วิธีการ ผสมข้าวบดในนมชง

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

การใส่ข้าวบดลงในนมชงหรือนมแม่เป็นขั้นตอนเปลี่ยนผ่านทั่วไปที่พ่อแม่สามารถทำได้เมื่อพวกเขาอยากให้ลูกน้อยเริ่มรับประทานอาหารอาหารแข็ง โดยทั่วไปแล้วเด็กทารกจะเริ่มรับประทานข้าวบดผสมนมได้เมื่ออายุระหว่าง 4 - 6 เดือน ซึ่งอายุที่ว่านี้ก็อาจจะต่างกันไปขึ้นอยู่กับคำแนะนำของกุมารแพทย์หรือผู้ให้บริการด้านสาธารณสุข และขึ้นอยู่กับว่าลูกของคุณมีพัฒนาการไปถึงขั้นนั้นแล้วหรือยัง

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

แน่ใจว่าลูกน้อยพร้อมแล้ว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ไปพบกุมารแพทย์หรือผู้ให้บริการด้านการแพทย์ของลูก....
    ไปพบกุมารแพทย์หรือผู้ให้บริการด้านการแพทย์ของลูก. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ก่อนให้ลูกรับประทานอาหารแข็ง[1] แพทย์จะยืนยันได้ว่าลูกน้อยของคุณมีพัฒนาการมากพอที่จะรับประทานอาหารแข็งแล้วหรือยัง และเป็นช่วงเวลาที่คุณสามารถถามคำถามและพูดถึงความวิตกกังวลต่างๆ เกี่ยวกับอาหารแข็งได้
    • ในบางกรณีลำไส้ของลูกน้อยก็อาจจะยังพัฒนาไม่เต็มที่หรือยังไม่สามารถรับรู้ถึงความอิ่มได้ ซึ่งอาจจะทำให้คุณเผลอป้อนอาหารให้ลูกมากเกินไป
    • อย่าเพิ่งให้ลูกรับประทานอาหารแข็งจนกว่าแพทย์จะบอกว่าสามารถทำได้
  2. How.com.vn ไท: Step 2 รอจนกว่าลูกจะอายุ 4 - 6 เดือน.
    ระบบย่อยอาหารของลูกยังไม่พร้อมย่อยข้าวบดจนกว่าจะอายุ 6 เดือน การให้ลูกเริ่มรับประทานข้าวบดเร็วเกินไปอาจจะทำให้สำลักหรือหายใจเอาข้าวบดลงไปในปอดได้ นอกจากนี้การให้ลูกรับประทานข้าวบดเร็วเกินไปยังเพิ่มความเสี่ยงที่เด็กจะแพ้อาหารอีกด้วย[2]
    • ลูกน้อยของคุณอาจจะพร้อมรับประทานข้าวบดตั้งแต่อายุ 4 เดือนก็ได้ ซึ่งแพทย์สามารถช่วยคุณตัดสินใจได้ว่าช่วงเวลาไหนที่เหมาะกับลูกที่สุด
    • คุณอาจจะให้ลูกรับประทานข้าวบดก่อนอายุ 4 - 6 เดือนได้ถ้าลูกมีปัญหาเรื่องกรดไหลย้อน แต่ก็ควรปรึกษากุมารแพทย์ก่อนเช่นกัน[3]
    • นอกจากนี้ลูกน้อยของคุณควรจะรับประทานอาหารจากช้อนเป็นก่อนที่จะเริ่มรับประทานข้าวบด[4]
    • การให้ลูกรับประทานอาหารแข็งเร็วเกินไปอาจทำให้ลูกน้อยน้ำหนักเกินได้[5]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 แน่ใจว่าลูกน้อยมีพัฒนาการที่จำเป็นแล้ว.
    นอกจากว่าอายุจะต้องถึงเกณฑ์แล้ว ลูกน้อยของคุณก็ควรจะมีพัฒนาการที่จำเป็นก่อนเริ่มรับประทานข้าวบด ก็คือลูกน้อยของคุณควรจะต้องนั่งแบบมีพนักพิงได้ ควบคุมศีรษะและคอได้ สามารถใช้ศอกดันตัวขึ้นมาจากท่านอนได้ เอามือหรือของเล่นเข้าปาก โน้มตัวไปข้างหน้าและอ้าปากเวลาหิวหรืออยากกินอาหาร ถ้าลูกของคุณ 6 เดือนแล้วแต่ยังไม่มีพัฒนาการที่ว่ามานี้ คุณก็อาจจะต้องชะลอการป้อนข้าวบดไปก่อน[6]
    • การรอให้ลูกมีพัฒนาการที่พร้อมก่อนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าลูกจะสามารถกลืนข้าวบดได้อย่างปลอดภัย
    • นอกจากนี้ทารกก็มักจะมีปฏิกิริยากับอาหารแข็งด้วยการยกลิ้นขึ้นแล้วดุนสิ่งที่อยู่ระหว่างริมฝีปากออกไป ซึ่งปฏิกิริยาที่ว่านี้ก็มักจะหายไปเมื่ออายุ 4 - 6 เดือน เพราะฉะนั้นการใช้ช้อนป้อนข้าวบดให้ลูกตอนที่ลูกยังมีปฏิกิริยานี้อยู่จึงเป็นเรื่องที่ยากและชวนหงุดหงิด
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

เติมข้าวบดลงไปในขวดนม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ปรึกษากุมารแพทย์.
    อย่าเติมข้าวบดลงไปในขวดนมของลูกน้อยโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากกุมารแพทย์ก่อน เพราะวิธีนี้มักใช้กับการรักษาภาวะกรดไหลย้อน (GER) ในทารกเท่านั้น การรับประทานข้าวบดจากขวดจะยิ่งทำให้ลูกหัดรับประทานอาหารจากช้อนได้ยาก[7] และเพิ่มโอกาสเสี่ยงที่ลูกจะรับประทานอาหารมากเกินไปและอ้วนได้[8]
    • ในการลดอาการไหลย้อน ให้ตั้งตัวทารกให้ตรง (ก็คือเอาทารกไว้บนไหล่) 20 - 30 นาทีหลังจากป้อนอาหาร
    • ลองข้าวบดผสมแล้วสูตร "ต้านกรดไหลย้อน" เพราะสูตรนี้จะมีส่วนผสมของแป้งข้าวเจ้า
    • ลองสูตรสำหรับทารกที่แพ้อาหารได้ง่ายที่ไม่มีส่วนผสมของนมวัวหรือนมถั่วเหลือง แล้วดูว่าอาการกรดไหลย้อนของลูกดีขึ้นหรือเปล่า ลองให้ลูกรับประทานสัก 1 หรือ 2 สัปดาห์[9]
    • แม้ว่าสถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งสหรัฐอเมริกาจะไม่แนะนำให้คุณให้ลูกรับประทานข้าวบดจากขวด[10] แต่กุมารแพทย์จะเป็นคนที่ช่วยตัดสินใจได้ดีที่สุดว่าคุณควรให้ลูกรับประทานข้าวบดจากขวดไหม
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เติมข้าวบดลงในขวดนม.
    เริ่มจากใส่ข้าวบดลงไป 1 ช้อนชาต่อนมผง 6 ช้อนชา ผสมทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนนำไปป้อนลูก ถ้าคุณปล่อยทิ้งไว้นานๆ ส่วนผสมจะเหนียว
    • แพทย์อาจจะแนะนำสัดส่วนระหว่างข้าวบดกับนมผงต่างไปจากนี้
    • คุณสามารถใส่ข้าวบดลงไปในขวดนมได้ไม่เกิน 1 ช้อนโต๊ะ
  3. How.com.vn ไท: Step 3 นำขวดนมให้ลูกในตอนกลางคืน.
    คุณควรให้ลูกรับประทานข้าวบดจากขวดเป็นมื้อสุดท้ายในตอนกลางคืน ซึ่งอาจจะช่วยให้ลูกน้อยนอนหลับได้นานขึ้นเนื่องจากรู้สึกอิ่มขึ้น ตัดจุกนมให้เป็นรูใหญ่ขึ้นเพราะส่วนผสมมันข้นกว่านมผงอย่างเดียว[11]
    • อย่าให้ลูกรับประทานข้าวบดทุกครั้ง ข้าวบดมักจะมีแต่คาร์โบไฮเดรตและไม่ได้มีสารอาหารเหมือนนมผงหรือนมแม่ การป้อนข้าวบดให้ลูกทุกครั้งอาจจะทำให้ลูกน้อยได้สารอาหารน้อยลง
    • คุณอาจจะตัดจุกนมเป็นรูปตัว "x หรือ "y" เล็กๆ ตรงจุกนม หรือเลือกซื้อจุกนมที่ใหญ่ขึ้นเพื่อให้ลูกน้อยรับประทานข้าวบดจากขวดนมได้
  4. How.com.vn ไท: Step 4 สังเกตปฏิกิริยาของลูก.
    สังเกตว่าลูกกลืนข้าวบดอย่างไร ถ้าส่วนผสมข้นเกินไป ลูกก็จะกลืนลงไปยากและอาจจะรู้สึกเหนื่อยระหว่างที่คุณป้อนข้าว สังเกตว่าลูกท้องผูกหรือเริ่มอ้วนเกินไปไหม เพราะทั้งหมดนี้เป็นผลข้างเคียงจากการดื่มข้าวบดจากขวดที่พบได้บ่อย
    • ปรับปริมาณข้าวบดที่ป้อนให้ลูกจากการสังเกตของคุณ
    • ถ้าข้าวบดทำให้ลูกน้อยท้องผูก คุณอาจจะลองเปลี่ยนไปป้อนข้าวโอ๊ตแทน[12]
    • ถ้าคุณป้อนข้าวบดเพื่อรักษาอาการกรดไหลย้อน ลูกน้อยก็ควรจะอาการดีขึ้นภายใน 2 หรือ 3 วัน แต่ถ้าเวลาผ่านไปเท่านี้แล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ก็แสดงว่าการป้อนข้าวบดอาจจะไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่เหมาะกับลูกน้อย
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

ใช้ช้อนป้อนข้าวบดให้ลูก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ผสมข้าวบดกับนมผง.
    อ่านวิธีการเตรียมข้าวบดที่ระบุไว้ที่บรรจุภัณฑ์ ตามปกติแล้วคุณต้องใส่ข้าวบด 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) ต่อนมผงหรือนมแม่ 4 ช้อนโต๊ะ (60 มล.)[13] เช่น ถ้าตอนนี้คุณใช้นมผง 8 ช้อนโต๊ะ คุณก็จะต้องเติมข้าวบดไป 2 ช้อนโต๊ะ
    • ใช้ช้อนคนส่วนผสมให้เข้ากันจนกว่าจะกลายเป็นน้ำนมจางๆ หรือมีความข้นเท่ากับซุป
    • ถ้าคุณซื้อข้าวบดที่ผสมนมผงมาอยู่แล้ว ก็ให้เตรียมข้าวบดตามที่ระบุไว้ที่บรรจุภัณฑ์ได้เลย ในบางกรณีคุณอาจจะแค่เติมน้ำอย่างเดียว
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ใช้ช้อนป้อนนมผสมข้าวบดให้ลูก.
    แม้ว่าส่วนผสมจะมีความข้นเท่ากับนม แต่ก็ให้ใช้ช้อนเล็กๆ ป้อนลูกน้อย[14] การใช้ช้อนป้อนจะป้องกันไม่ให้ลูกน้อยรับประทานอาหารมากเกินไปและได้รับพลังงานมากเกินไปด้วย[15]
    • ลูกคุ้นเคยกับการดื่มนมผงจากขวดนมอยู่แล้วและรู้โดยสัญชาตญาณว่าจะต้องดื่มเข้าไปมากน้อยแค่ไหน[16] แต่การเติมข้าวบดเข้าไปและรับประทานจากช้อนจะทำให้ลูกไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ต้องหยุดรับประทานแล้ว
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ช่วงแรกให้ป้อนปริมาณน้อยๆ ก่อน.
    นมผสมข้าวบดมื้อแรกที่ป้อนให้ลูกควรจะเป็นลักษณะจางๆ ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มความข้นในภายหลัง ช่วงแรกหลังจากให้นมลูกหรือให้ลูกดูดนมจากขวดแล้ว ให้ป้อนนมผสมข้าวบดให้ลูก 1 ช้อนชา (5 มล.) แล้วค่อยๆ เพิ่มปริมาณไปเป็น 1 - 4 ช้อนโต๊ะ (15 - 60 มล.) วันละ 2 ครั้ง วิธีนี้จะช่วยให้ลูกน้อยมีเวลาค่อยๆ พัฒนาความสามารถในการกลืน[17]
    • ในตอนแรกให้เอาช้อนไว้ใกล้ๆ ริมฝีปากของลูกน้อยแล้วให้เขาดมและชิมข้าวบดจากช้อนก่อน ซึ่งในช่วงแรกลูกก็อาจจะไม่ยอมรับประทาน[18]
    • ถ้าลูกไม่สนใจนมผสมข้าวบดหรือไม่ยอมรับประทาน ให้ลองป้อนใหม่ในวันถัดไป โดยคุณอาจจะผสมนมกับข้าวบดให้จางลงด้วยก็ได้
    • ลูกน้อยอาจจะใช้ลิ้นดุนข้าวบดออกมาเป็นพักๆ เพราะเป็นปฏิกิริยาธรรมชาติของเขา
    • หรือคุณอาจจะให้ลูกดื่มนมผงหรือนมแม่จากขวดก่อน จากนั้นก็ใช้ช้อนป้อนข้าวบด แล้วปิดท้ายด้วยนมผงหรือนมแม่จากขวดอีกครั้ง
    • คุณสามารถเพิ่มความข้นของนมผสมข้าวบดได้หลังจากที่ลูกน้อยรับประทานได้คล่องไปแล้วสัก 3 - 5 วัน[19]
    • ช่วง 2 - 3 ครั้งแรกลูกอาจจะอาเจียนออกมาหลังป้อน แต่ไม่ต้องกังวล แค่ลองใหม่อีกครั้งในวันถัดไป
  4. How.com.vn ไท: Step 4 สังเกตอาการแพ้.
    ทารกที่แพ้นมผสมข้าวบดอาจจะมีอาการท้องอืด อาเจียน ท้องเสีย หรือมีแก๊สในกระเพาะเพิ่มขึ้น ถ้าลูกมีอาการเหล่านี้ ให้หยุดป้อนนมผสมข้าวบดก่อนแล้วไปปรึกษาแพทย์ แต่ถ้าลูกเป็นลมพิษหรือหายใจลำบากหลังจากรับประทานนมผสมข้าวบด ให้พาไปพบแพทย์ทันที[20]
    • ทารกมีแนวโน้มที่จะมีปฏิกิริยาแพ้หากญาติใกล้ชิดเป็นโรคภูมิแพ้ โรคผิวหนัง หรือโรคหอบหืด
    • เมื่อเข้าไปปรึกษาแพทย์เรื่องการให้ลูกเริ่มรับประทานข้าวบดและอาหารแข็ง อย่าลืมพูดเรื่องประวัติการแพ้อาหารของคนในครอบครัวด้วย
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

เปลี่ยนไปให้อาหารแข็งอย่างอื่น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ระวังสารหนูที่พบในข้าว.
    ข้าวบดส่วนใหญ่ทำมาจากข้าวขาวที่ผ่านกระบวนการ ซึ่งข้าวมีสารหนูในปริมาณที่เข้มข้นกว่าธัญพืชอื่นๆ และสารหนูก็เป็นสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งที่อาจทำให้ลูกของคุณมีปัญหาสุขภาพในวันข้างหน้าได้[21] ถ้าคุณกังวลว่าลูกจะได้รับสารหนู คุณอาจจะเปลี่ยนไปเลือกธัญพืชบดชนิดอื่นๆ (เช่น ข้าวโอ๊ต ควินัว ข้าวสาลี และข้าวบาร์เลย์)[22]
    • ธัญพืชเต็มเมล็ดไม่เพียงแต่ลดปริมาณสารหนูที่ทารกจะได้รับเท่านั้น แต่ยังมีใยอาหารและสารอาหารมากกว่าข้าวบดที่ทำจากข้าวขาวด้วย
    • สถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งสหรัฐอเมริกาแนะนำให้รับประทานข้าวโอ๊ตบดแทนข้าวบด[23]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ให้ลูกเริ่มรับประทานอาหารแข็งอย่างอื่นด้วย....
    ให้ลูกเริ่มรับประทานอาหารแข็งอย่างอื่นด้วย. แม้ว่าข้าวบดจะเป็นอาหารแข็งชนิดแรกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่คุณก็สามารถป้อนอย่างอื่นได้ เนื้อสัตว์หั่นชิ้นเล็กๆ และพูเรผักก็เป็นอาหารแข็งชนิดแรกของลูกน้อยได้เช่นกัน[24] หรือคุณจะป้อนอะโวดาโดบดและลูกแพรตุ๋นให้ลูกน้อยก็ได้[25]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าคุณไม่แน่ใจหรือมีข้อสงสัย ให้ปรึกษากุมารแพทย์ของลูกก่อนเสมอ
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าให้ลูกน้อยดื่มนมผสมข้าวบดจากขวดยกเว้นว่าจะเป็นคำสั่งของกุมารแพทย์ เพราะการดื่มข้าวบดจากขวดอาจทำให้เกิดอันตรายอย่างเช่นการสำลักหรือรับประทานอาหารมากเกินไป
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • นมผงที่ชงแล้วหรือนมแม่
  • ข้าวบด
  • ช้อนเล็กสำหรับเด็ก
  • ถ้วยเล็กๆ
  1. https://www.healthychildren.org/English/ages-stages/baby/feeding-nutrition/pages/Cereal-in-a-Bottle-Solid-Food-Shortcuts-to-Avoid.aspx
  2. http://www.justmommies.com/babies/it-ok-to-give-my-baby-cereal-in-bottle
  3. http://www.texaschildrensblog.org/2011/05/does-thickened-formula-help-reflux/
  4. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/infant-and-toddler-health/in-depth/healthy-baby/art-20046200
  5. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/infant-and-toddler-health/in-depth/healthy-baby/art-20046200
  6. https://www.healthychildren.org/English/ages-stages/baby/feeding-nutrition/Pages/Cereal-in-a-Bottle-Solid-Food-Shortcuts-to-Avoid.aspx
  7. https://www.healthychildren.org/English/ages-stages/baby/feeding-nutrition/Pages/Cereal-in-a-Bottle-Solid-Food-Shortcuts-to-Avoid.aspx
  8. http://www.uptodate.com/contents/starting-solid-foods-during-infancy-beyond-the-basics
  9. http://kidshealth.org/en/parents/feed47m.html
  10. http://www.consumerreports.org/cro/baby-food/buying-guide.htm
  11. http://kidshealth.org/en/parents/feed47m.html
  12. http://www.consumerreports.org/cro/magazine/2012/11/arsenic-in-your-food/index.htm
  13. https://www.aap.org/en-us/about-the-aap/aap-press-room/pages/aap-offers-advice-for-parents-concerned-about-arsenic-in-food.aspx
  14. http://www.aappublications.org/content/35/11/13.1.full
  15. https://www.aap.org/en-us/about-the-aap/aap-press-room/pages/aap-offers-advice-for-parents-concerned-about-arsenic-in-food.aspx
  16. http://thriving.childrenshospital.org/what-are-the-healthiest-options-for-my-babys-first-solid-foods/
  17. https://www.healthychildren.org/English/ages-stages/baby/feeding-nutrition/Pages/Switching-To-Solid-Foods.aspx?nfstatus=401&nftoken=00000000-0000-0000-0000-000000000000&nfstat
  18. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/infant-and-toddler-health/in-depth/healthy-baby/art-20046200

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: ทีมงานวิกิฮาว
ร่วมเขียน โดย:
นักเขียนในทีมวิกิฮาว
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา

ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 9,548 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 9,548 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา