ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

หัวเข่าอาจจะบวมจากการบาดเจ็บของเอ็นกล้ามเนื้อ เอ็นยึด หรือหมอนรองกระดูกเข่า ปัญหาทางการแพทย์อื่นๆ เช่น โรคข้ออักเสบ อาจจะเป็นสาเหตุของการบวมในข้อเข่า แม้แต่การใช้งานมากเกินไปก็สามารถทำให้หัวเข่าของคุณบวมได้ อาการบวมนั้นอาจจะอยู่ในข้อเข่าหรือในเนื้อเยื่อโดยรอบ คนเรียกอาการหลังว่า "น้ำในข้อเข่า" หลังจากคุณวินิจฉัยอาการหัวเข่าบวมแล้ว คุณอาจจะลองการรักษาที่ทำเองได้ที่บ้าน ถ้าหัวเข่าของคุณยังบวมหรือเจ็บ คุณควรจะไปพบผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและการรักษา

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

การวินิจฉัยหัวเข่าบวม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เปรียบเทียบหัวเข่าข้างที่มีอาการกับหัวเข่าอีกข้างหนึ่งของคุณ....
    เปรียบเทียบหัวเข่าข้างที่มีอาการกับหัวเข่าอีกข้างหนึ่งของคุณ. มองหาอาการบวมรอบๆ กระดูกสะบ้าหัวเข่าหรือรอบๆ ด้านข้างหัวเข่า การเปรียบเทียบหัวเข่าทั้งสองข้างนี้เป็นวิธีที่ดีที่จะเช็คเพื่อดูว่ามีอาการบวมหรือรอยแดงหรือไม่ และดูว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่
    • อาจจะมีอาการบวมที่ด้านหลังหัวเข่าของคุณอีกด้วย ซึ่งนี่อาจจะส่งสัญญาณของอาการก้อนปมหลังหัวเข่า ซึ่งเกิดเมื่อของเหลวส่วนเกินถูกดันเข้าไปในเนื้อเยื่อที่อยู่ด้านหลังหัวเข่าของคุณ สามารถก่อให้เกิดอาการบวมที่ด้านหลังหัวเข่าของคุณได้ ซึ่งอาจจะแย่ลงตอนที่คุณยืนขึ้น[1]
    • ถ้าหัวเข่าข้างที่มีอาการนั้นเป็นสีแดงกว่าและเมื่อสัมผัสแล้วรู้สึกอุ่นกว่าหัวเข่าอีกข้างหนึ่งแล้วล่ะก็ ให้ไปพบแพทย์
  2. How.com.vn ไท: Step 2 งอและยืดขาของคุณ.
    ถ้าคุณรู้สึกไม่สบายตอนคุณขยับขาล่ะก็ คุณอาจจะมีอาการบาดเจ็บในระดับที่ต้องได้รับการรักษา ซึ่งความรู้สึกไม่สบายนี้อาจจะเป็นความเจ็บปวดหรือความฝืดตึง ความฝืดตึงนี้มักจะเนื่องมาจากของเหลวในหัวเข่าของคุณ[2]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ทดสอบการเดินทิ้งน้ำหนักบนขาของคุณ.
    ขาที่ได้รับบาดเจ็บอาจจะเจ็บเวลายืนบนขาข้างนั้น ให้ลองทิ้งน้ำหนักตัวลงบนขาของคุณและเดินเพื่อดูว่าขาของคุณสามารถรับมือกับการออกกำลังกายที่ต้องแบกรับน้ำหนักได้หรือไม่
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ไปพบแพทย์.
    แม้ว่าคุณอาจจะสามารถวินิจฉัยอาการบวมในหัวเข่าของคุณได้ แต่คุณก็อาจจะไม่รู้สาเหตุที่แน่นอนเบื้องหลังอาการบวมนั้น ทางที่ดีที่สุดให้ไปตรวจกับแพทย์ถ้าอาการบวมนั้นเป็นติดต่อกัน เจ็บ หรือไม่หายไปภายในสองสามวัน
    • บางภาวะที่เป็นไปได้ที่ก่อให้เกิดอาการหัวเข่าบวมนั้นรวมไปถึง การได้รับบาดเจ็บ เช่น เส้นเอ็นหรือกระดูกอ่อนฉีก การระคายเคืองจากการออกแรงที่หัวเข่าของคุณมากเกินไป โรคกระดูกพรุน โรคไขข้ออักเสบ โรคเกาต์ การติดเชื้อ เบอร์ไซติส(bursitis) หรือภาวะอื่นๆ [3]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

การรับการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 นัดกับแพทย์.
    ไปพบแพทย์ถ้ามีอาการบวมอย่างมากหรือถ้าคุณไม่สามารถทิ้งน้ำหนักบนหัวเข่าได้ คุณควรไปพบแพทย์ถ้ามีความผิดปกติใดๆ ที่เห็นได้ชัด หรือถ้าคุณมีไข้และมีสีแดงบนหัวเข่าของคุณซึ่งอาจจะบ่งบอกถึงการติดเชื้อ อีกทั้งให้พบแพทย์ถ้าคุณไม่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นหลังจากประมาณ 4 วัน เพราะว่าเอ็นของคุณอาจจะได้รับความเสียหาย
    • แพทย์จะประเมินหัวเข่าของคุณเพื่อตรวจสอบว่าภาวะอะไรที่เป็นสาเหตุของอาการบวม เขาอาจจะจัดการทดสอบที่เห็นด้วยภาพ เช่น เอ็กซ์เรย์ อัลตราซาวด์ หรือเอ็มอาร์ไอ (MRI) การทดสอบเหล่านี้จะเป็นการตรวจสอบกระดูก เส้นเอ็น หรือการบาดเจ็บต่างๆ ของเอ็น
    • ขั้นตอนอื่นที่แพทย์อาจจะลองทำก็คือการดูดของเหลวในข้อเข่าออกมาเพื่อตรวจสอบหาการติดเชื้อโดยอิงอยู่กับจำนวนของเซลล์เม็ดเลือดขาวและแบคทีเรียที่อยู่ในของเหลวนั้น[4]
    • แพทย์อาจจะฉีดสเตียรอยด์เข้าไปในหัวเข่าของคุณเพื่อพยายามลดอาการบวม
  2. How.com.vn ไท: Step 2 สอบถามเกี่ยวกับการผ่าตัด.
    ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภาวะที่ก่อให้เกิดอาการหัวเข่าบวม แพทย์อาจจะแนะนำให้คุณผ่าตัด ประเภทของการผ่าตัดหัวเข่าที่พบได้บ่อยที่สุดได้แก่:[5]
    • การเจาะข้อ: ของเหลวจะถูกนำออกมาจากหัวเข่าเพื่อบรรเทาความดันที่ข้อเข่า
    • การส่องกล้องในข้อ: เนื้อเยื่อที่หย่อนหรือเสียหายจะถูกนำออกจากบริเวณรอบๆ หัวเข่า
    • การเปลี่ยนข้อเข่า: คุณอาจจะได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าได้ถ้าเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าหัวเข่าของคุณไม่ดีขึ้นและคุณมีอาการปวดหัวเข่ามากเกินที่จะทนได้แล้ว
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ไปพบนักกายภาพบำบัด.
    แพทย์ของคุณอาจจะแนะนำให้ทำกายภาพบำบัด นักกายภาพบำบัดจะตรวจสอบขาของคุณ และจะให้คุณออกกำลังกายเฉพาะที่อีกด้วยโดยจะยึดตามสภาพของคุณเป็นหลัก ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าให้แข็งแรงขึ้น
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ไปพบแพทย์รักษาโรคกระดูก.
    ปัญหาเกี่ยวกับเท้า เช่น เท้าแบนและภาวะอื่นๆ อาจจะเป็นสาเหตุของอาการปวดและบวมที่หัวเข่า ไปพบผู้เชี่ยวชาญด้านเท้าและขอให้ตรวจประเมินเท้าของคุณ เขาอาจจะแนะนำให้คุณใส่กายอุปกรณ์ ซึ่งเป็นที่สำหรับสอดเข้าไปข้างในรองเท้าของคุณ[6]
    • แพทย์รักษาโรคกระดูกอาจจะต้องประเมินหลังและสะโพกของคุณด้วย อาการปวดที่เกิดจากหลัง สะโพก หรือเท้านั้นเรียกว่า อาการปวดต่างที่
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

การป้องกันหัวเข่าบวม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 สวมที่รองหัวเข่า.
