วิธีการ ลดระดับ TSH

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

ถ้าระดับ TSH (thyroid-stimulating hormones) หรือ "ฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์" ของคุณสูง แสดงว่าไทรอยด์ทำงานได้น้อยกว่าปกติ หรือก็คือ hypothyroidism หรือภาวะขาดไทรอยด์ ไฮโปไทรอยด์เกิดได้เมื่อไทรอยด์ของคุณหลั่งฮอร์โมนบางอย่างได้ไม่เพียงพอให้ร่างกายใช้ควบคุมการเผาผลาญหรือกระบวนการทางเคมีที่สำคัญ เป็นไฮโปไทรอยด์แล้วทำให้อ่อนเพลีย ซึมเศร้า น้ำหนักตัวเพิ่ม และไม่อยากอาหาร[1] ถ้าปล่อยไว้ไม่รักษา จะทำให้เกิดโรคอ้วนตามมา รวมถึงภาวะมีบุตรยาก โรคหัวใจ และปวดข้อ[2] ถ้าคุณเป็นไฮโปไทรอยด์ ก็ต้องหาทางลดระดับ TSH เพื่อบรรเทาอาการต่างๆ ของโรค เช่น การกินยาไทรอยด์ลดระดับ TSH และปรับเปลี่ยนอาหารการกินและวิถีชีวิตควบคู่ไปด้วย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

กินยาไทรอยด์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. 1
    ทดสอบวัดระดับ TSH. ถ้าคุณมีอาการของไฮโปไทรอยด์ เช่น ท้องผูก เสียงแหบ และอ่อนเพลีย ควรไปหาหมอเพื่อตรวจเช็คร่างกายให้แน่ใจ ว่าไม่ได้เป็นไฮโปไทรอยด์ พอเจอคุณหมอแล้ว จะมีให้ตรวจเลือดเพื่อเช็คว่าไทรอยด์ทำงานน้อยกว่าปกติหรือเปล่า[3]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ปรึกษาคุณหมอเรื่องใช้ยาไทรอยด์.
    วิธีที่จะช่วยลดระดับ TSH ที่สูงขึ้นเพราะภาวะไฮโปไทรอยด์ได้อย่างเห็นผล ก็คือต้องใช้ฮอร์โมนไทรอยด์ทดแทนชื่อ levothyroxine[4] เป็นยาที่ต้องให้คุณหมอสั่งเท่านั้น กินแล้วจะช่วยปรับระดับฮอร์โมนให้สมดุล และบรรเทาอาการของภาวะไฮโปไทรอยด์ ปกติจะต้องกินยานี้วันละ 1 เม็ด[5]
    • พอเริ่มกินยาแล้ว อาการต่างๆ จะทุเลาลงใน 3 - 5 วัน และจะเห็นผลของยาเต็มที่ก็ต่อเมื่อผ่านไป 4 - 6 อาทิตย์ด้วยกัน[6]
    • ต้องกินยาตามปริมาณที่คุณหมอสั่งอย่างเคร่งครัด ห้ามกินยาเกินขนาดเด็ดขาด
    • เริ่มแล้วก็ต้องกินยาไทรอยด์ไปตลอดชีวิต เพื่อรักษาระดับ TSH ให้ต่ำไว้ แต่โชคดีที่ยานี้ราคาไม่แพง โดยคุณหมอจะแจกแจงเรื่องค่ายาให้เอง
  3. 3
    รู้จักผลข้างเคียงของยา. ถ้ากินยาไทรอยด์ปริมาณมากๆ จนฮอร์โมนไทรอยด์เพิ่มสูงเกินพิกัด ก็อาจเกิดผลข้างเคียงได้ คุณหมอก็ต้องมาพิจารณาปรับลดปริมาณยาให้เหมาะสมกับความต้องการของร่างกายคุณ บางทีร่างกายก็ตอบสนองต่อยาบางตัวที่คุณหมอสั่งให้ได้ไม่ดีเท่าที่ควร ให้ไปโรงพยาบาลทันทีถ้ามีอาการแพ้ยา levothyroxine คือลมพิษขึ้น หายใจติดขัด และหน้า ปาก ลิ้น หรือคอบวม[7] ต่อไปนี้คืออาการที่ถ้าเป็นต้องหาหมอทันที
    • หัวใจเต้นเร็วหรือผิดปกติ
    • เจ็บแน่นหน้าอก และ/หรือหายใจลำบาก
    • มีไข้ ร้อนวูบวาบ และ/หรือเหงื่อแตกพลั่ก
    • หนาวผิดปกติ
    • อ่อนแรง เหนื่อยล้า และ/หรือนอนไม่ค่อยหลับ
    • จำอะไรไม่ค่อยได้ ซึมเศร้า หรือหงุดหงิดรำคาญใจ
    • ปวดกล้ามเนื้อ
    • ผิวแห้ง ผมแห้ง หรือผมร่วง
    • ประจำเดือนมาผิดปกติ
    • อาเจียน ท้องเสีย ความอยากอาหารเปลี่ยนไป และ/หรือน้ำหนักตัวผิดปกติ[8]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ระหว่างกินยาที่หมอสั่ง อย่ากินอาหารเสริม.
    ถ้าไปกินอาหารเสริมธาตุเหล็กและแคลเซียม จะทำให้ร่างกายดูดซึมยาได้น้อยลง รวมถึงอย่ากินยาที่มี cholestyramine และ aluminum hydroxide[9]
    • ก่อนเริ่มกินยาไทรอยด์ ต้องปรึกษาคุณหมอถ้ากินอาหารเสริมหรือยาตัวอื่นอยู่ด้วย
    • โดยทั่วไป ยาไทรอยด์จะมีประสิทธิภาพที่สุด ถ้ากินตอนท้องว่าง ประมาณ 30 นาทีก่อนอาหาร
  5. 5
    ใช้วิจารณญาณในการกินยาไทรอยด์จาก “ธรรมชาติ”. ยาไทรอยด์ทางเลือก “ตามธรรมชาติ” นั้นเป็นไทรอยด์ที่ได้จากสัตว์ โดยเฉพาะหมู หาซื้อได้ตามเน็ตและร้านขายอาหารเสริม แต่ระวังยาพวกนี้ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบและรับรองโดยองค์การอาหารและยา บางทีก็มีสารปนเปื้อน เพราะงั้นอย่าพยายามซื้อหรือใช้ยาไทรอยด์ “สูตรธรรมชาติ” ที่คุณหมอไม่ได้สั่งหรือแนะนำ[10]
    • ถ้าจำเป็น คุณหมอมักสั่งยาทางเลือก “สูตรธรรมชาติ” พวกนี้ในรูปของสารสกัด (extract หรือ desiccated)
    • ถ้าอยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้ ให้ลองปรึกษาคุณหมอเรื่อง Armour Thyroid ที่เป็นไทรอยด์สกัดตามธรรมชาติ คุณหมอจะเป็นคนสั่งให้เท่านั้น[11]
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ติดตามผลการรักษา.
    ไปตามหมอนัดทุกครั้ง เพื่อติดตามผลว่าระดับ TSH ลดลงหรือยังหลังกินยา บางเคสคุณหมอจะปรับปริมาณยาให้หลังผ่านไป 2 - 3 เดือน เพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายได้รับฮอร์โมนเพียงพอ[12]
    • พอกินยาในปริมาณที่เหมาะสมไปได้ 1 - 2 เดือนแล้ว อาการของคุณน่าจะทุเลาลง และเหนื่อยน้อยลง พฤติกรรมการกินและน้ำหนักตัวก็น่าจะดีขึ้นด้วย
  7. How.com.vn ไท: Step 7 ตรวจวัดระดับ TSH ทุกปี.
    ไปตรวจตามนัดกับคุณหมอเป็นประจำทุกปี ให้แน่ใจว่าระดับ TSH เหมาะสมดีแล้ว คุณหมอจะตรวจวัดระดับอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อเช็คว่ายาที่กินไปได้ผลดี[13]
    • อาจจะต้องวัดระดับ TSH บ่อยกว่านั้น ถ้าเพิ่งปรับปริมาณยา levothyroxine ใหม่
    • ถ้าเป็นไฮโปไทรอยด์ เริ่มแล้วต้องกินยาฮอร์โมนไทรอยด์ทดแทนไปตลอดชีวิต ห้ามอยู่ๆ หยุดกินยาเองเด็ดขาดหลังรู้สึกดีขึ้น เพราะเดี๋ยวอาการก็จะกลับมา
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ปรับเปลี่ยนอาหารการกินและวิถีชีวิต

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 กินอาหารอุดมวิตามินบีและไอโอดีน.
    กินอาหารที่เป็นแหล่งโปรตีนอย่างเต้าหู้ ไก่ และถั่ว รวมถึงอาหารที่อุดมวิตามินบี อย่างธัญพืชเต็มเมล็ด (โฮลเกรน) ถั่ว และเมล็ดพืชต่างๆ อย่าลืมกินผักและผลไม้ให้เพียงพอด้วย โดยเฉพาะพืชน้ำที่พบได้ในทะเล เพราะอุดมไปด้วยไอโอดีน อาหารที่มีไอโอดีนตามธรรมชาติสูงๆ นั้นจะดีต่อไทรอยด์[14]
    • ให้กินพืชน้ำที่พบได้ในทะเลอย่างสาหร่ายเคลป์ (kelp), สาหร่ายญี่ปุ่น (nori และ kombu) อย่างน้อยวันละครั้ง จะโรย kelp ใส่สลัดหรือซุปเพื่อเพิ่มไอโอดีนก็ได้ หรือกินสาหร่าย kombu กับถั่วหรือเนื้อ รวมถึงใช้สาหร่าย nori ห่ออาหาร
    • เพิ่มถั่วและเมล็ดพืชในเมนูผัดต่างๆ รวมถึงคีนัวและสลัด
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ออกกำลังกายเป็นประจำ.
    ออกกำลังกายแล้วช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ ต้านผลข้างเคียงของไฮโปไทรอยด์ได้ เช่น อาการอ่อนเพลีย ซึมเศร้า และน้ำหนักตัวเพิ่ม แนะนำให้ไปวิ่งหรือปั่นจักรยาน หรือจะเข้าคลาสต่างๆ ของฟิตเนส ขอแค่ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 30 นาที[15]
    • ลองเข้าคลาสโยคะ เพื่อเสริมสร้างความกระฉับกระเฉงและคลายเครียด จะเข้าคลาสตามฟิตเนส สตูดิโอโยคะของครูที่สนใจ หรือเปิดคลิปใน Youtube แล้วทำตามก็ได้
  3. How.com.vn ไท: Step 3 แต่ละวันต้องได้รับวิตามินดีเพียงพอ.
    พยายามตากแดดให้ได้อย่างน้อยวันละ 20 - 30 นาที ในช่วงเช้าและเย็นๆ ควรให้แขน ขา และใบหน้ารับแสงแดด มีหลักฐานที่ชี้ว่าวิตามินดีต่ำก็เกี่ยวข้องกับไฮโปไทรอยด์ ถ้าเพิ่มวิตามินดี จะช่วยบรรเทาอาการไฮโปไทรอยด์ได้[16]
    • ถ้าที่ที่คุณอยู่ไม่ค่อยมีแดดส่องตรงๆ โดยเฉพาะคนที่อยู่ในบ้านหรือออฟฟิศทั้งวัน ให้ลองปรึกษาคุณหมอเรื่องกินวิตามินดีเสริมอีกทาง
  4. How.com.vn ไท: Step 4 คลายเครียดและลดวิตกกังวล.
    พยายามคลายเครียดและลดความวิตกกังวล จะช่วยให้ไทรอยด์ดีขึ้นได้[17] ทำกิจกรรมชวนผ่อนคลาย เช่น วาดรูป ระบายสี หรือเย็บปักถักร้อย ไม่ก็หางานอดิเรกที่ชอบจริงๆ ทำแล้วลืมเครียดลืมกังวลไปเลย การออกกำลังกายก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยคลายเครียดได้ดี[18]
    • ลองทำสมาธิ ฝึกการหายใจ หรือเข้าคลาสโยคะอาทิตย์ละครั้งดู จะช่วยคลายความตึงเครียดได้
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Damaris Vega, MD
ร่วมเขียน โดย:
นักวิทยาต่อมไร้ท่อที่มีใบรับรอง
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Damaris Vega, MD. ดร. ดามาริส เวก้า เป็นนักวิทยาต่อมไร้ท่อที่มีใบรับรองจากคณะกรรมการ เธอสำเร็จการศึกษาด้วยเกียรตินิยมอันดับสองจาก Pontifical Catholic University of Puerto Rico ระดับปริญญาตรีวิทยาศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไป และต่อมาได้รับปริญญาโทแพทย์ศาสตร์มหาบัณฑิตจาก Ponce School of Medicine ที่ปอนเซ เปอร์โตริโก ระหว่างเรียนที่โรงเรียนแพทย์ ดร. เวก้าดำรงตำแหน่งประธานของ Alpha Omega Alpha Medical Honor Society และได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของโรงเรียนสำหรับ American Association of Medical Colleges จากนั้นเธอได้สำเร็จการฝึกหัดความชำนาญด้านอายุรศาสตร์และทุนการศึกษาด้านวิทยาต่อมไร้ท่อ เบาหวาน แร่ธาตุ และการเผาผลาญที่ The University of Texas Southwestern Medical School ดร. เวก้าได้รับการยอมรับในด้านการดูแลผู้ป่วยที่ดีเยี่ยมหลายครั้งจาก National Committee for Quality Assurance และได้รับรางวัล Patients' Choice Award ในปีพ.ศ. 2551, 2552 และ 2558 เธอเป็นสมาชิกของ American College of Clinical Endocrinologists และเป็นสมาชิกสามัญของ American Association of Clinical Endocrinologists, American Diabetes Association และ Endocrine Society ดร.เวก้ายังเป็นผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Houston Endocrinology Center รวมทั้งเป็นผู้ตรวจสอบหลักสำหรับการทดลองทางคลินิกหลายครั้งที่ Juno Research, LLC บทความนี้ถูกเข้าชม 2,805 ครั้ง
หมวดหมู่: สุขภาพ
มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,805 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา