วิธีการ เลิกกินอาหารขยะ

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

วางแผน

จงอยู่อย่างแข็งแกร่ง

พัฒนารูปแบบการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดี

เข้าใจปัญหาของอาหารขยะ

แสดงเพิ่มอีก 1...

แสดงน้อยลง...

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

คุณเป็นผู้ที่เสพติดมันฝรั่งทอดแผ่นบาง เพรทเซล ลูกกวาด หรือ "อาหาร" อื่นใด ที่คุณสามารถหาซื้อได้จากตู้ขายของหยอดเหรียญใช่ไหม แม้การกินอาหารขยะจะช่วยให้ความกระหายหิวของคุณหมดไป และได้มีความสุขกับรสชาติเอร็ดอร่อยของพวกมัน แต่ในระยะยาว การกินอาหารขยะมากเกินไปอาจทำให้คุณเป็นโรคอ้วน โรคเฉื่อยชา และในกรณีที่รุนแรงมากๆ อาจถึงกับเป็นโรคซึมเศร้า ยิ่งคุณสามารถเปลี่ยนอาหารขยะเป็นอาหารทางเลือกเพื่อสุขภาพได้เร็วมากยิ่งขึ้นเท่าไร คุณจะยิ่งมีชีวิตที่มีสุขภาพดีกว่าและมีความสุขมากกว่าเร็วขึ้นเท่านั้น

ขั้นตอน

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 4:

วางแผน

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   คิดว่าทำไมคุณถึงอยากเลิกกินอาหารขยะ. เมื่อได้พิจารณาความเสียหายต่อร่างกาย กับความเสี่ยงต่อสุขภาพซึ่งเกิดจากอาหารขยะแล้ว คุณสมควรคิดว่าเหตุใดจึงอยากเลิกกินอาหารขยะ คุณอาจวิตกเรื่องน้ำหนักตัว และอยากเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เพื่อให้มีน้ำหนักตัวที่ดีต่อสุขภาพ หรือคุณอาจเป็นนักกีฬาไฟแรง และต้องการจะเพิ่มสมรรถภาพ ด้วยการให้เชื้อเพลิงที่ดีกว่าเดิมแก่ร่างกาย ไม่ว่าเหตุผลของคุณจะเป็นอะไร เป็นความคิดที่ดีที่จะคิดถึงเรื่องนี้อย่างจริงจัง

   • พยายามจดบันทึกเหตุผลข้อหนึ่งหรือหลายข้อ ที่คุณต้องการจะเลิกกินอาหารขยะ การจดความคิดของคุณลงบนกระดาษ สามารถช่วยให้คุณเพิ่มแรงจูงใจที่จะเลิกกินอาหารขยะ และทำการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง
2. 
   2
   จงให้คำมั่นกับตัวคุณเอง. เมื่อได้ระบุแรงจูงใจของคุณแล้ว คุณสมควรตั้งความมุ่งมั่นกับตัวเอง ซึ่งทำได้โดยเขียนสัญญาฉบับหนึ่ง ระบุเป็นพิเศษถึงชนิดของอาหารที่คุณไม่ต้องการจะกินอีกต่อไป คุณสมควรลงรายละเอียดเกี่ยวกับอาหารที่จะกินเอาไว้ด้วย หรือเขียนว่าคุณจะทำอย่างไรกับความอยากกินอาหารขยะ และจะเป็นความคิดที่ดีด้วย หากจะใส่ลำดับเหตุผลที่คุณต้องการจะทำการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ หลังจากเขียนสัญญาฉบับนี้เสร็จ จงอ่านทวนก่อนจะลงนามและลงวันที่ในสัญญา

