วิธีการ นำปลาหมึกมาทำอาหาร

ปลาหมึกเป็นวัตถุดิบที่ฟังดูอาจน่ากลัวที่จะต้องนำมาประกอบอาหารในตอนแรก แต่ความจริงแล้วมันกลับกันกับหน้าตาอันน่ากลัวนั่นอย่างสิ้นเชิง อาหารทะเลแสนหายากนี่กลับนำมาประกอบอาหารได้ง่ายดาย วิธีที่จะนำปลาหมึกไปประกอบอาหารได้ดีที่สุดนั้น รวมถึงการการนำไปต้มจนเนื้ออ่อนนุ่ม ขณะที่วิธีที่เร็วที่สุดคือการทำให้เนื้อหมึกหยาบและเคี้ยวหนึบ ถ้าหากว่าคุณสนใจที่จะประกอบอาหารโดยใช้เนื้อปลาหมึกที่บ้านด้วยตนเองแล้วล่ะก็ บทความนี้จะกล่าวถึงวิธีการทำสองสามวิธีที่คุณจะใช้ได้

ส่วนประกอบ

ปลาหมึกต้ม

สำหรับ 4 ที่

ปลาหมึกแช่แข็ง 1350 กรัม ละลายน้ำแข็งและหั่นแล้ว
น้ำเปล่า 6 ลิตร
หัวหอม 1 ลูก หั่นเป็นซีก
แครอท 1 อัน หั่นเป็นเต๋า
ต้นหอม 1 ต้น หั่นเป็นชิ้น
ใบเบย์ 2 ใบ
ผักชีฝรั่งสดหั่นฝอย 2 ช้อนโต๊ะ (30 มิลลิลิตร)
ไทม์ (Thyme) สดหั่นฝอย 2 ช้อนโต๊ะ (30 มิลลิลิตร)
พริกไทยดำ 2 ช้อนชา (10 มิลลิลิตร)

ปลาหมึกย่าง

สำหรับ 4 ที่

ปลาหมึกแช่แข็ง 1350 กรัม ละลายน้ำแข็งและหั่นแล้ว
เกลือ เพื่อเพิ่มรสชาติ
พริกไทยดำป่น เพื่อเพิ่มรสชาติ
น้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ (45 มิลลิลิตร) แบ่งออกไว้ใช้หลายครั้ง
เลมอนครึ่งซีก หั่นเป็นซีกๆ
ผักชีฝรั่งสดหั่นฝอย 2 ช้อนโต๊ะ (30 มิลลิลิตร)

ปลาหมึกนึ่ง

สำหรับ 4 ที่

ปลาหมึกแช่แข็ง 1350 กรัม ละลายน้ำแข็งและหั่นแล้ว
น้ำส้มสายชูหมักจากไวน์ขาว 1 ถ้วย (250 มิลลิลิตร)
น้ำ 1 แกลลอน (4 ลิตร)
พริกไทยดำ (Whole black peppercorns) 8 เม็ด
ใบเบย์ 4 ใบ
เกลือ 8 ช้อนชา (40 มิลลิลิตร)

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 4:

ก่อนที่จะเริ่ม: เตรียมปลาหมึกให้พร้อม

ดาวน์โหลดบทความ

1
ละลายน้ำแข็งจากปลาหมึก. ปลาหมึกแช่แข็งสามารถนำมาละลายน้ำแข็งได้ โดยพักไว้นอกตู้เย็นประมาณ 24 ชั่วโมง
- ใช้ปลาหมึกแช่แข็งจะดีกว่าใช้ปลาหมึกสด เพราะการแช่แข็งนั้นจะทำให้เนื้อนุ่มขึ้น ถ้าหากว่าคุณใช้ปลาหมึกสด ก็ให้ใช้ค้อนทุบเนื้อตีเนื้อปลาหมึกเพื่อให้มันนุ่มเสียก่อน
- ก่อนที่จะนำปลาหมึกไปประกอบอาหาร ก็ต้องละลายน้ำแข็งออกให้หมดก่อนนะ
2
เอาหนวดออกจากตัว. ใช้มีดทำครัวคมๆ ตัดหนวดออกทีละหนวดตั้งแต่โคนหนวดมันเลย
- อย่างไรก็ตาม มีสูตรทำอาหารบางสูตรที่ต้องนำปลาหมึกไปทำอาหารก่อนที่จะนำมันมาหั่นเป็นชิ้นๆ ฉะนั้นให้อ่านคำแนะนำในสูตรนั้นๆ ให้ดีก่อนที่จะเริ่มหั่นปลาหมึก
- นำปลาหมึกวางบนพื้นเรียบ หยิบหนวดขึ้นมาหนึ่งหนวดแล้วหั่นออกตั้งแต่โคนหนวด หั่นหนวดอื่นออกด้วยวิธีเดียวกัน
- หากคุณมีกรรไกรสำหรับงานครัวแล้วล่ะก็ จะสามารถตัดหนวดออกได้อย่างง่ายดายกว่าการใช้มีดคมๆ อีก
3
หั่นส่วนกลางและหัวออก. แยกหัวออกจากส่วนกลางของปลาหมึกออกจากกัน จากนั้นหั่นหัวปลาหมึกออกเป็นสองซีก
- ส่วนกลางนั้นจะเชื่อมระหว่างหนวดและหัวของปลาหมึก ซึ่งทั้งแข็งและไม่ได้อร่อยเลย ฉะนั้นจะทิ้งไปก็ได้ ส่วนหัวปลาหมึกควรนำมาประกอบอาหารควบคู่ไปกับหนวด
4
กำจัดปากและถุงน้ำหมึก หากจำเป็น. ถ้าหากว่าคุณซื้อปลาหมึกแช่แข็งมา ก็ไม่จำเป็นต้องจัดการ เพราะว่าปลาหมึกแช่แข็งส่วนใหญ่จะถูกนำอวัยวะเหล่านั้นออกไปแล้วนั่นเอง
- แม้ว่าคุณจะใช้ปลาหมึกสด ก็สามารถขอให้คนขายช่วยจัดการทำความสะอาดปลาหมึกก่อนที่จะห่อให้คุณนำกลับบ้านได้เช่นกัน
- เมื่อแบ่งครึ่งหัวหรือตัวปลาหมึกเรียบร้อยแล้ว เครื่องในและถุงน้ำหมึกก็จะออกมาให้เห็น จากนั้นคุณก็สามารถตัดมันออกและกำจัดมันทิ้งได้ง่ายกว่าเดิม^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ปากอาจยังคงติดอยู่ส่วนกลางแข็งๆ ที่คุณนำออกไปแล้ว ในกรณีนี้ก็ไม่ต้องทำอะไรต่อ แต่ถ้าปากติดอยู่กับตัวปลาหมึก ก็สามารถดึงออกได้โดยการบีบปลาหมึกค่อยๆ เมื่อปากโผล่ออกมาให้เห็น ก็เพียงแค่หั่นมันออกแล้วทิ้งไปก็เรียบร้อย
โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 4:

ปลาหมึกต้ม

ดาวน์โหลดบทความ

1
เติมน้ำและเครื่องต่างๆ ลงหม้อ. ใส่น้ำให้พอดี สูงสัก 2/3 ของความสูงหม้อขนาดใหญ่ ใส่สมุนไพรและผักตามลงไปในหม้อ
- ถ้าหากว่าคุณมีน้ำสต็อกผักอยู่แล้ว ก็สามารถใช้แทนน้ำ ผักและสมุนไพรต่างๆ ที่กล่าวข้างต้นได้ สำหรับผักและสมุนไพรในสูตรนี้ก็เตรียมไว้เพื่อซึมซับเข้าไปเติมรสชาติให้ปลาหมึกนั่นเอง
- สูตรนี้ต้องการหัวหอม แครอท ต้นหอม ใบเบย์ ผักชีฝรั่ง ไทม์ และพริกไทยดำ แต่คุณสามารถเปลี่ยนชนิดของผักและสมุนไพรได้ตามเครื่องที่คุณมีอยู่
2
เริ่มต้มน้ำผัก. ให้ความร้อนระดับสูงจนกว่าจะขึ้นฟองเดือด โดยปล่อยให้มันเดือดประมาณ 5 นาที
- การใส่ผักและสมุนไพรลงในน้ำก่อนที่จะใส่ปลาหมึกตามลงไป จะช่วยดึงรสชาติของเครื่องผักสมุนไพรเหล่านี้เข้าไปในน้ำ เป็นการทำน้ำสต็อกผักในขั้นแรกนั่นเอง
3
ใส่ปลาหมึกลงไป. ใส่ทั้งหนวดและชิ้นส่วนของตัวปลาหมึกลงในน้ำเดือดทั้งหมด น้ำจะหายเดือดชั่วขณะหลังจากที่คุณใส่ปลาหมึกลงไป หลังจากนั้นไม่นานก็จะกลับมาเดือดอีกครั้ง
- สูตรนี้เหมาะที่สุดสำหรับปลาหมึกที่ตัดแบ่งระหว่างหนวดกับหัวออกจากกัน อย่างไรก็ตาม อย่าหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ กว่านี้ไปอีก ถึงจะทำให้สุกได้แต่ถือว่าไม่เป็นที่แนะนำในด้านของหน้าตาอาหาร
4
ปิดฝาแล้วต้มจนกว่าเนื้อจะนุ่ม. ใช้เวลาประมาณ 20 ถึง 45 นาที^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ตรวจสอบเนื้อโดยใช้ส้อมจิ้มหลังจากผ่านไป 5 นาที มันยังไม่สุกดีหรอก แต่การทำแบบนี้จะทำให้คุณรู้ว่าจิ้มลงไปแล้วจะเป็นอย่างไรในตอนที่มันยังดิบอยู่ แล้วมาจิ้มอีกครั้งหลังผ่านไปแล้ว 15 นาที และสังเกตความต่างของความนุ่มของเนื้อปลาหมึก
- เมื่อสุกได้ที่แล้ว เนื้อหมึกจะหลุดออกจากส้อมเมื่อคุณยกมันขึ้นมาจากน้ำต้มแล้ว
5
นำเนื้อหมึกออกมาแล้วเตรียมเสิร์ฟ. ปลาหมึกต้มมักจะเสิร์ฟโดยการหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วเสิร์ฟพร้อมข้าว หรือนำไปคลุกใส่สลัด แต่คุณก็สามารถรับประทานมันเปล่าๆ ได้เช่นกัน
- สามารถเก็บน้ำที่ต้มหมึกเอาไว้ได้ถ้าต้องการ เพื่อนำไว้ใช้เป็นน้ำสต็อคซีฟู้ด
โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 4:

ปลาหมึกย่าง

ดาวน์โหลดบทความ

1
วอร์มเตาอบไว้ที่ 130 องศาเซลเซียส. เตรียมถาดอบแบบมีขอบขนาดใหญ่ที่ปูไว้ด้วยฟอยล์อลูมิเนียม
- ควรเลื่อนตะแกรงเตาอบลงไปในระดับกลางถึงต่ำ เพื่อให้ปลาหมึกได้มีพื้นที่ในเตาอบมากหน่อย
- ส่วนใหญ่จริงๆ แล้ว ขั้นตอนการทำอาหารจะเสร็จสิ้นในเตาอบ การย่างถือเป็นวิธีที่ดีที่จะเพิ่มรสชาติเพิ่มเติมให้กับปลาหมึกได้ แต่วิธีการอบมันไวไป และทำให้เนื้อปลาหมึกไม่นุ่มพอเมื่อใช้แค่วิธีเดียว
2
นำปลาหมึกวางบนถาดอบ. โรยเกลือและนำฟอยล์มาห่อทับ
- ทำฟอยล์ห่อให้หลวมๆ โดยการม้วนขอบของแผ่นฟอยล์ด้านบนเข้ากับขอบของถาดอบ
3
อบจนกว่าเนื้อปลาหมึกจะนุ่ม. อาจใช้เวลาสัก 2 ชั่วโมง เมื่อเสร็จแล้วก็พักไว้ให้มันเย็นตัวลง
- เนื้อปลาหมึกควรนุ่มมากเมื่อจิ้มดูด้วยส้อมหรือมีดขนาดเล็ก
- เมื่อจะทำให้เนื้อปลาหมึกเย็นลง ให้นำฟอยล์ออกเพื่อให้มันเย็นลงไวขึ้น
- หรือว่าคุณจะห่อเนื้อปลาหมึกเอาไว้แล้วแช่เย็นสักประมาณสองวัน แล้วของเหลวจะซึมออกจากเนื้อปลาหมึกเมื่อตอนทำไปทำอาหารก็ได้
4
ตั้งเตาย่าง. ทาตะแกรงย่างด้วยน้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ (15 มิลลิลิตร) บางๆ แล้วจุดเตาย่างใช้ไฟแรงประมาณ 10 นาที
- สำหรับเตาแก๊ส ให้เปิดไฟแรง แล้วตั้งเอาไว้ 10 นาทีเต็มๆ
- สำหรับเตาถ่าน ใส่ถ่านไว้ใต้เตาย่างแล้วจุดไฟเผาไว้จนกว่าจะขึ้นควันสีขาวบนผิวของถ่าน
5
ทาน้ำมันบนปลาหมึก. หลังจากที่ทาน้ำมันลงบนปลาหมึกแต่ละชิ้นแล้ว ให้โรยเกลือและพริกไทยตามเพื่อเพิ่มรสชาติ
- น้ำมันจะทำให้เนื้อปลาหมึกมันเงาและเคี้ยวกรุบกว่าเดิมมาก และมันยังช่วยให้เกลือกับพริกไทยติดกับเนื้อปลาหมึกได้ดีอีกด้วย
6
ย่างปลาหมึกบนเตาย่าง. วางปลาหมึกแต่ละชิ้นลงบนเตาย่าง แล้วย่างประมาณ 4-5 นาที หรือจนกว่าจะขึ้นจุดรอยสีน้ำตาล^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- หลังจากที่วางเนื้อปลาหมึกลงบนตะแกรงแล้ว ให้ปิดเตาและย่างปลาหมึก คุณควรกลับปลาหมึกแค่ครั้งเดียว และทำตอนช่วงกลางๆ ของการย่างปลาหมึก
เสิร์ฟพร้อมน้ำมันมะกอก น้ำเลมอน และผักชีฝรั่ง. เมื่อย่างเสร็จแล้ว สามารถรับประทานได้ทันทีเลย หรือจะหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปรับประทานเคียงกับอาหารอื่นก็ย่อมได้ ถ้าหากว่าคุณต้องการเสิร์ฟเนื้อปลาหมึกล่ะก็ น้ำมัน น้ำเลมอนสด และผักชีฝรั่งนั้นสามารถทำให้ปลาหมึกจานนี้อร่อยขึ้นเป็นกองเลยล่ะ
โฆษณา

