วิธีการ ทำไอศกรีม

เป็นใครก็ต้องฟิน ถ้ามีไอศครีมหวานมันถ้วยใหญ่อยู่ตรงหน้า จะดีไปกว่านั้นอีก ถ้าต่อไปไม่ต้องซื้อไอศครีมแพงๆ แล้ว เพราะคุณทำเองได้ที่บ้านเลย จะรสไหน ท้อปปิ้งอะไร สร้างสรรค์ได้ตามใจชอบ ส่วนผสมตั้งต้นสำหรับเอาไปทำไอศครีมต่อ มีทั้งแบบคัสตาร์ด (ใส่ไข่) และสไตล์ฟิลาเดลเฟีย (ไม่ใส่ไข่) แต่จุดสำคัญอยู่ที่จะเลือกปั่นหรือไม่ปั่นไอศครีม ถ้ามีเครื่องทำไอศครีมก็ง่ายมาก แต่จะทำไอศครีมแบบปั่นมือก็ไม่ว่ากัน นอกจากนี้ยังมีวิธีใช้ชามทำไอศครีม ใช้ถุงซิปล็อคกับน้ำแข็งและเกลือ หรือจะใช้เครื่องผสมอาหารก็ได้ แต่ถ้าขี้เกียจมานั่งปั่นไอศครีม ก็ทำไอศครีมสูตรไม่ต้องปั่นได้ โดยใช้นมข้นหวานแล้วตีผสมแทน เรียกว่าทำไอศครีมได้สารพัดวิธีเลย!

ส่วนประกอบ

ส่วนผสมตั้งต้นของไอศครีมคัสตาร์ด

นมเต็มมันเนย 3 ถ้วยตวง (700 มล.)
น้ำตาล 1 ถ้วยตวง (200 กรัม)
ไข่แดง 8 ฟอง
เกลือ 1 หยิบมือ
วานิลลา 1 ช้อนชา (5 มล.)

ไอศครีมแบบไม่ต้องปั่น

นมข้นหวานกระป๋อง 14 ออนซ์ (400 กรัม)
วานิลลาสกัดแท้ 2 ช้อนชา (10 มล.)
เกลือละเอียด 1 หยิบมือ
เฮฟวี่ครีมแช่เย็น 2 ถ้วยตวง (450 - 500 มล.)

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 4:

เตรียมส่วนผสมตั้งต้นของไอศครีมคัสตาร์ด

ดาวน์โหลดบทความ

เทนมสดเต็มมันเนย 3 ถ้วยตวง (700 มล.) ลงไปในหม้อขนาดกลาง แล้วยกขึ้นตั้งไฟ อุ่นหรือตุ๋นนมด้วยไฟแรงปานกลางประมาณ 5 นาที หรือจนกว่าจะเดือดพอกรุ่น พอมีฟองผุดที่ผิวหน้าเมื่อไหร่ ให้ยกลงจากเตา แล้วพักไว้จนเย็น จะใช้เฮฟวี่ครีมแทน หรือใช้นมผสมเฮฟวี่ครีมก็ได้^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
สูตรนี้สำหรับทำส่วนผสมตั้งต้นของไอศครีมวานิลลาธรรมดา ถ้าอยากได้ไอศครีมรสอื่นๆ ให้ใส่ส่วนผสมอื่น เช่น สมุนไพร ลาเวนเดอร์ เมล็ดกาแฟ และช็อคโกแลตลงไปในนม เพื่อแช่หรือละลายในนั้นเลย
ใส่ไข่ 8 ฟอง น้ำตาล 1 ถ้วยตวง (200 กรัม) และเกลือ 1 หยิบมือลงไปในชามใบใหญ่ จากนั้นใช้ที่ตีไข่ตีผสมจนเหนียวข้น^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
ปกตินมจะเย็นลงเท่าอุณหภูมิห้องภายในประมาณ 10 นาที ก็ค่อยๆ เทไข่ที่ผสมแล้วลงไปอย่าให้ขาดสาย จากนั้นคนผสมเบาๆ จนเข้ากัน^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
4
เทส่วนผสมลงในหม้อ ตั้งไฟจนได้อุณหภูมิ 75 - 80°C (170°F). พอคนผสมจนไข่กับนมเข้ากันดีแล้ว ก็เทกลับลงหม้อได้เลย จากนั้นยกหม้อขึ้นตั้งไฟอ่อนปานกลาง ผสมโดยคนเป็นตัว “S” จะได้ขูดก้นหม้อด้วย คนไปเรื่อยๆ จนวัดอุณหภูมิได้ 75 - 80°C (170°F)^{[4]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- เช็คอุณหภูมิส่วนผสมด้วยที่วัดอุณหภูมิอาหาร (candy หรือ deep-fry thermometer)
- จะรู้ได้ว่าส่วนผสมตั้งต้นสำหรับทำไอศครีมสุกได้ที่แล้ว คือจะข้นขึ้นจนติดหลังช้อน
5
กรองส่วนผสมใส่ชามที่รองก้นด้วยน้ำใส่น้ำแข็ง แล้วผสมวานิลลา. วางตะแกรงกรองบนชาม ที่ซ้อนบนชามใบใหญ่ใส่น้ำผสมน้ำแข็งไว้ จากนั้นเทส่วนผสมตั้งต้นของไอศครีมผ่านกระชอน ลงไปในชามใบเล็กด้านบน เพื่อให้เนื้อเนียน ไม่เหลือส่วนผสมที่จับตัวเป็นก้อน แล้วใส่วานิลลาลงไป 1 ช้อนชา (5 มล.) ผสมให้เข้ากัน^{[5]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- จะใช้ฝักวานิลลาสดแทนวานิลลาสกัดก็ได้ตามชอบ โดยกรีดฝักตรงกลาง แล้วขูดเมล็ดออกมาผสมในส่วนผสมตั้งต้น
พอส่วนผสมตั้งต้นของไอศครีมได้ที่แล้ว ให้ใช้แรปพลาสติกห่อปิดชามไว้ แล้วซ้อนบนชามน้ำผสมน้ำแข็ง 20 - 30 นาที หรือจะเอาชามไปแช่ตู้เย็นก็ได้ แช่ไว้ประมาณ 3 ชั่วโมงหรือข้ามคืน^{[6]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 4:

ปั่นส่วนผสมในเครื่องทำไอศครีม

ดาวน์โหลดบทความ

เอาชามของเครื่องทำไอศครีมไปแช่แข็งไว้ข้ามคืน. ชามใส่ส่วนผสมตั้งต้นของไอศครีมต้องเย็นจัด ส่วนผสมที่เป็นน้ำจะได้แข็งตัวเต็มที่ ให้เอาชามไปแช่ช่องฟรีซจนแข็ง ปกติจะใช้เวลาประมาณ 10 - 22 ชั่วโมง^{[7]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
ถ้ากลัวชามโดนความเย็นกัดจนด่าง แนะนำให้เอาใส่ถุงซิปล็อคก่อนแช่แข็ง
2
ประกอบชามคืนเครื่อง แล้วใส่ที่ตีผสม. พอแช่แข็งชามแล้ว ก็เอาออกจากช่องฟรีซไปประกอบคืนเครื่องทำไอศครีมได้เลย ต่อไปก็ประกอบ dasher หรือที่ตีผสมด้วย เพื่อให้พร้อมปั่นไอศครีม^{[8]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ย้ำว่าต้อง แช่แข็ง ชาม ไม่งั้นส่วนผสมตั้งต้นของไอศครีมจะแข็งไม่ทัน ทำให้กลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งแทน
- จะประกอบที่ทำไอศครีมยังไง ก็แล้วแต่ยี่ห้อที่เลือกใช้ และโครงสร้างของแต่ละรุ่น ถ้าสงสัยตรงไหน แนะนำให้อ่านคู่มือแบบเล่มหรือออนไลน์
เปิดเครื่องทำไอศครีมแล้วใส่ส่วนผสมที่เย็นจัดลงไป. ให้เปิดเครื่องทำไอศครีมก่อนใส่ส่วนผสม จะได้เริ่มปั่นทันที ค่อยๆ เทส่วนผสมลงไปในเครื่อง แล้วปิดฝาด้านบน^{[9]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
4
ปล่อยให้เครื่องทำไอศครีมไปตามวิธีการใช้งาน. ลองอ่านคู่มือของเครื่องรุ่นที่ใช้ดูก่อน จะได้รู้ว่าเครื่องจะปั่นไอศครีมนานแค่ไหน แต่ส่วนใหญ่จะใช้เวลา 20 - 30 นาที ถึงจะได้เนื้อข้นหนืดพอดี^{[10]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าจะใส่ส่วนผสมอื่นๆ อย่างถั่ว คุกกี้ครัมเบิล (เศษคุกกี้) ชิ้นช็อคโกแลตหรือลูกกวาดต่างๆ ลงในไอศครีม ให้ศึกษาคู่มือก่อน ปกติจะมีแนะนำว่าต้องใส่ก่อนปั่นไอศครีมเสร็จ
5
ตักไอศครีมใส่ภาชนะที่แช่แข็งได้ แล้วเอาไปแช่จนแข็ง. พอเครื่องทำไอศครีมปั่นไอศครีมเสร็จ จะได้เนื้อข้นหนืด เหมือนไอศครีม soft serve ถ้าโอเคกับเนื้อสัมผัสแบบนั้น ก็ตักเสิร์ฟได้เลย แต่ถ้าไม่ ให้ตักใส่ภาชนะที่แช่แข็งได้แล้วปิดฝาให้สนิท นำไปแช่แข็งต่ออีก 2 - 4 ชั่วโมง^{[11]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ภาชนะที่ใส่ต้องปิดสนิท ไอศครีมจะได้ไม่โดนความเย็นกัดจนแห้ง
โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 4:

ทำไอศครีมปั่นมือ

ดาวน์โหลดบทความ

1
เอาภาชนะที่แช่แข็งได้ ไปแช่จนแข็ง. ให้ทำไอศครีมโดยใช้ชามหรือถาดก้นตื้นที่แช่แข็งได้ ก่อนจะเริ่มทำส่วนผสมตั้งต้นของไอศครีม ให้เอาภาชนะดังกล่าวไปแช่แข็ง 3 - 6 ชั่วโมง^{[12]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ที่เหมาะจะใช้ทำไอศครีม คือถาดสแตนเลสขนาดประมาณ 9 x 13 นิ้ว (25 x 33 ซม.)
2
เทส่วนผสมลงในภาชนะ แล้วแช่แข็ง 30 นาที. พอแช่แข็งถาดหรือชามแล้ว ให้เทส่วนผสมตั้งต้นของไอศครีมลงไป แล้วปิดฝา จากนั้นนำภาชนะกลับไปแช่แข็ง 20 - 30 นาที ให้ไอศครีมเริ่มแข็งตัว^{[13]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- จะรู้ได้ว่าไอศครีมได้ที่พร้อมทำขั้นตอนต่อไปแล้ว ก็คือขอบไอศครีมจะเริ่มแข็ง
3
เอาส่วนผสมออกจากช่องฟรีซ แล้วตีผสมด้วยเครื่องตีแป้ง. พอแช่แข็งไอศครีมสักพักแล้ว ก็เอาภาชนะออกจากช่องฟรีซได้ จากนั้นนำไปตีผสมด้วยเครื่องตีแป้ง ใช้ความเร็วปานกลาง จะช่วยตีให้ได้ไอศครีมเนื้อข้นเนียน^{[14]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าไม่มีเครื่องตีแป้ง ก็ใช้ช้อนไม้ผสมไอศครีมเองเลย แต่จะเปลืองแรงและเวลามากกว่าหน่อย
4
นำไปแช่แข็งและตีผสม สลับกันไปแบบนี้ประมาณ 2 ชั่วโมง. พอตีไอศครีมจนข้นเนียนแล้ว ก็เอาไปใส่ภาชนะ ปิดฝา แล้วแช่แข็งต่ออีกสัก 20 - 30 นาที จากนั้นนำมาตีต่อ ทำซ้ำแบบนี้อีก 3 - 4 ครั้ง จนไอศครีมเนื้อแน่น แต่ยังข้นเนียน^{[15]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าจะใส่คุกกี้ครัมเบิล บราวนี่ หรือช็อคโกแลต ลูกกวาดลงไปด้วย ก็ต้องใส่ก่อนจะนำไอศครีมไปแช่แข็งครั้งสุดท้าย
5
แช่ไอศครีมไว้ในภาชนะแช่แข็ง จนกว่าจะพร้อมเสิร์ฟ. ถ้ายังไม่กินไอศครีมในทันที ให้เก็บไว้ในภาชนะที่แช่แข็งได้ โดยปิดฝาให้สนิท แล้วนำไปแช่ช่องฟรีซจนกว่าจะพร้อมเสิร์ฟ^{[16]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- แนะนำให้นำไอศครีมออกจากช่องฟรีซมาวางไว้ 5 - 10 นาทีก่อน จะตักเสิร์ฟง่ายกว่า
โฆษณา

วิธีการ 4

วิธีการ 4 ของ 4:

ทำไอศครีมแบบไม่ต้องปั่น

ดาวน์โหลดบทความ

1
แช่แข็งแม่พิมพ์. ถ้าจะทำไอศครีม แนะนำให้ใช้แม่พิมพ์ขนมปังสแตนเลส ขนาด 9 x 5 นิ้ว (25 x 15 ซม.) ก้นลึกประมาณ 3 นิ้ว (8 ซม.) โดยแช่แข็งแม่พิมพ์ในช่องฟรีซก่อน ประมาณ 1 ชั่วโมงขึ้นไป^{[17]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ที่ต้องแช่แข็งแม่พิมพ์ก่อน เพราะจะช่วยให้ไอศครีมแข็งตัวเร็วขึ้น ถ้าไอศครีมแข็งไม่เร็วพอ จะกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งเกาะ
2
ผสมนมข้นหวาน วานิลลา กับเกลือเข้าด้วยกัน. ใส่นมข้นหวานกระป๋อง 14 ออนซ์ (400 กรัม) วานิลลาสกัดแท้ 2 ช้อนชา (10 มล.) และเกลือละเอียด 1 หยิบมือเข้าด้วยกันในชามขนาดกลาง จากนั้นตีผสมจนเข้ากัน แล้วพักไว้ก่อน^{[18]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- อย่าใช้นมข้นจืด เพราะไอศครีมจะไม่หวานพอ
3
ตีครีมจนตั้งยอดแข็ง. เทเฮฟวี่ครีมแช่เย็นจัด 2 ถ้วยตวง (450 - 500 มล.) ลงในชามของเครื่องตีแป้ง จากนั้นตีครีมด้วยความเร็วสูงปานกลาง จนครีมตั้งยอดแข็ง ปกติจะใช้เวลาประมาณ 5 นาที^{[19]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ครีมจะตั้งยอดง่ายมาก ถ้าเอาชามของเครื่องตีแป้งไปแช่เย็นก่อนสัก 15 - 20 นาที
- จะใช้เครื่องตีแป้งหรือใช้ที่ตีไข่ตีครีมเองก็ได้
4
ตักครีมใส่นมข้นที่ผสมแล้ว. พอตีครีมเสร็จ ให้ตักครึ่งหนึ่งใส่ชามที่ผสมนมข้นไว้แล้ว แล้วผสมด้วยไม้พายยางพอประมาณ^{[20]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ระวังอย่าผสมเยอะเกินไป เพราะจะไม่เหลือฟองอากาศในครีม
5
เทนมข้นที่ผสมแล้ว ลงไปในครีมที่เหลือ. พอเพิ่มความฟูนุ่มให้นมข้นด้วยครีมที่ตีแล้ว ก็ตักใส่ชามครีมที่เหลือได้เลย จากนั้นผสมจนเข้ากันดี^{[21]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- เวลาผสม 2 อย่างนี้ ให้ขูดส่วนผสมที่ก้นกับด้านข้างของชามบ่อยๆ
- วิธีผสมในขั้นตอนนี้ ไม่ใช่การคน แต่เป็นการตักขึ้นมาทบไปเรื่อย จะช่วยเพิ่มฟองอากาศให้ไอศครีม ทำให้ไอศครีมฟูนุ่ม
6
เทส่วนผสมใส่แม่พิมพ์แล้วคลุมไว้. ใช้ไม้พายยางตักส่วนผสมไอศครีมใส่แม่พิมพ์ขนมปังที่แช่แข็งแล้ว จากนั้นใช้แรปพลาสติกห่อปิดไว้ให้แนบสนิท^{[22]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- สำคัญมากว่าต้องห่อปิดแม่พิมพ์ไว้ให้สนิท ถ้าไม่ทำ ไอศครีมจะมีเกล็ดน้ำแข็งเกาะด้านบน แถมดูดกลิ่นไม่ค่อยพึงประสงค์จากช่องฟรีซเข้าไปในเนื้อไอศครีมได้
7
แช่แข็งส่วนผสมไว้ 1 - 2 ชั่วโมง แล้วใส่ส่วนผสมอื่นเพิ่มเติม. เอาแม่พิมพ์ไปแช่ช่องฟรีซ แช่ไปจนข้นหนืดประมาณไอศครีม soft-serve ปกติจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ถ้าอยากใส่คุกกี้ ถั่ว ชิ้นช็อคโกแลต หรือลูกกวาด และอื่นๆ ลงไป ก็ผสมลงไปได้เลย^{[23]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- เลือกส่วนผสมเพิ่มเติมให้เข้ากับรสไอศครีม เช่น ถั่วเหมาะจะใส่กับไอศครีมช็อคโกแลตเป็นที่สุด แต่ใส่กับไอศครีมรสมินต์แล้วประหลาดนิดๆ
ห่อปิดแม่พิมพ์อีกรอบ แล้วนำกลับไปแช่แข็ง แช่ต่อไปอีกประมาณ 3 ชั่วโมง หรือจนกว่าจะแข็งตัว ตักเสิร์ฟได้สะดวก^{[24]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
โฆษณา

เคล็ดลับ

จะใส่ส่วนผสมไหนลงในไอศครีม ต้องแช่แข็งก่อน เพราะอย่างคุกกี้ บราวนี่ หรือช็อคโกแลต ลูกกวาดต่างๆ ถ้าไม่แช่แข็งก่อน พอเอาไปตีผสมกับไอศครีม จะกลายเป็นเศษได้
แทนที่จะ/นอกจากใส่ส่วนผสมต่างๆ ลงไป จะปั่นไอศครีมก่อนแล้วเสิร์ฟพร้อมท็อปปิ้งแทนก็ได้ เช่น ราดซอสบัตเตอร์สก็อตช์
ไอศครีมวานิลลาต้นตำรับก็อร่อยแบบคุ้นเคยดี แต่จะลองรสชาติใหม่ๆ ดูก็น่าสนใจ อย่างไอศครีมช็อคโกแลตก็ทำง่าย หรือจะผสมผลไม้สด เช่น สตรอว์เบอร์รี่ หรือรสมิ้นท์ลงไปก็ได้
พอทำไอศครีมสูตรปกติจนคล่องแล้ว ต่อไปก็ลองท้าทายสกิลตัวเองดู ด้วยการทำไอศครีมแบบฟรีซดรายซะเลย!
จะทำส่วนผสมตั้งต้นของไอศครีมจากอะโวคาโด แล้วเอาไปทำไอศครีมอะโวคาโดก็ได้

โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

ส่วนผสมตั้งต้นของไอศครีมคัสตาร์ด

หม้อขนาดกลาง
ชามใบใหญ่
ที่ตีไข่
เครื่องวัดอุณหภูมิอาหาร (candy หรือ deep-fry thermometer)
ชามขนาดกลาง
กระชอนกรอง
แรปพลาสติก

ไอศครีมแบบไม่ต้องปั่น

แม่พิมพ์ขนมปังสแตนเลส ขนาด 9 x 5 x 3 นิ้ว (23 x 13 x 8 ซม.)
ชามขนาดกลาง
ที่ตีไข่
เครื่องตีแป้ง
ไม้พายยาง
แรปพลาสติก
เครื่องทำไอศครีม (ถ้ามี)
ภาชนะที่แช่แข็งได้ (ถ้ามี)
เครื่องตีแป้ง (ถ้ามี)

[1]

[2]

[3]

[4]

[5]

[6]

[7]

[8]

[9]

[10]

[11]

[12]

[13]

[14]

[15]

[16]

[17]

[18]

[19]

[20]

[21]

[22]

[23]

[24]

เข้าสู่ระบบ

วิธีการ ทำไอศกรีม

ส่วนประกอบ

ส่วนผสมตั้งต้นของไอศครีมคัสตาร์ด

ไอศครีมแบบไม่ต้องปั่น

ขั้นตอน

เตรียมส่วนผสมตั้งต้นของไอศครีมคัสตาร์ด

ปั่นส่วนผสมในเครื่องทำไอศครีม

ทำไอศครีมปั่นมือ

ทำไอศครีมแบบไม่ต้องปั่น

เคล็ดลับ

สิ่งของที่ใช้

ส่วนผสมตั้งต้นของไอศครีมคัสตาร์ด

ไอศครีมแบบไม่ต้องปั่น

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลอ้างอิง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ติดตามเรา

แบ่งปัน