   • ทำให้แน่ใจว่าได้ระบุอย่างชัดเจนมากในสัญญา เพื่อคุณจะได้เข้าใจว่าได้มุ่งมั่นจะทำสิ่งใด
   • ติดสัญญาฉบับนี้ของคุณไว้ตรงที่ไหนสักแห่ง ที่คุณจะมองเห็นได้ทุกวัน เช่น ที่กระจกเงา หรือบนตู้เย็น
3. 
   3
   จงโยนอาหารขยะของคุณทิ้ง. หลังจากคุณได้มุ่งมั่นที่จะเลิกกินอาหารขยะแล้ว จงโยนอาหารขยะทุกอย่างที่มีอยู่ในบ้านทิ้ง การเก็บอาหารขยะไว้รอบตัว ในตอนที่คุณกำลังพยายามจะหลีกเลี่ยงพวกมัน เป็นสิ่งที่จะนำไปสู่ความล้มเหลว จึงดีที่สุดที่จะกำจัดทิ้งในทันที จงหยุดซื้ออาหารขยะด้วยเช่นกัน และขอให้คนอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ด้วยกัน เก็บอาหารขยะไว้นอกพื้นที่ซึ่งใช้ร่วมกัน คุณจะได้ถูกยั่วยวนน้อยลงให้กินอาหารประเภทนี้

   • ไกลตา ก็ไกลใจ. ส่วนมากนั้น เรากินอาหารขยะบนพื้นฐานของความสะดวกและความเบื่อ หากไม่มีอาหารขยะอยู่ในบ้าน ก็มีความน่าจะเป็นน้อยลง ที่คุณจะออกจากบ้านเพื่อไปหาซื้อพวกมัน
4. 
   4
   เก็บสำรองอาหารที่ดีต่อสุขภาพไว้ในครัว. เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะไม่ถูกยั่วยวนให้ออกไปข้างนอก และคว้าเอาอาหารขยะมากินเมื่อรู้สึกหิว จงเก็บสำรองอาหารเพื่อสุขภาพซึ่งคุณเลือกสรรมาเป็นจำนวนมากไว้ในครัว จงซื้ออาหารโฮลฟูด เช่น ผลไม้ชนิดต่าง ๆ กับผัก เนื้อแดง นม ไข่ และโฮลเกรน หรือธัญพืชที่ผ่านการขัดสีน้อยที่สุด วิธีง่ายๆ วิธีหนึ่งที่จะอยู่ห่างจากทางเลือกที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เวลาคุณไปซื้อของตามร้านขายของชำในอเมริกา คือควรหลีกเลี่ยงทางเดินระหว่างชั้นวางสินค้าแถวในของร้าน และซื้ออาหารส่วนใหญ่จากทางเดินระหว่างชั้นวางสินค้าแถวนอก

   • วิธีดีที่สุดที่จะทำให้แน่ใจเรื่องการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพคือการเตรียมตัว และมีอาหารเหล่านี้พร้อมที่จะให้คุณกินได้อยู่แล้ว จงพิจารณาเรื่องจัดเตรียมอาหารด้วย!
   • จัดเตรียมอาหารขบเคี้ยวที่ดีต่อสุขภาพไว้ล่วงหน้า คุณจะได้มีทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพและรวดเร็วพร้อมอยู่ในมือ ใส่ผลไม้สดหรือผักหั่นชิ้นบางในถุงพลาสติก แล้วเก็บไว้ในตู้เย็น เก็บถั่วชนิดต่างๆ และผลไม้แห้งในกระเป๋าสะพายข้างของคุณ หรือไม่ก็เก็บสำรองกรีกโยเกิร์ตชนิดไร้ไขมัน และสตริง ชีสไว้ในตู้เย็น
5. 
   5
   ดื่มน้ำให้มากขึ้นในระหว่างวัน. น้ำช่วยให้ร่างกายของคุณไม่ขาดน้ำ และช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มระหว่างมื้ออาหารด้วย การดื่มน้ำมากๆ ตลอดวันช่วยให้คุณไม่เอื้อมมือไปคว้าอาหารขยะมากิน การที่ร่างกายไม่ขาดน้ำยังจะช่วยไม่ให้คุณคว้าน้ำอัดลมสักกระป๋องหนึ่ง หรือเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ ที่เต็มไปด้วยน้ำตาลและไม่ดีต่อสุขภาพมาดื่มด้วย
   โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 4:

จงอยู่อย่างแข็งแกร่ง

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   บอกกับเพื่อนสักคนหนึ่งเรื่องความมุ่งมั่นของคุณ. มีความสำคัญที่คุณจะได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนๆ และครอบครัว ในเวลาที่คุณกำลังพยายามจะเปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งสำคัญ จงทำให้แน่ใจว่าคุณได้บอกกับคนอื่นๆ เรื่องความมุ่งมั่นที่จะเลิกกินอาหารขยะ และขอให้พวกเขาช่วยสนับสนุน คุณน่าจะประสบความสำเร็จมากกว่า หากขอให้คนอื่นช่วย แทนที่จะพยายามทำแต่เพียงลำพังวิธีนี้ยังทำให้คุณต้องมีคำอธิบายให้กับคนอื่นด้วย เพราะคุณจะยกเลิกความมุ่งมั่นนี้ได้ง่ายกว่า หากไม่ได้มีใครกำลังมองดูอยู่
2. 
   2
   พัฒนาอุปนิสัยในการกินแบบมีสติ. คุณอาจจะกำลังเอื้อมมือไปคว้าอาหารขยะ เพราะคุณมีแนวโน้มที่จะกินแบบไร้สติ เพื่อเปลี่ยนแนวโน้มที่คุณจะคว้าอาหารขยะ จงพยายามฝึกนิสัยให้กินแบบมีสติ ใส่ใจกับกลิ่น หน้าตา และรสชาติของอาหาร พยายามกินช้าๆ และหลีกเลี่ยงการกินอาหารในตอนที่คุณกำลังไม่มีสมาธิ หรือรู้สึกเครียด

   • ถามบางคำถามกับตัวคุณก่อนจะเอื้อมไปหาอาหาร ถามตัวเอง: 1)ฉันหิวจริงๆ หรือมีเหตุผลอื่นที่ว่าทำไมฉันอยากจะกินอาหารบางอย่างในตอนนี้เลย ? 2) ฉันอยากกินอะไร? การถามตัวคุณเองด้วยคำถามเหล่านี้ สามารถช่วยป้องกันไม่ให้คุณเอื้อมไปคว้าอาหารขยะ หรือกินบางสิ่งที่ไม่ได้อยากจะกินจริงๆ
3. 
   3
   จงเรียนรู้ที่จะคิดติชมโฆษณาอาหาร. มีโอกาสเพิ่มมากขึ้นที่คนเราจะกินมากเกินไป และเอื้อมไปคว้าอาหารขยะ หลังจากได้ชมโฆษณาอาหารฟาสต์ฟูด หรืออาหารขยะ เนื่องจากทำได้ยากที่จะหลีกเลี่ยงโฆษณาในระหว่างดูทีวี จงสอนตัวเองให้มองดูโฆษณาเหล่านี้ด้วยดวงตาที่คิดติชม อย่าเพียงแค่ยอมรับสิ่งที่โฆษณากำลังบอกกับคุณ

   • จงถามคำถามต่างๆ เกี่ยวกับโฆษณา และพิจารณาวิธีเสนอขายอาหารของโฆษณาชิ้นนั้น มีสิ่งใดที่เกินจริงหรือไม่? หากมีคืออะไร?
4. 4
   ต่อสู้กับความอยาก. คุณจำต้องหาอาหารที่ดีต่อสุขภาพที่ชอบมาเติมเต็มความหิวกระหาย คุณจะไม่รู้สึกหิวถ้ารับประทานอาหารที่ได้สมดุล แต่ความอยากไม่เกี่ยวกับความหิวและอาหารก็มีอะไรมากกว่าแค่สารอาหาร แน่ละที่บางคราวจะรู้สึกโหยหาอะไรที่มันหวาน กรอบ เค็มๆ มันๆ ก็ต้องหาอะไรมาตอบสนองความต้องการโดยที่ไม่เป็นอาหารขยะ

   • คุณอาจเคยชินกับการให้รางวัลแก่ตัวเองด้วยอาหาร ก็จงหารางวัลอาหารที่ดีต่อสุขภาพหน่อย
   • ถั่วบราซิล สตรอเบอร์รี่ ส้มแมนดาริน มันหวานเผา มะเขือเทศเชอร์รี่ กล้วย กรีกโยเกิร์ตราดน้ำผึ้ง แซลมอนรมควัน และขนมปังโฮมเมดสดใหม่ล้วนเป็นส่วนหนึ่งที่ควรแก่การรับไปพิจารณาดู
   โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 4:

พัฒนารูปแบบการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดี

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   จงเรียนรู้เทคนิคการปรุงอาหารสุขภาพ. หากคุณกินอาหารขยะเพราะไม่รู้วิธีปรุงอาหาร ตอนนี้ได้ฤกษ์งามยามดีที่จะเรียนรู้แล้ว การเรียนรู้วิธีปรุงอาหารสุขภาพที่คุณอยากกินอย่างแท้จริง จะช่วยให้คุณไม่หันไปหาอาหารขยะ เมื่อถึงเวลาอาหารมื้อต่างๆ หากคุณมือใหม่เรื่องทำอาหารสุขภาพ จงซื้อตำราอาหารให้กับตัวเองสักเล่มหนึ่ง โดยมีเมนูเพื่อสุขภาพที่น่ากินและทำตามได้ง่าย

   • จงพิจารณาเรื่องนี้ : ผักชนิดหนึ่งจะเป็นอาหารสุขภาพ จนกระทั่งถูกชุบด้วยส่วนผสมที่ทำจากแป้ง นม กับไข่ และทอดด้วยน้ำมันท่วม คุณสามารถทำลายอาหารสุขภาพได้อย่างแท้จริง ด้วยวิธีการปรุงที่คุณเลือก จงเน้นวิธีย่าง อบ ปิ้ง นึ่ง และ ทอดในน้ำมันขลุกขลิก
2. 
   2
   เริ่มออกกำลังกายให้เป็นกิจวัตร. การออกกำลังกายเป็นกิจวัตรก่อให้เกิดประโยชน์ด้านสุขภาพหลายประการ ตั้งแต่การเผาผลาญแคลอรี่เพิ่มมากขึ้น จนถึงลดความเสี่ยงของคุณที่จะพัฒนาสาเหตุด้านสุขภาพบางประการ หากคุณกำลังเลิกอาหารขยะ โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนการใหญ่กว่าที่จะมีสุขภาพดี คุณสมควรพิจารณาการเริ่มออกกำลังกายให้เป็นกิจวัตรด้วย จงตั้งเป้าจะออกกำลังกายทุกวันๆ ละ 30 นาที การเดินเป็นทางเลือกที่ดีมากหากคุณเพิ่งจะเริ่มต้น
3. 
   3
   นอนหลับให้เพียงพอ. การนอนไม่พออาจส่งผลกระทบ ต่อการควบคุมแรงกระตุ้นของคุณ รวมทั้งความสามารถในการตัดสินใจ ซึ่งจะไปสู่การเลือกอาหารที่ไม่ดี ผู้อดนอนมีโอกาสมากกว่าที่จะคว้าอาหารซึ่งเต็มไปด้วยไขมันและน้ำตาล.และโดยรวมจะบริโภคอาหารที่มีแคลอรี่มากกว่า

   • ผลวิจัยแสดงให้เห็นว่าผู้ที่นอนน้อยกว่า จะจบลงด้วยความต้องการคาร์โบไฮเดรตเพิ่มมากขึ้น จงหลีกเลี่ยงปัญหานี้ด้วยการนอนหลับให้เพียงพอในแต่ละคืน
   • เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คุณเข้าถึงอาหารขยะ จงทำให้แน่ใจว่าคุณนอนระหว่าง 7-9 ชั่วโมงทุกคืน คนแต่ละคนล้วนแตกต่าง ดังนั้น คุณจึงอาจต้องการนอนหลับมากกว่าหรือน้อยกว่านี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับอายุและระดับกิจกรรมที่คุณทำด้วย
   โฆษณา

วิธีการ 4

วิธีการ 4 ของ 4:

เข้าใจปัญหาของอาหารขยะ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   คิดถึงวัตถุประสงค์ของอาหาร. คุณคิดอย่างไรเรื่องอาหาร? หากคุณมองอาหารเป็นพลังงานสำหรับร่างกาย คุณน่าจะกินอาหารขยะน้อยลง คิดถึงประโยชน์ต่างๆ จากการกินอาหารสุขภาพ เช่น ผลไม้ ธัญพืชที่ผ่านการขัดสีน้อย และ โปรตีนที่มีไขมันต่ำ แทนอาหารขยะ ทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพต่างๆ จะช่วยให้เชื้อเพลิงที่ดีกว่าแก่ร่างกาย เพื่อที่คุณจะได้ออกกำลังกาย คิด และทำงานได้อย่างดีที่สุด
2. 
   2
   พิจารณาปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับอาหารขยะ. การรู้ถึงปัญหาบางประการที่เกี่ยวข้องกับอาหารขยะ อาจช่วยให้คุณเลิกกินพวกมันได้ เพราะอาหารขยะไม่เพียงมีน้ำตาล ไขมัน และแคลอรี่มากกว่าอาหารสุขภาพ ยังขาดคุณค่าทางอาหาร และไม่ได้ให้ความรู้สึกเต็มอิ่มในระดับเดียวกันกับอาหารที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย

   • คุณค่าทางอาหาร. คุณค่าทางอาหารของอาหารชนิดหนึ่งหมายถึง ปริมาณวิตามินและเกลือแร่ที่ได้จากอาหารนั้น วิตามินกับเกลือแร่คือส่วนที่มาจากธรรมชาติ ของอาหารชนิดที่ดีต่อสุขภาพ แต่สิ่งเหล่านี้ขาดหายไปจากอาหารขยะในระหว่างที่ส่วนประกอบต่างๆ ผ่านกระบวนการผลิต
   • ความรู้สึกเต็มอิ่ม อาหารขยะไม่ได้ให้ความรู้สึกเต็มอิ่มที่คงทน (ความรู้สึกว่ามีอาหารเต็มท้อง) เหมือนกับเวลาเรากินอาหารสุขภาพ คุณจึงน่าจะกินแคลอรี่โดยรวมมากกว่าหากเลือกกินอาหารขยะ
3. 
   3
   เรียนรู้ว่าการกินอาหารขยะส่งผลกระทบอย่างไรต่อสุขภาพของคุณ. การกินอาหารขยะเพิ่มจำนวนแคลอรี่ที่คุณกินเข้าไปซึ่งอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น หากคุณมีน้ำหนักเกินหรือถึงกับเป็นโรคอ้วน คุณจะมีความเสี่ยงสูงมากขึ้นที่จะมีสาเหตุด้านสุขภาพบางอย่าง ซึ่งบางสาเหตุเกี่ยวพันกับโรคอ้วน รวมทั้ง :

   • โรคหลอดเลือดสมอง
   • โรคความดันโลหิตสูง
   • โรคหัวใจ
   • โรคมะเร็งบางชนิด
   • โรคเบาหวาน
   • โรคหยุดหายใจขณะหลับ
   • โรคนิ่วในทางเดินน้ำดี
   • โรคเกาต์
   • โรคข้อเสื่อม
   • โรคซึมเศร้า
   โฆษณา

เคล็ดลับ

• โทรศัพท์หาเพื่อนสักคนหนึ่ง หากคุณกำลังประสบปัญหา ในอันที่จะต่อต้านแรงกระตุ้นให้กินอาหารขยะ หรือทำบางสิ่งเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของคุณจากอาหารขยะชั่วขณะหนึ่ง เช่น ออกเดิน หรืออ่านหนังสือสักเล่มหนึ่ง

โฆษณา