วิธีการ ทาเล็บเจล

ทาเล็บเจลทำให้เล็บอะคริลิคแข็งแรงทนทานขึ้น แถมดูธรรมชาติกว่าเดิม เวลาทาเล็บเจลกลิ่นจะไม่ฉุนเท่าแบบอะคริลิค เล็บเจลจะแห้งได้ต้องใช้เครื่องอบ UV โดยต้องอบสีเล็บแต่ละชั้นประมาณ 2 - 3 นาทีจนแห้งสนิท เป็นการสร้างพันธะเคมียึดสีเจลเข้ากับเล็บคุณ

สิ่งที่คุณควรรู้

ตัดและตะไบเล็บก่อนทา base coat
ทาเจล 1-2 ชั้น; อบแต่ละชั้นใต้เครื่องอบ UV
เคลือบเล็บเจลด้วย top coat ใสหนึ่งชั้นเพื่อปกป้องสีเล็บ
ล้างเล็บเจลตามต้องการโดยแช่สำลีก้อนใน acetone แล้วห่อรอบนิ้วด้วยฟอยล์

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 4:

เตรียมเล็บก่อนทา

ดาวน์โหลดบทความ

1
ตะไบเล็บให้เข้ารูป. ถึงทำเล็บเองที่บ้านก็สวยเนี้ยบได้ แต่ต้องเริ่มจากเล็บเปล่าสภาพสมบูรณ์ ค่อยๆ ตัดและตะไบจนสวยได้รูป ก่อนตัดให้ออกแบบรูปทรงของเล็บตามต้องการก่อน โดยตัดเล็บตามปกติแล้วตะไบปลายเล็บ สุดท้ายใช้บัฟเฟอร์ขัดหน้าเล็บให้เนียน เดี๋ยวนี้ทรงเล็บมีทั้งแบบกลม เหลี่ยม แหลม รูปเพชร กระทั่งรูปไข่
- อย่าลืมว่าเล็บเจลจะเป็นไปตามทรงเล็บของคุณ เพราะงั้นนี่คือขั้นตอนที่สำคัญ ไม่เหมือนเล็บอะคริลิคที่มาแต่งทรงเล็บระหว่าง/หลังทาได้
- คุณสามารถข้ามขั้นตอนนี้ไปที่การทา base coat ก็ได้ แต่ถ้าจะทาเล็บเจลแบบแฟนซีก็ต้องทำให้ถูกขั้นตอน!
2
ใช้ไม้ดันหนัง. พอเล็บสวยได้รูปแล้ว ทาครีมกำจัดเศษหนังรอบ^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}ให้ใช้ไม้ดันจมูกเล็บและตามซอกเล็บ เพื่อกำจัดหนังส่วนเกิน จากนั้นใช้สำลีชุบ acetone เช็ดทำความสะอาดน้ำมันและเศษหนังที่ติดอยู่
- acetone จะทำให้เล็บลดความชุ่มชื้น ซึ่งจะช่วยให้สีเจลติดกับเล็บง่ายขึ้น
3
ทา base coat. ทา base coat รองพื้นเล็บแค่บางๆ ยิ่งเป็นเล็บเจลยิ่งต้องบางกว่าตอนใช้ยาทาเล็บปกติ เวลาทา base coat ต้องระวัง อย่าให้เจลติดนิ้ว ปล่อยให้ base coat แห้ง ทิ้งไว้นานเป็นสองเท่าของเวลาที่แนะนำได้ยิ่งดี.^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- คุณสามารถอัง base coat ใต้โคม LED สัก 1-2 นาทีให้แห้งหรือปล่อยให้ตากลมสัก 10 นาที ขึ้นอยู่กับว่ารีบแค่ไหน
- สีเจลบางตัวมาพร้อมกับ primer ให้ใช้แทน base coat โดยเฉพาะ ถ้ามีก็ใช้แทน base coat ได้เลย
โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 4:

ทาเล็บเจล

ดาวน์โหลดบทความ

พอ base coat แห้งสนิท ให้ทาซ้ำอีกรอบแบบบางสุดๆ ซึ่งก็คือชั้นสีเจลชั้นแรกนั่นเอง ทาแล้วอาจจะดูไม่ค่อยเรียบเนียน ก็ไม่เป็นไรเพราะเดี๋ยวต้องทาอีกชั้น ให้ทาสีเล็บเจลให้ทั่วหน้าเล็บ ยาวไปถึงปลายเล็บ เกินออกไปหน่อย สีเจลจะได้ไม่หดตอนอบ^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
2
อบเล็บด้วยเครื่องอบ UV 2 - 3 นาที ทำตามคำแนะนำที่มาพร้อมสีเจล ปกติแล้วจะอบใต้โคมไฟ LED ราว 30 วินาทีหรือเครื่องอบ UV ราว 2 นาที^{[4]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- การอบทำให้เจลแข็งตัวอย่างถูกต้อง ถ้าไม่อบเล็บ เจลอาจแห้งไม่สม่ำเสมอกัน
- สีเจลจะยังคงไม่แห้งจนกว่าจะเข้าอบด้วยแสง คุณจะทาสีเจลโดยไม่มีเครื่องอบ UV หรือโคมไฟ LED ไม่ได้
3
ทำกระบวนการนี้ซ้ำเพื่อทาชั้นที่สอง. ทาเจลชั้นที่สอง ซึ่งจะดูใสและสีสันเจิดจ้าขึ้นเมื่อทาลงบนชั้นแรก ทาเล็บในแนวยาวและทาลงมาจนสุดปลายเล็บ แล้วอบเล็บเหมือนที่ทำตอนชั้นแรก^{[5]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- คุณจะเติมชั้นที่สามก็ได้ถ้าต้องการ แต่ปกติก็ไม่จำเป็นหรอก
โฆษณา

ส่วน 3

ส่วน 3 ของ 4:

เคลือบด้วย Top Coat

ดาวน์โหลดบทความ

1
ทา top coat เพื่อปกป้องสีเจล. เคลือบเล็บด้วยเจล top coat ให้ทาเกินปลายเล็บออกไปเหมือนตอนทาสีเจล แล้วอบซ้ำในเครื่อง UV อีก 2 นาทีหรือโคม LED อีก 30 วินาที
- คุณสามารถใช้ top coat ทั่วไปได้ แม้ว่าจะมี top coats พิเศษมาวางขายให้เลือกก็ตาม
บางสีเจลก็ทาแล้วเลอะเทอะ เหนียวหนึบตามขอบเล็บหลังอบ top coat ถ้าเป็นแบบนี้ ให้ใช้สำลีก้อนชุบ isopropyl alcohol เช็ดเก็บงาน ปิดจ็อบด้วยการทาน้ำมันบำรุงขอบเล็บและจมูกเล็บ^{[6]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
3
ตะไบเล็บให้เนียนและเก็บข้อผิดพลาดต่างๆ. เอาตะไบเล็บมาขัดโดยใช้ด้านที่ละเอียดที่สุดขัดไปมา นี่จะช่วยขัดเอาคราบ top coat ส่วนเกิน แล้วใช้สำลีก้อนชุบ acetone เช็ดอีกทีก็เป็นอันเรียบร้อย!
- เก็บงานขั้นสุดท้ายโดยการใช้น้ำมันบำรุงเล็บทาผิวรอบโคนเล็บ
โฆษณา

ส่วน 4

ส่วน 4 ของ 4:

ล้างเล็บเจล

ดาวน์โหลดบทความ

1
ไปหาช่างทำเล็บเพื่อความปลอดภัยที่สุด. เล็บเจลนั้นแข็งมากเมื่อเทียบกับการทาเล็บแบบอื่น คุณจึงอาจทำให้เล็บเสียหายได้ เวลาไปร้านเสริมสวยคราวหน้า ก็บอกช่างให้ช่วยจัเดการได้เลย
- นี่ไม่ได้บอกว่าคุณไม่ควรทำเอง แค่อาจเสี่ยงทำเล็บเสียหาย
2
ตะไบ top coat ออก. เวลาจะล้างเล็บเจล ขั้นแรกคือต้องตะไบ top coat ออกก่อน ชั้นที่เงาวับนั่นแหละ พอเล็บด้านแล้วค่อยล้างสีเจลต่อ^{[7]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- หลีกเลี่ยงการขัดสีเจลออก เพราะตอนทำมันอาจขัดชั้นเล็บของคุณออกไปด้วย ทำให้เล็บเปราะแห้ง
3
ใช้สำลีก้อนชุบ acetone 100%. ถ้าไม่ใช้ acetone 100% ล้างสีเจลไม่ออกแน่นอน ให้ใช้สำลีสัก 10 ก้อนชุบ acetone ให้ชุ่ม โดยสำลีก้อนที่ว่าต้องใหญ่พอจะปิดได้ทั้งเล็บ^{[8]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- เวลาใช้ acetone ต้องใช้อย่างระมัดระวังเพราะมันเป็นสารเคมีรุนแรง จำไว้ด้วยว่า acetone จะทำให้เล็บแห้ง ซึ่งจะทำให้มันเปราะหลังจากนั้น
4
ห่อฟอยล์สีเงินๆ รอบปลายนิ้ว. ใช้สำลีชุ่มๆ ก้อนหนึ่งแปะให้มิดทั้งเล็บ แล้วห่อเล็บกับปลายนิ้วด้วยฟอยล์ ทำซ้ำให้ครบทุกนิ้ว^{[9]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- แนะนำให้ทำทีละมือ เพราะถ้ามือหนึ่งห่อฟอยล์อยู่ จะห่ออีกมือก็ยากหน่อย
5
ทิ้งไว้แล้วค่อยแกะออกทีละเล็บ. ห่อฟอยล์ไว้ 15 นาที ไม่ต้องแอบเปิดเรื่อยๆ เพราะอยากดูว่าสีหลุดหรือยัง พอครบ 15 นาทีให้แกะฟอยล์ออกทีละนิ้ว เจลจะค่อยๆ ลอกตามมา ก็ใช้ไม้ดันหนังช่วยเขี่ยให้หลุดง่ายขึ้น^{[10]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้ามีสีเจลติด ไม้ดันหนังยังเอาไม่อยู่ ให้ห่อฟอยล์ทับสำลีก้อนชุบ acetone ซ้ำอีกรอบ ทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วลองแกะดูใหม่
6
ทาน้ำมันบำรุงเล็บ. ย้ำอีกทีว่าให้ปิดท้ายด้วยน้ำมันบำรุงเล็บ โดยทาๆ นวดๆ ตามขอบและจมูกเล็บ^{[11]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าเล็บดูเยินเหลือเกิน ให้ทาน้ำมันบำรุงที่เล็บด้วย แล้วใช้บัฟเฟอร์ขัดวน
โฆษณา