วิธีการ ดูแลสายตาให้มองเห็นชัดขึ้น

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

การมองเห็น เป็นหนึ่งในประสาทสัมผัสที่สำคัญ เรียกได้ว่าแทบจะที่สุด วิถีชีวิตสมัยนี้บังคับให้เราต้องเพ่งมองตัวอักษรและรูปเล็กๆ ในมือถือ รวมถึงหน้าจอคอมพิวเตอร์และทีวีไปโดยปริยาย เพราะฉะนั้นใช้สายตาแล้วก็ต้องดูแล ถ้าสายตาเสีย มองเห็นไม่ค่อยชัด อาจทำคุณภาพชีวิตคุณตกต่ำ เป็นหนักๆ ก็อาจถึงขึ้นต้องผ่าตัดแพงๆ หรือขั้นเลวร้ายคือตาเกือบบอดหรือบอดไปเลย แต่ไม่ต้องกลัว เพราะบทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีดูแลสายตาให้มองเห็นชัดขึ้นให้คุณเอง ดวงตาของคุณจะได้สุขภาพดี มองเห็นภาพชัดเจนแจ่มใสไปตลอด สำคัญมากนะ!

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

มองเห็นชัดขึ้นได้ด้วยวิธีธรรมชาติ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Step 1 "บำรุง" สายตา.
    ดวงตาก็เหมือนอวัยวะอื่นๆ ของร่างกาย ที่ต้องการสารอาหารที่จำเป็น ถึงจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งอาหารดีมีประโยชน์ต่อดวงตาและร่างกาย ก็คือผักผลไม้ และอาหารที่น้ำตาลและไขมันต่ำ[1]
    • อาหารประจำวันต้องมีวิตามินเอ ซี และอี กับแร่ธาตุอย่างทองแดงและซิงค์ (สังกะสี) เพราะเป็นวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายและสายตา ทำให้ดวงตาสดใสแข็งแรง วิตามินพบมากในสตรอว์เบอร์รี่ ส้ม ไข่ แซลมอน แมคเคอเรล (ปลาทู) และอัลมอนด์ ส่วนแร่ธาตุมีมากในหอยนางรม ปู และไก่งวง
    • สารต้านอนุมูลอิสระ อย่างเบต้าแคโรทีน ลูทีน และซีแซนทีน ช่วยปกป้องดวงตาของคุณจากแสงแดด พวกนี้มีเยอะในผักใบเขียว (เข้ม) ฟักทอง มันเทศ แล้วก็แครอท
    • กระเทียม หัวหอม และเคเปอร์มีซัลเฟอร์ ซีสเทอีน และเลซิติน ช่วยปกป้องเลนส์ตาไม่ให้เกิดต้อกระจก
    • บลูเบอร์รี่ องุ่น และโกจิเบอร์รี่ (เก๋ากี้) มีสารต้านการอักเสบ เช่น แอนโทไซยานิน ช่วยเรื่องสายตา
    • ถ้าร่างกายได้รับกรดไขมันโอเมกา-3 ประมาณ 1,000 มก. ต่อวัน จะช่วยลดการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม (AMD) รวมถึงอาการตาแห้ง อาหารที่อุดมกรดไขมันโอเมกา-3 ก็คือปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล (ปลาทู) ปลาแฮร์ริ่ง แฟล็กซีด แล้วก็วอลนัท
  2. How.com.vn ไท: Step 2 บริหารดวงตา.
    บริหารทุกวันช่วยให้ดวงตาแข็งแรง มองเห็นชัดเจน ให้บริหารตาตอนตื่นนอน ก่อนเข้านอน หรือตอนที่ตาล้า ล้างมือให้สะอาดก่อน จะได้ไม่ทำดวงตาระคายเคือง รวมถึงทำใจให้สบายก่อนเริ่มบริหารตา[2]
    • เริ่มจากขั้นตอนง่ายๆ อย่างการกลอกตาตามเข็มนาฬิกา 10 รอบ ตามด้วยทวนเข็มอีก 10 รอบ
    • ชูนิ้วโป้ง (หรือปากกา) ตรงหน้า ห่างจมูกประมาณ 6 นิ้ว (15 ซม.) แล้วจ้องไปที่นิ้วประมาณ 5 วินาที จากนั้นมองเลยนิ้วไปอีก 5 วินาที ทำซ้ำ 10 ครั้ง หรือประมาณ 2 นาที ถือเป็นการบริหารดวงตาที่ทำง่าย นั่งอยู่ที่โต๊ะก็ทำได้
    • ถูมือให้เกิดความร้อน แล้วเอามาประคบตา 5 - 10 วินาที ทำซ้ำ 3 ครั้ง ให้ดวงตาอบอุ่น