วิธีการ 4

วิธีการ 4 ของ 4:

ปลาหมึกนึ่ง

ดาวน์โหลดบทความ

1
ต้มน้ำและน้ำส้มสายชู. ผสมส่วนผสมทั้งสองนี้ในหม้อน้ำซุปขนาดใหญ่ แล้วต้มน้ำด้วยไฟสูง
- คุณสามารถเพิ่มเครื่องผักเครื่องหอมต่างๆ ลงไปในน้ำก่อนที่น้ำส้มสายชูผสมน้ำจะเดือดได้ แต่การปล่อยให้น้ำเดือดก่อนที่จะใส่วัตถุดิบต่างๆ ลงไปจะช่วยเพิ่มจุดเดือดให้สูงขึ้นได้ หรือว่าจะทำให้น้ำเดือดไวขึ้นนั่นเอง
2
ใส่เครื่องหอมลงไป. ผ่าเลมอนครึ่งซีกแล้วบีบน้ำลงในหม้อก่อนที่จะใส่ลูกมะนาวทั้งสองซีกตามลงไปในน้ำ และใส่พริกไทยดำ ใบเบย์ กับเกลือด้วยนะ
- ปรับไฟให้เป็นไฟกลาง และปล่อยให้เครื่องหอมตุ๋นอยู่ในหม้อประมาณ 10 นาที การต้มวัตถุดิบเหล่านี้ให้เดือดก่อนจะทำให้เนื้อปลาหมึกของคุณรสชาติดีขึ้น
3
ลวกปลาหมึก. ใช้ที่คีบคีบปลาหมึกทั้งตัวที่ยังไม่ได้ผ่า หั่น หรืออะไรทั้งสิ้น จุ่มลงในหม้อสามครั้ง โดยค้างให้ปลาหมึกอยู่ใต้น้ำ 5 วินาทีต่อครั้ง
- หรือคุณจะใส่ถุงมือยางหนาๆ แล้วจับหัวปลาหมึกจุ่มลงไปในน้ำเพื่อลวกมันก็ได้
- วิธีนี้เหมาะกับการทำปลาหมึกทั้งตัวที่สุด คุณไม่สามารถลวกปลาหมึกที่หั่นเป็นชิ้นได้หรอก เพราะจุดประสงค์ของวิธีนี้คือการทำให้หนวดปลาหมึกงอตัวขึ้นทันทีหลังจากที่จุ่มลงไปในน้ำร้อนๆ แล้วนั่นเอง
4
นึ่งปลาหมึก. ใส่ปลาหมึกลงไปในน้ำแล้วปรับไฟให้เป็นไฟกลางค่อนไปทางสูง หรือจนกว่าฟองเดือดจะลดเบาบางลง ทิ้งเอาไว้ให้มันสุดประมาณ 30 นาที หรือจนกว่าเนื้อปลาหมึกจะนุ่ม
- เมื่อเนื้อปลาหมึกนุ่มพอที่จะรับประทานได้แล้ว ก็จะสามารถใช้ส้อมจิ้มติดได้นั่นเอง
5
ทำให้เนื้อปลาหมึกเย็นลงและเสิร์ฟ. ปล่อยให้เนื้อปลาหมึกเย็นลงไม่กี่นาที แค่ขอให้เย็นพอที่จะจับได้ก็พอ จากนั้นก็ขอให้อร่อยนะ
- คุณสามารถห่อปลาหมึกและเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานสุด 8 ชั่วโมง
โฆษณา