วิธีการ ทำสเต็กด้วยกระทะ

ถ้าอยากกินสเต็กอร่อยๆ ถึงที่บ้านไม่มีเตาย่างก็ทำได้! คุณทำสเต็กกินเองง่ายๆ ได้ด้วยกระทะทอดหรือย่างนี่แหละ โดยเตรียมเนื้อสเต็กชิ้นหนา 1 นิ้ว (2 - 3 ซม.) ขึ้นไป เพราะจะอร่อยสุด จากนั้นจี่ในกระทะด้านละ 3 - 6 นาที ปรุงรสให้อร่อยโดยราดเนยและเครื่องเทศตามชอบ ส่วนเครื่องเคียงก็เป็นมันบด บรอคโคลี่ และสลัด กับไวน์แดงสักแก้ว เท่านี้ก็ฟินสุดๆ ไปเลย!

ส่วนประกอบ

เนื้อสเต็ก (หนาอย่างน้อย 1 นิ้ว (2 - 3 ซม.))
เกลือ
พริกไทย
เครื่องเทศ (ตามชอบ)
น้ำมันคาโนล่าหรือน้ำมันพืช
เนย

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 3:

เตรียมเนื้อและกระทะ

ดาวน์โหลดบทความ

1
ใช้เนื้อสเต็กไร้กระดูก หนาประมาณ 1 นิ้ว (2 - 3 เซนติเมตร). แนะนำสเต็กชิ้นไม่หนาเกินไป จะออกมาดีสุด เพราะปรุงสุกได้ทั่วถึงทั้ง 2 ด้าน ที่สำคัญเนื้อต้องสดเพื่อรสชาติที่ดี หรือจะนำสเต็กที่แช่แข็งไว้มาละลายก่อนนำไปจี่ในกระทะก็ได้^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าสเต็กฉ่ำมาก น้ำเยอะ ให้ซับจนแห้งก่อนค่อยลงกระทะ
- เนื้อส่วนที่แนะนำสำหรับคนทำทอดหรือจี่สเต็กด้วยกระทะ คือริปอาย, New York strip และ filet mignon^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
2
หมักเนื้อก่อน เพื่อให้รสชาติเข้าเนื้อ (ไม่บังคับ). เอาเนื้อใส่ถุงหรือภาชนะที่เป็นแก้ว จากนั้นหมักด้วยวัตถุดิบตามชอบ เสร็จแล้วปิดถุงหรือภาชนะนั้น แล้วเอาใส่ตู้เย็น แช่ไว้สัก 2 ชั่วโมงขึ้นไป^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ใช้น้ำหมักประมาณ 1/2 ถ้วยตวง (120 มล.) ต่อเนื้อ 450 กรัม
- ถ้าหมักเนื้อไว้ข้ามคืนได้จะดีที่สุด
- ถ้าในน้ำหมักมีส่วนผสมที่เป็นกรด แอลกอฮอล์ หรือเกลือ ก็อย่าหมักนานเกิน 4 ชั่วโมง เพราะจะทำให้เนื้อเสียรสชาติได้
- ถ้าหมักเนื้อด้วยน้ำผลไม้รสเปรี้ยว อย่างมะนาวหรือเลมอน ก็อย่าทิ้งไว้นานเกิน 2 ชั่วโมง เพราะน้ำหมักที่มีความเป็นกรดจะทำให้เนื้อเปลี่ยนสีได้
3
โรยเกลือโคเชอร์ 1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม) ใส่สเต็กทั้ง 2 ด้าน. เกลือจะขับรสตามธรรมชาติของสเต็กออกมา ช่วยให้สเต็กสุกเป็นสีน้ำตาลสวยเท่ากัน เกลือนี่แหละที่ทำให้ย่างสเต็กออกมาเป็นสีน้ำตาลดูน่ากิน^{[4]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- โรยเกลือแล้วทิ้งสเต็กไว้ข้ามคืน ถ้าอยากให้สเต็กออกมารสดีที่สุด และมีเวลาพอ
- ถ้าสเต็กหมักเกลือไว้ 40 นาทีก่อนปรุงสุก ก็จะได้รสพอประมาณ
- ถ้ากำลังเตรียมสเต็กพร้อมปรุง ให้โรยเกลือทันทีก่อนลงกระทะ จะช่วยให้สเต็กรสดีขึ้น แต่เนื้อก็จะไม่นุ่มเท่าหมักเกลือไว้ข้ามคืน
- หรือจะปรุงรสเพิ่มเติมด้วยพริกไทยดำ ผงกระเทียม หรือใบไทม์ก็ได้
4
ให้สเต็กเท่าอุณหภูมิห้องแล้วค่อยลงกระทะ. เอาเนื้อออกจากตู้เย็น ทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องประมาณ 30 - 60 นาที แล้วค่อยปรุงสุก เนื้อด้านในจะได้สุกทั่วกัน^{[5]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- โดยเฉพาะถ้าสเต็กชิ้นหนา ยิ่งต้องทำขั้นตอนนี้
5
เคลือบก้นกระทะย่างเหล็กหล่อด้วยน้ำมันพืช แล้วตั้งไฟ 1 นาที. ให้น้ำมันพืชเคลือบก้นกระทะทั่วถึงเป็นชั้นบางๆ กระทะจะได้ไม่ไหม้ ระหว่างอุ่นกระทะ ให้ใช้ไฟแรง แล้วรอจนน้ำมันมีควันขึ้นมา^{[6]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- กระทะเหล็กหล่อ กับกระทะที่ใช้ผัดทอดหนักๆ ได้ จะกักความร้อนไว้ต่อ หลังใส่สเต็กลงไป ทำให้เหมาะกับการย่างหรือจี่สเต็กมาก
- ถ้าไม่ใช้น้ำมันพืชหรือน้ำมันคาโนล่า จะใช้น้ำมันมะกอกแทนก็อร่อยและดีต่อสุขภาพเช่นกัน
โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 3:

ปรุงสุก

ดาวน์โหลดบทความ

1
วางสเต็กลงไปตรงกลางกระทะ ทันทีที่น้ำมันมีควันขึ้นมา. พอสังเกตว่าน้ำมันในกระทะมีควันขึ้นมา ก็แปลว่ากระทะร้อนได้ที่ พร้อมทำสเต็กแล้ว ให้เอาสเต็กวางลงไปกลางกระทะได้เลย จะใช้มือหรือที่คีบก็ได้^{[7]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าใช้มือ ระวังอย่าโดนกระทะลวกมือล่ะ!
2
ย่างหรือจี่เสต็กด้านละ 3 - 6 นาที. เวลาที่เหมาะจะใช้ทำสเต็ก ก็ตามแต่อุณหภูมิที่คุณต้องการ และแล้วแต่ขนาดและความหนาของสเต็กชิ้นนั้น แต่โดยทั่วไป จี่ด้านล่ะ 5 นาที ก็เป็นสีน้ำตาลสวยแล้ว^{[8]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าชอบสเต็กออกแดงๆ หน่อย ก็จี่ด้านละน้อยกว่านั้น
- ถ้าชอบแบบสุกๆ เลย ก็ต้องสังเกตว่าด้านนอกของสเต็กเป็นสีน้ำตาลเกรียมๆ แล้วค่อยกลับด้าน
- จะกลับด้านสเต็กทุก 30 วินาทีก็ได้ ถ้าอยากให้สเต็กสุกเร็วๆ
กลับด้านสเต็กครั้งหนึ่ง แล้วจี่อีกด้านต่ออีก 3 - 6 นาที. พอสเต็กด้านแรกเป็นสีน้ำตาลแล้ว ให้ใช้ที่คีบหรือตะหลิว กลับด้านสเต็กแค่ครั้งเดียวช่วยให้สเต็กสีสวยทั้ง 2 ด้าน โดยที่สเต็กชุ่มฉ่ำ เหมาะสำหรับคนที่ชอบสเต็กแบบ rare หรือ medium-rare เพราะตรงกลางจะยังแดงๆ และชุ่มฉ่ำ^{[9]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
4
ใช้ที่วัดอุณหภูมิอาหาร เช็คอุณหภูมิเนื้อ. เอาปลายที่วัดอุณหภูมิอาหาร จิ้มเข้าไปตรงกลางเนื้อสเต็ก แล้วรอให้สเต็กอุณหภูมิห่างจากอุณหภูมิที่ต้องการประมาณ 5 องศา แล้วยกลงจากเตาได้เลย อย่ารอจนสเต็กร้อนถึงอุณหภูมิที่ต้องการ เพราะสเต็กจะยังสุกต่อหลังยกลงจากเตาแล้ว^{[10]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- 50 °C (120 °F) = Rare
- 55 °C (130 °F) = Medium rare
- 60 °C (140 °F) = Medium
- 65 °C (150 °F) = Medium well
- 70 °C (160 °F) = Well done
5
ทดสอบโดยใช้นิ้ว แทนที่วัดอุณหภูมิอาหารก็ได้. แบมือ เอานิ้วกลางกับนิ้วโป้งมาแตะกัน แล้วใช้มือข้างที่ถนัดจิ้มเนินเนื้อด้านล่างของนิ้วโป้งดู แล้วใช้นิ้วเดิมจิ้มสเต็ก ว่าแน่นเท่าๆ กันหรือเปล่า ถ้าสัมผัสใกล้กันมาก แสดงว่าเป็นสเต็กแบบ medium rare! ส่วนอุณหภูมิอื่นๆ ให้เช็คตามต่อไปนี้^{[11]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- Rare: เอานิ้วชี้กับนิ้วโป้งมาแตะกัน
- Medium: เอานิ้วนางกับนิ้วโป้งมาแตะกัน
- Well-done: เอานิ้วก้อยกับนิ้วโป้งมาแตะกัน
โฆษณา

ส่วน 3

ส่วน 3 ของ 3:

หั่นแล้วจัดเสิร์ฟ

ดาวน์โหลดบทความ

1
เอาสเต็กออกจากกระทะ ทิ้งไว้ประมาณ 5 - 15 นาที จะออกมาดีที่สุด. การพักสเต็กไว้ ก็เพื่อให้น้ำของเนื้อไม่ไหลออกเสียเปล่าตอนหั่น พักไว้จะทำให้สเต็กสุกต่ออีกหน่อย^{[12]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้ากลัวสเต็กเย็นชืด ให้ห่อฟอยล์ไว้ หรือเอาใส่เตาอบที่ใช้ไฟต่ำสุด
2
หั่นสเต็กเป็นชิ้นบางๆ โดยหั่นขวางลายเนื้อ. สังเกตทิศทางลายเนื้อ หรือเส้นใยกล้ามเนื้อ ว่าไปทางไหน แล้วใช้มีดหั่นสเต็กคมๆ หั่นเนื้อตัดผ่าน อย่าหั่นขนานไปกับลายเนื้อ^{[13]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- หั่นเนื้อเป็นชิ้นบางๆ ประมาณ 1/2 - 3/4 นิ้ว (1 - 2 ซม.)
3
เสิร์ฟสเต็กพร้อมเครื่องเคียงอร่อยๆ และไวน์. เครื่องเคียงที่เหมาะจะกินกับสเต็กก็เช่น มันบด บรอคโคลี่ ขนมปังกระเทียม และสลัด เป็นต้น ให้เลือกเครื่องเคียงมากินกับสเต็กสัก 1 - 3 อย่าง เท่านี้ก็ได้อาหารมื้ออร่อย แถมดีต่อสุขภาพ ส่วนไวน์แนะนำ cabernet sauvignon จะเข้าที่สุด^{[14]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- หรือกินกับผักอย่างข้าวโพดทั้งฝัก ผักโขม และแอสพารากัส (หน่อไม้ฝรั่ง) ก็ดี
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

กระทะย่างเหล็กหล่อ หรือกระทะหนาหนัก
มีดหั่นสเต็กคมๆ
ที่คีบหรือตะหลิว

เคล็ดลับ

ถ้าทำสเต็กให้คนอื่น แนะนำให้ถามความชอบของเขาก่อน ว่าชอบความสุกขนาดไหน เพราะไม่ใช่ทุกคนที่ชอบสเต็กดิบ (rare) หรือสุกเกินไป (well-done)
จุดที่ควรสังเกต คือสเต็กชิ้นยิ่งหนา ยิ่งใช้เวลานานกว่าจะสุก ไม่เหมือนชิ้นบางๆ แต่ยิ่งสเต็กชิ้นบาง อย่าง skirt steak หรือส่วนท้อง ก็ต้องคอยเฝ้าดีๆ เพราะไม่งั้นจะสุกเกินไป^{[15]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}

โฆษณา