วิธีการ แก้ปัญหาขับถ่ายยาก

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

ถ้าใครมีปัญหาขับถ่ายยาก อุจจาระแข็ง เวลาเบ่งเจ็บปวดมาก บทความนี้จะขอแนะนำวิธีการที่น่าจะช่วยแก้ปัญหานี้ของทุกคนได้ เราจะเริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนแปลงอาหารและรูปแบบการดำเนินชีวิตก่อน แต่ถ้าเปลี่ยนแปลงแล้วไม่ได้ผล ให้พบแพทย์จะดีกว่า

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ปรับเปลี่ยนอาหารการกิน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ดื่มน้ำให้มากๆ.
    ภาวะขาดน้ำอาจทำให้ร่างกายดูดน้ำออกจากอาหารที่เคลื่อนผ่านทางเดินอาหารในปริมาณมากได้ จึงทำให้อุจจาระแห้งและแข็ง การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยให้อุจจาระนิ่มขึ้นและช่วยให้สิ่งต่างๆ เคลื่อนตัวไปได้ง่ายมากขึ้น [1]
    • บางครั้งแพทย์จะแนะนำให้ดื่มน้ำประมาณสองลิตรหรือ 8 แก้วต่อวัน แต่การดื่มน้ำในปริมาณนั้นอาจไม่เพียงพอสำหรับเราก็ได้ ขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่เราทำและภูมิอากาศในบริเวณที่เราอาศัยอยู่
    • ถ้ามีอาการปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ คลื่นไส้บ่อยๆ ปัสสาวะน้อย ปัสสาวะมีสีเข้มหรือขุ่น และไม่ค่อยมีเหงื่อ แสดงว่าอาจดื่มน้ำไม่พอ [2]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 กินอาหารที่มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ และมีเส้นใยสูง....
    กินอาหารที่มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ และมีเส้นใยสูง. อาหารบางชนิดอย่างเช่น พรุน มีซอร์บิทอล สารนี้จะดูดน้ำเข้าสู่อุจจาระ จึงทำให้อุจจาระนิ่มและขับถ่ายออกจากร่างกายได้ง่าย[3][4][5]
    • พรุน หรือน้ำพรุน
    • ลูกท้อ
    • ลูกแพร์
    • ลูกพลัม
    • แอปเปิล
    • แอปริคอต
    • ราสเบอร์รี
    • สตรอว์เบอร์รี
    • ถั่วต่างๆ
    • ถั่วลันเตา
    • ปวยเล้ง
  3. How.com.vn ไท: Step 3 กินอาหารที่มีเส้นใยให้มากขึ้น.
    เส้นใยอาหารคือส่วนที่ไม่สามารถย่อยได้ในพวกอาหารจากพืช ร่างกายขับถ่ายเส้นใยออกมาโดยไม่ดูดซึม ฉะนั้นเส้นใยจึงช่วยทำให้อุจจาระมีเนื้อมากและนิ่ม ขับถ่ายออกจากร่างกายง่าย [6]
    • ควรกินอาหารที่มีเส้นใยวันละ 25-30 กรัม [7] เราต้องกินอาหารที่มีเส้นใยทั้งแบบที่ละลายน้ำได้และแบบไม่ละลายน้ำ เส้นใยอาหารแบบแรกจะกลายเป็นสารคล้ายเจลในน้ำ และเส้นใยอาหารแบบที่สองจะไม่ละลายน้ำ
    • เส้นใยอาหารแบบละลายน้ำได้พบในข้าวโอ๊ต ถั่วลันเตา ถั่วต่างๆ แอปเปิล ผลไม้ตระกูลส้ม แคร์รอต และข้าวบาร์เลย์
    • เส้นใยอาหารแบบไม่ละลายน้ำพบในแป้งสาลีโฮลวีต รำข้าวสาลี ถั่วเปลือกแข็ง ถั่วต่างๆ และผักอย่างกะหล่ำดอกและถั่วฝักยาว
    • มีพืชหลายชนิดที่มีเส้นใยทั้งแบบละลายน้ำได้และละลายน้ำไม่ได้ ฉะนั้นจึงควรกินธัญพืชและผักให้หลากหลายเพื่อจะได้รับเส้นใยทั้งสองแบบ
    • การกินอาหารที่มีเส้นใยจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด ถ้าเราดื่มน้ำเพิ่มเติมเพื่อช่วยละลายเส้นใยแบบที่ละลายน้ำได้
  4. How.com.vn ไท: Step 4 รักษาแบคทีเรียในลำไส้ที่ดีต่อสุขภาพด้วยการกินโยเกิร์ต....
    รักษาแบคทีเรียในลำไส้ที่ดีต่อสุขภาพด้วยการกินโยเกิร์ต. ทางเดินอาหารของเราต้องการจุลินทรีย์ที่สมดุลดีเพื่อย่อยอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อจุลินทรีย์เริ่มขาดความสมดุล ก็อาจทำให้เราท้องผูกและขัดขวางการดูดซึมสารอาหาร โยเกิร์ตสดและผลิตภัณฑ์นมหมักอื่นๆ อย่างเช่น คีเฟอร์ ช่วยฟื้นฟูและปรับแบคทีเรียในลำไส้ให้กลับมาสมดุลอีกครั้งได้ จึงช่วยป้องกันไม่ให้อุจจาระแข็งเนื่องจาก[8]
    • โรคลำไส้แปรปรวน
    • อาการท้องร่วงและท้องผูกแบบไม่มีสาเหตุ
    • อาการท้องเสียหรือท้องผูกหลังจากได้รับยาปฏิชีวนะที่ได้ฆ่าแบคทีเรียในลำไส้บางชนิดซึ่งเกิดขึ้นโดยธรรมชาติไป
  5. How.com.vn ไท: Step 5 กินอาหารเสริมเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้ร่างกายย่อยอาหารได้ดีขึ้น....
    กินอาหารเสริมเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้ร่างกายย่อยอาหารได้ดีขึ้น. แต่ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนเพราะอาหารเสริมบางชนิดอาจเปลี่ยนแปลงกระบวนการจัดการยาบางชนิดของร่างกายได้
    • ลองกินอาหารเสริมเส้นใยอาหาร จะช่วยให้อุจจาระมีเนื้อมากขึ้น นิ่ม และขับถ่ายออกง่าย โดยปกติอาหารเสริมพวกนี้จะเรียกว่ายาเพิ่มกากใยไฟเบอร์ของอุจจาระ เราควรลองอาหารเสริมพวกนี้ก่อนที่จะเปลี่ยนไปลองยาระบายชนิดอื่น ลองหาอาหารเสริมที่มีเมธิลเซลูโลส (methylcellulose) ไซเลียม (psyllium) แคลเซียมพอลิคาร์บอฟิล (calcium polycarbophil) และกัวกัม (guar gum) เป็นสารออกฤทธิ์ (เช่น FiberCon, Metamucil, Konsyl และ Citrucel )[9]
    • ลองอาหารเสริมโพรไบโอติก โพรโบโอติกเป็นแบคทีเรียและยีสต์ที่เหมือนกับจุลินทรีย์ในลำไส้ที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ การกินอาหารเสริมโพรไบโอติกอาจช่วยได้ ถ้าเราอยู่ในช่วงท้องเสียและท้องผูกหรือลำไส้แปรปรวน[10]
  6. How.com.vn ไท: Step 6 กระตุ้นลำไส้ด้วยการดื่มกาแฟสักถ้วย.
    กาแฟมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ ฉะนั้นการดื่มกาแฟสักหนึ่งหรือสองถ้วยในแต่ละวันอาจช่วยให้เราขับถ่ายได้ตามปกติ
    • ถ้าดื่มกาแฟเป็นประจำอยู่แล้ว อาจเพิ่มปริมาณอีกสักเล็กน้อย ถ้าไม่ได้ผล แสดงว่าร่างกายอาจชินกับกาแฟ เมื่อดื่มเข้าไปจึงไม่ช่วยในการระบายท้อง
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

เปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินชีวิต

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ลดการกินอาหารที่อาจทำให้ท้องผูก.
    อาหารพวกนี้จำนวนมากมายมีเส้นใยน้อยแต่มีน้ำตาลและไขมันมาก จึงทำให้เรารู้สึกอิ่มก่อนที่จะได้กินอาหารที่มีเส้นใยในปริมาณที่เพียงพอ อาหารพวกนี้เช่น[11][12]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 กินอาหารมื้อเล็กๆ หลายมื้อแทนการกินอาหารมื้อใหญ่สองสามมื้อ....
    กินอาหารมื้อเล็กๆ หลายมื้อแทนการกินอาหารมื้อใหญ่สองสามมื้อ. การกินบ่อยๆ จะกระตุ้นทางเดินอาหารให้ทำงานอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่มากจนเกินไปนัก ทำให้ย่อยอาหารได้ดีขึ้นและบีบตัวอยู่เสมอ
    • กินอาหารช้าๆ เพื่อให้ร่างกายมีเวลาจัดการอาหาร การกินเร็วเกินไปอาจทำให้เรากินมากเกินไป จึงทำให้ระบบย่อยทำงานหนักเกินไป
    • เคี้ยวอาหารให้ละเอียดเพื่อช่วยให้อาหารนั้นมีขนาดที่เหมาะสมและย่อยง่าย
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที.
    การออกกำลังกายจะกระตุ้นลำไส้ให้บีบตัวเพื่อเคลื่อนอาหารผ่านไป[14]
    • กิจกรรมที่ทำควรมีการออกแรงมากพอที่จะเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจเช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ วิ่ง หรือขี่จักรยาน
    • บางครั้งการออกกำลังกายก็ให้ผลเร็วมากจนน่าตกใจ เพราะฉะนั้นเตรียมตัวหาห้องน้ำไว้ด้วย!
    • ถ้ามีปัญหาด้านสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อจะได้รับคำแนะนำในการออกกำลังกายที่เหมาะสมต่อสภาพร่างกาย
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ลดความเครียด.
    ผลการศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าความเครียดทำให้เกิดอาการท้องผูกและท้องเสียซึ่งทั้งสองอย่างอาจมีผลทำให้อุจจาระของเราแห้งและแข็งได้ ฉะนั้นพยายามลดความเครียดโดยใช้เทคนิคการผ่อนคลายดังต่อไปนี้[15]
    • หายใจเข้าลึกๆ
    • เล่นโยคะ
    • ทำสมาธิ
    • ฝึกไทชิ
    • นวดกล้ามเนื้อ
    • ฟังดนตรีที่ช่วยทำให้ผ่อนคลาย
    • นึกภาพสถานที่ซึ่งช่วยทำให้ผ่อนคลาย
    • ใช้วิธีการผ่อนคลายกล้ามเนื้อทีละส่วน เกร็งและคลายกล้ามเนื้อทีละส่วนทั่วร่างกาย
  5. How.com.vn ไท: Step 5 หาเวลาเข้าห้องน้ำหลังกินอาหารแต่ละมื้อ.
    เราอาจใช้เทคนิคการผ่อนคลายควบคู่ไปด้วยก็ได้เพื่อช่วยให้ตนเองขับถ่ายง่ายขึ้น[16][17][18]
    • ใช้เวลาในห้องน้ำอย่างน้อย 10 นาทีหลังจากกินอาหารไปแล้วประมาณ 30 นาที
    • วางเท้าบนเก้าอี้เตี้ยๆ เข่าทั้งสองข้างจะได้อยู่สูงกว่าสะโพก อาจช่วยให้ลำไส้ของเราบีบตัวได้ง่ายขึ้น
  6. How.com.vn ไท: Step 6 เข้าเครื่องไบโอฟีดแบ็ค (biofeedback) เพื่อจะได้เรียนรู้การผ่อนคลายกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน....
    เข้าเครื่องไบโอฟีดแบ็ค (biofeedback) เพื่อจะได้เรียนรู้การผ่อนคลายกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน. วิธีนี้จะช่วยให้ลำไส้บีบตัวได้ง่ายขึ้น[19]
    • นักบำบัดจะใช้เครื่องนี้วัดความเกร็งในลำไส้ตรงและช่วยให้เราได้ฝึกการเกร็งและคลายกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน
    • เข้าพบนักบำบัดที่แพทย์เป็นผู้แนะนำเพื่อเราจะได้มั่นใจว่านักบำบัดคนนั้นเชื่อถือได้
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ใช้ยา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ปรึกษาแพทย์.
    ยาตามใบสั่งบางตัวอาจทำให้ท้องผูกได้เช่น พวกยาแก้ปวดกลุ่มโอปิออยด์ (opioid) แพทย์อาจแนะนำให้เปลี่ยนยาหรือกินยาระบายเพื่อแก้อาการท้องผูก แพทย์อาจแนะนำยาจำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์หรือสั่งยาที่กินแล้วได้ผลดีกว่านี้ให้ พบแพทย์ ถ้ามีอาการดังต่อไปนี้[20]
    • มีเลือดออกทางลำไส้ตรง
    • น้ำหนักลดลงไปมาก
    • อ่อนเพลีย
    • ปวดท้องรุนแรง
  2. How.com.vn ไท: Step 2 หล่อลื่นลำไส้ด้วยน้ำมันแร่ปริมาณเล็กน้อย.
    ปรึกษาแพทย์เพื่อจะได้รู้ว่ากินปริมาณเท่าใดถึงจะเหมาะสม [21][22]
    • รออย่างน้อยสองชั่วโมงหลังจากกินเข้าไปแล้ว เพราะน้ำมันแร่อาจขัดขวางร่างกายไม่ให้ดูดซึมสารอาหารอย่างเต็มที่
    • น้ำมันแร่จะออกผลภายในหกถึงแปดชั่วโมงถัดไป
    • อย่ากินน้ำมันแร่ขณะที่นอน เพราะถ้าเกิดบังเอิญสูดเข้าไป อาจทำให้เป็นโรคปอดบวมได้ เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรให้เด็กอายุต่ำกว่าเจ็ดขวบกิน
    • สตรีมีครรภ์อย่ารับประทานน้ำมันแร่ เพราะน้ำมันแร่อาจขัดขวางการดูดซึมสารอาหารและทำให้เด็กแรกเกิดมีภาวะเลือดออก ถ้ารับประทานเป็นเวลานาน
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ลองกินยาที่ทำให้อุจจาระอ่อนนุ่ม.
    ยาพวกนี้จะดึงความชุ่มชื้นออกจากลำไส้และใช้ความชุ่มชื้นนั้นมาทำให้อุจจาระนิ่มขึ้น[23]
    • ยาที่ใช้กันทั่วไปได้แก่ Colace และ Surfak
    • ดื่มน้ำเพิ่มสองสามแก้วเมื่อกินยาพวกนี้
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ใช้ยาเพิ่มน้ำในลำไส้เพื่อช่วยให้อุจจาระนิ่มขึ้น....
    ใช้ยาเพิ่มน้ำในลำไส้เพื่อช่วยให้อุจจาระนิ่มขึ้น. ยาพวกนี้ช่วยเพิ่มน้ำในลำไส้ และยังช่วยกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัว ทำให้อุจจาระเคลื่อนตัวสะดวก แต่อาจต้องใช้เวลาสองสามวันถึงจะเห็นผล ยาเพิ่มน้ำในลำไส้ที่ใช้กันทั่วไปได้แก่[24][25]
    • มิลค์ออฟแมกนีเซีย (Milk of magnesia)
    • ยาแมกนีเซียมซิเตรท (Magnesium citrate)
    • ยาแลคตูโลส (Lactulose)
    • เอทิลีนไกลคอล (Polyethylene glyco เช่น MiraLax)
  5. How.com.vn ไท: Step 5 กินยากระตุ้นการบีบตัวของลำไส้.
    อุจจาระอาจนิ่มพอที่จะขับถ่ายได้สะดวกแล้ว แต่ถ้าลำไส้กลับไม่บีบตัวเพื่อเคลื่อนอุจจาระ ยานี้จะกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ เมื่อกินแล้ว ควรออกผลภายใน 12 ชั่วโมง ยากระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ที่ใช้กันทั่วไปได้แก่ [26]
    • เซนนา (Senna)
    • บิซาโคดิล (Bisacodyl)
    • โซเดียมพิโคซัลเฟต (Sodium Picosulphate)
  6. How.com.vn ไท: Step 6 เอาอุจจาระแข็งออกมา.
    ถ้าลำไส้ตรงมีอุจจาระที่แห้งแข็งปิดกั้น สามารถทำให้หลุดออกได้โดยยาเหน็บทวาร ยาสวนอุจจาระ หรือการใช้นิ้วสอดเข้าไปในทวารหนัก (manual disimpaction)[27][28]
    • ยาเหน็บทวารเป็นยาชนิดแคปซูล ให้สอดยาไว้ที่ทวารหนัก เม็ดยาจะละลายและถูกดูดซึมตรงนั้น
    • ยาสวนอุจจาระเป็นยาน้ำ ยานี้จะใส่เข้าไปในลำไส้ทางทวารหนัก ควรให้แพทย์เป็นผู้ทำให้จะดีกว่า
    • การใช้นิ้วสอดเข้าไปในทวารหนักต้องให้แพทย์และพยาบาลเป็นผู้ทำให้ วิธีการคือสวมถุงมือและสอดนิ้วลื่นๆ เข้าไปในลำไส้ตรงเพื่อทำให้อุจจาระที่อุดกั้นอยู่หลุดและค่อยนำออกมา[29]
    โฆษณา

คำเตือน

  • อย่ารับประทานยาใดๆ ซึ่งรวมถึงยาจำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ด้วย ถ้าไม่ได้ปรึกษาแพทย์ก่อน
  • ปรึกษาแพทย์ก่อนให้ยาเด็ก
  • อ่านและทำตามคำแนะนำของผู้ผลิตรวมทั้งทำตามคำแนะนำของแพทย์ด้วย
  • ถ้าเรากินยารักษาโรค ยาสมุนไพร หรืออาหารเสริมตัวอื่นๆ อยู่ ให้สอบถามแพทย์ก่อนว่ายาพวกนี้มีผลกระทบไหม
โฆษณา
  1. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/consumer-health/expert-answers/probiotics/faq-20058065
  2. http://www.nhs.uk/conditions/pregnancy-and-baby/pages/constipation-and-soiling.aspx
  3. http://www.mayoclinic.org/drugs-supplements/laxative-oral-route/description/drg-20070683
  4. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/nutrition-and-healthy-eating/in-depth/added-sugar/art-20045328
  5. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/irritable-bowel-syndrome/basics/lifestyle-home-remedies/con-20024578
  6. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/stress-management/in-depth/relaxation-technique/art-20045368?pg=2
  7. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/constipation-in-children/basics/lifestyle-home-remedies/con-20034665
  8. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/constipation-in-children/basics/alternative-medicine/con-20034665
  9. http://www.nhs.uk/Conditions/Constipation/Pages/Treatment.aspx
  10. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/constipation/basics/treatment/con-20032773
  11. http://www.nhs.uk/Conditions/Constipation/Pages/Symptoms.aspx
  12. http://www.mayoclinic.org/drugs-supplements/laxative-oral-route/proper-use/drg-20070683
  13. http://www.mayoclinic.org/drugs-supplements/laxative-oral-route/before-using/drg-20070683
  14. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/constipation/basics/treatment/con-20032773
  15. http://www.nhs.uk/Conditions/Constipation/Pages/Treatment.aspx
  16. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/constipation/basics/treatment/con-20032773
  17. http://www.nhs.uk/Conditions/Constipation/Pages/Treatment.aspx
  18. http://www.nhs.uk/Conditions/Constipation/Pages/Treatment.aspx
  19. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2780143/
  20. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2780143/

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Dale Prokupek, MD
ร่วมเขียน โดย:
แพทย์ระบบทางเดินอาหารที่มีใบรับรอง
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Dale Prokupek, MD. เดล โปรคูเพ็ก, MD เป็นอายุรแพทย์และแพทย์ทางระบบทางเดินอาหารที่มีใบรับรองซึ่งดำเนินกิจการส่วนตัวในลอสแองเจลิส เขายังเป็นแพทย์ประจำที่ Cedars-Sinai Medical Center และรองศาสตราจารย์คลินิกแพทยศาสตร์ที่ Geffen School of Medicine ที่ University of California, Los Angeles (UCLA) ดร.โปรคูเพ็กมีประสบการณ์ทางการแพทย์มากกว่า 25 ปี และเชี่ยวชาญในการวินิจฉัยและรักษาโรคตับ กระเพาะอาหาร และลำไส้ รวมถึงตับอักเสบซีเรื้อรัง มะเร็งลำไส้ ริดสีดวงทวาร หูดหงอนไก่ที่ทวารหนัก และโรคทางเดินอาหารที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกันบกพร่องเรื้อรัง เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีวิทยาศาสตรบัณฑิตสาขาสัตววิทยาจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน – เมดิสัน และแพทยศาสตรบัณฑิตจากวิทยาลัยแพทย์วิสคอนซิน เขาสำเร็จการเป็นแพทย์ประจำบ้านด้านอายุรศาสตร์ Cedars-Sinai Medical Center และทุนศึกษาด้านระบบทางเดินอาหารที่ UCLA Geffen School of Medicine บทความนี้ถูกเข้าชม 6,635 ครั้ง
หมวดหมู่: สุขภาพ
มีการเข้าถึงหน้านี้ 6,635 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา