วิธีการ สระผมแบบไม่ใช้แชมพู

สระผมด้วยแชมพูแล้วสะอาดดี แต่ผลข้างเคียงก็มี เช่น สารเคมีสะสม หรือทำให้ผมแห้งเสีย ถ้าบังเอิญแชมพูหมด หรืออยากงดใช้สารเคมีบ้าง ก็ลองสระผมแบบไม่ใช้แชมพูดู แต่ต้องรอ 2 - 16 อาทิตย์ กว่าผมจะปรับตัว เริ่มเห็นผล

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 4:

เตรียมตัวก่อนสระผม

ดาวน์โหลดบทความ

1
เตรียมตัวก่อนสระผมจริง 8 - 12 ชั่วโมง. จริงๆ ก็ทำก่อนอาบน้ำสระผมได้เลย แต่จะดีกว่าถ้าเตรียมตัวแต่เนิ่นๆ ก่อนสระผมประมาณ 8 - 12 ชั่วโมง น้ำมันที่ออกมาระหว่างขั้นตอนจะได้ไหลไปที่เส้นผม ทำความสะอาดง่ายขึ้น^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าเพิ่งสระผมไปไม่นาน ให้รอจนผมเริ่มมัน เพราะขั้นตอนต่างๆ ไม่เหมาะจะทำเป็นประจำทุกวัน
- ผมต้องแห้ง ไม่พันกัน ถ้าผมยุ่งเหยิงเป็นปม ให้ค่อยๆ สางจากปลาย จะทำให้ขั้นตอนต่อๆ มาง่ายขึ้น
2
นวดหนังศีรษะด้วยปลายนิ้ว. สอดมือผ่านเส้นผมแล้วจรดปลายนิ้วที่หนังศีรษะ จากนั้นนวดหนังศีรษะด้วยปลายนิ้วเร็วๆ จังหวะสั้นๆ แต่เบามือ พยายามนวดให้ทั่วทั้งหัว^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ขั้นตอนนี้เรียกว่า "scritching" (เกาเบาๆ) จะช่วยขับน้ำมันตามธรรมชาติออกจากหนังศีรษะ
- ถึงจะเร็วๆ สั้นๆ เหมือนเกา แต่ย้ำว่าให้ใช้ปลายนิ้ว ห้ามใช้เล็บ
3
ใช้นิ้วรูดผมทีละช่อบางๆ. หยิบผมมาช่อบางๆ ใช้นิ้วหนีบให้มั่นที่รากผม แล้วรูดลงมาจนถึงปลายผม ทำซ้ำไปทีละช่อจนทั่วทั้งหัว ขั้นตอนนี้เรียก “preening” (ไซ้ขน แบบนก) จะช่วยกระจายน้ำมันไปตามเส้นผม^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- จะง่ายกว่าถ้าแสกผมเป็น 2 ฝั่ง ไล่ทำไปจนครบแล้วค่อยย้ายฝั่ง รูดจากบนลงล่างทีละช่อบางๆ พอครบก็ย้ายไปรูดผมอีกข้าง แบบนี้ทั่วถึงแน่นอน
- จะรูดไปแปรงผมไปก็ได้ ให้ใช้หวีขนหมูป่าแปรงผมช่อนั้น แล้วตามด้วยใช้นิ้วรูด
- ผมช่อบางๆ แต่ละช่อจะเหมือนริบบิ้นเส้นกว้างแต่บางเฉียบ พยายามให้ช่อบางที่สุด แต่กว้างไม่เกินความยาวของนิ้วตัวเอง
4
สางผมด้วยหวีขนหมูป่า. ย้ำว่าแปรงต้องสะอาดและเลือกที่คุณภาพดีหน่อย ค่อยๆ แปรงไปทีละช่อ เริ่มจากปลายผม ห้ามสางแรงๆ โดยไม่สนว่าปลายผมกับกลางช่อผมพันกันอยู่เด็ดขาด^{[4]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ขั้นตอนนี้จะช่วยกระจายน้ำมันลงมาตามเส้นผม สางเบาๆ ให้ผมไม่พันกัน ผมจะเรียบเนียน
- ถ้าผมยาวหรือแห้งมาก ให้ใส่น้ำมันที่ปลายผมหน่อย ใช้น้ำมันมะพร้าวหรือเชียบัตเตอร์จะดีที่สุด
โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 4:

สระผม

ดาวน์โหลดบทความ

1
ราดน้ำอุ่นจัดให้ผมเปียก. อุณหภูมิสำคัญมาก เพราะน้ำอุ่นจะช่วยให้ cuticle คือผิวหรือเปลือกนอกของผมเปิดออก ร้อนไปผมก็เสีย แต่ถ้าเย็นไป น้ำมันส่วนเกินที่หนังศีรษะจะไม่แตกตัว^{[5]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ให้ทำขั้นตอนนี้ 8 - 24 ชั่วโมงหลังนวดผม รูดผม และแปรงผมแล้ว ถ้าหลังจากนั้นผมเริ่มพันกัน ให้แปรงผมก่อน
- น้ำกระด้างถ้าใช้แล้วไม่ปังก็พังเลย บางคนก็ว่าดี แต่อีกหลายคนสาปส่ง ถ้าคุณเองก็เป็นพวกหลัง อย่าลืมใช้เครื่องกรองน้ำหรือเครื่องทำน้ำอ่อนซะก่อน
2
แสกผมให้เห็นหนังศีรษะ. โดยเฉพาะคนผมยาวหรือผมหนายิ่งขาดไม่ได้ เดี๋ยวเราก็ต้องมานวดหนังศีรษะกันอีก แต่คราวนี้ต้องให้น้ำไหลผ่านไปด้วย แสกผมแล้วจะทำให้น้ำกระทบหนังศีรษะตรงๆ
- ไม่สำคัญว่าจะแสกผมตรงไหนยังไง เพราะต้องทำให้ครบทั้งหัวอยู่แล้ว!
จรดปลายนิ้วที่หนังศีรษะ แล้วนวดเบาๆ โดยยืนใต้ฝักบัวที่เปิดอยู่ ให้น้ำราดหัว จะช่วยขจัดทั้งน้ำมันส่วนเกินและสิ่งสกปรก^{[6]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
4
preen ให้น้ำกระทบแล้วไหลจากหนังศีรษะเยอะๆ ถ้าผมมันเป็นพิเศษ. ถ้าผมแห้งก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าผมมันง่าย หรือเหงื่อออกบ่อยๆ การ preen นี้จะช่วยได้เยอะ เหมือนเดิมคือใช้นิ้วหนีบผมช่อบางๆ แล้วรูดลงตามความยาว จากรากผมไปปลายผม^{[7]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ทำขั้นตอนนี้ซ้ำ 2 รอบ คือ 2 ฝั่งของแสก
- ถ้าผมมันมากจนน่ากลัว ก็ต้อง preen ให้น้ำราดแล้วไหลผ่านหนังศีรษะเยอะๆ
5
ทำซ้ำจนครบทั้งหัว. พยายามทำแบบมีระบบเป็นขั้นเป็นตอนหน่อย จะได้ไม่หลงลืมจุดไหนไป พยายามแบ่งทำ 2 ฝั่ง ฝั่งหนึ่งเสร็จก็ต่ออีกฝั่ง ส่วนด้านหลังเก็บไว้สุดท้ายเลย
- อย่าลืมเน้นตามกรอบหน้าด้วย รวมถึงจุดอื่นๆ ที่มันง่ายเป็นพิเศษ
ถ้าขี้หนาว ก็อย่าให้น้ำโดนตัว เงยหน้าให้น้ำรดเฉพาะผมก็พอ แบบนี้จะได้ไม่หนาวเกินไป^{[8]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
โฆษณา

ส่วน 3

ส่วน 3 ของ 4:

ทำให้ผมแห้ง

ดาวน์โหลดบทความ

1
ซับผมให้แห้งด้วยเสื้อยืดหรือผ้าไมโครไฟเบอร์. ห้ามเช็ดหรือขยี้แรงๆ และห้ามใช้ผ้าขนหนูทั่วไป เพราะจะทำให้ผมชี้ฟูได้ แค่ซับๆ ด้วยเสื้อยืดหรือผ้าไมโครไฟเบอร์ จนผมแห้งหมาดๆ จะดีที่สุด^{[9]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ตอนนี้ยังไม่ถึงกับต้องให้ผมแห้งสนิท
2
หวีผมด้วยหวีซี่ห่าง แล้วลงน้ำมันบำรุงผมถ้าจำเป็น. ก็เหมือนตอนแปรงผม คือให้เริ่มจากปลายก่อน พอแก้ปมที่พันกันตรงปลายได้แล้ว ก็ค่อยขยับไปหวีตรงกลาง เสร็จแล้วค่อยหวีจากรากผมจรดปลาย^{[10]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าผมพันกัน ให้ใส่น้ำมันบำรุงผม 1 - 2 หยดตรงปลายและกลางเส้นผม จะช่วยให้ผมช่อนั้นมันเงาขึ้น หวีลื่น ไม่ชี้ฟู
- ห้ามใช้แปรงผม เพราะผมเปียกอยู่ กำลังอ่อนแอขาดง่าย ถ้าใช้แปรงที่ซี่ละเอียด ผมจะเสียได้
3
ควรปล่อยให้ผมแห้งเอง. ถ้าอยากให้แห้งเร็วขึ้น จะซับด้วยเสื้อยืดหรือผ้าไมโครไฟเบอร์อีกทีก็ได้ แต่ห้ามขยี้ หลายคนก็ว่าสระผมวิธีนี้แล้วแห้งเร็วกว่าตอนใช้แชมพูเยอะเลย
- พอผมแห้งแล้ว ก็จัดทรงตามชอบ แต่พยายามอย่าใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมมากนัก เพราะสารเคมีสะสมได้
4
ทำซ้ำตามขั้นตอนทุก 3 - 7 วัน. ย้ำอีกทีว่าไม่ควรทำทั้งหมดที่ว่ามาทุกวัน เหตุผลก็สั้นๆ ง่ายๆ คือยิ่งสระผมบ่อย หนังศีรษะก็ยิ่งขับน้ำมันส่วนเกินออกมา ถ้าสระผมน้อยลง หนังศีรษะจะเริ่มชิน จนผลิตน้ำมันน้อยลง ผมไม่เหนียวมันง่ายเหมือนเดิม^{[11]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- แต่ต้องทำแบบนี้ 2 - 16 อาทิตย์ขึ้นไป ถึงจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลง
โฆษณา

ส่วน 4

ส่วน 4 ของ 4:

วิธีการเพิ่มเติม

ดาวน์โหลดบทความ

1
ลองสระผมสูตรอ่อนโยนด้วยเบคกิ้งโซดา. ให้ผสมเบคกิ้งโซดา 1 - 2 ช้อนโต๊ะ (10 - 30 กรัม) กับน้ำอุ่น 1 ถ้วยตวง (240 มล.) จากนั้นเทราดหัว แล้วนวดให้ซึมเข้าหนังศีรษะ ทิ้งไว้ 3 - 5 นาที สุดท้ายล้างออก เสร็จแล้วจะลงครีมนวดหรือใช้น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลก็แล้วแต่
- ถ้าอยากทำความสะอาดแบบล้ำลึก ให้ผสมเบคกิ้งโซดา 1 ส่วนกับน้ำ 1 ส่วน^{[12]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
2
ใช้น้ำผสมน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลแทนแชมพูสูตรอ่อนโยน. ก็ไม่มีสัดส่วนตายตัว แต่ส่วนใหญ่คนที่ใช้จะผสมน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล 1 - 2 ช้อนโต๊ะ (15 - 30 มล.) กับน้ำ 1 ถ้วยตวง (240 มล.) พอผมเริ่มชิน ก็เพิ่มเป็นน้ำส้มสายชู 1 ส่วนกับน้ำ 1 ส่วนแทนได้ วิธีใช้ก็เหมือนเดิม คือเทราดหัว นวดให้ซึมเข้าหนังศีรษะ แล้วล้างออก^{[13]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถึงสูตรนี้จะอ่อนโยนถนอมเส้นผม แต่ก็ ไม่ค่อย อ่อนโยนกับดวงตาเท่าไหร่ เพราะงั้นอย่าให้เข้าตาล่ะ!
- ใครกังวลเรื่องกลิ่นก็สบายใจได้ เพราะผมแห้งก็จางไปเอง จะใช้สูตรนี้อย่างเดียว หรือใช้หลังสูตรเบคกิ้งโซดาเลยก็ได้
- เป็นสูตรที่เหมาะกับคนเป็นรังแค ผมมัน ผมแห้ง หรือสารเคมีตกค้าง รวมถึงคนที่สระผมด้วยน้ำกระด้าง เพราะจะช่วยให้ผมเงางามขึ้นแน่นอน
- จะยิ่งเห็นผลถ้าใช้น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลแบบมี residue หรือตะกอนนอนก้น
3
ลองเจือจางน้ำมะนาวแล้วใช้แทนน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล. ถึงจะไม่ทำให้ผมนุ่มเงางามเท่า แต่ก็ช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกินได้ดี แค่บีบมะนาว 1 ลูกใส่น้ำอุ่น 1 ถ้วยตวง (240 มล.) เทราดหัว นวดให้เข้าหนังศีรษะ แล้วล้างออก
- รู้ไว้ใช่ว่า น้ำมะนาวทำให้ผมสีอ่อนลงอย่างเป็นธรรมชาติได้ด้วย
4
ถ้าผมแห้ง หยิก ผมธรรมชาติ หรือผมลอน ลองสระแบบ co-washing ดู. ก็คือสระผมด้วยครีมนวดแทน ปกติเราจะใส่ครีมนวดเฉพาะที่ปลายผม แต่ลองสระผมแบบลงครีมนวดที่หนังศีรษะดู ใช้มือนวดให้ซึมเข้าผิวหนังด้วย บอกเลยว่าพอล้างผมก็ม้วนเดียวจบ^{[14]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- แต่ไม่แนะนำให้ co-washing ถ้าใครผมเหนียวมัน เพราะไม่ได้ช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกินออกไป
- อาจจะต้องนวดหนังศีรษะเยอะกว่าปกติ ถึงจะแน่ใจได้ว่าสะอาดดี
โฆษณา

เคล็ดลับ

ให้ scritch หนังศีรษะด้วยปลายนิ้วหรือหวีขนหมูป่าสักวันละ 5 - 10 นาที เพื่อให้น้ำมันส่วนเกินที่หนังศีรษะแตกตัว ไหลไปถึงปลายผม^{[15]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
ถ้ารู้สึกว่าต้องใช้ผลิตภัณฑ์สักอย่าง ให้เลือกวิธี co-washing คือสระผมไปตามปกติ แค่เปลี่ยนแชมพูเป็นครีมนวด
ลองสระผมด้วยผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากธรรมชาติ เช่น น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล

โฆษณา