บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Jennifer Levasseur. เจนนิเฟอร์ เลอวาสเซอร์เป็นเชฟส่วนตัวและเจ้าของ The Happy Cuisiniere ในเบรกเคนริจด์ รัฐโคโลราโด เธอมีประสบการณ์ด้านการประกอบอาหารมากกว่า 12 ปี เชฟเจนนิเฟอร์เชี่ยวชาญอาหารรอกกีเมาเทนและอาหารธรรมดาร่วมสมัย ยิ่งไปกว่านั้นเธอสามารถทำอาหารและดัดแปลงเมนูให้เหมาะสมกับข้อจำกัดด้านอาหาร เช่น ปลอดกลูเทน มังสวิรัติ วีแกน มังสวิรัติปลา และอาหารที่ไม่มีส่วนผสมของผลิตภัณฑ์จากนม เป็นต้น นอกจากจบปริญญาตรีด้านการตลาดและการจัดการจากมหาวิทยาลัยฮิวสตันแล้ว เชฟเจนนิเฟอร์ยังจบระดับอนุปริญญา สาขาศิลปะการประกอบอาหาร ศิลปะการทำเบเกอรีและขนมอบที่วิทยาลัยชุมชนฮิวสตัน
มีการอ้างอิง 11 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 200,049 ครั้ง
การทำกล้วยอบแห้งนั้นง่ายมากจนคุณคาดไม่ถึงเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นกล้วยแบบที่เหนียวนุ่มหรือกรุบกรอบ เป็นเมนูสุขภาพหรือของว่างทานสนุก จะเป็นแผ่นเรียบหรือแผ่นหยัก หรือหากคุณเบื่อรสชาติเดิมๆ เรายังมีสูตรเด็ดเคล็ดลับพิเศษๆ ที่เพิ่มความแปลกใหม่เข้าไปด้วย การทำกล้วยอบแห้งมีหลากหลายวิธีและยังสามารถใช้พลังงานความร้อนในกรรมวิธีการผลิตได้แทบจะทุกรูปแบบ ลองศึกษาวิธีการทำกล้วยอบแห้งเหล่านี้ดูซิ แล้วคุณจะรู้ว่ามันเป็นแค่เรื่องกล้วยๆ
ส่วนประกอบ
- กล้วย (จะให้ดีควรใช้กล้วยที่เพิ่งสุก เริ่มจะมีจุดสีน้ำตาลเข้มๆ และไม่มีรอยช้ำ) [1]
- น้ำมะนาวหรือน้ำชนิดอื่นๆ ที่มีฤทธิ์เป็นกรด (ใช้หรือไม่ใช้ก็ได้)
- เกลือ จันทน์เทศ หรืออบเชย (ใช้หรือไม่ใช้ก็ได้)
ขั้นตอน
- อุ่นเตาอบไว้ล่วงหน้าด้วยความร้อนระดับต่ำสุด. ใช้อุณหภูมิระหว่าง 50º—90ºC (125º—200ºF)
- การใช้อุณหภูมิที่สูงกว่านี้อาจทำให้กล้วยไหม้ด้านนอก ในขณะที่ภายในยังมีความชื้นลงเหลืออยู่
- ปอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้น. หากต้องการทำกล้วยอบแบบแผ่นบางๆ หั่นกล้วยให้มีความหนาประมาณชิ้นละ 1/4นิ้ว (0.6 ซม.) แต่ถ้าต้องการชิ้นที่หนาหน่อย ให้หั่นกล้วยตามแนวยาว 2 ครั้งแล้วจึงค่อยแบ่งเป็นชิ้นเล็กๆ ตามต้องการ[2]
- หมายเหตุ: กล้วยชิ้นหนาอาจใช้เวลานานถึง 12 ชั่วโมงในการกำจัดความชื้นทั้งหมด คุณควรเริ่มทำตั้งแต่เช้าเพื่อหลีกเลี่ยงการตั้งไฟไว้ข้ามคืน แต่สำหรับกล้วยแบบแผ่นจะใช้เวลาทำน้อยกว่ามาก
- หากต้องการความกรอบเป็นพิเศษ ให้หั่นกล้วยชิ้นละ 1/8นิ้ว (0.3 ซม.) สามารถใช้เครื่องสไลซ์ผักเพื่อความสะดวก[3]
- ถ้ากล้วยนิ่มหรือเละเกินไปทำให้หั่นยาก แนะนำให้แช่กล้วยในตู้เย็นประมาณ 5-10 นาทีก่อนนำมาใช้[4]
- มีดไม่จำเป็นอีกต่อไป! หากต้องการกล้วยชิ้นหนาๆ หลังปอกเปลือกกล้วยแล้วให้ใช้นิ้วของคุณจิ้มลงไปในปลายด้านใดด้านหนึ่ง เพียงเท่านี้กล้วยก็จะแยกออกเป็น 3 ซีกแล้วล่ะ [5] แต่ถ้าหากกล้วยหักระหว่างทำ ก็ไม่ต้องกังวลไป ยังไงคุณก็ต้องนำมาหั่นเพื่อแบ่งเป็นชิ้นๆ ที่เล็กลงอยู่แล้ว
- หากคุณมีกล้วยจำนวนมาก ให้นำกล้วยไปแช่ในน้ำมะนาวก่อนที่จะหั่น การทำแบบนี้จะช่วยประหยัดเวลาได้ แต่ก็จะไปเพิ่มความชื้นซึ่งจะทำให้ใช้เวลาอบแห้งมากขึ้น[6]
- แช่ในน้ำมะนาว. นอกจากจะเพิ่มรสชาติและวิตามินแล้ว การนำกล้วยไปแช่ในน้ำมะนาวยังป้องกันไม่ให้กล้วยเปลี่ยนเป็นสีเข้มอีกด้วย
- แต่ถ้าคุณไม่มีปัญหากับกล้วยสีเข้มๆ ก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย
- อาจใช้แปรงนุ่มๆ ทาน้ำมะนาวลงบนกล้วยให้ทั่วก็ได้
- สามารถเลือกใช้น้ำสัปปะรด น้ำมะนาว หรือน้ำผลไม้อื่นๆ ที่มีฤทธิ์เป็นกรดได้ วิตามินซีชนิดเม็ดก็สามารถใช้ได้เช่นเดียวกัน โดยให้บดละเอียดแล้วนำไปผสมน้ำก่อน
- ถ้าคุณเป็นคนนึงที่ไม่ปลื้มรสชาติของน้ำผลไม้เหล่านี้เลย ให้นำน้ำผลไม้ไปเจือจางในอัตราส่วน 1:4 แล้วค่อยนำกล้วยลงแช่ประมาณ 3-5 นาที [7]
- นำกล้วยวางบนตะแกรงเหล็ก. การนำกล้วยไปวางไว้บนตะแกรงเหล็กที่ยกสูงขึ้นจะทำให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก นอกจากนี้ความชื้นที่อยู่ในกล้วยยังจะถูกขับออกมาได้ง่ายด้วย คุณควรหาแผ่นรองอบหรือถาดอบมาวางไว้ด้านล่างเพื่อรองรับน้ำที่จะหยดลงมา
- ไม่ควรวางกล้วยซ้อนหรือทับกัน แต่ขอบจะแตะกันบ้างก็ไม่เป็นไร
- หากคุณไม่มีตะแกรงเหล็ก สามารถใช้แผ่นรองอบที่สเปรย์ด้วยน้ำมันกันติดแทนก็ได้ วิธีนี้อาจอบกล้วยให้แห้งช้ากว่าหลายชั่วโมง โดยเฉพาะการอบแห้งกล้วยชิ้นใหญ่ๆ เคล็ดลับคือให้แง้มประตูเตาอบไว้เล็กน้อยเพื่อช่วยในการระบายความชื้น[8]
- การเปิดพัดลมไว้ใกล้ๆ ประตูเตาอบที่แง้มอยู่สามารถช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดียิ่งขึ้น[9]
- ปรุงรสตามต้องการ. คุณอาจโรยเกลือเพื่อเพิ่มรสชาติสักหน่อยก็ได้
- นำกล้วยใส่ในเตา. นำกล้วยใส่เตาอบที่ได้อุ่นไว้ก่อนแล้ว โดยให้ใช้ชั้นกลางและต้องระวังไม่ให้กล้วยหล่นลงไปที่ด้านล่างของเตาด้วย
- หากใช้ตะแกรงเหล็ก ให้คุณนำแผ่นรองอบวางไว้ในเตาอบเสียก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำที่หยดออกมาจากกล้วยไหลเลอะเทอะ
- ใช้เวลาอบตามขนาดของชิ้นกล้วย และให้มีความกรอบในระดับที่คุณชื่นชอบ. สำหรับกล้วยแบบแผ่น อาจใช้เวลาในการอบประมาณ 1-3 ชั่วโมง ส่วนกล้วยที่หั่นเป็นชิ้นใหญ่ๆ จะใช้เวลานานถึง 6-12 ชั่วโมง ยิ่งคุณอบนานเท่าไหร่ กล้วยก็จะยิ่งกรอบมากขึ้น!
- เมื่ออบได้ครึ่งทางแล้ว ให้กลับด้านกล้วยเพื่อไล่ความชื้นออก และให้กล้วยแห้งทั้ง 2 ด้าน ขั้นตอนนี้สำคัญมากหากคุณวางกล้วยไว้บนกระดาษรองอบโดยตรง
- ควรนำกล้วยออกจากเตาอบตอนที่มันยังนิ่มกว่าที่คุณต้องการอยู่สักหน่อย เมื่อกล้วยอบโดนลมและเริ่มเย็นลงมันก็จะกรอบขึ้นเอง
- ปล่อยไว้ให้เย็น. วางกล้วยไว้บนตะแกรงเหล็กและพักไว้จนกระทั่งกล้วยเย็น เมื่อได้ที่แล้ว กล้วยของคุณจะแห้งสนิทและกรอบ
- หากไม่มีตะแกรงเหล็ก สามารถใช้ที่คว่ำชามหรือใช้จานแทนก็ได้
- เก็บกล้วยอบแห้งไว้ในภาชนะสุญญากาศ. หากคุณอบกล้วยได้แห้งสนิทจริงๆ ล่ะก็ มันจะสามารถเก็บไว้ได้เป็นเดือนๆ เลยล่ะโฆษณา
- เตรียมกล้วย. ขั้นตอนการเตรียมกล้วยสำหรับอบแห้งคล้ายคลึงกับวิธีก่อนหน้ามาก ความต่างจะอยู่ที่ขนาดในการหั่นกล้วยเท่านั้นล่ะ
- จัดการปอกเปลือกกล้วยให้เรียบร้อยแล้วหั่นกล้วยให้เป็นแว่น โดยให้มีความหนาประมาณ 1/4นิ้ว (0.6 ซม.) หากคุณต้องการกล้วยอบแห้งแบบนุ่ม หรือหั่นบางๆ ชิ้นละ 1/16-1/18 นิ้ว (0.15-0.3 ซม.)สำหรับกล้วยกรอบๆ
- จัดสรรเวลาให้ดีเพราะการอบแห้งกล้วยแบบเนื้อนุ่มอาจใช้เวลานานถึง 24 ชั่วโมง และการทำกล้วยชิ้นบางๆ จะใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง
- หากคุณหั่นกล้วยบางกว่า 1/4นิ้ว (0.6 ซม.)มันมักจะติดกันเวลานำไปเก็บรักษา[10]
- แช่กล้วยในน้ำมะนาวเพื่อไม่ให้กล้วยเปลี่ยนเป็นสีเข้ม แต่ถ้าคุณไม่มีปัญหากับสีที่อาจเปลี่ยนไป ก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย
- ปรุงรสตามชอบ. อาจลองใช้จันทน์เทศซึ่งเข้ากันเป็นอย่างดีกับรสหวานธรรมชาติของกล้วย[11]
- ทาหรือสเปรย์น้ำมันในเครื่องอบแห้ง. ขั้นตอนนี้ไม่จำเป็นแต่จะช่วยป้องกันไม่ให้กล้วยติดกับพื้นผิว นอกจากนี้คุณยังสามารถทาน้ำมันลงที่กล้วยโดยตรงเลยก็ได้ [12]
- นำกล้วยวางในตะแกรงของเครื่องอบแห้ง. ไม่ควรวางซ้อนหรือทับกัน แต่ถ้ากล้วยโดนกันเล็กน้อยก็ไม่มีปัญหา เพราะเมื่อกล้วยเริ่มแห้งมันจะเริ่มหดตัวลง
- ตั้งอุณหภูมิที่ 57ºC (135º F). การอบแห้งกล้วยแบบเนื้อนุ่มอาจใช้เวลานานถึง 24 ชั่วโมง ส่วนการทำกล้วยชิ้นบางกรอบจะใช้เวลาประมาณ 6-12 ชั่วโมง
- หากเครื่องอบแห้งของคุณมีข้อบ่งใช้สำหรับกล้วยโดยเฉพาะ ให้คุณปฏิบัติตามคำแนะนำได้เลย
- หมั่นตรวจดูและพลิกด้านทุก 2-4 ชั่วโมง
- หากคุณไม่ได้แช่หรือทากล้วยด้วยน้ำมะนาว ให้สังเกตที่สีของกล้วย เมื่อใกล้ได้ที่แล้ว กล้วยจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลคาราเมล หรือจะลองชิมดูสักชิ้นก็ได้ แต่ต้องไม่ลืมนำออกมาวางทิ้งไว้ให้เย็นเสียก่อนด้วย
- หากคุณตั้งใจจะอบกล้วยนุ่มๆ แต่ดันลืมทิ้งไว้ในเครื่องอบแห้งนานไปหน่อย คำแนะนำที่ดีคือปล่อยเลยตามเลย แล้วเปลี่ยนไปทำกล้วยแบบกรอบๆ แทน แต่ถ้าหากคุณหั่นกล้วยหนามากๆ วิธีนี้ก็อาจไม่ได้ผล
- ปล่อยให้เย็นก่อนรับประทาน. หากคุณเก็บกล้วยไว้ในภาชนะสุญญากาศมันจะสามารถเก็บไว้ได้เป็นเดือนๆ เลยล่ะโฆษณา
- ปอกล้วย. สามารถใช้ทั้งชิ้นโดยไม่หั่นเลย หรือจะหั่นตามแนวยาวสักหน่อยก็ได้
- นำกล้วยไปวางระหว่างแผ่นรองอบ 2 แผ่น. โดยให้แต่ละชิ้นห่างกันประมาณ 3 นิ้ว
- บี้กล้วยด้วยเขียงหนักๆ. ควรออกแรงเท่าๆ กันให้ทั่วบริเวณเพื่อให้ได้ความหนาที่ใกล้เคียงกัน
- ใช้ไม้นวดแป้งก็ได้
- จะบด ขยี้ หรือนวดกล้วยด้วยวิธีใดก็ตาม ควรให้มีความหนาประมาณ 1/8 นิ้ว (0.3 ซม.) แต่ถ้ากะไม่ถูกก็ให้พยายามทำให้บางที่สุด!
- ย้ายแผ่นรองอบไปที่เครื่องอบแห้ง. แล้วให้ดึงแผ่นบนออกก่อนจะเริ่มอบแห้ง[13]
- ตั้งอุณหภูมิเครื่องอบแห้งที่ 57ºC (135ºF) ไว้สำหรับ 7 ชั่วโมง. ช่วงชั่วโมงที่ 4 และ 6 ให้ลองมาเช็คดูด้วย
- เมื่อกล้วยได้ที่ด้านบนจะมีลักษณะเป็นแผ่นเหนียว แต่ไม่หนึบหนับ!
- หากอีกด้านของกล้วยยังมีความชื้นลงเหลืออยู่ ให้กลับด้านระหว่างที่กล้วยอบแห้งได้ครึ่งทางของเวลาที่ตั้งไว้
- ปล่อยให้เย็นลงก่อนหั่นเป็นชิ้น. จะนำไปม้วนก่อนเก็บก็ได้ และหากคุณเก็บรักษาในกล่องสุญญากาศก็จะสามารถเก็บได้นานหลายเดือนเลยล่ะโฆษณา
- ปอกเปลือกและจัดการหั่นกล้วยเป็นชิ้น. แต่ละชิ้นควรมีขนาดประมาณ 1/4 นิ้ว (0.6 ซม.) หรือจะเล็กกว่าสัดนิดก็ได้ หากกล้วยมีขนาดใหญ่กว่านี้จะทำให้สุกยาก และถ้าเล็กกว่านี้ก็จะไหม้ได้ง่าย
- โชลมน้ำมันในภาชนะทนความร้อน.[14] อาจเลือกใช้น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันชนิดอื่นๆก็ได้ และต้องใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ ต้องไม่น้อยจนเกินไป! จากนั้นให้นำกล้วยวางลงไปโดยไม่ให้แต่ละชิ้นแตะกัน
- นำเข้าเตาไมโครเวฟโดยใช้ไฟแรง 1 นาที. กล้วยจะเริ่มนิ่มขึ้นและคายความชื้นออกมา
- นำกล้วยมากลับด้าน. จะเลือกปรุงรสโดยการโรยเกลือให้มีรสเค็มนิดๆ หรือผงอบเชยเพิ่มเล็กน้อยก็เข้ากับความหวานของกล้วยได้เป็นอย่างดี[15]
- นำกล้วยใส่ไมโครเวฟต่ออีกครั้งละ 30 วินาที. ขั้นตอนนี้อาจจะใช้เวลามากน้อยไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับไมโครเวฟที่ใช้
- เมื่อได้ที่แล้วก็เสิร์ฟได้ทันที. การอบแห้งกล้วยแบบนี้จะเก็บได้เพียงวันเดียวเท่านั้นโฆษณา
- ตรวจสอบพยากรณ์อากาศเสียก่อน!. การทำผลไม้ตากแห้งจะต้องอาศัยแสงแดดจัดๆ ซัก 2 วัน (อุณหภูมิเฉลี่ย 32ºC หรือ 90º F เป็นอย่างต่ำ และต้องมีความชื้นในอากาศต่ำด้วย) แต่ถ้าจะให้ดีการทำผลไม้ตากแห้งในบริเวณที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำกว่า 38ºC หรือประมาณ 100ºF ควรใช้เวลาในการตากแห้ง 7 วันเลย
- เตรียมตาข่ายสำหรับตากแห้ง. คุณอาจจะทำมันขึ้นมาเองโดยใช้ตาข่ายขึงกับกรอบไม้ให้ตึง หรือจะหาซื้อสักอันก็ได้
- สามารถเลือกใช้ตาข่ายสแตนเลสหรือพลาสติกก็ได้ แต่ห้ามใช้ตาข่ายที่ทำจากอลูมิเนียม ตาข่ายกรงไก่ หรือตาข่ายไฟเบอร์กลาส (ยกเว้นเป็นตาข่ายไฟเบอร์กลาสที่ระบุว่าใช้สำหรับทำครัว)
- เตรียมกล้วย. เนื่องจากการตากแดดจะใช้อุณหภูมิต่ำกว่าวิธีอื่นๆ มาก จึงควรหั่นกล้วยให้เป็นชิ้นบางๆ
- กะให้แต่ละชิ้นมีความหนาประมาณ 1/8 นิ้ว (0.3 ซม.) หรือไม่เกิน 1/4 นิ้ว (0.6 ซม.)
- หากไม่ต้องการให้กล้วยเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มๆ เมื่อโดนลม สามารถนำไปจุ่มในน้ำมะนาวก่อนก็ได้
- ปรุงรสเพิ่มตามใจชอบ. คุณอาจโรยผงอบเชยสักหน่อยก็ได้ กลิ่นและรสพิเศษของมันเข้ากันได้ดีกับความหวานของกล้วย
- นำกล้วยวางลงบนตาข่าย. จัดเรียงให้ดี โดยไม่ควรให้กล้วยทับซ้อนหรือเบียดกันเกินไป แต่ถ้าขอบๆ แตะกันเล็กน้อยก็ไม่มีปัญหา เพราะเมื่อตากไปได้สักพักกล้วยก็จะเริ่มหดตัวลง
- ใช้ฝาชีหรือผ้าขาวบางคลุมไว้. นอกจากจะช่วยป้องกันแมลงแล้วยังช่วยกันฝุ่นอีกด้วย
- นำกล้วยไปตากในที่ๆ มีแสงแดดจัด ปลอดฝุ่นควัน และห่างไกลจากสัตว์เลี้ยง. ควรวางให้สูงจากพื้นสักหน่อย (อาจใช้อิฐมาทำเป็นฐานก็ได้) [16]
- หลังคาบ้านก็เป็นตัวเลือกที่ดี นอกจากจะได้รับแสงแดดจ้าเต็มๆ แล้ว ยังปลอดฝุ่นและควันกว่าด้วย
- คุณสมบัติของคอนกรีตจะสะท้อนความร้อน ดังนั้นนำไปตากบนพื้นคอนกรีตหน้าบ้านคุณก็น่าสน!
- นำตะแกรงตากกล้วยเข้าบ้านในตอนกลางคืน. ถึงแม้อุณหภูมิจะไม่ได้ลดลงเท่าไหร่นักแต่น้ำค้างจะทำให้กล้วยชื้นได้ เมื่อเช้าแล้วคุณก็สามารถนำกล้วยออกไปตากแดดต่อ
- กลับด้านครั้งนึงเมื่อคุณตากแห้งกล้วยได้ครึ่งทางแล้ว. จริงๆ แล้วไม่มีเวลากำหนดที่แน่นอน คุณจะกลับด้านกล้วยตอนไหนก็ได้ทั้งนั้น!
- ตากกล้วยต่ออีก 7 วัน. อาจจะลองชิมดูสักชิ้นสองชิ้นก็ได้นะ เพื่อเช็คให้แน่ใจว่ากล้วยแห้งและกรอบดีหรือยัง
- ถ้าไม่แน่ใจ ให้ลองชิมดูสักชิ้น
- เก็บกล้วยอบแห้งไว้ในภาชนะสุญญากาศ. หากกล้วยอบจนแห้งสนิทจริงๆ ล่ะก็ มันจะสามารถเก็บไว้ได้เป็นเดือนๆ เลยล่ะ
- <finished>โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- เลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง:
- เตาไมโครเวฟ
- เตาอบและแผ่นรองอบ
- เครื่องอบแห้ง (และแผ่นรองอบในกรณีที่จะทำกล้วยอบแห้งแบบนิ่ม)
- ถาดสำหรับตากแห้ง ตาข่าย และสัปดาห์ที่มีแสงแดดจ้าๆ
- มีด
- เขียง
- ตะแกรงเหล็ก
- เครื่องสไลซ์ผัก ผลไม้ (ตามต้องการ)
เคล็ดลับ
- นอกจากกินเปล่าๆ แล้ว ลองเอาไปผสมกับผลไม้แห้งอื่นๆ หรือถั่วคุณจะได้ของทานเล่นชั้นยอดเลย หรือจะนำไปผสมในกราโนล่าก็ได้เช่นกัน
- วิธีนี้สามารถใช้ในการตากแห้งกล้าย (หรือที่เรียกกันว่ากล้วยกล้าย) ก็ได้ แต่ด้วยขนาดที่ต่างกันนั่นหมายถึงระดับความชื้นที่มีก็ต่างกันด้วยจึงจำเป็นต้องเช็คอยู่เรื่อยๆ
- หากจะนำกล้วยตากแห้งมาปรุงอาหาร ให้นำไปต้มในไฟอ่อนๆประมาณ 15 นาทีก่อน. ไม่ต้องใช้น้ำมากจนเกินไป เอาแค่พอมิดกล้วย และเมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วจะเทน้ำทิ้งไปหรือเก็บไว้ใช้ในการปรุงอาหารต่อก็ได้ (ตอนนี้คุณมีน้ำรสกล้วยแล้ว!) [17]
คำเตือน
- การใช้ตาข่ายเหล็กชนิดที่ไม่เหมาะสำหรับการประกอบอาหารอาจทำให้สีของกล้วยเปลี่ยน รสชาติก็อาจจะแปลกๆ แถมในบางครั้งยังก่อให้เกิดอันตรายอีกด้วย ควรปฏิบัติตามคำแนะนำในการเลือกประเภทของตาข่ายหรือตะแกรงเหล็กที่จะใช้ตากแห้งอย่างเคร่งครัด อย่าลืมว่าให้เลือกชนิดที่ระบุว่าเหมาะสำหรับการทำครัว
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.livestrong.com/article/556715-how-to-make-baked-banana-chips/
- ↑ http://www.storyofakitchen.com/healthy-snacks/dried-bananas/
- ↑ http://www.livestrong.com/article/556715-how-to-make-baked-banana-chips/
- ↑ http://www.easy-food-dehydrating.com/dehydrating-bananas.html
- ↑ http://foodstorageandsurvival.com/making-banana-chips-by-dehydrating-bananas/
- ↑ http://www.aces.uiuc.edu/vista/html_pubs/DRYING/dryfood.html
- ↑ http://www.livestrong.com/article/539371-tricks-to-prevent-bananas-from-turning-brown/
- ↑ http://www.storyofakitchen.com/healthy-snacks/dried-bananas/
- ↑ http://www.aces.uiuc.edu/vista/html_pubs/DRYING/dryfood.html#methods
- ↑ http://www.homesteadanywhere.com/recipes/dried-bananas/
- ↑ http://www.foodiewithfamily.com/2012/03/23/nutmeg-banana-chips/
- ↑ http://www.homesteadanywhere.com/recipes/dried-bananas/
- ↑ http://www.homesteadanywhere.com/recipes/dried-bananas/
- ↑ http://www.cookingandme.com/2014/05/microwave-banana-chips-healthy-raw.html
- ↑ http://www.foodiewithfamily.com/2012/03/23/nutmeg-banana-chips/
- ↑ http://www.livestrong.com/article/536399-how-to-make-sun-dried-bananas-at-home/
- ↑ http://www.aces.uiuc.edu/vista/html_pubs/DRYING/dryfood.html
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.