วิธีการ ปรุงรสสเต็ก

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

ใช้เครื่องปรุงธรรมดา

ใช้การผสมผสานเครื่องปรุงต่างๆ

ปรุงสเต็กให้สุก

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

สเต็กวัวชั้นเลิศกับขอบนอกกรุบกรอบและเนื้อในแสนนุ่มลิ้นย่อมต้องมากับการปรุงรสที่เหมาะสม เคล็ดลับการปรุงรสสเต็กนั้นรวมไปถึงช่วงเวลาที่แม่นยำและการใช้เครื่องปรุงปกคลุมเนื้อให้ทั่วด้วย ในการปรุงรสให้อร่อยนั้น ต้องใช้เครื่องเทศบดกับน้ำมันนั่นเอง

ขั้นตอน

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 3:

ใช้เครื่องปรุงธรรมดา

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ทิ้งสเต็กไว้ในอุณหภูมิห้อง. ซับสเต็กให้แห้งด้วยกระดาษทิชชู่ และทิ้งเอาไว้ในอุณหภูมิห้องขณะที่อยู่ในกระบวนการการปรุงรส ใช่แล้ว มันต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นสักหน่อยเพื่อที่จะได้มาซึ่งสเต็กที่สมบูรณ์ แต่เพื่อผลลัพธ์ที่จะได้มาซึ่งสเต็กที่นุ่มขึ้น ฉ่ำน้ำมากขึ้น และว่ากันว่าใช้เวลาในการปรุงสุกน้อยลงด้วย เวลาที่เพิ่มขึ้นนิดหน่อยนั่นก็ถือว่าคุ้มค่าล่ะ

   • ทำไมต้องทิ้งให้สเต็กอยู่ในอุณหภูมิห้องก่อนจะนำไปปรุงสุก? ก่อนอื่นเลย สเต็กที่อยู่ในอุณหภูมิห้องจะสามารถปรุงสุกได้ทั่วถึงกันมากกว่า แน่นอนว่ามันจะไม่ออกมาร้อนนอกเย็นในแน่ๆ และข้อสอง มันจะใช้เวลาในการปรุงสุกได้ไวขึ้น นั่นหมายความว่า ไม่ต้องคอยมานั่งหน้าเตา กระทะ หรือเตาอบนานๆ แต่มีเวลาเหลือไปจิบไวน์คู่กับสเต็กแทน
   • การที่เอาเนื้อสเต็กมาวางในอุณหภูมิห้องจะส่งผลให้รสชาติแย่ลงหรือไม่ คำตอบคือ ไม่ การปล่อยทิ้งให้สเต็กอยู่ในอุณหภูมิห้องประมาณ 30 ถึง 60 นาทีนั้นไม่ได้ส่งผลอะไรกับรสชาติหรือกลิ่นของเนื้อเลย และย่อมไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เนื้อออกมาไม่ดีด้วย ถึงแบคทีเรียจะเพิ่มจำนวนขึ้นได้ถ้าหากว่าวางทิ้งเอาไว้นานๆ แต่แบคทีเรียเหล่านั้นก็ตายได้เมื่อเจอความร้อนที่เหมาะสมอยู่ดี
2. 
   2
   ปรุงรสสเต็กด้วยเกลือประมาณ ¾ - 1 ช้อนชาต่อเนื้อ 453 กรัม โดยโรยทั้งสองด้าน. เมื่อคุณไม่สามาระระบุได้ว่า "ใส่เกลือเพื่อเพิ่มรสชาติ" นั้นควรใส่ในปริมาณแค่ไหนถึงจะพอดี พ่อครัวหลายๆ คนจึงแนะนำสูตรนี้ในการปรุงเนื้อสเต็กเตรียมเอาไว้ก่อนนั่นเอง

   • โรยเกลือใส่เสต็กอย่างน้อย 40 นาทีก่อนจะเริ่มปรุงสุก ส่วนใหญ่คนจะโรยเกลือลงไปแล้วโยนเนื้อลงเตาทันที แต่เพราะเกลือมีคุณสมบัติดูดความชื้นได้ มันจะดูดความชื้นออกจากเนื้อสเต็ก ซึ่งก็จะหลุดร่วงออกจากเนื้อทันที แล้วมันก็จะทำให้เนื้อสเต็กออกมาไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ แทนที่จะโรยเกลือแล้วย่างเลย ให้โรยทิ้งไว้อย่างน้อย 40 นาทีถึงหนึ่งชั่วโมงก่อน เพื่อให้ความชื้นย้อนกลับเข้าไปในสเต็กและทำให้เนื้อนุ่มนั่นเอง
   • เมื่อคุณโรยเกลือก่อนจะปรุงสุกเป็นเวลา 40 นาที ความชื้นที่ถูกเกลือดึงออกมาที่ผิวสเต็กนั้นจะซึมกลับเข้าไปในเนื้อ กระบวนการนี้เรียกว่าออสโมซิส และมันจะค่อยๆ เป็นไปช้าๆ มาก ซึ่งนั่นทำให้กินเวลานานนั่นเอง น้ำที่ย้อนกลับเข้าไปในเนื้อก็จะมีรสชาติของเกลือด้วยนะ
   • กระบวนการนี้ยังช่วยทำให้เนื้อนุ่มด้วยการไปแตกสลายโปรตีน ทำให้ได้สเต็กที่นุ่มขึ้น และยังฉ่ำน้ำมากขึ้นอีกด้วย
3. 
   3
   หลังจากที่ทิ้งสเต็กไว้ในอุณหภูมิห้องและโรยเกลือพอดีแล้ว ให้ใช้น้ำมันทาให้ทั่วผิวนอกของเนื้อ. น้ำมันมะกอกนั้นมีรสชาติที่แตกต่างและให้ความสดชื่นจนบรรดาเหล่าพ่อครัวแม่ครัวต่างก็ยกนิ้วให้ แม้ว่าคุณจะชอบน้ำมันธรรมชาติชนิดอื่น อย่างน้ำมันถั่วลิสงหรือน้ำมันคาโนลามากกว่าก็ตาม อย่าใช้น้ำมันมากกว่าหนึ่งช้อนชาต่อเนื้อที่หนัก 453 กรัมล่ะ
4. 
   4
   ตัดสินใจว่าจะโรยพริกไทยก่อนหรือหลังปรุงเนื้อสเต็กจนสุกแล้ว. พ่อครัวหลายๆ คนชอบที่จะปรุงพริกไทยหลังจากที่ปรุงสเต็กสุกแล้ว นั่นก็เพราะพริกไทยอาจไหม้ขณะที่ทำการปรุงเนื้อให้สุกได้ และทำให้เกิดรสไหม้ขึ้นเล็กน้อย พ่อครัวบางคนก็ไม่สนว่ากลิ่นมันจะไหม้หรือไม่ เพียงแค่เชื่อว่ามันจะให้รสชาติของสเต็กที่แท้จริง ส่วนคุณ จะลองทั้งสองวิธีเพื่อดูว่าวิธีไหนออกมาดีที่สุดสำหรับคุณก็ได้นะ

   • เพื่อรสชาติที่ดีที่สุด ให้ใช้ที่บดพริกไทยทำการบดพริกไทยด้วยตัวเองทันทีก่อนใช้ อย่าซื้อพริกไทยที่บดก่อนหน้านี้แล้วมาใช้ เพราะมันอาจเป็นของเก่าของค้างไว้นาน พริกไทยที่บดสดๆ ใหม่ๆ จะทำให้โลกเปลี่ยนไปเลยล่ะ
5. 
   5
   ปล่อยให้เนื้อดีๆ ทำหน้าที่ของมัน. ชิ้นเนื้อดีๆ ย่อมไม่ต้องการการปรุงรสหรือการหมักมากนักเพื่อให้มันออกมาอร่อยแต่อย่างใด อันที่จริง เนื้อดีๆ อาจมีรสชาติแย่ลงหลังจากหมักสมุนไพร หมักเพิ่มกลิ่น และพวกเครื่องเทศก็เป็นได้ ถ้าคุณจะทอดเนื้อทีโบนหรือพอร์เตอร์เฮาส์ชั้นดี หรือย่างฟิเลมิยอง ให้เน้นไปที่รสชาติดั้งเดิมของมันเพื่อผลลัพธ์ที่ออกมาดีที่สุดจะดีกว่า
   โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 3:

ใช้การผสมผสานเครื่องปรุงต่างๆ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ทำเครื่องปรุงสเต็กสไตล์ Montreal ด้วยตัวเอง. เครื่องปรุงสเต็กสไตล์ Montreal ถือเป็นเครื่องปรุงสเต็กแบบดั้งเดิมที่ใช้กันเสียส่วนใหญ่ มีความเข้มข้นพอที่จะดึงรสชาติของเนื้อ แต่ก็ละเอียดอ่อนพอที่จะไม่กลบรสนั้น ถ้าหากว่าคุณมีส่วนผสมเหล่านี้พร้อมอยู่ในครัวแล้ว ทำไมไม่ลองทำดูเองซะเลยล่ะ? สำหรับส่วนผสมก็มีดังนี้เลย

   • พริกไทยดำป่น 2 ช้อนโต๊ะ
   • เกลือโคเชอร์ 2 ช้อนโต๊ะ
   • ผงปาปริก้า 1 ช้อนโต๊ะ
   • กระเทียมป่น1 ช้อนโต๊ะ
   • หัวหอมป่น 1 ช้อนโต๊ะ
   • ผักชีสับ 1 ช้อนโต๊ะ
   • ผักชีลาว1 ช้อนโต๊ะ
   • พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
2. 
   2
   ลองอะไรใหม่ๆ ด้วยส่วนผสมจากขมิ้น. ขมิ้นเป็นเครื่องเทศสีเหลืองที่อยู่ในวงศ์ตระกูลเดียวกับขิง มักจะใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารในแถบตะวันออกเฉียงใต้ ถ้าคุณอยากให้สเต็กออกมารสชาติไม่เหมือนแบบทั่วไป ให้ลองปรุงกับเครื่องเทศเหล่านี้ดูสิ

   • เกลือ 4 ช้อนชา หรือแค่เพื่อเพิ่มรสชาติ
   • ผงปาปริก้า 2 ช้อนชา
   • พริกไทยป่น 1 1/2 ช้อนชา
   • ผงหัวหอม 3/4 ช้อนชา
   • ผงกระเทียม 3/4 ช้อนชา
   • พริกคาแยนป่น 3/4 ช้อนชา
   • ผักชีป่น 3/4 ช้อนชา
   • ขมิ้นป่น 3/4 ช้อนชา
3. 
   3
   ลองปรุงหรือ"ถู"เข้ากับกาแฟป่นสักหน่อย. กาแฟนั้นให้ทั้งกลิ่นและรสชาติกับเนื้อ และเชื่อหรือไม่ว่ามันถือเป็นเครื่องปรุงรสที่แสนวิเศษเลยล่ะ เครื่องปรุงสูตรนี้รวบรวมทุกรสชาติทีละเล็กละน้อย ไม่ว่าจะเป็นความเผ็ด ร้อน หวาน และกลิ่นฉุนหอมๆ

   • เกลือโคเชอร์ 1 ช้อนโต๊ะ
   • พริกไทยดำป่น 1 ช้อนโต๊ะ
   • ผักชีป่น 1 ช้อนโต๊ะ
   • ผงมัสตาร์ด 2 ช้อนชา
   • กาแฟผง 2 ช้อนชา
   • ผงโกโก้ไม่หวาน 1 ช้อนชา
   • ผงพริกแอนโชป่น ½ ช้อนชา
   • อบเชยป่น ½ ช้อนชา
   • กานพลูป่น ½ ช้อนชา
   • พริกคาแยนป่น ⅛ ช้อนชา
   โฆษณา

ส่วน 3

ส่วน 3 ของ 3:

