วิธีการ รักษาอาการปวดท้องจากการทานอาหารขยะมากเกินไป

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

หากคุณทานอาหารแปรรูป หรือที่เรียกว่า “อาหารขยะ” เป็นประจำ เช่น ลูกกวาด อาหารที่มีไขมันมาก และขนมขบเคี้ยว อาจส่งผลให้คุณเกิดอาการปวดท้องได้ อาการปวดท้องและอาการท้องอืดนั้นมีสาเหตุมาจากการขาดไฟเบอร์ และอาหารขยะโดยส่วนใหญ่จะมีไฟเบอร์ในปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น[1] นอกจากนี้ น้ำตาล ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการปวดท้องได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการปวดท้องที่เกิดจากท้องอืด วิธีการเหล่านี้จะช่วยให้อาการปวดท้องหายดีหลังการทานอาหารขยะมากเกินไป

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

บรรเทาอาการปวดท้องที่เกิดจากการทานอาหารขยะ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ดื่มน้ำเลมอน.
    กรดในน้ำเลมอนสามารถเพิ่มความเร็วในการย่อยอาหารได้ ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการปวดท้องที่เกิดจากการทางอาหารขยะมากเกินไป[2] เพียงผสมน้ำเลมอนเข้ากับน้ำอุ่น 8-12 ออนซ์ และจิบเรื่อยๆ จนกระทั่งรู้สึกดีขึ้น
    • คุณสามารถลองผสมน้ำเลมอนกับน้ำชาได้เช่นกัน และอาจเติมน้ำผึ้งเพิ่มลงไปเล็กน้อยเพื่อให้ดื่มง่ายมากขึ้น แต่ไม่ควรเติมน้ำผึ้งมากเกินไปเนื่องจากอาจทำให้อาการปวดท้องแย่ลง
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ดื่มชาคาร์โมไมล์.
    ชาคาร์โมไมล์มีฤทธิ์เป็นยาแก้อักเสบ ช่วยผ่อนคลายระบบทางเดินอาหาร และทำให้อาหารย่อยง่ายขึ้น[3] เพียงแช่ถุงชาคาร์โมไมล์ในน้ำร้อนประมาณ 5-10 นาที หรือจนน้ำชาเย็นพอจนสามารถดื่มได้ จิบเรื่อยๆ จนน้ำชาหมดหรือจนอาการปวดท้องบรรเทาลง
    • ชาคาร์โมไมล์เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับการดื่มก่อนเข้านอน เนื่องจากชาคาร์โมไมล์จะช่วยให้คุณนอนหลับได้ดี
    • ควรระวังเมื่อดื่มของร้อน โดยลองใช้ช้อนตักน้ำชาขึ้นมาจิบดูก่อนเพื่อทดสอบดูว่าน้ำชาเย็นพอแล้วหรือยัง
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ดื่มชาเปปเปอร์มินต์.
    เปปเปอร์มินต์สามารถช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อระบบทางเดินอาหารได้เช่นเดียวกัน และยังช่วยให้น้ำดีไหลเป็นปกติ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการย่อยอาหารอีกด้วย[4] ชาเปปเปอร์มินต์สามารถหาซื้อได้จากซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านขายอาหารเพื่อสุขภาพ โดยมีทั้งในรูปแบบของถุงชาและใบชา เพียงแช่ใบชาในน้ำร้อนจนกระทั่งน้ำชาเย็นลง แล้วจึงจิบจนน้ำชาหมดหรือจนเริ่มรู้สึกดีขึ้น
    • หากคุณปลูกต้นเปปเปอร์มินท์ไว้ที่บ้าน ให้เลือกตัดกิ่งที่มีใบเยอะๆ และแขวนตากแห้งไว้เพื่อนำมาทำเป็นใบชา ด้วยเหตุนี้ คุณจึงสามารถดื่มชาเปปเปอร์มินท์ที่ปลูกเองได้ตลอดเวลาที่คุณมีอาการปวดท้อง
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ดื่มชาขิง.
    คุณยังสามารถทานลูกอมเคี้ยวหนึบรถขิงได้เช่นกัน ซึ่งทั้งคู่จะช่วยบรรเทาอาการปวดท้องได้
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ประคบร้อน.
    ในบางครั้งอาการปวดท้องสามารถบรรเทาลงได้ด้วยการประคบร้อนบริเวณหน้าท้อง การประคบร้อนจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและทำให้คุณลืมอาการเจ็บปวดที่มี[5] เติมน้ำร้อนลงไปในกระเป๋าน้ำร้อน จากนั้นให้เอนตัวลงนอน นำกระเป๋าน้ำร้อนวางไว้บนหน้าท้องและผ่อนคลายจนกระทั่งอาการปวดบรรเทาลง
    • ในขณะที่เอนตัวลงนอนพร้อมประคบด้วยกระเป๋าน้ำร้อน คุณอาจรู้สึกง่วงจนหลับไป ซึ่งการนอนหลับพักผ่อนสามารถช่วยให้คุณไม่ต้องรู้สึกทรมานกับอาการปวดท้องได้
    • หากไม่มีกระเป๋าน้ำร้อน คุณสามารถใช้กระเป๋าน้ำร้อนไฟฟ้าแทนได้
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ทานเปปโต-บิสมอล.
    เปปโต-บิสมอล (Pepto-Bismol) สามารถใช้เพื่อรักษาอาการปวดท้อง รวมถึงอาการอื่นๆ ได้ เช่นเดียวกับการใช้ยาชนิดอื่น คุณควรปรึกษาแพทย์ให้ดีก่อนเริ่มทานเปปโต-บิสมอลหากคุณกำลังทานยาชนิดอื่นอยู่ เนื่องจากอาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาทั้ง 2 ชนิดได้[6]
  7. How.com.vn ไท: Step 7 ดื่มชาข้าว.
    เพียงต้มข้าว ½ ถ้วยในน้ำเปล่า 6 ถ้วยประมาณ 15 นาที ก็จะได้ชาข้าวที่คุณสามารถดื่มเพื่อบรรเทาอาการปวดท้องได้ เมื่อต้มข้าวจนกระทั่งเดือดแล้ว ให้กรองข้าวออกและเติมน้ำผึ้งหรือน้ำตาลลงไปเล็กน้อย จากนั้นจึงดื่มชาข้าวอุ่นๆ ที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ[7]
  8. How.com.vn ไท: Step 8 ลองทานขนมปังไหม้.
    แม้ดูเหมือนว่าของที่มีรสชาติขมอย่างขนมปังไหม้จะทำให้อาการปวดท้องรุนแรงขึ้นแทนที่จะบรรเทาลง แต่จริงๆ แล้ว ส่วนที่ไหม้ของขนมปังอาจช่วยให้อาการปวดท้องดีขึ้นได้ โดยกล่าวกันว่าชิ้นขนมปังที่ไหม้จะช่วยดูดซึมสารบางชนิดที่ทำให้คุณรู้สึกไม่สบาย[8]
    • อาจเติมน้ำผึ้งหรือแยมเล็กน้อยเพื่อให้ขนมปังอร่อยมากขึ้น
  9. How.com.vn ไท: Step 9 ทานแอปเปิ้ลไซเดอร์เวเนการ์ในปริมาณเล็กน้อย....
    ทานแอปเปิ้ลไซเดอร์เวเนการ์ในปริมาณเล็กน้อย. แอปเปิ้ลไซเดอร์เวเนการ์สามารถช่วยให้อาการปวดท้องสงบลง โดยผสมกับน้ำร้อนในอัตราส่วน 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 1 ถ้วย พร้อมเติมน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะเพิ่มลงไป ส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยลดอาการปวดเกร็งที่ท้องรวมถึงแก๊สในกระเพาะอาหาร และอาจช่วยลดอาการเสียดท้องได้ด้วย[9]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

หลีกเลี่ยงอาหารขยะที่ก่อให้เกิดอาการปวดท้อง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ควบคุมปริมาณอาหารขยะที่ทาน.
    อาหารขยะบางชนิดถูกจัดว่าเป็นอาหารที่ย่อยยาก[10] ด้วยเหตุนี้ คุณจึงจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการทานอาหารขยะมากเกินไป เพราะอาจทำให้คุณมีอาการปวดท้องได้ เนื่องจากอาหารขยะโดยส่วนใหญ่นั้นมีไฟเบอร์เพียงเล็กน้อย และยังมีน้ำตาล ไขมัน และคาร์โบไฮเดรตในปริมาณสูง
    • อาหารโดยส่วนใหญ่จะมีหน่วยบริโภครวมถึงข้อมูลทางโภชนาการบอกไว้บนบรรจุภัณฑ์ คำนวณปริมาณและทานอาหารขยะเพียงอย่างเดียวเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดอาการปวดท้อง
    • คุณยังสามารถใช้วิธีซื้อขนมขบเคี้ยวเพียงห่อเดียวเพื่อที่คุณจะได้ไม่รับประทานมากเกินไป
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ทานของว่างที่มีประโยชน์แทนอาหารขยะ.
    ผลไม้สดและสมูตตี้ผลไม้อาจช่วยลดความอยากทานของหวานได้ รวมถึงถั่วคลุกเกลือที่อาจช่วยลดความอยากทานมันฝรั่งทอดได้เช่นกัน[11] การทานอาหารขยะอย่างพอดีจะไม่ทำให้เกิดอาการปวดท้อง เนื่องจากอาการปวดท้องนั้นขึ้นอยู่กับความถี่หรือปริมาณที่รับประทานเข้าไป เพื่อลดการทานอาหารขยะมากเกินไป ให้เลือกทานของว่างที่ดีต่อสุขภาพแทน โดยทั่วไปแล้ว คุณควรมองหาอาหารที่ดีต่อสุขภาพมาทานทดแทนอาหารขยะแต่ละชนิด ซึ่งการเตรียมอาหารเหล่านี้ติดบ้านไว้อยู่เสมอและรับประทานแทนอาหารขยะจะช่วยให้ป้องกันไม่ให้คุณมีอาการปวดท้องซึ่งเกิดจากการทานอาหารขยะมากเกินไป
    • ควรหั่นผลไม้สดที่ซื้อมาทันทีหลังกลับมาถึงบ้านแล้ว ใส่ไว้ในภาชนะบรรจุและนำไปแช่ในตู้เย็น เพื่อให้ผลไม้พร้อมทานอยู่เสมอเมื่อคุณต้องการ
    • ลองผสมถั่วเข้ากับผลไม้อบแห้งเพื่อทานเป็นของว่างรสหวานเค็ม
  3. How.com.vn ไท: Step 3 หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่เป็นสาเหตุของอาการปวดท้อง....
    หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่เป็นสาเหตุของอาการปวดท้อง. การดื่มน้ำเปล่าแทนเครื่องดื่มที่อาจทำให้เกิดอาการปวดท้องเป็นวิธีที่ดีที่จะช่วยป้องกันอาการปวดท้องได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณทานอาหารขยะชนิดอื่นด้วย กาแฟ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และน้ำอัดลมอาจทำให้คุณรู้สึกปวดท้องได้ ทั้งการดื่มแบบเปล่าๆ และดื่มร่วมกับอาหารขยะ
    • โดยทั่วไป น้ำอัดลมสามารถก่อให้เกิดอาการปวดท้องได้เนื่องจากน้ำตาลและส่วนประกอบอื่นๆ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ไปพบแพทย์หากอาการปวดท้องไม่บรรเทาลง เนื่องจากอาจเกิดแผลในกระเพาะอาหารซึ่งจำเป็นต้องรักษาด้วยยา
  • ดื่มน้ำและเข้าห้องน้ำบ่อยๆ
  • ทานยา Tums หรือ Rolaids หรือยาลดกรดชนิดอื่นๆ เพื่อช่วยให้อาการบรรเทาลงเล็กน้อย และเอนตัวลงนอนในตำแหน่งที่สบายสักครู่ โดยท่าทางที่สบายที่สุดสำหรับอาการปวดท้องคือท่านอนเหยียดหรือท่าขดตัว
  • ผงขมิ้นชันเป็นสมุนไพรธรรมชาติที่ช่วยในการต่อต้านการอักเสบและมีรสจืด ดังนั้นจึงสามารถเติมลงไปในอาหารเกือบทุกชนิด คุณสามารถซื้อผงขมิ้นชันได้จากแผนกอาหารเพื่อสุขภาพหรือแผนกเครื่องปรุง
โฆษณา

คำเตือน

  • เอนตัวลงนอนหากมีอาการคลื่นไส้
  • คุณอาจมีเพียงอาการป่วยเท่านั้น ดังนั้นให้สังเกตดูว่าคุณรู้สึกดีขึ้นหรือยังหลังนอนพักผ่อนแล้ว
  • คอยระวังในการทำอาหารหรือใช้มีด (เช่น ตอนหั่นแอปเปิ้ล)
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Claudia Carberry, RD, MS
ร่วมเขียน โดย:
นักกำหนดอาหารที่ได้รับการขึ้นทะเบียน
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Claudia Carberry, RD, MS. คลอเดีย คาร์เบอร์รีเป็นนักกำหนดอาหารที่ได้รับการขึ้นทะเบียน เชี่ยวชาญในด้านโภชนาการสำหรับผู้ป่วยปลูกถ่ายไตและการให้คำปรึกษาเรื่องการลดน้ำหนักแก่ผู้ป่วยที่มหาวิทยาลัยอาร์คันซอเพื่อวิทยาศาสตร์การแพทย์ เธอเป็นสมาชิกของสถาบันโภชนาการและการกำหนดอาหารอาร์คันซอ คลอเดียได้รับปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยเทนเนสซี วิทยาเขตน็อกซ์วิลล์ ในปี 2010 บทความนี้ถูกเข้าชม 6,955 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 6,955 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา