วิธีฟื้นฟูเส้นผม: วิธีธรรมชาติช่วยได้หรือไม่?

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

ใช้ครีมหมักผมสูตรธรรมชาติ

ปรับเปลี่ยนอาหารที่รับประทาน

วิธีการดูแลผม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ผมร่วงเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นทั้งผู้ชายและผู้หญิง การฟื้นฟูสภาพเส้นผมมีหลายวิธีเช่นใช้สารเคมี หรือศัลยกรรมปลูกถ่ายผม หากคุณกำลังมองหาวิธีฟื้นฟูผมให้กลับมาสวยเหมือนเดิม นวดหนังศีรษะ ใช้น้ำมัน เปลี่ยนอาหารที่รับประทาน วิธีการเหล่านี้ไม่ต้องใช้สารเคมีแถมไม่สิ้นเปลืองและเป็นวิธีการที่คุณสามารถเริ่มทำได้ไม่ยาก หมั่นดูแลเส้นผมให้มีสุขภาพดีป้องกันการขาดร่วงของเส้นผม จะเป็นหนทางไปสู่เส้นผมสุขภาพผมที่แข็งแรงได้อย่างแน่นอน

ขั้นตอน

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 3:

ใช้ครีมหมักผมสูตรธรรมชาติ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   นวดหนังศีรษะเป็นประจำ. การนวดหนังศีรษะจะช่วยให้ระบบหมุนเวียนเลือดรอบๆ รูขุมขนดีขึ้น เป็นสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม ใช้ปลายนิ้วค่อยๆ นวดหนังศีรษะอย่างเบามือ นวดให้ทั่วหนังศีรษะจะช่วยให้เลือดไหลเวียนทั่วทั้งศีรษะ

   • นวดหนังศีรษะเป็นประจำทุกครั้งที่สระผม
   • การนวดหนังศีรษะอย่างชำนาญสามารถฝึกฝนได้ คุณจะได้เรียนรู้ทางที่ดีที่สุดในการนวดหนังศีรษะเอง
2. 
   2
   ลองใช้น้ำมันนวด. นำน้ำมันมาช่วยในการนวดหนังศีรษะจะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีกว่าการนวดธรรมดา น้ำมันจะช่วยขจัดสิ่งอุดตันรูขุมขน เพื่อที่ผมใหม่จะได้เติบโตขึ้นมาได้ ใช้น้ำนวดประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ สามารถทำตอนอาบน้ำได้เลย เมื่อนวดเสร็จแล้วล้างน้ำมันออกด้วยน้ำเปล่า และนี่คือน้ำมันที่นิยมใช้กัน

   • น้ำมันมะพร้าว น้ำมันที่อุดมไปด้วยสารที่ทำให้ผิวพรรณนุ่มน่าสัมผัสนี้มีประโยชน์กับร่างกายคุณมากมาย และยังฟื้นฟูเส้นผมได้อีกด้วย นำน้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ มาอุ่นในไมโครเวฟ (เพียง 15 วินาทีก็เพียงพอที่จะทำให้น้ำมันมะพร้าวได้ที่) เทน้ำมันลงบนฝ่ามือนวดเล็กน้อย จากนั้นนำไปนวดหนังศีรษะโดยใช้นิ้วมือค่อยๆ นวด
   • น้ำมันโจโจบา โจโจบามีความคล้ายกับซีบัม ซึ่งเป็นน้ำมันที่ผลิตโดยหนังศีรษะเป็นตัวช่วยให้เส้นผมผ่อนคลายมีสุขภาพดี
   • น้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันตัวนี้นิยมใช้ในประเทศอินเดียเพื่อบำรุงให้ผมเจริญเติบโตดี
3. 
   3
   ฟื้นฟูด้วยการมาส์กผม. มาส์กที่ดีต้องทำให้ผมชุ่มชื้นและสุขภาพดี ขณะเดียวกันก็ต้องกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ด้วย วัตถุดิบภายในบ้านอย่าง น้ำผึ้ง, ไข่ขาว, อะโวคาโค, ว่านหางจระเข้ และน้ำส้มสายชูที่หมักจากแอปเปิ้ล ล้วนเป็นประโยชน์ต่อเส้นผม มาส์กผม 15 นาที คุณต้องทำให้ทั่วทั้งหนังศีรษะ จากนั้นสระผมด้วยแชมพูตามปกติ อย่าลืมว่าต้องใช้แชมพูที่ปลอดซัลเฟต ลองใช้มาส์กเหล่านี้ดูนะ

   • สำหรับผมแห้งเสียมาก ผสมน้ำผึ้ง ไข่ขาว และน้ำมันอาร์แกน อย่างละเท่าๆ กัน
   • ผมธรรมดา ผสมน้ำผึ้ง ว่านหางจระเข้ และน้ำมันมะกอก อย่างละเท่าๆ กัน
   • สำหรับผมมัน ผสมน้ำผึ้ง น้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ล และน้ำมันละหุ่ง อย่างละเท่าๆ กัน
4. 
   4
   ใช้น้ำมันหอมระเหย . น้ำมันหอมระเหยจะช่วยให้การไหลเวียนเลือดดี และกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม เติมน้ำมันหอมระเหยลงในน้ำมันที่ใช้นวดผม มาส์ก และแชมพูที่คุณใช้ จะช่วยให้หนังศีรษะสุขภาพดี ใช้น้ำมันหอมระเหยที่เป็นประโยชน์จากในนี้แค่ 5 หยดก็เพียงพอแล้ว

   • ลาเวนเดอร์
   • ทีทรีออยล์
   • น้ำมันไม้ซีดาร์
   • น้ำมันหอมระเหยโรสแมรี่
   • น้ำมันอาร์แกน
   • น้ำมันมะพร้าว
5. 
   5
   หลีกเลี่ยงแชมพูที่มีส่วนผสมของซัลเฟต และอะไรก็ตามที่ทำร้ายเส้นผม. ผลิตภัณฑ์ตามท้องตลาดมักมีซัลเฟตผสมอยู่ ซัลเฟตทำให้น้ำมันในผมลดลง เป็นสาเหตุให้ผมแห้งและเปราะ ซึ่งมันจะทำให้ผมเสียหายและผมอาจร่วงได้ เมื่อคุณใช้แชมพูที่อ่อนโยน มีส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด จะทำให้เส้นผมของคุณโตขึ้นมาอย่างแข็งแรงและสุขภาพดี ทิ้งแชมพูที่มีส่วนผสมของซัลเฟตแล้วมาใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนซะ แล้วคุณจะสังเกตเห็นความแตกต่างเมื่อใช้หลายเดือนติดต่อกัน
6. 
   6
   รักษาโรคประจำตัว. บางครั้งสาเหตุที่ทำให้ผมร่วงมาจากโรคประจำตัวที่คุณอาจลืมนึกไป กรณีนี้แม้คุณจะบำรุงผมอย่างดีก็ไม่สามารถฟื้นฟูเส้นผมได้ ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าทำไมผมคุณถึงยังร่วงอยู่ ให้ลองปรึกษาแพทย์เพื่อหาต้นตอของปัญหาเส้นผมคุณ ซึ่งสาเหตุที่มักทำให้ผมร่วงก็ได้แก่

   • โรคไทรอยด์
   • ความไม่สมดุลของฮอร์โมน
   • โรคผมร่วง
   โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 3:

ปรับเปลี่ยนอาหารที่รับประทาน

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   รับประทานโปรตีน. โปรตีนเป็นตัวช่วยให้ผมมีสุขภาพดี อาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนจะช่วยให้ผมยาวเร็วขึ้น ควรรับประทานอาหารที่มีโปรตีนเป็นประจำทุกวัน

   • อาหารที่มีโปรตีนสูงเช่น ไข่, เนื้อสัตว์, ถั่ว และผักใบเขียว
   • ผู้ที่รับประทานมังสวิรัติจะได้รับโปรตีนน้อยกว่าผู้ที่รับประทานเนื้อเป็นปกติ เพราะมีแหล่งโปรตีนที่น้อยกว่า จึงจำเป็นที่ผู้รับประทานมังสวิรัติจะต้องใส่ใจรับประทานโปรตีนให้มาก เพื่อจะได้มั่นใจว่าร่างกายได้รับโปรตีนเพียงพอ
2. 
   2
   รับประทานโอเมก้า-3 ให้มากขึ้น. โอเมก้า-3 ทำให้ผมเจริญเติบโตได้ดี หากได้รับโอเมก้า-3ไม่เพียงพอ จะทำให้ผมเปราะบางไม่เงางาม หากได้รับในปริมาณมากผิวพรรณของคุณก็จะได้รับประโยชน์ไปด้วย

   • อะโวคาโด, ถั่ว, ไข่ และปลา เช่นแซลมอน อาหารเหล่านี้เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า-3
   • ลองรับประทานอาหารเสริมจำพวก น้ำมันปลา หรือน้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ เป็นประจำ
   • อัลมอนด์, แครอท, ยีสต์, วอลนัท และปลา เป็นอาหารที่มีไบโอติน หากคุณไม่สามารถรับประทานอาหารเหล่านี้เป็นประจำได้ ให้เลือกรับประทานในรูปแบบอาหารเสริมแทน
3. 
   3
   รับประทานอาหารเสริมไบโอติน. ไบโอตินในรูปแบบอาหารเสริมประกอบด้วยวิตามินบีที่ทำให้ผมสุขภาพดี โดยเฉพาะวิตามินบี12 ที่ช่วยฟื้นฟูสภาพเส้นผม ก่อนรับประทานไบโอตินลองดูก่อนว่าร่างกายของคุณได้รับวิตามินบีเพียงพอหรือเปล่า วิตามินบีสามารถพบได้ในอาหารเสริมสำหรับหญิงตั้งครรภ์เช่นกัน

   • คุณสามารถเลือกรับประทานวิตามินบี12 ได้จากเครื่องในสัตว์ ปลา หรือเนื้อสัตว์อื่นๆ
   • ผู้รับประทานมังสวิรัติจะได้รับวิตามันบี 12 ไม่เพียงพอ ลองเลือกรับประทานในรูปแบบอาหารเสริมดูหากคุณเป็นคนรับประทานมังสวิรัติ
4. 
   4
   รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง. หากคุณได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอ ร่างกายจะสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงได้น้อยลง ทำให้เกิดภาวะโลหิตจางเป็นสาเหตุของอาการผมร่วงและอาการอื่นๆ อีกมากมาย เพิ่มธาตุเหล็กให้กับร่างกายของคุณด้วยการรับประทานผักใบเขียว สัตว์เนื้อแดง หรืออาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็กชนิดอื่นๆ อาจเลือกรับประทานเป็นอาหารเสริมได้เพื่อให้ร่างกายได้รับธาตุเหล็กอย่างเพียงพอ

   • หากคุณคิดว่าคุณอาจจะมีภาวะโลหิตจาง ควรไปปรึกษาแพทย์ โดยการรักษาที่แนะนำมักจะให้รับประทานเหล็กเป็นอาหารเสริม แต่บางครั้งก็ต้องได้รับการรักษาในระยะยาว
5. 
   5
   ให้ร่างกายได้รับน้ำเพียงพอ. รู้หรือไม่ว่าการดื่มน้ำจะช่วยให้ผมสวยสุขภาพดีน่ะ? ไม่ต่างกับส่วนอื่นๆ ในร่างกาย ผมจะตอบสนองต่อปริมาณน้ำในร่างกายหากร่างกายขาดน้ำ ต้องมั่นใจว่าคุณดื่มน้ำให้เพียงพอทุกวัน ดื่มน้ำเมื่อรู้สึกกระหาย และหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ, โซดา หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เพื่อรับน้ำให้บ่อยที่สุดเท่าที่ทำได้ ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน
   โฆษณา

ส่วน 3

ส่วน 3 ของ 3:

วิธีการดูแลผม

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   อย่าสระผมทุกวัน. การสระผมทุกวันทำเป็นการรบกวนรูขุมขนโดยไม่จำเป็น น้ำมันบนหนังศีรษะจะถูกล้างออกไป แถมผมยังถูกดึงจากการสระผม เป่าผม และหวีผม เพื่อให้การฟื้นฟูเส้นผมประสบผมสำเร็จคุณต้องดูแลผมและหนังศีรษะอย่างอ่อนโยน และยุ่งกับศีรษะให้น้อยที่สุด

   • การสระผมทุกๆ สามวัน หรือปล่อยให้ผมยาวโดยไม่ต้องสระผม เป็นคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านความงามว่าเป็นวิธีที่ดี
   • ในช่วงวันที่ไม่ได้สระผม ใช้แชมพูแบบไม่ต้องล้างน้ำ (dry shampoo) ซึ่งเป็นผงให้ฉีดลงบนเส้นผมแล้วหวีผมจะทำให้ดูสะอาด แถมยังมีกลิ่นสดชื่นอีกด้วย
2. 
   2
   หวีแทนการแปรง. หลังจากสระผมใช้หวีซี่ห่างหวีผมอย่างเบามือจากปลายมายังโคนผม หากใช้แปรงจะกระชากผมทำให้ผมเสียจากโคนผม เป็นสาเหตุของผมขาดร่วง และแตกปลาย

   • ผมเปียกต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพราะผมจะเสียง่ายที่สุดเวลาเปียกและคลายตัว
   • ควรใช้หวีซี่ห่างแทนแปรงม้วนผม ยิ่งถ้าคุณมีผมม้วนหรือดัดผมยิ่งไม่ควรหวีผมบ่อยๆ ถ้าไม่จำเป็น
3. 
   3
   อย่าใช้ความร้อนกับผม. ความร้อนจะทำลายผมของคุณ แม้คุณจะใช้สารป้องกันความร้อน ผมของคุณก็ยังคงได้รับผลกระทบจากการใช้ไดร์เป่าผม เครื่องม้วนผม หรือเครื่องหนีบผม พยายามใช้ความร้อนกับผมแค่ในโอกาสพิเศษ หรือปล่อยให้ผมแห้งตามธรรมชาติ หรือทำผมโดยไม่ใช้อุปกรณ์ที่ให้ความร้อน
4. 
   4
   ตัดผมแต่อย่าบ่อย. เมื่อคุณต้องการฟื้นฟูสภาพผม ตัดผมไม่ได้ช่วยแก้ปัญหานี้ แต่การตัดปลายผมที่แตกปลายทิ้งเป็นเรื่องที่ดี ไม่จำเป็นต้องบินไปถึงต่างประเทศเพื่อผมทรงใหม่ๆ ทำผมด้วยความร้อนและใช้สารเคมีจะยิ่งทำให้ผมเสีย หมั่นนวดผม ใช้น้ำมันบำรุง และมาสค์ผม ไม่รบกวนหนังศีรษะ ตัดผมหรือเล็มผมจะช่วยกันฮอร์โมน DHT ซึ่งเป็นสาเหตุของผมร่วง

   • เมื่อคุณไปตัดผม เพื่อป้องกันความเสียหาย มองหาร้อนทำผมที่ใช้หวีซี่ห่างแทนแปรงหวีผมหลังสระ
5. 
   5
   หลีกเลี่ยงทรงผมที่ทำให้ผมเสีย. การยืดผมทำลายผมและหนังศีรษะของคุณ เป็นสาเหตุของผมขาดร่วงหรืออาจร้ายแรงที่สุดคือทำให้ศีรษะล้าน ถ้าอยากให้ผมมีสุขภาพดีปล่อยให้เป็นธรรมชาติที่สุด การยืดผม หนีบผม ฟอกสีผม และย้อมผม กระบวนการเหล่านี้ล้วนทำให้ผมเสียทั้งหมด และไม่ช่วยให้ผมมีสุขภาพดีเลย

   • เมื่อทดลองทำผมทรงต่างๆ อย่าลงน้ำหนักมือแรงนัก
   • เมื่อคุณตั้งใจจะย้อมผม ใช้ยาย้อมผมจากธรรมชาติอย่าง เฮนน่า เพื่อดูแลผมของคุณแทนทำลาย
   โฆษณา

เคล็ดลับ

• อย่าหวีผมขณะเปียก ผมจะยืดหยุ่นเป็นพิเศษ มีโอกาสขาดได้ง่ายกว่าปกติ
• นอนให้เพียงพอ และคลายอาการเครียด เพราะผมร่วงอาจมีสาเหตุมาจากการนอนไม่พอและเครียดมากเกินไป
• ศึกษาวิธีแก้ปัญหาที่หลากหลาย เพราะคนเราแตกต่างกัน บางคนอาจใช้ผลิตภัณฑ์แก้ผมร่วงได้ผล บางคนไม่ได้ผล เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ต้องมั่นใจว่าจะแก้ปัญหาเส้นผมได้จริงๆ คุณจะไม่เสียเงินเปล่า

โฆษณา