ปรุงสเต็กให้สุก

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ย่างสเต็ก. การย่างสเต็กเป็นวิธีที่ถือเป็นหัวใจในการทำอาหารในหน้าร้อนเลยล่ะ หยิบเบียร์สักแก้วสองแก้ว จุดเตาบาร์บีคิว แล้วจัดเลย ถ้าเป็นไปได้ ให้ใช้ถ่านย่างแทนแก๊สนะ และถ้าจะให้ดีไปกว่านั้น เตาควรจะให้ความร้อนในจุดที่ต่างๆ กันเพื่อผลลัพธ์ออกมาที่ดีที่สุดด้วย!
2. 
   2
   ทอดสเต็ก. อาจเป็นวิธีที่ดูยุ่งยากกว่าการย่างนิดหน่อย การทอดสเต็กจะเป็นวิธีที่ประหยัดเวลากว่า แม้ว่าการทอดจะทำให้สเต็กดีต่อสุขภาพน้อยกว่าวิธีอบย่างหรือย่างบนเตา แต่บางคนที่ชื่นชอบก็ยืนยันว่ามันไม่มีอะไรดีไปกว่าสเต็กที่เพิ่งทอดใหม่ๆ หรอก
3. 
   3
   ย่างสเต็กในเตาอบ. จัดการอบย่างสเต็กเพื่อให้ได้มาซึ่งสเต็กที่ดีต่อสุขภาพและทำได้ง่ายๆ การที่จะปรุงให้สุกด้วยความร้อนสูงๆ ทำให้วิธีนี้ดูเสี่ยงกว่าวิธีอื่นๆ ถ้าหากว่าคุณอาจได้เนื้อชนิดมีเดียมแรร์ แต่ถ้าเกิดว่าทำให้ถูกต้องแล้วล่ะก็ รสชาติของสเต็กอบย่างนี่ก็ไม่มีอะไรเทียบเป็นคู่แข่งได้เลยล่ะ
4. 
   4
   ปรุงสเต็กให้สุกด้วยกระทะ และ เตาอบ. เริ่มด้วยการเอาสเต็กลงกระทะ และจบในเตาอบ เพื่อให้ได้สเต็กฉ่ำน้ำที่เป็นสีน้ำตาลกรอบด้านนอกและชุ่มชื้นอยู่ด้านใน
   โฆษณา

เคล็ดลับ

• ปล่อยให้สเต็กปรับตัวอยู่ในอุณหภูมิห้องก่อนจะนำไปปรุงให้สุก เพื่อกันไม่ให้ไหม้ข้างนอกและไม่สุกด้านใน
• ชนิดของน้ำมันนั้นส่งผลกับการปรุงรสสเต็กอยู่นะ น้ำมันมะกอกจะให้รสชาติที่อ่อนนุ่ม น้ำมันคาโนลาจะให้รสแบบธรรมชาติ น้ำมันถั่วอาจจะหนักไปและจะกลบรสชาติดั้งเดิมของเนื้อเอาได้
• บดเม็ดพริกไทยด้วยที่บดหรือใช้ก้นกระทะบดเพื่อให้ได้มาซึ่งรสชาติพริกไทยที่เยี่ยมยอดที่สุด
• พักสเต็กทิ้งไว้หลังปรุงสุกแล้วในเวลาไล่ๆ กับเวลาที่ใช้ปรุงมันให้สุก เพื่อทำให้น้ำซึมกลับเข้าไปในเส้นใยของเนื้อ และทำให้สเต็กชุ่มฉ่ำยิ่งขึ้น

โฆษณา

คำเตือน

• เนื้อเปียกๆ พอนำไปปรุงสุกขอบก็จะไม่กรอบเอานะ ถ้าขณะที่พักเนื้อเอาไว้อยู่ แล้วเนื้อเกิดความชื้นขึ้นมา ก็ให้ซับให้แห้งก่อนที่จะทาน้ำมันหรือปรุงรสให้มันใหม่
• เนื้อวัวดิบอาจเป็นแหล่งให้แบคทีเรียเจริญเติบโตอยู่ ฉะนั้นให้ล้างมือหลังจากที่จับและปรุงรสเนื้อดิบเพื่อป้องกันไม่ให้เผลอนำมันเข้าไปในร่างกาย หรือไปปนเปื้อนกับอาหารและเครื่องครัวอื่นๆ

โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

• เกลือ
• พริกไทย
• น้ำมัน
• จานใบใหญ่
• ตะแกรงลวดพักอาหาร