับมาเป็นระดับปานกลางและตีต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งส่วนผสมเริ่มเหนียวข้นและตั้งยอดแข็งอีกครั้ง โดยคุณจะสังเกตเห็นว่าส่วนยอดของส่วนผสมมีความเหนียวข้นขึ้นมากกว่าในครั้งแรก
- เติมวัตถุดิบอื่นๆ ลงไปตามใจชอบ (ไม่บังคับ). หากต้องการเพิ่มรสชาติและเนื้อสัมผัสให้กับไอศกรีมวานิลลาของคุณ ให้คุณเติมวัตถุดิบอื่นๆ ที่คุณชื่นชอบลงไปได้เลยขั้นตอนนี้ คุณสามารถลองเลือกเติมส่วนผสมต่างๆ ได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นคุกกี้บดหยาบ ซอสผลไม้ ถั่ว ชิ้นเนื้อเค้ก น้ำเชื่อมรสช็อกโกแลต หรือส่วนผสมอื่นๆ ตามที่คุณต้องการ จากนั้นคนให้วัตถุดิบกระจายทั่วส่วนผสมไอศกรีม
- ยกตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการทำไอศกรีมรสสตรอว์เบอร์รี่ชีสเค้ก ลองเพิ่มชีสเค้ก 1 ถ้วยและซอสสตรอว์เบอร์รี่ปริมาณตามใจชอบลงไปในส่วนผสมไอศกรีมของคุณ
- ผสมโอรีโอ้บด ⅔ ถ้วยเพื่อทำไอศกรีมรสคุกกี้แอนด์ครีม
- เติมซอสมะม่วง ¼ ถ้วยเพื่อทำไอศกรีมรสมะม่วง
- เทส่วนผสมลงไปในกล่องถนอมอาหารและแช่ในช่องแช่แข็งนาน 6 ชั่วโมง. เทส่วนผสมไอศกรีมลงไปในกล่องถนอมอาหารแบบมีฝาปิดที่สามารถนำเข้าช่องแช่แข็งได้ (เช่น ทัพเพอร์แวร์) และนำไปแช่ในช่องแช่แข็งทิ้งไว้อย่างน้อย 6 ชั่วโมงหรือข้ามคืน เพียงเท่านี้ไอศกรีมของคุณก็จะแข็งตัวได้ที่พร้อมรับประทานโฆษณา
- เทกะทิลงไปในหม้อต้ม. เขย่ากระป๋องกะทิสักพักก่อนเปิดใช้งาน จากนั้นแบ่งกะทิออกมา ½ ถ้วยและวางเตรียมไว้ใกล้ๆ กันก่อนเทกะทิที่เหลือลงไปในหม้อต้ม
- เนื่องจากกะทิที่บรรจุในกระป๋องจะแยกชั้นออกจากกัน คุณจึงควรเขย่ากระป๋องสักเล็กน้อยก่อนเปิดใช้งานเพื่อให้หัวกะทิและหางกะทิผสมเข้ากันเป็นเนื้อเดียวอีกครั้ง
- เติมวัตถุดิบให้ความหวานและเกลือ. เลือกตวงน้ำเชื่อมอากาเว่ น้ำเชื่อมเมเปิ้ล น้ำผึ้ง หรือน้ำตาลอย่างใดอย่างหนึ่งตามความชื่นชอบของคุณและเติมลงไปในหม้อต้มก่อนใส่เกลือตามลงไป
- ต้มกะทิด้วยไฟอ่อนปานกลางประมาณ 1-2 นาที. ต้มส่วนผสมกะทิด้วยไฟอ่อนปานกลางและคนไปมาประมาณ 1-2 นาทีจนกระทั่งเริ่มอุ่นขึ้นและวัตถุดิบให้ความหวานละลายจนหมด
- ผสมแป้งข้าวโพดและกะทิที่แบ่งไว้ก่อนหน้านี้เข้าด้วยกัน. เติมแป้งข้าวโพดและกะทิ ½ ถ้วยที่แบ่งไว้ก่อนหน้านี้ลงไปในชามผสมใบเล็กและตีไปเรื่อยๆ จนกระทั่งแป้งข้าวโพดละลายจนหมด
- เทส่วนผสมแป้งข้าวโพดลงไปในส่วนผสมกะทิที่ต้มจนอุ่น. เติมส่วนผสมแป้งข้าวโพดลงไปในส่วนผสมกะทิในหม้อต้มที่ต้มจนอุ่นและตีเบาๆ เพื่อให้ส่วนผสมทั้งสองส่วนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
- ปรับเป็นไฟปานกลางและต้มต่ออีก 6-8 นาที. เร่งไฟให้แรงขึ้นและต้มต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้ส่วนผสมเริ่มร้อนและเหนียวข้นมากขึ้น โดยคนไปมาประมาณ 6-8 นาทีจนกระทั่งส่วนผสมมีความเหนียวข้นมากพอจนติดหลังช้อนขึ้นมา คอยระมัดระวังอย่าให้ส่วนผสมร้อนเกินไปจนเริ่มเดือดขึ้นมา
- ยกส่วนผสมออกจากเตาและเติมวานิลลาสกัดลงไป. เมื่อส่วนผสมมีความเหนียวข้นที่พอดีแล้วจึงปิดไฟและยกหม้อออกจากเตา เติมวานิลลาสกัดลงไปและคนให้เข้ากันก่อนตั้งทิ้งไว้สักพักเพื่อให้ส่วนผสมเย็นลง
- เทส่วนผสมลงไปในกล่องถนอมอาหารและนำไปแช่เย็น. เทส่วนผสมลงไปในกล่องถนอมอาหารก้นตื้นและปิดให้สนิทด้วยพลาสติกแรป นำไปแช่เย็นทิ้งไว้อย่างน้อย 4 ชั่วโมงหรือนานถึง 3 วัน
- ปั่นส่วนผสมในเครื่องทำไอศกรีมประมาณ 10-20 นาที. นำส่วนผสมออกมาจากตู้เย็นและดึงพลาสติกแรปออก ซึ่งส่วนผสมที่ผ่านการแช่เย็นแล้วจะมีเนื้อสัมผัสที่คล้ายกับพุดดิ้ง จากนั้นเทส่วนผสมลงไปในเครื่องทำไอศกรีมและปั่นจนกระทั่งส่วนผสมเริ่มมีความข้นหนืดขึ้นเล็กน้อยและมีเนื้อสัมผัสที่ใกล้เคียงกับไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ
- เครื่องทำไอศกรีมแต่ละเครื่องมีขั้นตอนการทำงานที่แตกต่างกัน แต่โดยทั่วไปแล้วมักใช้เวลาในการปั่นระหว่าง 10-20 นาที
- เติมวัตถุดิบอื่นๆ ที่คุณต้องการเพิ่มลงไปในช่วงท้ายของการปั่นส่วนผสมก่อนปั่นต่ออีกเล็กน้อย
- ตักส่วนผสมใส่ลงไปในกล่องถนอมอาหารและแช่ในช่องแช่แข็งนาน 4 ชั่วโมง. ตักส่วนผสมใส่ลงไปในกล่องถนอมอาหารแบบมีฝาปิดที่สามารถนำเข้าช่องแช่แข็งได้และคลุมทับด้วยกระดาษไขหรือกระดาษรองอบเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเกล็ดน้ำแข็งขึ้น จากนั้นนำไปแช่ในช่องแช่แข็งนาน 4 ชั่วโมงจนกระทั่งส่วนผสมแข็งตัวได้ที่จึงจัดเสิร์ฟได้เลย
- คุณอาจต้องตั้งไอศกรีมทิ้งไว้สักครู่หลังจากที่เพิ่งนำออกมาจากช่องแช่แข็งเพื่อให้ไอศกรีมละลายเล็กน้อยและสามารถตักได้ง่ายขึ้น
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.