    ถ้าคุณใช้เวลาส่วนมากนั่งบนหัวเข่าของคุณ เช่น การจัดสวนหรือทำงานบ้าน ให้สวมที่รองหัวเข่า
    • ถ้าเป็นไปได้ให้ "พักย่อยๆ " เป็นเวลา 10-20 วินาทีบ่อยๆ ในช่วงเวลาพักเหล่านี้ ให้ยืนขึ้นและยืดขาของคุณ ปล่อยให้ขาของคุณกลับไปอยู่ในตำแหน่งสบายๆ[7]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 หลีกเลี่ยงการงอเข่าและการนั่งยองๆ .
    ควรหลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวซ้ำๆ ที่ใช้หัวเข่าของคุณ ถ้าคุณอยากป้องกันไม่ให้หัวเข่าบวม
  3. How.com.vn ไท: Step 3 งดการออกกำลังกายและกีฬาที่มีแรงกระแทกสูง.
    กีฬาหลายประเภทโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเภทที่ต้องการการกระโดดและการวิ่งมากๆ จะสามารถเป็นอันตรายต่อหัวเข่าของคุณได้ ให้หลีกเลี่ยงการเล่นสกี สโนว์บอร์ด วิ่ง และบาสเกตบอล จนกว่าหัวเข่าของคุณจะหายสนิทแล้ว[8]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 กินอาหารที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ.
    อาหารของคุณอาจจะเป็นสาเหตุของความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของอาการบวมในหัวเข่าของคุณหรือที่อื่นๆ ในร่างกายของคุณ พยายามอยู่ให้ห่างจากอาหารแปรรูป ทอด หรือมีน้ำตาล และกินผลไม้ ผัก โปรตีน และธัญพืชให้มากขึ้น
    • กรดไขมันโอเมก้า-3 มีคุณสมบัติต้านการอักเสบสูง กินปลาแซลมอนและปลาทูน่าให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มกรดไขมันโอเมก้า-3 ให้คุณเอง [9]
    • ลองกินอาหารเมดิเตอร์เรเนียน อาหารประเภทนี้อุดมไปด้วยโปรตีนที่มีไขมันต่ำ เช่น ปลาและไก่ และยังมีผัก น้ำมันมะกอก และถั่วเป็นจำนวนมากอีกด้วย
  5. How.com.vn ไท: Step 5 หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่.
    การสูบบุหรี่จะลดการไหลเวียนของออกซิเจนและเลือดในร่างกายของคุณ ซึ่งนี่จะจำกัดความสามารถของเนื้อเยื่อในการซ่อมแซมตัวเองตามลำดับ [10]
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

การลองใช้การรักษาที่ทำได้เองที่บ้าน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 พักหัวเข่า.
    หลีกเลี่ยงการใช้ขาและเดินให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
    • ยกหัวเข่าให้สูงเหนือหัวใจของคุณในขณะที่นอน พาดหัวเข่าและเท้าบนหมอนหรือบนที่วางแขนโซฟา
    • ใช้ไม้ค้ำถ้าเจ็บเวลายืดขาตรงๆ หรือตอนทิ้งน้ำหนักลงบนขา
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ประคบน้ำแข็งที่หัวเข่าของคุณ.
    วางน้ำแข็งลงไปโดยตรงบนส่วนที่บวมของหัวเข่าคุณเป็นเวลา 10-20 นาที ทำแบบนี้วันละ 3 ครั้งเพื่อลดอาการบวม[11]
    • คุณยังสามารถใช้แผ่นประคบเย็นแช่แข็งหรือถุงผักแช่แข็งอย่างเช่น ถั่ว แทนน้ำแข็งได้ด้วย
  3. How.com.vn ไท: Step 3 หลีกเลี่ยงความร้อนในช่วง 48 ชั่วโมงแรก.
    ถ้าคุณได้รับบาดเจ็บที่ส่งผลให้หัวเข่าบวม ให้หลีกเลี่ยงการวางสิ่งที่มีความร้อนบนหัวเข่าของคุณ ซึ่งนี่รวมถึงการประคบร้อน การอาบน้ำอุ่นด้วยฝักบัว หรืออ่างอาบน้ำด้วย[12]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ใช้ผ้าพันเคล็ดรัดข้อ.
    พันหัวเข่าของคุณด้วยผ้าพันเคล็ดยางยืดเพื่อรัดข้อ ซึ่งนี่จะช่วยลดอาการบวม ลองใช้ผ้าพันเคล็ดยางยืดกับตัวตะขอที่เกี่ยวผ้าพันเคล็ดเพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องใช้เข็มกลัด
    • คุณสามารถซื้อผ้าพันเคล็ดได้ตามร้านขายยาทั่วไป
    • ระวังอย่าพันหัวเข่าของคุณจนแน่นเกินไป ถ้าคุณรู้สึกว่ามีอาการชา อาการเป็นเหน็บ มีสีแปลกๆ หรือมีอาการปวดเพิ่มขึ้น แปลว่าคุณพันผ้าพันเคล็ดแน่นเกินไป
  5. How.com.vn ไท: Step 5 นวดหัวเข่าของคุณเบาๆ.
    การนวดอย่างเบามืออาจจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปที่หัวเข่าของคุณ ถ้าเจ็บก็ให้งดเว้นจากการนวดที่บริเวณนี้[13]
  6. How.com.vn ไท: Step 6 บรรเทาความเจ็บปวดด้วยยาแก้ปวดที่ขายตามร้านขายยาทั่วไป....
    บรรเทาความเจ็บปวดด้วยยาแก้ปวดที่ขายตามร้านขายยาทั่วไป. ลองใช้ยาต้านการอักเสบ เช่น แอสไพริน อะเซตามิโนเฟน (acetaminophen) นาพรอกเซน (naproxen) หรือ ไอบูโปรเฟน (ibuprofen) ทั้งหมดเป็นยาต้านการอักเสบกลุ่มไม่มีสเตียรอยด์ (NSAID)[14]
    • เมื่อกินยาบรรเทาปวดประเภทนี้ ให้แน่ใจว่าปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้ยาบนฉลากอย่างระมัดระวังด้วย
    • คุณยังสามารถลองใช้ยาแก้ปวดที่ใช้เฉพาะที่ได้ด้วย คุยกับเภสัชกรเพื่อให้ใช้ยาได้อย่างเหมาะสม คุณสามารถลองใช้แผ่นแปะที่มีส่วนผสมของยาชาลิโดเคน (lidocaine) เพื่อบรรเทาอาการปวดได้อีกด้วย
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Jonathan Frank, MD
ร่วมเขียน โดย:
ศัลยแพทย์เวชศาสตร์การกีฬาออร์โธปิดิกส์และผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลรักษาข้อ
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Jonathan Frank, MD. ดร.โจนาธาน แฟรงค์เป็นศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ในเบเวอร์ลีฮิลส์ แคลิฟอร์เนีย เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การกีฬาและการดูแลรักษาข้อ โดยการรักษาของเขาจะเน้นไปที่การผ่าตัดเข่า ไหล่ สะโพก และข้อศอกโดยวิธีส่องกล้องแบบแผลเล็ก เขาสำเร็จการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแองเจลิส จากนั้นก็สำเร็จหลักสูตรประกาศนียบัตรแพทย์ประจำบ้านฯ สาขาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์จากศูนย์การแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยรัชในชิคาโก และหลักสูตรการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านต่อยอดเพื่อวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญ อนุสาขาเวชศาสตร์การกีฬาออร์โธปิดิกส์และการดูแลรักษาสะโพกจากคลินิกสตีดแมนในเวล โคโลราโด นอกจากนี้เขายังเป็นแพทย์ดูแลนักกีฬาสกีและสโนว์บอร์ดทีมชาติสหรัฐอเมริกาอีกด้วย ปัจจุบันเขาเป็นผู้ประเมินบทความวิทยาศาสตร์ให้กับวารสารวิทยาศาสตร์ชั้นนำ และงานวิจัยของเขาก็ได้รับการนำเสนอในงานสัมมนาด้านออร์โธปิดิกส์ระดับภูมิภาค ประเทศ และนานาชาติ และได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย รวมถึงรางวัล Mark Coventry และ William A Grana อันทรงเกียรติด้วย บทความนี้ถูกเข้าชม 93,617 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 93,617 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา