ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
มีการอ้างอิง 8 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 69,071 ครั้ง
เช่นเดียวกับแอปเปิลและผลไม้อีกหลายชนิด เมื่อหั่นกล้วย เนื้อกล้วยจะทำปฏิกิริยากับออกซิเจนและเปลี่ยนเป็นสีดำ[1] แม้ว่ารสชาติจะยังคงเดิม แต่หน้าตาอาจมีผลต่อความน่ารับประทาน โดยเฉพาะเมื่อคุณนำมันไปวางตกแต่งในจานสลัดหรือของหวาน โชคดีที่มีวิธีง่ายๆ ในการทำให้กล้วยยังคงดูสดใหม่อยู่เสมอ วิธีที่ง่ายที่สุดน่ะเหรอ? ใช้ น้ำเลมอน ไง
ขั้นตอน
ซื้อน้ำผลไม้หรือคั้นด้วยตัวเอง. มีน้ำผลไม้บางชนิดที่สามารถช่วยป้องกันไม่ให้กล้วยที่หั่นแล้วดำได้ คุณสามารถใช้น้ำผลไม้คั้นสดใหม่ หรือน้ำผลไม้ตามชั้นวางในร้านค้าก็ได้ ทั้งสองให้ผลลัพธ์ไม่ต่างกัน คุณไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมาก แค่ครึ่งถ้วยก็มากพอสำหรับกล้วยหนึ่งถึงสองลูกแล้ว- น้ำเลมอน คือน้ำผลไม้ที่คนส่วนใหญ่รู้กันว่าสามารถใช้ป้องกันไม่ให้กล้วยที่หั่นแล้วดำได้ น้ำผลไม้ชนิดนี้ใช้ได้ผลดีกับกล้วยเช่นเดียวกับที่ใช้ได้ผลกับแอปเปิล[2] อย่างไรก็ตาม ยังมีน้ำผลไม้อีกหลายชนิดที่สามารถใช้ได้เหมือนกัน เช่น
- น้ำมะนาว
- น้ำส้ม
- น้ำสับปะรดกระป๋อง
- น้ำเกรปฟรุตสด หรือน้ำเกรปฟรุตกระป๋อง
- น้ำแอปเปิล
เคลือบกล้วยหั่นด้วยน้ำผลไม้. คุณสามารถพรมน้ำผลไม้ลงบนกล้วยหั่น หรือจุ่มกล้วยหั่นลงในน้ำผลไม้ก็ได้ คุณยังสามารถแช่กล้วยหั่นในน้ำผลไม้และทิ้งไว้สักสองถึงสามนาทีก็ได้เช่นกัน วิธีนี้จะช่วยให้กล้วยยังคงดูสดใหม่ แต่ก็จะทำให้รสชาติของกล้วยเปลี่ยนไปเล็กน้อย- วิธีเคลือบกล้วยแบบรวดเร็วอีกวิธีคือ การนำกล้วยหั่นใส่ในถุงพลาสติกปิดสนิทที่มีน้ำผลไม้อยู่ข้างใน และค่อยๆ หมุนไปเรื่อยๆ ประมาณสองถึงสามนาที
- หากคุณต้องการเปลี่ยนรสชาติของกล้วยให้น้อยที่สุด ก็ให้ใช้น้ำผลไม้เพียงเล็กน้อย หรือเติมน้ำลงในขวดสเปรย์และฉีดที่กล้วยหั่น
นำกล้วยไปใช้หรือนำไปเก็บ. เมื่อเคลือบกล้วยด้วยน้ำผลไม้แล้ว กล้วยก็จะอยู่ในสภาพสดใหม่ได้นานขึ้นก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีดำ ไม่ว่าคุณจะทานกล้วยหั่นดิบๆ หรือนำไปทำพาย กล้วยเสียบไม้ พาร์เฟต์ หรือสลัดผลไม้ก็ตาม คุณก็จะมั่นใจได้ว่ากล้วยจะยังดูสดใหม่น่ารับประทานจนจบมื้อ กล้วยจะยังคงสภาพสดใหม่ได้นานสองถึงสามชั่วโมงในกล่องพลาสติก โดยไม่จำเป็นต้องแช่ตู้เย็น ซึ่งเหมาะแก่การนำไปทำอาหารกลางวันใส่กล่อง- แม้ว่าจะเคลือบน้ำผลไม้มาแล้ว คุณก็ควรทานกล้วยหั่นให้หมดในวันเดียวกัน อุณหภูมิในตู้เย็นสามารถทำให้เปลือกกล้วยดำได้ แต่ถ้าคุณโอเคกับมัน ตัวผลไม้ก็ควรคงความสดใหม่อยู่[3] หากคุณจะนำกล้วยหั่นไปแช่เย็น ให้ใส่มันในกล่องที่ปิดสนิท เพื่อให้อากาศเข้าน้อยที่สุด
เปลี่ยนสีกล้วยที่ดำแล้วให้ดูดีขึ้นด้วยน้ำสับปะรดหรือน้ำเกรปฟรุต. หากกล้วยหั่นเปลี่ยนเป็นสีดำแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีทางแก้ คุณสามารถทำให้สีกล้วยอ่อนลงได้ โดยการแช่กล้วยหั่นในน้ำเกรปฟรุตหรือน้ำสับปะรดกระป๋องเป็นเวลา 10-15 นาที กล้วยหั่นจะไม่กลับไปเป็นสีเหลืองอ่อนเช่นเดียวกับตอนแรก แต่มันก็จะดูสดใหม่และน่ารับประทานขึ้นโฆษณา
ใช้น้ำโซดา. การใช้น้ำผลไม้ไม่ใช่วิธีเดียวที่จะช่วยป้องกันไม่ให้กล้วยเปลี่ยนเป็นสีดำไม่น่ารับประทาน น้ำโซดาเองก็สามารถทำให้ผลไม้หั่นยังคงดูสดใหม่ได้[4] และที่ดีไปกว่านั้นคือ น้ำชนิดนี้จะไม่เปลี่ยนรสชาติของกล้วย วิธีใช้มันก็เหมือนกับการใช้น้ำผลไม้ แช่กล้วยหั่นในน้ำโซดาก่อนนำไปเสิร์ฟหรือเก็บ- ดูให้ดีว่าน้ำที่จะใช้เป็นน้ำโซดาจริงๆ เพราะน้ำผสมเหล้าเองก็มีหน้าตาเหมือนกัน แต่มีรสที่แรงกว่า ซึ่งไม่เหมาะกับการนำมาใช้กับกล้วย
ใช้น้ำก๊อก. น้ำก๊อกไม่ได้ให้ผล ดี เท่ากับน้ำผลไม้ หรือวิธีการอื่นในบทความนี้ แต่มันเป็นสิ่งที่คุณมีอยู่แล้วและไม่ต้องออกไปซื้อ[5] วิธีใช้น้ำก๊อกก็เหมือนกับวิธีใช้น้ำผลไม้: แช่กล้วยหั่นในน้ำก่อนจะนำไปใช้ตามต้องการ
ใช้กรดซิตริกเจือจาง. กรดซิตริก (สารที่ทำให้ผลไม้ตระกูลส้มเช่นเลมอนมีรสเปรี้ยว) มีขายในรูปแบบสารบริสุทธิ์บรรจุกระป๋อง รูปแบบนี้ ใช้เฉพาะ ในการเก็บผลไม้โดยป้องกันไม่ให้ผลไม้เปลี่ยนสี แต่อย่างไรก็ตาม กรดซิตริกบริสุทธิ์ค่อนข้างหาซื้อได้ยาก คุณอาจจะซื้อมันได้จากร้านขายอาหารเพื่อสุขภาพหรือร้านโชห่วย โดยราคาของมันจะอยู่ที่ประมาณ 100-200 บาทขึ้นไป[6]- สำหรับการใช้กรดซิตริก ให้เทกรดซิตริกสามช้อนชาลงในถ้วยใส่น้ำเปล่า และผสมให้เข้ากัน แช่กล้วยหั่นลงในน้ำเช่นเดียวกับวิธีอื่น อย่าใช้กรดซิตริกที่ไม่ได้เจือจาง เพราะมันจะมีรสเปรี้ยวเกินไป
ใช้น้ำส้มสายชูเจือจาง. น้ำส้มสายชูสามารถใช้คงความสดใหม่ให้ผลไม้ได้เช่นเดียวกับกรดซิตริก แต่เนื่องจากน้ำส้มสายชูมีรสเปรี้ยวจัด คุณจึงต้องเจือจางมันก่อนนำไปใช้ เช่นเดียวกับกรดซิตริก ให้เทน้ำส้มสายชูสักสองถึงสามช้อนชาลงในถ้วยใส่น้ำเปล่า และนำกล้วยหั่นมาแช่ตามปกติ
ใช้วิตามินซีละลายน้ำ. กรดแอสคอร์บิกหรือวิตามินซีคือกรดอีกชนิดที่สามารถช่วยป้องกันไม่ให้ผลไม้ดำได้ วิตามินซีแบบผงมีวางขายทั่วไปตามซุปเปอร์มาร์เก็ต ในส่วนของอาหารเสริม ละลายวิตามินในน้ำเปล่า (ตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์) นำกล้วยหั่นมาแช่ตามปกติ- หากคุณจำเป็นจริงๆ วิตามินซีแบบเม็ดก็สามารถนำมาใช้ได้เช่นกัน[7]
พยายามอย่าให้สัมผัสอากาศ. เนื่องจากกล้วยหั่นจะเปลี่ยนเป็นสีดำเมื่อสัมผัสกับออกซิเจนในอากาศ การเก็บกล้วยไม่ให้สัมผัสกับอากาศจึงเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปฏิกิริยาจนกล้วยเป็นสีดำได้ มีหลายวิธีที่สามารถใช้ในการป้องกันกล้วยจากอากาศได้ ตามด้านล่างนี้- ห่อง่ายๆ ด้วยพลาสติกห่ออาหาร หั่นกล้วยให้เท่าๆ กัน วางมันลงบนถาด ตัดพลาสติกห่ออาหารเป็นรูปสี่เหลี่ยมพอดีกับถาด วางมันลงบนกล้วยหั่น และกดเบาๆ เพื่อให้แผ่นติดกับกล้วย กล้วยหั่นจะถูกปิดผนึกทั้งสองด้านด้วยพลาสติกห่ออาหารกับถาดโดยไม่มีอากาศเข้า
- หากคุณมีเวลา คุณก็สามารถตัดพลาสติกห่ออาหารให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก และใช้มันคลุมกล้วยหั่นทีละชิ้นได้ แต่อย่าลืมแกะมันออกตอนนำกล้วยไปทานด้วยล่ะ[8]
- หากคุณมีอุปกรณ์บรรจุอาหารแบบสุญญากาศ (เช่น เครื่องซีลปิดถุงระบบสุญญากาศ) คุณก็สามารถเก็บกล้วยหั่นในบรรจุภัณฑ์แบบสุญญากาศได้
โฆษณา
เคล็ดลับ
- หากกล้วยดำเกินกว่าจะแก้ได้ ให้นำมันไปปรุงอาหารที่ไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงสีกล้วยแทน (เช่น ขนมปังกล้วย หรือกล้วยแช่แข็งเคลือบช็อกโกแลต) [9]
- การเก็บรักษากล้วยให้ยังคงสดใหม่ ก่อน นำไปหั่นก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยได้เช่นกัน คุณสามารถดูวิธีการเก็บรักษากล้วยเพิ่มเติมได้
- ควรเก็บผลไม้หั่นไม่เกิน 24 ชั่วโมง
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.scientificamerican.com/article/experts-why-cut-apples-turn-brown/
- ↑ http://www.centercutcook.com/how-to-prevent-fruit-from-turning-brown/
- ↑ http://www.todayifoundout.com/index.php/2012/08/why-do-bananas-go-bad-faster-in-the-refridgerator/
- ↑ http://www.superhealthykids.com/how-to-prevent-sliced-fruit-from-turning-brown/
- ↑ http://www.superhealthykids.com/how-to-prevent-sliced-fruit-from-turning-brown/
- ↑ http://www.acehardware.com/product/index.jsp?productId=17822036&KPID=14766460&kpid=14766460&pla=pla_14766460
- ↑ http://everydaylife.globalpost.com/happens-bananas-dipped-lemon-juice-20412.html
- ↑ http://www.parenthacks.com/2013/02/keep-bananas-fresh.html
- ↑ http://www.cozi.com/live-simply/9-foods-you-can-bring-back-dead
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
นักเขียนในทีมวิกิฮาว
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 69,071 ครั้ง
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 69,071 ครั้ง
หมวดหมู่: ผักและผลไม้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 69,071 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