    • นวดขมับ หน้าผาก และใต้ตาด้วยข้อนิ้วโป้ง โดยนวดวนจุดละประมาณ 20 ครั้ง
  3. How.com.vn ไท: Step 3 พักสายตา.
    ตั้งแต่ตื่นจนนอนเราก็มีกิจกรรมให้ได้ใช้สายตาตลอด เพราะงั้นต้องหาเวลาพักและผ่อนคลายดวงตาบ้างเป็นระยะระหว่างวัน รวมถึงนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอทุกคืน เพื่อคืนความสดชื่นให้ดวงตา ถ้านอนน้อยระวังสายตาจะแย่ไม่รู้ตัว[3]
    • หลับตา 3 - 5 นาที เอนตัวลงนอน แล้วปล่อยใจให้สบาย
    • เพ่งมองไปที่วัตถุที่อยู่ห่างออกไป 20 ฟุต (6 เมตร) ประมาณ 20 วินาที นี่คือวิธีทดสอบค่าสายตาในระดับ 20/20
    • พักตาอย่างน้อย 10 นาที ทุกๆ 15 นาทีที่ใช้คอม ดูทีวี หรืออ่านหนังสือ ถ้าเป็นไปได้ก็งีบไปซะเลย
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

รักษาปัญหาสายตา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ไปตรวจตา.
    ในเมืองไทยอาจจะหา optometrist หรือ "นักทัศนมาตร" ได้ยาก เพราะฉะนั้นให้ไปตรวจสายตากับจักษุแพทย์แทน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้มีโรคตาหรือความผิดปกติใดๆ ถ้าคุณมองเห็นภาพเบลอ สายตาสั้น หรือสายตายาว ก็ต้องตัดแว่นหรือผ่าตัดแทน[4]
    • ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความผิดปกติหรือโรคตา คืออายุ สุขภาพ และความเสี่ยงที่ต่างกันไปในแต่ละคน เพราะฉะนั้นบอกไม่ได้ชัดเจนว่าควรไปตรวจตาบ่อยแค่ไหน แต่ถ้าคุณมองเห็นภาพผิดปกติหรือเจ็บปวดที่ไหนในดวงตา ให้รีบไปตรวจรักษากับคุณหมอจะดีกว่า
    • วัดความสามารถในการมองเห็น (visual acuity) หรือก็คือวัดสายตา ว่าสั้น ยาว หรือผิดปกติตรงไหน เผื่อต้องตัดแว่น
    • ตรวจคัดกรองต้อหิน (glaucoma) ซึ่งเป็นโรคที่สร้างความเสียหายให้ประสาทตา ถ้าไม่รีบตรวจรักษา นานไปจะยิ่งลุกลาม
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ใส่แว่นสายตา.
    ไม่ว่าจะตาสั้นหรือตายาว ก็ต้องตัดแล้วใส่แว่นสายตาเพื่อแก้ไขให้มองเห็นได้ตามเดิม โดยปัญหาสายตาแบบนี้เกิดจากกระจกตาโค้งหรือขนาดลูกตายาวเกินไป[5][6]
    • การใส่แว่นเป็นวิธีแก้ปัญหาสายตาได้ง่ายและปลอดภัยที่สุด แว่นสายตานั้นมีหลายแบบ ตั้งแต่ใช้เลนส์ 2 ชั้น (bifocals), เลนส์ 3 ระยะ (trifocals), เลนส์โปรเกรสซีฟ (progressive lenses) ไปจนถึงแว่นสำหรับอ่านหนังสือและขับรถ
    • นอกจากแว่นแล้ว คนก็นิยมใส่คอนแทคเลนส์เหมือนกัน โดยเป็นเลนส์ที่แปะเข้าไปที่ตาเลย มีทั้งแบบแข็ง แบบอ่อน แบบใช้ซ้ำ และใส่แล้วทิ้ง รวมถึง rigid gas permeable (คอนแทคเลนส์แข็ง ออกซิเจนผ่านได้ เหมาะกับคนตาแห้ง) และ bifocal (คอนแทคเลนส์แก้สายตายาว)
    • ต้องเลือกแว่นหรือคอนแทคเลนส์โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและลักษณะการใช้ชีวิตของคุณ
  3. How.com.vn ไท: Step 3 พิจารณาแก้ไขสายตาผิดปกติด้วยวิธีผ่าตัด (refractive surgery)....
    พิจารณาแก้ไขสายตาผิดปกติด้วยวิธีผ่าตัด (refractive surgery). ในกรณีที่คุณไม่อยากใส่แว่นก็พิจารณาผ่าตัดรักษาสายตาแทนได้ ซึ่งช่วง 20 ปีหลังมานี้คนก็นิยมทำกัน เพราะค่อนข้างปลอดภัยและเห็นผล โดยคุณหมอจะใช้แสงเลเซอร์ปรับความโค้งของกระจกตา[7][8]
    • LASIK (laser-assisted in-situ keratomileusis) เป็นการผ่าตัดแยกชั้นกระจกตาเพื่อรักษาสายตาให้มองเห็นชัดเจนดังเดิม เป็นการผ่าตัดที่รวดเร็ว ไม่เจ็บ และฟื้นตัวในเวลาไม่นาน
    • LASEK (laser-assisted subepithelial keratectomy) เป็นการผ่าตัดแต่งชั้นด้านนอกของกระจกตาเพื่อปรับความโค้งจนมองเห็นชัดเจน เทียบกับ LASIK แล้ว LASEK จะใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่า เจ็บกว่า รวมถึงมีขั้นตอนในการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดยุ่งยากกว่า แต่ก็ถือว่าทำแล้วเห็นผลดี
    • PRK (Photorefractive keratectomy) จะคล้ายๆ กับ LASEK แต่จะเป็นการปรับแต่งเนื้อเยื่อบุผิว (epithelium) แทนกระจกตา โดยหลังผ่าตัดต้องใส่คอนแทคเลนส์ชนิดพิเศษหรือ bandage contact lens ไว้ 2 - 3 วัน
    • IOL (intraocular lens) implant คือการผ่าตัดฝังแก้วตา/เลนส์เทียมลงบนเลนส์ตาจริง แต่เป็นวิธีใหม่ที่คนยังไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่
    • CK (Conductive keratoplasty) เป็นการใช้คลื่นวิทยุส่งความร้อนไปยังกระจกตา ข้อเสียที่เด่นชัดมากของวิธีนี้คือรักษาสายตาไม่ได้ถาวร
    • ผลข้างเคียงของการผ่าตัดแก้ไขปัญหาสายตา ก็เช่น มองเห็นภาพผิดปกติ แก้ไขสายตาน้อยหรือมากเกินไป ตาแห้ง ติดเชื้อ เกิดแผลเป็นที่กระจกตา และอาจถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นได้เลย
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสายตา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ปรับแสง.
    อย่าให้แสงในห้องสว่างจ้าเกินไป แสงจากหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ที่บ้านเรานิยมใช้กันนั้น จริงๆ แล้วถือว่าไม่ค่อยดีต่อสายตา เพราะแผ่คลื่นสีกับรังสีผิดๆ จนทำให้ตาล้า รู้สึกง่วงทั้งวัน
    • เวลาอ่านหนังสือ พยายามให้แสงส่องมาจากด้านหลัง และตกกระทบกระดาษหรืองานที่คุณกำลังทำพอดี
    • เวลาทำงานหรือนั่งอยู่ที่โต๊ะ ให้ใช้โคมไฟตั้งโต๊ะวางด้านหน้า ให้แสงส่องงานที่ทำพอดี และให้ตัวโคมไฟป้องกันสายตาคุณจากแสงไฟ
    • อย่าดูทีวีหรือใช้คอมในห้องมืดๆ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 สภาพอากาศก็สำคัญ.
    ที่เราตาแห้งเป็นเพราะขาดน้ำหล่อลื่นและความชื้นที่พื้นผิว สาเหตุอาจเป็นได้ตั้งแต่การระคายเคืองเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงอาการติดเชื้อรุนแรงของเนื้อเยื่อตา[9]
    • ใช้เครื่องทำความชื้น (humidifier) ปรับไม่ให้อากาศในบ้านหรือที่ทำงานของคุณแห้งเกินไป
    • ปรับเทอร์โมสตัทเพื่อไม่ให้ลมแรงฝุ่นตลบจนทำตาระคายเคือง
    • ถ้าอยู่ใกล้ช่องแอร์ ให้ขยับโต๊ะหรือจัดพื้นที่ทำงานซะใหม่ หรือเป็นไปได้ก็ย้ายไปนั่งที่มุมอื่นแทน
    • เลิกสูบบุหรี่ เพราะทำให้ตาอักเสบได้ โดยเฉพาะคนที่ตาแห้งเป็นพิเศษ
    • ถ้าจำเป็นก็หยอดน้ำตาเทียม เพราะช่วยหล่อลื่นให้ตาชุ่มชื่น
  3. How.com.vn ไท: Step 3 เลือกแว่นที่ถูกกับสายตา.
    ลงทุนหน่อย ให้ได้แว่นหรือคอนแทคเลนส์ที่ตรงตามสภาพสายตาของคุณ เดี๋ยวนี้มีเลนส์สารพัดแบบ ขอแค่ไปตรวจวัดสายตาให้ถูกต้อง และปรึกษานักทัศนมาตรหรือจักษุแพทย์ ว่าสภาพสายตาของคุณรวมถึงสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตประจำวัน ควรสวมใส่แว่นแบบไหน[10]
    • ไม่ว่าจะเป็นเลนส์สั่งตัดตามค่าสายตาของคุณหรือไม่ เดี๋ยวนี้ก็มีให้เลือกหลายแบบตามไลฟ์สไตล์ ทั้งตามอายุ ชนิดกีฬา รวมถึงแว่นสำหรับใส่ในร่มและกลางแจ้ง
    • ถ้าคุณทำงานกลางแจ้ง หรือต้องขับรถทางไกล ขอให้เลือกแว่นเลนส์ polarized จะได้ปกป้องดวงตาจากแสงยูวีและตัดแสงสะท้อน ไม่ต้องทำตาหยีบ่อยๆ
    • ตราบใดที่สายตามีปัญหา ก็ต้องใส่แว่นเพื่อแก้ไขตลอด และรักษาความสะอาดด้วย
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ลดการใช้คอมพิวเตอร์.
    การนั่งชิดติดจอคอมทุกวันนี่แหละสาเหตุหลักที่ทำให้คนสมัยนี้ตาล้าหรือค่าสายตาเปลี่ยน พยายามจำกัดเวลาใช้งานคอมพิวเตอร์หน่อย โดยแบ่งเวลาไปพักและบริหารสายตา รวมถึงเติมความชุ่มชื้นให้ดวงตาด้วย[11]
    • ถ้าชอบเผลอจ้องจอคอมไม่กะพริบ นึกได้เมื่อไหร่ให้กะพริบตาถี่ๆ จะได้ผลิตน้ำตาตามธรรมชาติ ให้ดวงตาชุ่มชื้น ไม่แห้งผาก
    • ใช้คอมเมื่อไหร่ให้ยึดหลัก 20-20-20 คือทุก 20 นาทีให้มองไปที่อื่น ไกลออกไปสัก 20 ฟุต (6 เมตร) เป็นเวลาอย่างน้อย 20 วินาที
    • ลดแสงสะท้อนที่หน้าจอ เพื่อไม่ให้ตาล้าง่าย หรือก็คือลดแสงทั้งจากด้านหน้าและด้านหลังของคุณ
    • วางจอตรงหน้าพอดี และห่างออกไป 1 ช่วงแขน ให้หน้าจออยู่ใต้ระดับสายตาพอดี ยังไงลองปรับความสูงของเก้าอี้ดู
    • ใช้ที่หนีบกระดาษให้เป็นประโยชน์ จะได้กะระดับสายตากับหน้าจอถูก ถ้าไม่ต้องปรับสายตาตามจอมากนัก จะทำให้ตาไม่ล้า
    • เพิ่มขนาดฟอนต์ หรือปรับแสงเงา (contrast กับ brightness) ให้อ่านทั้งหน้าเว็บและเอกสารง่ายขึ้น
    • ทำความสะอาดหน้าจอบ่อยๆ อย่าปล่อยให้ฝุ่นเขรอะ
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Theodore Leng, MD
ร่วมเขียน โดย:
ศัลยแพทย์จอประสาทตา
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Theodore Leng, MD. ดร.เหล็งเป็นศัลยแพทย์จอประสาทตาที่ได้รับใบรับรองในมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เขาสำเร็จการฝึกงานด้านนี้ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดในปี 2010 บทความนี้ถูกเข้าชม 8,481 ครั้ง
หมวดหมู่: สุขภาพทั่วไป
มีการเข้าถึงหน้านี้ 8,481 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา